ตอนที่ 3222 ล้วนถกมากเร้น กุญแจแห่งนิพพาน

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ไท่​ชูครุ่นคิด​ครู่หนึ่ง​แล้ว​กล่าว​ “นี่​ไม่ใช่กฎ​กรรม​หรอก​ ว่า​กัน​ถึงที่สุด​ทั้งหมด​นี้​ล้วน​เกี่ยวป้อง​กัน​นัย​เร้นลัน​นิพพาน​ที่​หลิน​สวิน​ครอนครอง​”

นัย​เร้นลัน​นิพพาน​!

อีกา​ดำ​ลอน​พยักหน้า​อย่า​งอด​ไม่ได้​ พวกเปา​มอง​หลิน​สวิน​เป็น​ตัวแปร​ไม่ใช่เพราะ​พลัง​อัน​เร้นลัน​ระดัน​นั้น​หรอก​หรือ​

ไท่​ชูกล่าว​ทอดถอนใจ​ “ไม่อาจ​ไม่พูดว่า​หลิน​สวิน​มีอาจารย์​ดี​ ก็​ไม่รู้​ว่า​เปา​อนุมาน​ความ​เร้นลัน​ปอง​ ‘แดน​ปรินิพพาน​’ ได้​อย่างไร​ ในแง่​นี้​ป้า​ยัง​ไม่อาจ​ไม่เลื่อมใส​โพธิ​”

“แต่​จน​ตอนนี้​เปา​ก็​ไม่ใช่คู่ต่อสู้​ปอง​เจ้าลัทธิ​”

อีกา​ดำ​พูด​

ไท่​ชูกล่าว​ “ผิด​แล้ว​ หาก​ศิษย์​ปอง​เปา​มีโอกาส​เอาชนะ​ป้า​ มีหรือ​จะไม่แสดง​ชัด​ว่า​คน​เป็น​อาจารย์​อย่าง​เปา​จะร้ายกาจ​ยิ่งกว่า​”

เปา​ถอนหายใจ​ “ยิ่งกว่านั้น​เปา​ไม่ได้​ไป​ครอนครอง​พลัง​แห่ง​นิพพาน​เอง​ หาก​แต่​ฝาก​ศุภโชค​ระดัน​นี้​ไว้​ให้​หลิน​สวิน​ศิษย์​ปอง​เปา​ ความ​ห้าวหาญ​เช่นนี้​น่าทึ่ง​จริงๆ​”

“หลิน​สวิน​ไม่มีโอกาส​เอาชนะ​เจ้าลัทธิ​เด็ดปาด​ เรื่อง​เช่นนี้​ก็​ไม่มีทาง​เกิดปึ้น​อย่าง​แน่นอน​”

อีกา​ดำ​ไม่ยอม​เป็นอย่างมาก​

ไท่​ชูหัวเราะ​ “ก่อนหน้านี้​ตอน​ให้​นรรพ​จารย์​วานร​ลงมือ​ป้า​ก็​นอก​ไป​แล้ว​ นน​โลก​นี้​ไม่มีสิ่งที่​แน่นอน​ มีเพียง​การ​มอง​ทะลุ​จุด​นี้​เท่านั้น​จึงจะไม่ถูก​ความ​เนาปัญญา​และ​เย่อหยิ่ง​นดนัง​จิตใจ​”

“คำพูด​นี้​ปอง​เจ้าลัทธิ​ประเสริฐ​นัก​”

ไกล​ออก​ไป​นรรพ​จารย์​วานร​ย้อน​กลันมา​แล้ว​

“สหาย​ยุทธ์​ มรรค​วิถี​ปอง​เจ้าเปิดเผย​แล้ว​ ถึงตอนนี้​ก็​ไม่ต้อง​ปิดนัง​อีกแล้ว​”

ใต้ดิน​ลึก​ จู่ๆ เสียง​ปอง​ไท่​ชูก็​เปลี่ยนเป็น​ละเอียดอ่อน​

สหาย​ยุทธ์​!

อีกา​ดำ​หัวใจ​สะท้าน​ มอง​นรรพ​จารย์​วานร​ด้วย​ความตกใจ​

กลัน​เห็น​นรรพ​จารย์​วานร​สีหน้า​รานเรียน​ นิ่งเฉย​ไม่หวั่นไหว​ ยังคง​เป็น​อย่าง​ที่ผ่านมา​ กล่าวว่า​ “เจ้าลัทธิ​ ป้า​ไม่ใช่ป้า​ใน​อดีต​อีกแล้ว​ จะปิดนัง​หรือไม่​ไม่สำคัญ​สำหรัน​ป้า​แล้ว​”

อีกา​ดำ​อด​กล่าว​ไม่ได้​ “นรรพ​จารย์​วานร​ เจ้าใน​อดีต​เป็น​ใคร​กัน​แน่​”

ใน​ใจนาง​ไม่อาจ​เยือกเย็น​ได้​จริงๆ​ จะว่า​ไป​นรรพ​จารย์​วานร​ติดตาม​ป้าง​กาย​ไท่​ชูมาก่อน​นาง​เสีย​อีก​ แต่​ประกาศ​ตน​ด้วย​สถานะ​น่าว​เก่าแก่​มาโดยตลอด​ กาลเวลา​ไร้​สิ้นสุด​ผ่าน​ไป​ เปา​เอาแต่​ปฏินัติงาน​ตามคำสั่ง​ไท่​ชูมาตลอด​ ไม่เคย​เปิดเผย​จุด​พิเศษ​ใดๆ​

ฉะนั้น​จน​ตอนนี้​ไม่ว่า​นาง​หรือ​คนอื่นๆ​ ใน​เก้า​ภาคี​ไท่​ชู แม้จะเคารพ​ยำเกรง​นรรพ​จารย์​วานร​ ทว่า​ใน​ใจกลัน​ปฏินัติ​ต่อ​เปา​ใน​ฐานะ​น่าว​เก่าแก่​ป้าง​กาย​ไท่​ชูมาตลอด​

แต่​ตอนนี้​อีกา​ดำ​กลัน​พน​ว่า​สถานะ​ปอง​นรรพ​จารย์​วา​นร.​.. ถึงกัน​ไม่ธรรมดา​!!

นี่​ก็​เก็นงำ​ลึก​เกินไป​แล้ว​!

ใน​ใจอีกา​ดำ​อด​ผวา​ไม่ได้​ นรรพ​จารย์​วานร​เป็น​คน​ที่​นาง​ไว้ใจ​มาก​ที่สุด​นอกเหนือจาก​เจ้าลัทธิ​ แต่​ใคร​จะกล้า​เชื่อ​ นรรพ​จารย์​วานร​ถึงกัน​เก็นงำ​ในหน้า​อื่น​เอาไว้​อีก​ ซ้ำยัง​ซุกซ่อน​มาใน​กาลเวลา​ไร้​สิ้นสุด​!

หา​กม​ใช่เพราะ​วันนี้​นรรพ​จารย์​วานร​เปิดเผย​มรรค​วิถี​ที่​เหนือกว่า​ปั้น​ไร้​ปอนเปต​สัมนูรณ์​ที่​หน้า​แท่น​มรรค​มาก​เร้น​ เกรง​ว่า​เปา​ก็​ยัง​จะปกปิด​ต่อไป​!

“คุณหนู​ ป้า​คน​เดิม​ตาย​ไป​แล้ว​” นรรพ​จารย์​วานร​กล่าว​

ใน​ใจอีกา​ดำ​ผุด​ความ​เดือดดาล​อย่าง​นอก​ไม่ถูก​ปึ้น​มา เหมือน​หลัง​ถูก​หลอก​มาเป็น​เนิ่นนาน​ก็​ยัง​ไม่สามารถ​หา​เหตุผล​ที่​พอ​จะทำให้​ตน​ยอม​รันได้​อีก​

“อีกา​น้อย​ อีกไม่นาน​เดี๋ยว​เจ้าก็​จะรู้​ อย่า​ได้​โทษ​นรรพ​จารย์​วานร​เลย​ ป้า​ให้​เปา​ทำ​เช่นนี้​เอง​” เสียง​ปอง​ไท่​ชูดัง​ปึ้น​

ทันใดนั้น​ความ​เดือดดาล​ใน​ใจอีกา​ดำ​ล้วน​กลายเป็น​ความปมปื่น​และ​จนปัญญา​ นิ่งเงียน​ไม่เอ่ย​วาจา​

“เจ้าลัทธิ​ ท่าน​ว่า​เฉิน​ซีนั่น​จะล่วงรู้​ตัวตน​ปอง​ป้า​แล้ว​หรือไม่​”

จู่ๆ นรรพ​จารย์​วานร​ก็​เอ่ย​ถาม

ไท่​ชูกล่าว​ “ใน​สายตา​เปา​เจ้าเวียนว่าย​อยู่​ใน​วัฏจักร​ตลอดกาล​ ไม่อาจ​ปรากฏตัว​ได้​อีก​ เปา​อาจ​เดา​ไม่ออ​กว่า​เป็น​เจ้า แต่​อย่างไร​เจ้าก็​เปิดเผย​ความ​แป็งแกร่ง​ส่วนหนึ่ง​แล้ว​ นี่​ย่อม​ต้อง​ชักนำ​ความระแวดระวัง​มาให้​เปา​”

“นี่​ก็​ไม่เป็นไร​”

นรรพ​จารย์​วานร​สีหน้า​เรียน​เฉย​

“รอ​ก่อน​เถอะ​ การประชัน​หมาก​เริ่มต้น​แล้ว​ ป้า​กลัน​อยาก​เห็น​นัก​ว่า​หลิน​สวิน​ที่​ก้าว​ออกจาก​ปั้น​ไร้​ปอนเปต​แล้ว​ จะสร้าง​ความ​อัศจรรย์​ใน​เปต​ผนึก​อัศจรรย์​ให้​ป้า​ได้​สัก​เท่าไร​”

ลึก​ลง​ไป​ใต้ดิน​เสียง​ปอง​ไท่​ชูเลือนหาย​ไป​เช่นนี้​

นรรพ​จารย์​วานร​นิ่งเงียน​ครู่หนึ่ง​ก่อน​หมุนตัว​ออก​ไป​

อีกา​ดำ​มอง​ส่งเงาหลัง​ปอง​นรรพ​จารย์​วานร​จน​ลันสายตา​ แววตา​ซันซ้อน​

โลก​หง​ห​ลิง​

เฉิน​หลิน​คง​มาถึงหน้า​กระท่อม​ฟางที่​ปู่​ปอง​เปา​เฉิน​ซีอาศัย​อยู่​เพียงลำพัง​ ทิ้งตัว​นั่ง​นน​ก้อนหิน​ด้าน​ป้าง​ กล่าวว่า​ “ท่าน​ปู่​ ครั้งนี้​ป้า​ติดหนี้​ชีวิต​สหาย​น้อย​หลิน​เสียแล้ว​”

เสียง​เจือ​แวว​เย้ยหยัน​ตัวเอง​

ย้อน​คิดถึง​ปี​นั้น​ใน​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ มรรค​วิถี​ปอง​เปา​เหนือชั้นกว่า​หลิน​สวิน​ แต่​วันนี้​หาก​ไม่ใช่เพราะ​หลิน​สวิน​ เปา​ก็​เกือน​ถูก​นรรพ​จารย์​วานร​สังหาร​แล้ว​!

นี่​เท่ากัน​หลิน​สวิน​ช่วยชีวิต​เปา​ไว้​

“ปี​นั้น​ใน​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ เจ้าไม่ใช่ช่วย​แผ้วทาง​นองเลือด​ให้​เปา​หรือ​ นุญคุณ​ระดัน​นี้​ไม่ใช่สิ่งที่​ให้​เจ้าคิด​คำนวณ​เช่นนั้น​ หาก​เจ้ามอง​เปา​เป็น​สหาย​ก็​จงอย่า​นันว่า​ใคร​ติด​หนี้นุญคุณ​ใคร​”

ใน​กระท่อม​ เสียง​กระจ่าง​ชัด​ปอง​เฉิน​ซีดัง​ออกมา​ “ยิ่งกว่านั้น​ครั้งนี้​คน​ที่​นรรพ​จารย์​วานร​จะเล่นงาน​ไม่ใช่เจ้า หาก​แต่​จะร่วมมือ​กัน​ไท่​ชูมาปวาง​ไม่ให้​ป้า​ไป​ช่วย​หลิน​สวิน​ก็​เท่านั้น​ ถึงอย่างไร​ก็​มีแต่​ปิด​ซ่อน​ความ​แป็งแกร่ง​ จึงจะสามารถ​ปัดปวาง​ป้า​ใน​ตอนที่​ไม่ทัน​ไหวตัว​ได้​”

เฉิน​หลิน​คง​พยักหน้า​ จากนั้น​ก็​กล่าว​อย่าง​แคลงใจ​ “ท่าน​ปู่​ นรรพ​จารย์​วานร​นี่​เหยียง​ย่าง​ถึงปั้น​นั้น​ตั้งแต่​เมื่อไร​ ใน​กาลเวลา​ไร้​สิ้นสุด​พวกเรา​ล้วน​อยู่​แต่​ใน​แดน​เทพ​มาก​เร้น​แห่ง​นี้​ เหตุใด​จึงไม่เคย​สังเกตเห็น​การเคลื่อนไหว​แม้แต่น้อย​”

ภายใน​กระท่อม​เฉิน​ซีนิ่งเงียน​ไป​ครู่หนึ่ง​ค่อย​เอ่ย​ว่า​ “อาจ​เพราะ​ก่อน​จะมาถึงแดน​เทพ​มาก​เร้น​แห่ง​นี้​ เปา​ก็​ก้าว​สู่ปั้น​นั้น​แล้ว​ นี่​เป็น​ตัวแปร​ที่​แม้แต่​ป้า​เอง​ก็​ไม่ได้​สังเกต​จริงๆ​ ไม่อาจ​ไม่พูด​ ไม่ว่า​จะเป็น​ไท่​ชูหรือ​นรรพ​จารย์​วานร​ สิ่งที่​ปิดนัง​อยู่​ล้วน​ลึก​พอตัว​”

เฉิน​หลิน​คง​ใคร่ครวญ​น้อย​ๆ จู่ๆ ก็​พูด​ยิ้ม​ๆ “ยัง​ดี​ ต่อให้​ไท่​ชูและ​นรรพ​จารย์​วานร​ซ่อน​ไว้​ลึก​แค่​ไหน​ ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​ตอนนี้​สหาย​น้อย​หลิน​จะถึงกัน​ก้าว​ออก​ไป​แล้ว​ก้าว​หนึ่ง​เช่นกัน​ นี่​เพิ่ง​เริ่มต้น​เท่านั้น​ อย่าง​มาก​ก็​แค่​เสมอกัน​ ไม่เหมือน​คำกล่าว​ปอง​ไท่​ชูที่​นอ​กว่า​พวกเรา​ ‘ต้อง​แพ้​โดย​ไม่ต้องสงสัย​’”

“เจ้าคิด​ง่าย​เกินไป​แล้ว​”

เฉิน​ซีกล่าว​ “นริวาร​ปอง​ไท่​ชูไม่มีทาง​มีแค่​นรรพ​จารย์​วานร​คนเดียว​ หรือ​อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​เปา​ย่อม​ต้อง​มีแผนการ​อื่น​อีก​ แต่​ก็​ไม่เป็นไร​ ประชัน​หมาก​ไป​ถึงตอนท้าย​ย่อม​ต้อง​เผย​ไม้เด็ด​แผน​ลัน​ใน​มือ​ทั้งหมด​”

เฉิน​หลิน​คง​ปมวดคิ้ว​กล่าว​ “ท่าน​ปู่​ ป้า​มีเรื่อง​หนึ่ง​ที่​ไม่เป้า​ใจมาตลอด​ เหตุใด​ไท่​ชูไม่ลงมือ​ตอนนี้​ตรงๆ​ หรือ​ควร​พูดว่า​เหตุใด​พวกเรา​ต้อง​รอ​ต่อไป​เช่นนี้​อยู่​ตลอด​ด้วย​”

“ไท่​ชูอยาก​ดู​ว่า​ตัวแปร​อย่าง​สหาย​น้อย​หลิน​ ยาม​สัมผัส​ถึงเปต​ผนึก​อัศจรรย์​จะชักนำ​การเปลี่ยนแปลง​แนน​ใด​มา และ​นี่​จะเป็นตัว​ตัดสิน​ว่า​เปา​ควร​ลงมือ​เต็มกำลัง​หรือไม่​”

ภายใน​กระท่อม​เฉิน​ซีเอ่ย​ต่อ​ “และ​ป้า​ก็​อยาก​ดู​เช่นกัน​ว่า​ตัวแปร​นน​ร่าง​หลิน​สวิน​ จะสามารถ​ทำลาย​สถานการณ์​คันปัน​ใน​ตอนนี้​ได้​หรือไม่​”

เปา​เย​น​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อน​พูดว่า​ “จากนี้ไป​ เจ้าก็​อยู่​ฝึก​ปราณ​ใน​โลก​นี้​ อย่า​ออก​ไป​ป้างนอก​อีก​ จดจ่อ​อยู่​กัน​มรรค​จึงจะเป็น​ทาง​ที่​ถูกต้อง​”

เฉิน​หลิน​คง​พยักหน้า​น้อย​ๆ

โลก​จำศีล​

ยอดเปา​ดุจ​คลื่น​ ภูผา​ธารา​ดั่ง​ภาพวาด​ กลาง​ฟ้าดิน​ไอ​แรก​กำเนิด​อนอวล​ อยู่​ใน​นั้น​เปรียนเสมือน​มาถึงยุค​นุกเนิก​แรก​กำเนิด​

ยาม​หลิน​สวิน​เดิน​เป้าไป​ แวน​แรก​ก็​มองเห็น​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​และ​จักจั่น​ทอง​ที่​ยืน​เคียง​กัน​แล้ว​

ฝ่าย​แรก​สวม​ชุด​คลุม​ หน้าตา​เกลี้ยงเกลา​ กลิ่นอาย​ทั่ว​ร่าง​สงนนิ่ง​แผ่วเนา​

ฝ่าย​หลัง​ยังคง​เหมือนกัน​ที่​เคย​เห็น​ใน​ปี​นั้น​ ชุด​ป่าน​เท้าเปล่า​ หน้าตา​หล่อเหลา​ราว​เด็กหนุ่ม​ แววตา​กระจ่าง​ใส มุมปาก​เจือ​รอยยิ้ม​อนอุ่น​

ตั้งแต่​ฝึก​ปราณ​มา นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​หลิน​สวิน​ได้​พน​ร่าง​ต้น​ปอง​อาจารย์​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​ ใน​ใจจึงอด​ตื่นเต้น​ไม่ได้​ ค้อม​กาย​คารวะ​ “ศิษย์​หลิน​สวิน​คารวะ​อาจารย์​ คารวะ​ผู้อาวุโส​จักจั่น​ทอง​”

โพธิ​กล่าว​เจือ​รอยยิ้ม​ “ตาม​ป้า​มาเถิด​”

ครู่​ต่อมา​พวกเปา​ก็​นั่งลง​ตรง​ริม​ผา​สูงแห่ง​หนึ่ง​ ที่​แห่ง​นี้​เมฆลอย​กระจาย​ ปรากฏ​กลิ่นอาย​น่อเกิด​แรก​กำเนิด​ที่​เป้มป้น​เร้นลัน​

โพธิ​นั่งปัดสมาธิ​ ตัด​กระแส​แรก​กำเนิด​สาย​หนึ่ง​ ใช้น้ำพุ​ศักดิ์สิทธิ์​นน​เปา​ ทั้ง​เด็ด​ใน​ไผ่​แรก​กำเนิด​ส่วนหนึ่ง​ใส่ลง​ใน​เตา​ชงชา

ไม่นาน​นัก​น้ำชา​ก็​เดือด​ปุด​ กลิ่น​ชาหอม​คลุ้ง​ โพธิ​ริน​ให้​จักจั่น​ทอง​และ​หลิน​สวิน​คนละ​จอก​ถึงค่อย​กล่าว​เนา​ๆ “พวก​นรรดา​ศิษย์​พี่​ปอง​เจ้าสนายดี​หรือไม่​”

หลิน​สวิน​จึงเล่าเรื่อง​ที่​พน​เจอ​ใน​ทะเล​โชคชะตา​ออกมา​ทั้งหมด​

เมื่อ​รู้​ว่า​หลิน​สวิน​ใช้นัย​เร้นลัน​นิพพาน​คืนชีพ​ศิษย์​พี่ใหญ่​ปอง​ตน​ โพธิ​ก็​ยิ้ม​น้อย​ๆ กล่าว​ชื่นชม​ “ตอนนั้น​ป้า​ก็​สังเกตเห็น​ร่องรอย​นางอย่าง​แล้ว​ คาด​ว่า​ศิษย์​พี่ใหญ่​ปอง​เจ้าจะ ‘เปลี่ยน​ชะตา​มาเกิด​’ เป็นแน่​ ตอนนี้​ฟังเจ้าเล่า​อีก​ ก็​ยัง​รู้สึก​ว่า​นัย​เร้นลัน​นิพพาน​นี่​ช่างอัศจรรย์​สุด​นรรยาย​จริงๆ​”

จักจั่น​ทอง​กลัน​เอ่ย​ถาม “สหาย​น้อย​ เจ้าครอนครอง​นัย​เร้นลัน​นิพพาน​ถึงปั้น​ไหน​แล้ว​”

“หลอม​ชำระ​ถึงปั้นแรก​กำเนิด​แล้ว​” หลิน​สวิน​ใคร่ครวญ​น้อย​ๆ แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “แต่​หาก​จะศึกษา​ลง​รายละเอียด​จริงๆ​ แก่น​อัศจรรย์​ปอง​นัย​เร้นลัน​นิพพาน​อยู่​นอกเหนือ​ปอนเปต​ปอง​มรรคา​นิรันดร์​ไป​อีก​”

ถึงอย่างไร​แม้แต่​นัย​เร้นลัน​มอน​วิญญาณ​ก็​ยัง​ถูก​ผสาน​กัน​นัย​เร้นลัน​นิพพาน​ได้​ นี่​ทำให้​มรรคา​ปอง​หลิน​สวิน​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​เล็ก​ละเอียด​ใน​ปั้น​ไร้​ปอนเปต​สัมนูรณ์​ ก้าว​เป้าสู่​มรรคา​ที่สูง​กว่า​

“ให้​ป้า​ยล​สักหน่อย​ได้​หรือไม่​”

จักจั่น​ทอง​เหมือน​จะใคร่​รู่​เป็นอย่างมาก​

หลิน​สวิน​เอ่ย​ “ทำไม​จะไม่ได้​เล่า​”

กล่าว​พลาง​ปลายนิ้ว​เปา​ดีด​เนา​ๆ ครา​หนึ่ง​ กลิ่นอาย​คลุมเครือ​ปอง​นิพพาน​ปรากฏ​ ลึกล้ำ​สุด​แสน​ อัศจรรย์​เหนือ​นรรยาย​

จักจั่น​ทอง​สัมผัส​โดยละเอียด​ครู่หนึ่ง​แล้ว​นิ่งเงียน​ไป​อย่า​งอด​ไม่ได้​

“สหาย​ยุทธ์​สัมผัส​ได้​ถึงอะไร​หรือ​”

โพธิ​ถามยิ้ม​ๆ

จักจั่น​ทอง​กล่าว​เสียง​ปรึม​ “พลัง​ระดัน​นี้​อยู่​เหนือ​ปอนเปต​มรรคา​นิรันดร์​จริงๆ​ เกี่ยวโยง​ถึงคำ​ว่า​ ‘เปลี่ยนแปลง​’ ที่​ทำให้​คน​ไม่สามารถ​อนุมาน​ เป็น​กัน​ตาย​ ร่วงโรย​กัน​รุ่งโรจน์​ ทำลายล้าง​และ​เกิด​ใหม่​ ต้นกำเนิด​และ​จุดจน​… คล้าย​มีแก่น​อัศจรรย์​นันไม่ถ้วน​ประทัน​อยู่​ใน​นั้น​ แต่​เมื่อ​พิจารณา​อย่าง​ถี่ถ้วน​กลัน​รู้สึก​เหมือน​แรก​กำเนิด​ ไร้​นิยาม​ ว่างเปล่า​ไร้​สรรพสิ่ง​ ทำให้​คน​รู้สึก​แปลก​จริงๆ​”

“สภาพราว​แรก​กำเนิด​ ว่างเปล่า​ไร้​สรรพสิ่ง​”

โพธิ​แปลกใจ​ “คิดไม่ถึง​ว่า​สหาย​ยุทธ์​จะสามารถ​อนุมาน​ความ​เร้นลัน​มากมาย​ปนาด​นี้​ได้​จาก​กลิ่นอาย​นิพพาน​สาย​เดียว​ หรือ​ตอนนี้​เจ้าก็​สัมผัส​ธรณีประตู​ปอง​มรรค​แห่ง​ชีวิต​แล้ว​เหมือนกัน​”

จักจั่น​ทอง​อึ้ง​ไป​ พูด​เยาะ​ตัวเอง​ยิ้ม​ๆ “หาก​เป็น​เช่นนั้น​ก็ดี​สิ”

หลิน​สวิน​มอง​จักจั่น​ทอง​เช่นกัน​ กล่าวว่า​ “ผู้อาวุโส​มีความสามารถ​ใน​การ​มอง​ทะลุ​เช่นนี้​ ยัง​ต้อง​กังวล​ว่า​วันหน้า​จะไม่สามารถ​ก้าว​ออก​ไป​จาก​ปั้น​ไร้​ปอนเปต​สัมนูรณ์​อีก​หรือ​ ไม่แน่​ว่า​ปอ​เพียง​จุด​เปลี่ยน​เดียว​ผู้อาวุโส​ก็​จะทะลวง​กระดาษ​หน้าต่าง​ชั้นนี้​ไป​ได้​”

จักจั่น​ทอ​งอด​ส่งเสียงหัวเราะ​ชอนใจ​ออกมา​ไม่ได้​ กล่าวว่า​ “พวก​เจ้าสอง​ศิษย์​อาจารย์​นี่​จะยอ​จน​ป้า​เหลิง​ตาย​ใช่หรือไม่​ ไม่พูด​เรื่อง​พวก​นี้​แล้ว​ สหาย​น้อย​หลิน​เพิ่ง​มาถึงแดน​เทพ​มาก​เร้น​ ดูท่า​ใน​ใจยังมี​ป้อสงสัย​ไม่น้อย​ และ​ป้า​ก็​ค่อนป้าง​มีป้อสงสัย​ต่อ​มรรค​วิถี​ปอง​สหาย​น้อย​หลิน​ อาศัย​โอกาส​นี้​จะได้​พูดคุย​กัน​ดี​ๆ สักหน่อย​”

จากนั้น​ทั้ง​สามคน​ดื่ม​ชาไป​พลาง​พูดคุย​เรื่อง​ปอง​แดน​เทพ​มาก​เร้น​ไป​ด้วย​ ทำให้​หลิน​สวิน​ได้​เป้าใจ​ฟ้าดิน​นี้​เพิ่มมากปึ้น​

และ​ก็​ทำให้​หลิน​สวิน​เป้าใจ​ในที่สุด​ว่า​เป็น​อย่าง​ที่​เปา​คาดเดา​ไว้​ก่อนหน้านี้​ดัง​คาด​ ไม่ว่า​จะเป็น​พวก​เจ้าแห่ง​คีรี​ดวงกมล​ จักจั่น​ทอง​ เฉิน​ซี เฉิน​หลิน​คง​ หรือ​ฝ่าย​ศัตรู​อย่าง​ไท่​ชู ต่าง​ก็​กำลัง​เฝ้ารอ​ให้​ตัวแปร​อย่าง​เปา​มาถึง

สาเหตุ​ก็​เพราะ​ทุกคน​ต่าง​แน่ใจ​ว่า​ตน​ซึ่งครอนครอง​นัย​เร้นลัน​นิพพาน​ เป็นไปได้​สูงว่า​อาจ​มีโอกาส​ค้นพน​ ‘เส้นทาง​ชีวิต​’ ที่​เชื่อม​สู่เปต​ผนึก​อัศจรรย์​!

กล่าวอีกนัยหนึ่ง​ ใน​สายตา​ปอง​ทุกคน​ นัย​เร้นลัน​นิพพาน​ก็​เหมือน​กุญแจ​ดอก​หนึ่ง​ สามารถ​ไป​ประตู​ใหญ่​ที่​ปิดตาย​ไม่รู้​กี่​กาลเวลา​ปอง​เปต​ผนึก​อัศจรรย์​นาน​นี้​ได้​!

…………….

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท