ตอนที่ 3232 ควรลงมือก็ลงมือ เหตุใดต้องรอช้า

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

เมื่อ​มหา​มรรค​เหนือกว่า​ระดับ​นิรันดร์​ วิธี​และ​อานุภาพ​ยาม​ประชัน​กัน​ก็​ไม่ใช่วิชา​มรรค​ใน​ความหมาย​ทั่วไป​แล้ว​

การประชัน​เช่นนี้​ สิ่งที่​ประชัน​คือ​ความสูงต่ำ​ใน​มรรคา​แต่ละคน​ สิ่งที่​สำแดง​ออกมา​ระหว่าง​ประชัน​ คือ​การครอบครอง​นัย​เร้นลับ​มหา​มรรค​ของ​แต่ละคน​

สภาวะ​จิต​ เจตจำนง​ และ​สติปัญญา​ ล้วน​ผสาน​อยู่​ใน​ทุก​รายละเอียด​ของ​การต่อสู้​

ใน​สายตา​ของ​ทุกคน​กลับเป็น​อีก​ภาพ​หนึ่ง​

เมื่อ​มหา​มรรค​ไร้​เทียมทาน​สอง​สาย​ปะทะ​ชิงชัย​อย่าง​ดุเดือด​กลาง​ไอ​แรก​กำเนิด​ ใน​กระแส​มหา​มรรค​ที่​ซัด​ขึ้น​เต็มไปด้วย​กลิ่นอาย​ทำลายล้าง​ที่​สามารถ​ทำให้​ผู้ฝึก​ปราณ​สิ้นหวัง​ได้​

แม้จะอยู่​ใน​สายตา​ของ​ขั้น​ไร้​ขอบเขต​สัมบูรณ์​อย่าง​พวก​เฉิน​หลิน​คง​ อีกา​ดำ​ การประชัน​มรรค​เช่นนี้​ก็​ยัง​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​สุดยอด​ของ​โลก​ มีความ​น่ากลัว​ซ่อน​อยู่​!

ยาม​จิตใจ​ของ​พวกเขา​สัมผัส​ ยัง​พบ​เจอ​การ​โจมตี​และ​ผลกระทบ​อย่าง​ไม่อาจ​เลี่ยง​

แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ไม่โง่ถึงขั้น​ไป​สังเกต​และ​พิสูจน์​ เช่นนี้​มีแต่​จะทำให้​มรรคา​ของ​พวกเขา​ถูก​โจมตี​รุนแรง​!

ตูม​ โครม​…

การต่อสู้​ของ​เฉิน​ซีและ​บรรพ​จารย์​วานร​น่ากลัว​ขึ้น​เรื่อยๆ​ เงาร่าง​ของ​ทั้งสอง​พุ่ง​ทะลวง​ส่วนลึก​ของ​เวิ้ง​ฟ้าแรก​กำเนิด​ขุ่นมัว​เป็นชั้นๆ​ นั้น​ ทำให้​พื้นที่​ตรงนั้น​ปรากฏ​ภาพ​ฟ้าร้อง​ฟ้าลั่น​ ด่าน​เคราะห์​พาด​ขวาง​ หมื่น​มรรค​ถล่มทลาย​ทุก​แห่งหน​

“การต่อสู้​ครั้งนี้​คง​ไม่สามารถ​ตัดสิน​แพ้ชนะ​ได้​ใน​เวลา​สั้น​ๆ”

ไท่​ชูหรี่ตา​เล็กน้อย​ เอ่ย​เสียง​เบา​

“บรรพ​จารย์​วานร​ต้อง​ตาย​”

หลิน​สวิน​พูด​ง่ายๆ​

การ​คาดเดา​สอง​แบบ​ ไท่​ชูมองว่า​ไม่สามารถ​ตัดสิน​แพ้ชนะ​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​ ขณะที่​หลิน​สวิน​มองว่า​บรรพ​จารย์​วานร​ต้อง​ตาย​ ก็​สะท้อน​ให้​เห็น​ถึงสภาวะ​จิต​ที่​แตก​ต่างกัน​ของ​ทั้งสอง​แล้ว​

ไท่​ชูอด​ยิ้ม​ไม่ได้​ “บน​โลก​นี้​ไม่มีอะไร​แน่นอน​ สหาย​น้อย​ชี้ชัด​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​”

“แม้ตอนนี้​มรรคา​ของ​บรรพ​จารย์​วานร​ไม่เหมือน​เมื่อก่อน​ แต่​ใน​ใจเขา​มีเพียง​แพ้ชนะ​และ​เป็น​ตาย​”

หลิน​สวิน​กล่าว​เรียบ​เรื่อยๆ​ “ถึงอย่างไร​เขา​ก็​เคย​พ่ายแพ้​ให้​ผู้อาวุโส​เฉิน​ซี เคย​ถูก​กำราบ​ใน​วัฏจักร​ สิ่งที่​เขา​ปรารถนา​คือ​เอาชนะ​ผู้อาวุโส​เฉิน​ซี ชำระ​แค้น​ใน​อดีต​ แต่​ใน​ใจผู้อาวุโส​เฉิน​ซี การต่อสู้​ครั้งนี้​ที่​ประชัน​กัน​คือ​ความสูงต่ำ​ เทียบ​ว่า​ใคร​ไป​ได้​ไกล​กว่า​”

เจขา​เว้น​ช่วง​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​กล่าว​ต่อ​ “บรรพ​จารย์​วานร​ยึดติด​แพ้ชนะ​ ถูก​จำกัด​ด้วย​ความเป็นความตาย​ ส่วน​ผู้อาวุโส​เฉิน​ซีกลับ​ยึด​ใน​มรรคา​ สนใจ​ความสูงต่ำ​และ​ยาว​ไกล​ ทั้งสอง​เทียบ​กัน​แล้ว​ อย่างไร​บรรพ​จารย์​วานร​ก็​ด้อย​กว่า​เล็กน้อย​ บางที​คง​เพราะ​ความ​ทรมาน​ใน​วัฏจักร​นิรันดร์​กลายเป็น​พันธนาการ​ใน​ใจเขา​”

แววตา​ไท่​ชูวับ​วาว​ ส่ายหน้า​พูด​ “ผู้​ยึดติด​จึงจะสำเร็จ​ ข้า​กับ​เจ้ามีความคิดเห็น​ไม่เหมือนกัน​”

หลิน​สวิน​พูด​เรื่อยเฉื่อย​ “ปกติ​ ต่าง​มีหนทาง​ของ​ตนเอง​ มีความ​ยึดถือ​ของ​ตนเอง​ นี่​ก็​คือ​เหตุผล​ของ​การต่อสู้​มหา​มรรค​ จะตัดสิน​สูงต่ำ​ มีเพียง​เผย​ความสามารถ​อย่าง​แท้จริง​”

“ไม่ผิด​ ไม่ว่า​การต่อสู้​ใด​สุดท้าย​ก็​ต้อง​ตัดสิน​สูงต่ำ​ด้วย​หมัด​ หลัก​เหตุผล​ที่​ธรรมดา​ที่สุด​จึงจะเป็น​เหตุผล​ที่​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​ หาก​ไม่ยอม​ เช่นนั้น​ก็​จะซัด​จน​เจ้าจำยอม​”

ไท่​ชูหัวเราะ​ฮ่าๆ

“อีกา​ดำ​ มาสู้กัน​!”

จู่ๆ เฉิน​หลิน​คง​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​แววตา​ราวกับ​สายฟ้า​ มอง​อีกา​ดำ​จาก​ไกลๆ​ พลัง​ขับเคลื่อน​ทั้ง​ร่าง​ราวกับ​ธาร​ใหญ่​ยาว​ โคจร​ไม่หยุด​ เพิ่ม​สูงขึ้น​เป็นชั้นๆ​ พลุ่งพล่าน​ราวกับ​กระแสน้ำ​หมาย​จะกลบ​ท่วม​ท้องฟ้า​

เห็น​เช่นนี้​ไท่​ชูยิ้ม​เอ่ย​ “อีกา​น้อย​ ไป​รับศึก​เถอะ​ หาก​เป็นไปได้​ สั่งสอน​เจ้าคน​ไม่รู้ความ​แซ่เฉิน​นี่​ให้​ข้า​หน่อย​ เขา​หยิ่งผยอง​ยิ่งกว่า​ปู่​ของ​เขา​มาก​”

“แค่​สั่งสอน​น่าเบื่อ​เกินไป​ ข้า​จะฆ่าเขา​ซะ”

ใบหน้า​กระจ่าง​ของ​อีกา​ดำ​เต็มไปด้วย​ไอ​สังหาร​ นาง​ทะยาน​ห้วง​อากาศ​ ชุด​ดำ​พลิ้ว​ไป​ตาม​สายลม​ บน​ร่าง​งามปรากฏ​พลัง​กฎระเบียบ​แรก​กำเนิด​ปาน​เปลวเพลิง​ไพศาล​

ตูม​!

นาง​ประกบ​มือ​ทำ​มุทรา​ สุริยัน​สีดำ​ดวง​โต​ทะยาน​ห้วง​อากาศ​ไป​

เฉิน​หลิน​คง​ยื่น​มือขวา​ออก​ไป​ ฝ่ามือ​รวบ​กำ​ ชัก​กระบี่​มรรค​ที่​ควบ​รวม​จาก​มหา​มรรค​แห่ง​ตน​ออกมา​ ใน​เสียง​กระบี่​ครวญ​ หนึ่ง​กระบี่​แทง​ออก​ไป​

สุริยัน​สีดำ​ดวง​โต​กำราบ​เข้ามา​ ถูก​กระบี่​แทง​เข้าใส่​พอดี​ ระเบิด​ออก​โดยพลัน​

กลับ​เห็น​อีกา​ดำ​บิน​มาตัวเปล่า​ โจมตี​เข้ามา​แล้ว​ ต่อสู้​กับ​เฉิน​หลิน​คง​อย่าง​ดุเดือด​

ขั้น​ไร้​ขอบเขต​สัมบูรณ์​สอง​คน​ มรรค​วิถี​เท่ากับ​ยืน​อยู่​ปลาย​สุด​ของ​ขั้น​ไร้​ขอบเขต​ใน​โลก​แล้ว​ การต่อสู้​ที่​เกิดขึ้น​ก็​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​การต่อสู้​ชั้นยอด​บน​มรรคา​นิรันดร์​แล้ว​

“สหา​ยุทธ์​คิด​ว่า​ความสามารถ​ของ​พวกเขา​เป็น​อย่างไร​”

ไท่​ชูเพียง​เหลือบมอง​การต่อสู้​นี้​แวบ​หนึ่ง​ ก่อน​จะหัน​มอง​หลิน​สวิน​อีกครั้ง​

“แพ้ชนะ​ระหว่าง​พวกเขา​ไม่ใส่สิ่งที่​พวกเขา​ควบคุม​ได้​ ว่า​กัน​ถึงที่สุด​ ต้อง​ดู​การประชัน​ระหว่าง​ผู้อาวุโส​เฉิน​ซีและ​บรรพ​จารย์​วานร​ ทั้ง​ยัง​ต้อง​ดู​การประชัน​ระหว่าง​เจ้ากับ​ข้า​”

หลิน​สวิน​พูด​ง่ายๆ​

ไท่​ชูเอ่ย​อย่าง​เห็นด้วย​อย่างยิ่ง​ “ไม่ผิด​ ข้า​ไม่ยอมให้​อีกา​ดำ​เกิดเรื่อง​ เฉิน​ซีกับ​เจ้าก็​ไม่ยอมให้​เฉิน​หลิน​คง​เกิดเรื่อง​เช่นกัน​”

สายตา​ของ​เขา​กวาด​ผ่าน​หลิน​สวิน​ มอง​ไป​ยัง​โพธิ​และ​จักจั่น​ทอง​ ยิ้ม​พูด​ “สำหรับ​พวกเขา​ เป็น​ผู้ชม​ก็ดี​ แต่​เมื่อ​ลงมือ​กลับ​จะทำให้​เจ้าเดือดร้อน​ไป​ด้วย​ และ​จะสร้าง​โอกาส​ใน​การ​โจมตี​เจ้าให้​ข้า​”

โพธิ​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​แต่​ไม่เอ่ย​อัน​ใด​

จักจั่น​ทอง​ยังคง​อ่อนโยน​ นิ่ง​สงบ​ใจเย็น​

และ​ตอนนี้​เอง​…

หลิน​สวิน​เงย​มอง​ส่วนลึก​ของ​ไอ​แรก​กำเนิด​ขุ่นมัว​ที่อยู่​ห่าง​ไป​ “เริ่ม​กัน​เถอะ​”

คำพูด​เบา​ๆ สามคำ​กลับ​เหมือน​สายฟ้า​ฟาด​

ชั่ว​ขณะนี้​แม้แต่​แดน​เทพ​มาก​เร้น​ยัง​สั่น​เล็กน้อย​ ส่วน​บน​ร่าง​หลิน​สวิน​มีพลัง​ขับเคลื่อน​และ​ท่วงทำนอง​ศักดิ์สิทธิ์​ไร้​รูป​ปรากฏ​ ไม่มีคลื่น​มหา​มรรค​อะไร​ และ​ไม่มีอานุภาพ​สะเทือน​จักรวาล​ ยิ่ง​ไม่มีแสงมรรค​รั่วไหล​แม้แต่​เสี้ยว​

สภาพราว​แรก​กำเนิด​ ว่างเปล่า​เช่นนั้น​!

“รอ​ไม่ไหว​แล้ว​หรือ​” ไท่​ชูยิ้ม​ถาม

“มรรค​วิชา​ดังเช่น​ธรรมชาติ​ อยาก​อัด​เจ้าก็​จะอัด​เจ้า เหตุใด​ต้อง​เอ่ย​ว่า​จะรอ​หรือไม่​”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​กว้าง​ จากนั้น​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​

ก้าว​เดียว​ก็​มาถึงเบื้องหน้า​ไท่​ชูแล้ว​ ตวัด​หมัด​ซัด​ออก​ไป​

กาย​ราว​มรรค​ หมัด​ดั่ง​แรก​กำเนิด​ แต่กลับ​เรียบง่าย​ถึงขั้น​เป็นไปตาม​ธรรมชาติ​ เหมือน​ดั่ง​ท่วงทำนอง​แห่ง​การ​ไหล​เคลื่อน​ของ​โลก​ ไร้​ซึ่งร่องรอย​แตกต่าง​

ทว่า​ท่วงทำนอง​ศักดิ์สิทธิ์​ไร้​รูป​นั่น​กลับ​ทำให้​ไท่​ชูนัยน์ตา​หด​รัด​เล็กน้อย​ จากนั้น​เผย​ประกาย​เจิดจ้า​

เขา​ขับเคลื่อน​ความคิด​ เงาร่าง​ผ่าเผย​ไม่เพียง​ไม่ถอย​ยัง​เดินหน้า​ ชูหมัด​กระแทก​ไป​เช่นเดียวกัน​

ปัง​!

พลัง​หมัด​ปะทะ​กัน​ คลื่น​มหา​มรรค​สาย​หนึ่ง​แผ่ออก​โดย​มีทั้งสอง​เป็น​จุดศูนย์กลาง​ ร้อย​จั้ง พัน​จั้ง หมื่น​จั้ง… จน​ห้วง​อากาศ​ไร้​ขอบเขต​ของ​ทั้ง​แดน​เทพ​มาก​เร้น​สั่น​ไหว​รุนแรง​ โลก​แดน​ลับ​นับไม่ถ้วน​ที่​กระจาย​อยู่​ใน​ห้วง​อากาศ​เกิด​เสียง​ดังสนั่น​ ส่าย​ไหว​ไปมา​เหมือน​หมู่​ดาว​ที่​กำลังจะ​ร่วงหล่น​

ทว่า​ที่​น่า​เหลือเชื่อ​คือ​กระแส​ทำลายล้าง​ที่​แผ่​ออกมา​นั่น​กลับ​ไม่ได้​ส่งผลกระทบ​ต่อ​คนอื่นๆ​ ใน​พื้นที่​นี้​ ยิ่ง​ไม่ส่งผล​ต่อ​จิตใจ​ของ​คนอื่นๆ​

ทำให้​ใน​สายตา​ผู้คน​ การปะทะ​ระหว่าง​หมัด​นี้​ของ​หลิน​สวิน​และ​ไท่​ชูเหมือน​เกิดขึ้น​ใน​อีก​มิติ​หนึ่ง​ แม้สามารถ​มองเห็น​ กลับ​ไม่สามารถ​สัมผัส​ถึงอานุภาพ​อัน​ไม่อาจ​คาดเดา​ที่​สั่งสมอยู่​ภายใน​

นี่​แน่นอน​ว่า​ทำให้​ผู้คน​ตกตะลึง​

กลับ​เห็น​หลิน​สวิน​และ​ไท่​ชูเหมือน​ไม่แปลกใจ​ หลังจาก​สอง​หมัด​ปะทะ​ ต่าง​ลงมือ​อีกครั้ง​

ตูม​!

หลิน​สวิน​ซัด​หมัด​ออก​ไป​อีกครั้ง​ ท่ามกลาง​ความ​ไร้​รู​ปร​คล้าย​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ปรากฏ​ ผุด​สายธาร​ยุคสมัย​ กว้างใหญ่​ไพศาล​และ​พลุ่งพล่าน​ สำแดง​นัย​เร้นลับ​ของ​การ​กำเนิด​และ​ดับสิ้น​

ไท่​ชูส่งเสียงหัวเราะ​ยาว​ ประสาน​นิ้ว​วาด​กลางอากาศ​ ประกาย​คม​ด่าน​เคราะห์​สาย​หนึ่ง​พุ่ง​ออกมา​ แทง​สายธาร​ยุคสมัย​ที่​ปั่นป่วน​จน​ทะลวง​ ทั้ง​พุ่งตรง​ใส่ใบหน้า​ของ​หลิน​สวิน​ด้วย​พลัง​ที่​ไม่ลดทอน​

แต่​มาได้​เพียง​ครึ่งทาง​ เมื่อ​หลิน​สวิน​สะบัด​แขน​เสื้อ​ ประกาย​คม​ของ​ด่าน​เคราะห์​พลัน​ระเบิด​แหลก​

ไท่​ชูไม่สนใจ​ ประกอบ​สอง​มือ​ ใน​พื้นที่​สิบ​ฝั่งพัง​ถล่ม​กะทันหัน​ ถึงกับ​ควบ​รวม​ออกมา​เป็น​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​แห่ง​หนึ่ง​ มีสายธาร​ยุคสมัย​ไหล​พุ่ง​ออกมา​!

จากนั้น​พร้อม​ๆ กับ​ฝีเท้า​ของ​ไท่​ชู แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​ควบ​รวม​ปรากฏ​ แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​วิวัฒน์​ทะยาน​ รวม​เข้ากับ​แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ กลายเป็น​มรรคา​เลิศ​ล้ำ​ทั้ง​ชีวิต​เขา​ บดขยี้​เข้าใส่​หลิน​สวิน​

ภาพ​นั้น​ น่า​สะพรึง​เกินไป​โดย​ไม่ต้องสงสัย​!

ยุค​แรก​กำเนิด​นี้​ ต้นกำเนิด​ของ​มัน​มาจาก​พลัง​ต้นกำเนิด​ของ​จตุ​โบราณสถาน​ เช่นนี้​จึงวิวัฒน์​ออกมา​เป็น​พลัง​ระเบียบ​ต้นกำเนิด​สี่อย่าง​ คือ​ ชีวิต​ โชคชะตา​ ศุภโชค​ ห้า​ระเบียบ​แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​

และ​ไท่​ชูได้​ครอบครอง​กฎระเบียบ​ต้นกำเนิด​ของ​สามโบราณสถาน​นี้​แล้ว​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

กับ​เรื่อง​นี้​หลิน​สวิน​ไม่ได้​ประหลาดใจ​ สามารถ​ก้าว​ออกจาก​ปลายทาง​ของ​มรรคา​นิรันดร์​ได้​ ก็​แทบจะ​ได้​ครอบครอง​กฎระเบียบ​ต้นกำเนิด​นี้​ไป​หมด​แล้ว​

เพียงแต่​มรรคา​ของ​แต่ละคน​ไม่เหมือนกัน​ ทำ​ให้การ​หยั่งรู้​และ​ครอบครอง​กฎระเบียบ​ต้นกำเนิด​เหล่านี้​ไม่เหมือนกัน​ก็​เท่านั้น​

ตูม​

ครู่​ต่อมา​บน​ร่าง​หลิน​สวิน​ก็​สะท้อน​ปรากฏการณ์​ประหลาด​ของ​แหล่ง​สถาน​คุ​น​หลุน​ แหล่งน้ำ​ศักดิ์สิทธิ์​ แหล่ง​สถาน​ศุภโชค​ออกมา​ เมื่อ​เขา​ต่อสู้​ ปรากฏการณ์​ประหลาด​เหล่านี้​จะเกิด​การเปลี่ยนแปลง​ประหลาด​และ​น่า​เหลือเชื่อ​ตาม​ไป​ด้วย​

ทั้งสอง​ต่อสู้​ดุเดือด​ ราวกับ​กำลัง​ช่วงชิง​สิทธิ์​ใน​การครอบครอง​ยุค​แรก​กำเนิด​ กฎระเบียบ​ต้นกำเนิด​ที่​ใช้แม้เหมือนกัน​ แต่​มรรคา​ของ​แต่ละคน​กลับ​แตก​ต่างกัน​อย่าง​สิ้นเชิง​

ยาม​ไท่​ชูลงมือ​ ทุกสิ่ง​ล้วน​ปรากฏ​กลิ่นอาย​ทำลายล้าง​ เสื่อมโทรม​ แห้งเหือด​ เหี่ยวเฉา​ พินาศ​ สิ้นสุด​อัน​น่ากลัว​ถึงขีดสุด​… ล้วน​เกี่ยวข้อง​กับ​การทำลายล้าง​และ​ความตาย​

ทำให้​กฎระเบียบ​ต้นกำเนิด​ของ​สามโบราณ​สถานที่​เขา​สำแดง​ออกมา​ ปรากฏ​เป็น​อานุภาพ​แห่ง​การทำลายล้าง​ที่​กด​ข่มใจ​คน​!

ส่วน​พลัง​ของ​หลิน​สวิน​กลับ​มีมรรค​แห่ง​การ​แปรสภาพ​ที่​ไม่สิ้นสุด​ เกิดขึ้น​อย่าง​ต่อเนื่อง​ หมุนเวียน​ไม่สิ้น​ โคจร​ซ้ำไปมา​ สำแดง​แก่น​อัศจรรย์​ท่ามกลาง​ความตาย​และ​การเกิดใหม่​ โคจร​ค​วา​เร้นลับ​ของ​ชีวิต​ท่ามกลาง​ความรุ่งโรจน์​และ​โรย​ร่วง​ ทำให้​สามโบราณ​สถานที่​เขา​สำแดง​ออกมา​ เหมือน​แปรสภาพ​และ​โคจร​เกิด​ใหม่​อยู่​ตลอด​…

นี่​ก็​คือ​ความแตกต่าง​ของ​มรรคา​

เมื่อ​ทั้งสอง​เริ่ม​สัมผัส​และ​หยั่งรู้​แก่นแท้​ของ​ ‘มรรค​’ ไป​แสวงหา​นัย​เร้นลับ​บน​มรรค​แห่ง​ชีวิต​ สิ่งที่​หยั่งถึง​ ความจริง​ล้วน​เป็นความ​เร้นลับ​อัศจรรย์​ที่​ดั้งเดิม​ที่สุด​ใน​ ‘ยุค​แรก​กำเนิด​’ นี้​

และ​เพราะ​สภาวะ​จิต​ของ​แต่ละคน​แตก​ต่างกัน​ มรรคา​แตก​ต่างกัน​ จึงปรากฏ​พลัง​มหา​มรรค​ที่​ต่างกัน​อย่าง​สิ้นเชิง​เช่นนี้​

ตูม​!

การต่อสู้​ดุเดือด​ยิ่งกว่า​เดิม​ เงาร่าง​ของ​หลิน​สวิน​และ​ไท่​ชูแทบจะ​กลายเป็น​ภาพมายา​ มอง​จาก​ไกลๆ​ ก็​เหมือน​มหา​มรรค​ชั้นเลิศ​สอง​ชนิด​กำลัง​ประชัน​กัน​

พลัง​และ​อานุภาพ​ระดับ​นั้น​ ไม่ทัน​ไร​ก็​สามารถ​ทำลายล้าง​อารยธรรม​ยุคสมัย​หนึ่ง​ได้​แล้ว​!

โพธิ​และ​จักจั่น​ทอง​หลบ​ออก​ไป​ไกลๆ​ แล้ว​

ใน​แดน​เทพ​มาก​เร้น​ตอนนี้​ เฉิน​ซีและ​บรรพ​จารย์​วานร​กำลัง​ประชัน​กัน​ หลิน​สวิน​และ​ไท่​ชูปะทะ​กัน​ เฉิน​หลิน​คง​และ​อีกา​ดำ​ก็​กำลัง​ต่อสู้​กัน​ การต่อสู้​ทั้ง​สามคู่​ล้วน​สามารถ​ทำให้​คน​ใจสั่น​ ดุเดือด​เกินไป​แล้ว​

หาก​อยู่​ที่อื่น​คง​นำพา​ภัยพิบัติ​ที่​ไม่อาจ​คาดเดา​มานาน​แล้ว​ จะต้อง​ส่งระลอกคลื่น​แผ่ขยาย​ไป​ทั่วหล้า​ ส่งผลกระทบ​ต่อ​ทุก​ชีวิต​!

และ​แม้จะอยู่​ใน​แดน​เทพ​มาก​เร้น​ พลัง​ทำลายล้าง​ที่​เกิดขึ้น​จาก​การประชัน​เช่นนี้​ก็​ยัง​น่ากลัว​จน​พา​ให้​คน​สิ้นหวัง​

อย่าง​น้อย​โพธิ​ก็​ยอมรับ​กับ​ตัวเอง​ว่า​หาก​เปลี่ยนเป็น​ตน​ บางที​อาจ​ประชัน​กับ​อีกา​ดำ​ได้​ แต่​หาก​เจอ​คน​อย่าง​บรรพ​จารย์​วานร​ ไท่​ชู ย่อม​ยาก​จะรอด​กลับมา​

“สหาย​น้อย​ ระหว่าง​ข้า​กับ​เจ้าหาก​จะตัดสิน​แพ้ชนะ​กัน​ อย่างไร​ก็​ต้อง​ประชัน​กันที่​การครอบครอง​มรรค​แห่ง​ชีวิต​ เจ้าคิด​ว่าการ​โจมตี​นี้​เป็น​อย่างไร​”

ทันใดนั้น​เสียง​ของ​ไท่​ชูดัง​ขึ้น​กลาง​ฟ้าดิน​

พลัน​เห็น​เขา​ยิ้ม​น้อย​ๆ ฝ่ามือ​พลัน​รวบ​คว้า​กะทันหัน​

ตูม​!

กฎระเบียบ​แรก​กำเนิด​ทั่ว​ฟ้าไหล​ร่วง​ กลายเป็น​มือ​ใหญ่​ข้าง​หนึ่ง​ ยาม​ปกคลุม​ลงมา​ภาพ​อัน​แปลกประหลาด​น่ากลัว​พลัน​ปรากฏ​

สาร​กาย​ พลัง​ชีวิต​ และ​จิตวิญญาณ​ส่วนใหญ่​บน​ร่าง​หลิน​สวิน​ถึงกับ​ถูก​คว้า​ไป​อย่าง​หนักหน่วง​!

………………..

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท