ตอนที่ 3219 ไร้อุปสรรค เดินหน้าต่อไป

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

แดน​เทพ​มาก​เร้น​

โลก​จำศีล​

โพธิ​ขมวดคิ้ว​ “พ่ายแพ้​ตั้งแต่​เริ่ม​หรือ​”

ชั่ว​ขณะที่​หลิน​สวิน​ไป​ถึงแท่น​มรรค​มาก​เร้น​เขา​ก็​สังเกตเห็น​แล้ว​ กล่าว​กับ​จักจั่น​ทอง​พร้อม​รอยยิ้ม​ว่า​การประชัน​หมาก​กำลังจะ​เริ่ม​ขึ้น​แล้ว​

ยาม​ได้ยิน​คำพูด​ของ​บรรพ​จารย์​วานร​ยัง​ทำให้​โพธิ​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​

คำพูด​นี้​แน่นอน​ว่า​ไม่ใช่ความคิด​ของ​บรรพ​จารย์​วานร​ เบื้องหลัง​ของ​คำพูด​นี้​แสดงถึง​ท่าที​ของ​ไท่​ชู

ไท่​ชูที่​ถูก​คุมขัง​ใต้​โซ่กระบี่​เอา​ความมั่นใจ​มาจาก​ไหน​ถึงกล้า​พูด​อย่าง​มาดมั่น​ว่า​ ‘ต้อง​พ่ายแพ้​โดย​ไม่ต้องสงสัย​’

จักจั่น​ทอง​เอ่ย​เสียง​อบอุ่น​ “คำพูด​นี้​เข้าใจง่าย​มาก​ สำหรับ​ไท่​ชู ตั้ง​แต่ก่อน​หลิน​สวิน​จะมา ไม่ว่า​เจ้าหรือ​ข้า​ ทั้ง​ต่อให้​รวม​เฉิน​ซีเฉิน​หลิน​คง​ ล้วน​อยู่​ใน​สถานการณ์​ที่​ต้อง​พ่ายแพ้​โดย​ไม่ต้องสงสัย​”

โพธิ​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อน​เอ่ย​ว่า​ “หาก​พูดถึง​พลัง​ปราณ​ เจ้ากับ​ข้า​ด้อย​กว่า​ไท่​ชูเล็กน้อย​จริงๆ​ แต่​ใน​แดน​เทพ​มาก​เร้น​ยังมี​พวก​ชั้นเลิศ​ที่​อย่าง​เฉิน​ซี ใน​ด้าน​มหา​มรรค​สามารถ​เทียบ​ไท่​ชูได้​ แต่​คำพูด​นี้​ของ​ไท่​ชูเห็นได้ชัด​ว่า​คิด​ว่า​แม้แต่​เฉิน​ซีก็​ต้อง​พ่ายแพ้​…”

เขา​เดา​ไม่ออก​อยู่​บ้าง​

ใน​เมื่อ​ไท่​ชูพูด​เช่นนี้​ แน่นอน​ว่าไม่ได้​เจตนา​พูด​อวดอ้าง​ ถึงอย่างไร​คน​อย่าง​เขา​ก็​ไม่จำเป็น​จะต้อง​ข่มขู่​และ​วางท่า​

ถ้าอย่างนั้น​ก็​เหลือ​เพียง​ความเป็นไปได้​เดียว​…

ไท่​ชูวางหมาก​ไว้​นาน​แล้ว​!

และ​หมาก​นี้​สามารถ​ประชัน​กับ​เฉิน​ซีได้​ ทำให้​พวกเขา​พ่ายแพ้​อย่าง​ราบคาบ​!

คิดถึง​ตรงนี้​สีหน้า​ของ​โพธิ​เอง​ก็​อด​เผย​ความ​หนักใจ​ไม่ได้​

จักจั่น​ทอง​มอง​โพธิ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “สหาย​ยุทธ์​ คอย​ดูก่อน​เถอะ​ การประชัน​หมาก​เพิ่งจะ​เริ่ม​ขึ้น​ ไท่​ชูและ​เฉิน​ซีล้วน​ยัง​ไม่ได้​เคลื่อนไหว​”

โพธิ​พยักหน้า​

……

“จะต้อง​พ่ายแพ้​โดย​ไม่ต้องสงสัย​…”

โลก​หง​ห​ลิง​ ใน​กระท่อม​ เงาร่าง​หนึ่ง​ผลัก​ประตู​เดิน​ออกมา​

ใบหน้า​ราวกับ​หยก​ สะพาย​กระบี่​โบราณ​ไว้​กลาง​หลัง​

เป็น​เฉิน​ซีนั่นเอง​!

เขา​เอา​มือ​ไพล่หลัง​ มอง​ท้องฟ้า​ไกลๆ​ แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ไท่​ชู ใน​เมื่อ​หลิน​สวิน​มาแล้ว​ เจ้าก็​ไม่จำเป็นต้อง​หดหัว​อยู่​ตรงนั้น​ตลอด​แล้ว​ มรรค​วิถี​โซ่กระบี่​ของ​มือ​กระบี่​ผู้​นั้น​สามารถ​กักขัง​เจ้าได้​ชั่วขณะ​ แต่​ไม่สามารถ​กักขัง​เจ้าได้​ตลอดไป​”

เสียง​กระ​ต่าง​ชัด​ดัง​กังวาน​

เวลา​เดียวกัน​ใน​โลก​ดั่ง​แรก​กำเนิด​แห่ง​นั้น​ ส่วนลึก​ใต้ดิน​เสียงหัวเราะ​ของ​ไท​ชูดัง​ขึ้น​ “สหาย​ยุทธ์​เฉิน​เอง​ก็​ทนไม่ไหว​แล้ว​หรือ​”

“เหอะ​”

เฉิน​ซีหัวเราะ​ “ใน​เมื่อ​เจ้าคิด​เช่นนี้​ เช่นนั้น​ข้า​อยาก​ดู​นัก​ว่า​เจ้าจะรอ​ถึงเมื่อไร​”

พูด​จบ​เขา​ก็​กลับ​เข้า​กระท่อม​ไป​

ใต้ดิน​ลึก​ใน​โลก​ดั่ง​แรก​กำเนิด​นั่น​ ไท่​ชูอด​ส่งเสียง​ทอดถอนใจ​อย่าง​พึงพอใจ​ไม่ได้​ “บน​โลก​มีศัตรู​ มรรค​ข้า​ไม่โดดเดี่ยว​!”

ไม่ไกล​นัก​อีกา​ดำ​ที่อยู่​บน​กิ่งไม้​สั่นเทิ้ม​ไป​ทั้งตัว​

ยาม​เสียง​ของ​เฉิน​ซีดัง​ก้องโลก​เมื่อ​ครู่​ นาง​รู้สึก​สิ้นหวัง​ปาน​พังทลาย​ ลมหายใจ​ติดขัด​ นั่น​คือ​การ​กำราบ​มหา​มรรค​ที่​แท้จริง​อย่างหนึ่ง​ เหนือกว่า​ที่​นาง​จะคาด​คิดได้​!

“อีกา​น้อย​เห็น​หรือยัง​ นี่​ก็​คือ​ความ​องอาจ​ของ​เฉิน​ซี คำพูด​หนึ่ง​ประโยค​ก็​ทำให้​เจ้าตกใจ​ขวัญ​เสียแล้ว​” ไท่​ชูยิ้ม​ ถึงกับ​เบิกบาน​และ​ยินดี​

“เจ้าลัทธิ​ พวกเขา​ต้อง​พ่ายแพ้​โดย​ไม่ต้องสงสัย​จริง​หรือ​”

ครู่ใหญ่​อีกา​ดำ​ถึงสงบใจ​ถามออกมา​

“บน​โลก​นี้​ไม่มีอะไร​แน่นอน​”

ไท่​ชูพูด​อย่าง​ไม่ใส่ใจ “เจ้ารอ​ชมดู​ละคร​ก็​พอ​”

อีกา​ดำ​เงียบ​ไป​แล้ว​

……

ตรงหน้า​แท่น​มรรค​มาก​เร้น​

“คำพูด​นี้​แม้ไม่ใช่การ​ขู่ขวัญ​ แต่​ก็​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​การ​ขู่ขวัญ​”

หลิน​สวิน​ที่​เดิมที​ขมวดคิ้ว​พลัน​ยิ้ม​ออกมา​ “เช่นนั้น​ข้า​อยาก​เห็น​จริงๆ​ ว่า​ใต้เท้า​เจ้าลัทธิ​เบื้องหลัง​นั่น​ จะทำให้​ข้า​พ่ายแพ้​โดย​ไม่ต้องสงสัย​อย่างไร​”

“เจ้าต้อง​ได้​เห็น​แน่​”

บรรพ​จารย์​วานร​พยักหน้า​ สีหน้า​ยังคง​ราบเรียบ​ ไม่ได้​แปลกใจ​ต่อ​การ​ตอบสนอง​ของ​หลิน​สวิน​

“ข้า​เอง​ก็​อยาก​เห็น​”

ตอนนี้​เอง​เสียง​หนึ่ง​ดัง​มาจาก​ไกลๆ​

ก็​เห็น​เงาร่าง​ของ​เฉิน​หลิน​คง​มาเยือน​กลางอากาศ​ ด้าน​หลังเขา​ยังมี​บรรพ​จารย์​ลัทธิ​แรก​กำเนิด​หยวน​ชูและ​บรรพ​จารย์​ลัทธิ​วิญญาณ​ซวี​อิ่น​

“สหาย​น้อย​หลิน​ ไม่เจอกัน​นาน​”

ทันทีที่​มาถึงเฉิน​หลิน​คง​ก็​โบกมือ​ทักทาย​ สง่างามอย่างยิ่ง​

หลิน​สวิน​เอง​ก็​ประสานมือ​จาก​ไกลๆ​ คำนับ​เฉิน​หลิน​คง​ หยวน​ชู ซวี​อิ่น​ จากนั้น​ชี้พวก​บรรพ​จารย์​วานร​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ผู้อาวุโส​ต้อง​ระวัง​คน​พวก​นี้​สักหน่อย​”

เฉิน​หลิน​คง​พยักหน้า​กล่าว​ “วางใจ​เถอะ​”

“เฉิน​หลิน​คง​ เจ้าไม่ควร​มา” สายตา​ของ​บรรพ​จารย์​วานร​มอง​ไป​ยัง​เฉิน​หลิน​คง​ สีหน้า​ราบเรียบ​ “นี่​จะเป็นการ​ส่งตัวเอง​และ​สอง​คน​ข้างหลัง​เจ้ามาตาย​เปล่า​”

เฉิน​หลิน​คง​อด​ขำ​ไม่ได้​ กล่าวว่า​ “เช่นนั้น​ข้า​อยาก​เห็น​สักหน่อย​จริงๆ​”

พูด​จบ​เขา​ให้​หยวน​ชู ซวี​อิ่น​ถอยหลัง​ จากนั้น​บน​ร่าง​สูงโปร่ง​ปรากฏ​เจต​กระบี่​แรก​กำเนิด​อัน​น่า​สะพรึง​สาย​หนึ่ง​

พริบตา​นั้น​เขา​เหมือน​กลายเป็น​ราชัน​มรรค​กระบี่​คน​หนึ่ง​ คมกริบ​ไร้​ใด​เปรียบ​!

“บรรพ​จารย์​วานร​ ข้า​อยาก​วัด​สูงต่ำ​กับ​เจ้ามานาน​แล้ว​ ไม่สู้ตอนนี้​เลย​เป็น​อย่างไร​” เฉิน​หลิน​คง​เอ่ยปาก​ เสียง​เหมือน​กระบี่​ครวญ​ไร้​สิ้น​สุดกำลัง​ดัง​แผ่ว​โผย​

ความ​องอาจ​เช่นนี้​หา​ยาก​มาก​

‘กลิ่นอาย​ของ​ขั้น​ไร้​ขอบเขต​สัมบูรณ์​ และ​มหา​มรรค​ทั้ง​ร่าง​ก็​บรรลุ​ถึงขอบเขต​แรก​กำเนิด​แล้ว​…’ หลิน​สวิน​มอง​ท่วงทำนอง​ศักดิ์สิทธิ์​บน​ตัว​เฉิน​หลิน​คง​ออก​ตั้งแต่​แวบ​แรก​ อด​โล่งอก​ไม่ได้​

เฉิน​หลิน​คง​มีคุณสมบัติ​ไป​ประชัน​กับ​บรรพ​จารย์​วานร​แล้ว​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​!

“เจ้าไม่ไหว​”

บรรพ​จารย์​วานร​ส่ายหน้า​ ไม่มีสีหน้า​ดูหมิ่น​ แต่​ท่าทาง​ที่​ราบเรียบ​เช่นนั้น​กลับ​เป็นการ​ปฏิเสธ​เฉิน​หลิน​คง​ยิ่งยวด​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

เฉิน​หลิน​คง​ยิ้ม​ ไม่ได้​พูด​อะไร​ พลัน​ยื่นมือ​ไป​คว้า​

เพลิง​แรก​กำเนิด​แถบ​หนึ่ง​ควบ​รวม​ กลายเป็น​กระบี่​มรรค​ที่​ดุจดั่ง​ลุกโชน​เล่ม​หนึ่ง​ เมื่อ​เขา​ดีดนิ้ว​เสียง​ชิ้งดัง​ขึ้น​ กระบี่​ครวญ​ราวกับ​กระแสน้ำ​ดังก้อง​ฟ้าดิน​

เจต​กระบี่​ไร้​รูป​กลายเป็น​คลื่น​ มองข้าม​พันธนาการ​ห้วง​มิติ​ พุ่ง​แผ่​ไป​ทาง​พวก​บรรพ​จารย์​วานร​

สีหน้า​ของ​บรรพ​จารย์​วานร​ยังคง​นิ่ง​สงบ​ ไม่เห็น​เขา​เคลื่อนไหว​ด้วยซ้ำ​ เงาร่าง​ของ​จอม​มรรค​ชะตา​สวรรค์​เก้า​คน​กับ​เทียน​อู​และ​ซื่อ​ล้วน​ถูก​เคลื่อนย้าย​มาอยู่​ด้าน​หลังเขา​

ในเวลาเดียวกัน​ฝ่ามือ​ของ​เขา​ยื่น​ออก​ไป​ ทำ​มุทรา​ประทับ​ฝ่ามือ​กระแทก​ไป​ใน​อากาศ​

ตูม​!

คลื่น​เจต​กระบี่​ที่​ไร้​รูป​ระเบิด​ออก​เป็นชั้นๆ​

ภาพ​นี้​ทำให้​หลิน​สวิน​อด​เผย​สีหน้า​ประหลาดใจ​ไม่ได้​ แน่นอน​ว่า​บรรพ​จารย์​วานร​เอง​ก็​เป็น​ขั้น​ไร้​ขอบเขต​สัมบูรณ์​เช่นกัน​ ทุก​การเคลื่อนไหว​ของ​เขา​ดู​เรียบง่าย​ แต่​อันที่จริง​ปรากฏ​ท่วงท่า​ ‘สัมบูรณ์​ไร้​บกพร่อง​’ หยิน​หยาง​ผสาน​ไร้​ช่องโหว่​

ชิ้ง!

เฉิน​หลิน​คง​กระชับ​กระบี่​พุ่ง​ไป​ข้างหน้า​ แทง​ใส่ห้วง​อากาศ​ แรก​กำเนิด​ปรากฏ​ใน​ความว่างเปล่า​ กลายเป็น​คลื่น​ฝน​กระบี่​เพลิง​ปาน​ธาร​สวรรค์​ไหลหลั่ง​ ส่องสว่าง​ภูผา​ธารา​ เจิดจ้า​ไร้​ขอบเขต​

การ​โจมตี​เช่นนี้​ขยับ​เคลื่อน​นัย​เร้นลับ​แก่นแท้​ของ​แรก​กำเนิด​มหา​มรรค​ อย่า​ว่าแต่​ขั้น​ไร้​ขอบเขต​คนอื่นๆ​ แม้แต่​จอม​มรรค​ไร้​ขอบเขต​ยัง​ยาก​จะต้านทาน​!

ก็​เห็น​บรรพ​จารย์​วานร​แขน​เสื้อ​โบกสะบัด​ เงาร่าง​สูงใหญ่​ราวกับ​ภูเขา​พลัน​ปรากฏ​กลิ่นอาย​แรก​กำเนิด​ ราวกับ​เอกอุ​ที่​กลม​สมบูรณ์​ มหัศจรรย์​ไร้​ที่​เปรียบ​

จากนั้น​บรรพ​จารย์​วานร​ซัด​ออก​ไป​หมัด​หนึ่ง​

ทันใดนั้น​เจต​กระบี่​กับ​พลัง​หมัด​ พลัง​แห่ง​มรรคา​ชั้นเลิศ​ทั้งสอง​เข้า​ปะทะ​กัน​ ทำให้​ฟ้าดิน​สั่น​ไหว​ หมอก​แสงไหล​เคลื่อน​

หลิน​สวิน​สังเกตเห็น​ว่า​ฟ้าดิน​ของ​แดน​เทพ​มาก​เร้น​นี้​แข็งแกร่ง​ยิ่ง​ สามารถ​รับ​การ​โจมตี​ของ​พลัง​มหา​มรรค​ระดับ​นี้​ได้​

ตูม​โค​รา​ม… ตูม​โครม​…

เฉิน​หลิน​คง​และ​บรรพ​จารย์​วานร​ต่อสู้​กัน​อย่าง​ดุเดือด​ เหมือน​นาย​เหนือ​หัว​สอง​คน​กำลัง​ประลอง​กัน​ ทุกครั้งที่​ลงมือ​ล้วน​ชักนำ​พลัง​แรก​กำเนิด​ สะท้อน​ปรากฏการณ์​ประหลาด​ที่​เรียก​ได้​ว่า​น่ากลัว​ไร้​ขอบเขต​ออกมา​

มอง​ด้วย​สายตา​ของ​หลิน​สวิน​ตอนนี้​ สามารถ​มองออก​ทันที​ว่า​การต่อสู้​เช่นนี้​ จอม​มรรค​ไร้​ขอบเขต​เหล่านั้น​ไม่สามารถ​สอด​มือ​ได้​ หาก​สอด​มือ​จะต้อง​ตาย​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

เพราะ​พลัง​ระดับ​นี้​เกี่ยวพัน​ถึงการครอบครอง​พลัง​สุดยอด​ของ​มรรคา​นิรันดร์​ ทำลาย​พันธนาการ​แห่ง​ห้วง​มิติ​และ​เวลา​ ทุก​การเคลื่อนไหว​ล้วน​สำแดง​ถึงจุดสุดยอด​ของ​มรรคา​แห่ง​ตน​

‘จะฉวยโอกาส​นี้​สังหาร​คน​พวก​นั้น​ก่อน​หรือไม่​’

ซย่า​จื้อ​พลัน​สื่อ​จิต​ สายตา​มอง​ไป​ยัง​ทูต​ชะตา​สวรรค์​ทั้ง​เก้า​รวมถึง​เทียน​อู​และ​ซื่อ​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​

คน​เหล่านี้​ถ้าเป็น​ก่อน​เข้าสู่​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​ ย่อม​เป็น​พวก​ที่​หลิน​สวิน​ทำได้​เพียง​แหงนคอ​มอง​อย่าง​แน่นอน​

แต่​ตอนนี้​ไม่ว่า​จะเป็น​หลิน​สวิน​หรือ​ซย่า​จื้อ​ บน​มรรคา​ล้วน​เหนือกว่า​พวกเขา​แล้ว​ ย่อม​ไม่เห็น​พวกเขา​ใน​สายตา​

‘หาก​ข้า​เคลื่อนไหว​เกรง​ว่า​จะดึงดูด​ตัวแปร​มามากมาย​’

หลิน​สวิน​เงยหน้า​มอง​ฟ้าดิน​กว้างใหญ่​ห่าง​ออก​ไป​ เพราะ​การ​ขวางกั้น​ของ​พลัง​บน​แท่น​มรรค​มาก​เร้น​ ทำให้​จิต​รับรู้​ของ​เขา​ถูก​จำกัด​

แต่​เขา​กลับ​กล้า​มั่นใจ​ว่า​ไม่ว่า​จะเป็น​ไท่​ชู อีกา​ดำ​ หรือ​อาจารย์​ของ​ตน​ จักจั่น​ทอง​และ​เฉิน​ซี ล้วน​จับตามอง​สิ่งที่​เกิดขึ้น​ที่นี่​!

และ​ทุก​การเคลื่อนไหว​ของ​ตัวแปร​อย่าง​ตน​ ก็​เป็น​สิ่งที่​พวกเขา​จับตามอง​ที่สุด​ หาก​ตน​ออกจาก​แท่น​มรรค​มาก​เร้น​ ไม่แน่​ว่า​จะดึงดูด​ตัวแปร​ที่​ไม่อาจ​คาดเดา​มาด้วย​

‘แต่​ถ้าเจ้าไม่เคลื่อนไหว​ตลอด​จะทำลาย​สถานการณ์​ได้​อย่างไร​ หรือว่า​… ใน​ใจเจ้าไม่มีความมั่นใจ​ไป​ต้านทาน​ไท่​ชู’ ซย่า​จื้ออด​ถามไม่ได้​

หลิน​สวิน​อึ้ง​ไป​ก่อน​ จากนั้น​อด​ยิ้ม​ไม่ได้​ ‘เจ้าพูด​ถูก​ เพียงแค่​ยืน​มอง​อยู่​ที่นี่​ย่อม​มอง​อะไร​ไม่ออก​ กลับ​ยิ่ง​ทำให้​ศัตรู​เหล่านั้น​คิด​ว่า​ข้า​หลิน​สวิน​ไม่มีความมั่นใจ​…;

ก่อนหน้านี้​เขา​ก็​เดา​ออก​แล้ว​ ว่า​ใน​เมื่อ​ทุก​คนใน​แดน​เทพ​มาก​เร้น​ล้วน​รอ​ตน​อยู่​ จะต้อง​วางหมาก​ไว้​ล่วงหน้า​แล้ว​อย่าง​แน่นอน​

ดังนั้น​หลังจาก​เขา​มาถึงจึงไม่ได้​บุ่มบ่าม​ ตัดสินใจ​ดู​ว่า​เพราะ​การ​มาของ​ตนเอง​จะดึงดูด​ตัวแปร​มาเท่าไร​กัน​แน่​ และ​ไท่​ชูเตรียม​วิธี​จัดการ​ตนเอง​ไว้​มาก​เท่าไร​

แต่​ตอนนี้​คำพูด​ของ​ซย่า​จื้อ​กลับ​ทำให้​เขา​ตอบสนอง​ ตน​รอ​ต่อไป​ก็​เท่ากับ​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​ถูกกระทำ​ตลอดไป​!

อยาก​ทำลาย​สถานการณ์​นี้​ ย่อม​ต้อง​ก้าว​เข้าไป​ก่อน​!

ไม่เช่นนั้น​จะรู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ศัตรู​มีวิธี​และ​ไพ่ตาย​มากมาย​แค่​ไหน​

เมื่อ​ศักยภาพ​แข็งแกร่ง​มาก​พอ​ จะกลัว​ตัวแปร​และ​เคราะห์​สังหาร​ที่​ปรากฏ​ยาม​ทำลาย​สถานการณ์​ได้​อย่างไร​

“คิดไม่ถึง​ว่า​กลับเป็น​ซย่า​จื้อ​ที่​มอง​ขาด​กว่า​ข้า​”

หลิน​สวิ​เอ่ย​ทอดถอนใจ​

ซย่า​จื้อ​พูด​เสียง​เบา​ “เจ้าเพียงแค่​พะวง​พวก​อาจารย์​ของ​เจ้า ใน​ใจจึงเกิด​ความกังวล​มากมาย​ แต่​ข้า​ไม่เหมือนกัน​ ข้า​ใส่ใจเพียง​เจ้า”

บางที​ความคิด​ที่​เรียบง่าย​และ​ตรงไปตรงมา​ที่สุด​กลับ​จี้ถูก​จุดสำคัญ​ที่สุด​!

“ความกังวล​เดียว​ของ​ข้า​ใน​ตอนนี้​ กลับ​ไม่ใช่มหา​มรรค​และ​คู่ต่อสู้​อะไร​”

สายตา​ของ​หลิน​สวิน​มอง​ไป​ยัง​ซย่า​จื้อ​

“เจ้ากังวล​ว่า​ใน​การต่อสู้​หลังจากนี้​ ตัวแปร​ที่​ปรากฏ​จะทำให้​ข้า​โดน​ลูกหลง​ไป​ด้วย​ จึงตัดสินใจ​ให้​ข้า​หลบ​ไป​ก่อน​”

ซย่า​จื้อ​เข้าใจ​ทันที​ รู้ใจ​กัน​ก็​เป็น​เช่นนี้​

หลิน​สวิน​พยักหน้า​

ซย่า​จื้อ​ไม่ได้​ปฏิเสธ​ กล่าวว่า​ “ได้​”

นาง​รู้​ว่าที่​หลิน​สวิน​ทำ​เช่นนี้​เพราะ​ใส่ใจนาง​ มอง​นาง​เป็น​คน​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ นาง​จะปฏิเสธ​ได้​อย่างไร​

หลิน​สวิน​ยิ้ม​แล้ว​สะบัด​แขน​เสื้อ​ เรียก​เรือ​นิรันดร์​ออกมา​ ซย่า​จื้อ​กลาย​เป็นเงา​แสงสาย​หนึ่ง​พุ่ง​เข้าไป​

หลิน​สวิน​เก็บ​เรือ​นิรันดร์​ ใน​ใจสงบ​ลง​อย่าง​สิ้นเชิง​

แดน​เทพ​มาก​เร้น​แห่ง​นี้​เคราะห์​สังหาร​อาจจะ​น่า​สะพรึง​ เต็มไปด้วย​ตัวแปร​ที่​คิดไม่ถึง​มากมาย​

แต่​เขา​ใน​ตอนนี้​ไม่มีอะไร​ต้อง​ห่วง​แล้ว​

ครู่​ต่อมา​หลิน​สวิน​ก้าว​เท้า​ พุ่ง​ออก​นอก​แท่น​มรรค​มาก​เร้น​ไป​

พอ​เขา​เคลื่อนไหว​ จอม​มรรค​เก้า​ภาคี​ไท่​ชูอย่าง​พวก​เพ่​ย​ถู ชิงหยาง​จื่อ​ รวมถึง​เทียน​อู​และ​ซื่อ​ล้วน​สังเกตเห็น​ในทันที​

ขณะเดียวกัน​หยวน​ชูและ​ซวี​อิ่น​ เฉิน​หลิน​คง​และ​บรรพ​จารย์​วานร​ที่​กำลัง​ต่อสู้​กัน​อย่าง​ดุเดือด​ รวมถึง​พวก​โพธิ​ จักจั่น​ทอง​ เฉิน​ซี ไท่​ชูที่​รอ​อยู่​ใน​แดน​ลับ​แตก​ต่างกัน​ก็​สังเกตเห็น​เช่นกัน​

สายตา​ทั้งที่​มองเห็น​และ​มองไม่เห็น​ล้วน​มารวม​อยู่​ที่​เดียวกัน​เพราะ​การเคลื่อนไหว​นี้​ของ​หลิน​สวิน​!

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท