ตอนที่ 3233 การกระทำของจักจั่นทอง สถานการณ์เปลี่ยน

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ไม่ทัน​ไร​พลัง​ขับเคลื่อน​บน​ร่าง​หลิน​สวิน​พลัน​อ่อนแอ​ลง​!

ภาพ​นี้​น่า​หวาดหวั่น​ ทำให้​คน​ยาก​จะยอมรับ​

และ​ฉวยโอกาส​นี้​ไท่​ชูก้าว​เข้ามา​อย่าง​เหี้ยมหาญ​ ยื่นมือ​ไป​คว้า​อีกครั้ง​ สาร​กาย​ พลัง​ชีวิต​และ​จิตวิญญาณ​บน​ร่าง​หลิน​สวิน​ถูก​คว้า​ไป​อีก​ส่วน​!

พลัง​ขับเคลื่อน​อ่อนแอ​ลง​ จะส่งผลกระทบ​ต่อ​การ​สำแดง​มรรค​วิถี​ ยิ่งกว่านั้น​ยัง​ถูก​โจมตี​ถึงสอง​ครั้ง​

ก็​เห็น​เงาร่าง​ของ​หลิน​สวิน​ส่าย​ไหว​ พลัง​ขับเคลื่อน​ทั้งหมด​สั่น​ไหว​รุนแรง​

ห่าง​ออก​ไป​โพธิ​หัวใจ​แขวนลอย​

‘สหาย​ยุทธ์​อย่า​ลนลาน​ สหาย​น้อย​หลิน​จะต้อง​มีวิธี​คลี่คลาย​แน่​’ จักจั่น​ทอง​ที่อยู่​ข้างๆ​ สื่อ​จิต​เสียง​เบา​ ดวงตา​เขา​จ้อง​การต่อสู้​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​ไม่กะพริบ​ สีหน้า​นิ่ง​สงบ​ไร้​คลื่น​

ใน​สนามรบ​เห็น​ไท่​ชูโจมตี​เข้ามา​อีกครั้ง​…

ตูม​!

ละออง​แสงอัศจรรย์​คลุมเครือ​ระลอก​หนึ่ง​ปะทุ​ออกจาก​ร่าง​หลิน​สวิน​ และ​พลัง​ขับ​เคลื่อนที่​เขา​สูญเสีย​กลับ​ฟื้นฟู​ใน​ชั่วพริบตา​!

เห็น​เช่นนี้​ไท่​ชูอด​ถอนหายใจ​ไม่ได้​ “พลัง​นิพพาน​สุดยอด​ดัง​คาด​”

“ช่วงชิง​สาร​กาย​ พลัง​ชีวิต​ และ​จิตวิญญาณ​ของ​สิ่งมีชีวิต​ นี่​ก็​คือ​มรรค​แห่ง​ชีวิต​ที่​เจ้าหยั่งรู้​หรือ​”

หลิน​สวิน​ถาม

“ไม่ผิด​ มรรค​นี้​เกี่ยวโยง​ถึงต้นกำเนิด​แห่ง​ชีวิต​ ควร​รู้​ว่า​ไม่ว่า​ชีวิต​ใดๆ​ ล้วน​มีสาร​กาย​ พลัง​ชีวิต​ และ​จิตวิญญาณ​ เช่นนี้​จึงสามารถ​หลอม​เลือดเนื้อ​ สร้าง​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​กับ​กาย​เนื้อ​ หล่อเลี้ยง​จิตวิญญาณ​ ขับเคลื่อน​ทั้ง​ภายใน​และ​ภายนอก​ สาร​กาย​ พลัง​ชีวิต​ และ​จิตวิญญาณ​เป็น​สิ่งจำเป็น​ใน​ต้นกำเนิด​ชีวิต​ หยั่งรู้​ความลึกลับ​ของ​มัน​จึงสามารถ​ครอบครอง​อานุภาพ​ของ​มัน​ ชี้บ่ง​เป็น​ตาย​ ล้วน​สามารถ​เป็นไปตาม​ความต้องการ​ของ​ข้า​”

ไท่​ชูกล่าว​เปิดเผย​

ยาม​สนทนา​การกระทำ​ของ​ทั้งสอง​ไม่ได้​ช้าลง​ ต่อสู้​ดุเดือด​โดยตลอด​

เพียงแต่​ตั้งแต่​ยาม​นี้​ไป​ สิ่งที่​ทั้งสอง​ประชัน​คือ​การ​หยั่งรู้​และ​ครอบครอง​มรรค​แห่ง​ชีวิต​ของ​แต่ละคน​แล้ว​ อย่าง​ไท่​ชู ทุก​การ​โจมตี​ล้วน​ทำลาย​สาร​กาย​ พลัง​ชีวิต​และ​จิตวิญญาณ​ส่วนหนึ่ง​ของ​หลิน​สวิน​อย่าง​ง่ายดาย​ แปลกประหลาด​ลึกลับ​หา​ใด​เทียบ​ ทั้ง​น่ากลัว​เป็น​ที่สุด​

แต่​นัย​เร้นลับ​นิพพาน​ของ​หลิน​สวิน​ ทำให้​สาร​กาย​ พลัง​ชีวิต​ และ​จิตวิญญาณ​ที่​บาดเจ็บ​ของ​เขา​ได้รับ​การ​แปรสภาพ​และ​ซ่อมแซม​อย่าง​ต่อเนื่อง​

ที่​มหัศจรรย์​คือ​เมื่อ​สาร​กาย​ พลัง​ชีวิต​ และ​จิตวิญญาณ​ถูก​ทำลาย​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ ยาม​พวก​มัน​เปล่งประกาย​ออกมา​หลังจาก​นิพพาน​ ก็​เหมือน​ผ่าน​การ​แปรสภาพ​อัน​ละเอียดอ่อน​มหัศจรรย์​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ เปลี่ยนเป็น​แข็งแกร่ง​ขึ้น​กว่า​เดิม​แล้ว​!

ไท่​ชูเอง​ก็​สังเกตเห็น​จุด​นี้​อย่าง​ฉับไว​ อด​ยิ้ม​ขื่น​ไม่ได้​ “เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​กลับ​จะกลายเป็น​ข้า​ช่วย​ให้​เจ้าสมปรารถนา​ คำ​ว่า​เคราะห์​นี้​น่า​หงุดหงิด​จริงๆ​”

สำหรับ​ต้นกำเนิด​แห่ง​เคราะห์​ เขา​เอง​ก็​รู้​อยู่แล้ว​ รู้​ว่าการ​ที่​ตน​ทำลาย​สาร​กาย​ พลัง​ชีวิต​ และ​จิตวิญญาณ​ของ​หลิน​สวิน​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ก็​เหมือน​ด่าน​เคราะห์​รอบ​แล้ว​รอบ​เล่า​ และ​หลิน​สวิน​ที่​ครอบครอง​นัย​เร้นลับ​นิพพาน​ หลังจาก​สลาย​เคราะห์​เกิด​ใหม่​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ เท่ากับ​ได้รับ​การ​เคี่ยว​กรำ​และ​แปรสภาพ​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

แน่นอน​ว่า​นี่​ใช่ว่า​จะไม่สามารถ​ทำลาย​ได้​ เพียงแค่​เขา​สามารถ​ทำให้​หลิน​สวิน​ ‘ตาย​ด้วย​เคราะห์​’ การ​นิพพาน​ทั้งหมด​นั้น​ก็​ไม่ต้อง​พูดถึง​แล้ว​

แต่​เห็นได้ชัด​มากว่า​เขา​ใน​ตอนนี้​ยัง​ไม่สามารถ​จัดการ​หลิน​สวิน​ได้​ใน​การ​โจมตี​เดียว​

ไท่​ชูพลัน​ยิ้ม​ออกมา​ “แต่​การต่อสู้​กับ​เจ้ากลับ​ทำให้​ข้า​หยั่ง​ถึงแก่น​อัศจรรย์​ของ​นิพพาน​บางอย่าง​ ก็​ไม่นับว่า​เสียเปรียบ​”

“ยาม​ตัดสิน​แพ้ชนะ​ได้​ เจ้ากับ​ข้า​ล้วน​เหมือน​ผ่าน​มหา​เคราะห์​ครั้งหนึ่ง​ ล้วน​ได้รับ​การ​แปรสภาพ​ เพียงแต่​มีเพียง​คน​ที่​รอดชีวิต​จึงจะสามารถ​ได้รับ​การ​แปรสภาพ​เช่นนี้​”

หลิน​สิน​พูด​เรียบๆ​

“เช่นนั้น​ก็​ดู​ว่า​ใคร​จะสามารถ​รอดชีวิต​ได้​ก็​พอ​”

ไท่​ชูยิ้ม​

ตูม​!

สถานการณ์​การต่อสู้​ระหว่าง​ทั้งสอง​ยิ่ง​ดุเดือด​กว่า​เดิม​แล้ว​

อันที่จริง​ในเวลานี้​ การปะทะ​ระหว่าง​เฉิน​ซีและ​บรรพ​จารย์​วานร​ก็​ไป​ถึงขั้น​ที่​อันตราย​และ​ดุเดือด​ที่สุด​แล้ว​ ทั้งสอง​ต่าง​บาดเจ็บ​ แต่​เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​เฉิน​ซีเยือกเย็น​กว่า​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

ทว่า​บรรพ​จารย์​วานร​ก็​ใช่ว่า​จะสามารถ​ถูก​โจมตี​พินาศ​อย่าง​สิ้นเชิง​ได้​ใน​ชั่วขณะ​

นี่​ทำให้​เฉิน​ซีอด​ถอนหายใจ​ไม่ได้​ ไม่เจอกัน​นาน​ เจ้าลัทธิ​สูงสุดคน​นี้​ถือว่า​พัฒนา​ขึ้น​มาก​ เทียบ​กับ​ตอนนั้น​เหมือน​เปลี่ยนเป็น​คนละ​คน​

ส่วน​การประชัน​ระหว่าง​อีกา​ดำ​และ​เฉิน​หลิน​คง​ก็​เป็น​เช่นเดียวกัน​

เดิมที​ทั้งสอง​ก็​เป็น​ขั้น​ไร้​ขอบเขต​สัมบูรณ์​ อยู่​ใน​ระดับ​ขั้น​เดียวกัน​ สิ่งที่​ประชัน​กัน​ตอนนี้​คือ​การครอบครอง​และ​ใช้มหา​มรรค​ของ​แต่ละคน​

‘จะเสียเวลา​ต่อไป​ไม่ได้​แล้ว​…’

ใน​การต่อสู้​ สายตา​หลิน​สวิน​มอง​ไอ​แรก​กำเนิด​ขุ่นมัว​เป็นชั้นๆ​ ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​แวบ​หนึ่ง​ จากนั้น​พลัน​เคลื่อน​สายตา​ไป​มอง​ไท่​ชูแล้ว​เอ่ย​ว่า​ “สหาย​ยุทธ์​ ใน​การ​หยั่งรู้​มรรค​แห่ง​ชีวิต​ เจ้าห่าง​จาก​ข้า​มาก​”

ไท่​ชูหรี่ตา​เล็กน้อย​

ตูม​!

อานุภาพ​ของ​หลิน​สวิน​เปลี่ยนไป​โดยพลัน​ บน​ร่าง​ปรากฏ​ท่วงทำนอง​ศักดิ์สิทธิ์​และ​อานุภาพ​ที่​แตกต่าง​จาก​ก่อนหน้านี้​ บน​ร่าง​เขา​มีแดน​เทพ​สรรพ​วิญญาณ​พวยพุ่ง​ ภายใน​วิวัฒน์​โลก​เก้า​ชั้น​อย่าง​โลก​แปร​ปุ​ถุช โลก​ภัยพิบัติ​ โลก​มืดมน​ โลก​ย้อน​กำเนิด​ โลก​เหง้า​เลวร้าย​ โลก​พัน​เคราะห์​ โลก​กำหนด​มรรค​ โลก​แปร​มรรค​ และ​โลก​โลกา​สวรรค์​

ทุก​โลก​ล้วน​ปรากฏ​กฎระเบียบ​บ่อเกิด​แรก​กำเนิด​ที่​เร้นลับ​ไม่อาจ​คาดเดา​ ผสาน​รวม​โคจร​ใน​แดน​เทพ​สรรพ​วิญญาณ​

จากนั้น​แดน​เทพ​มาก​เร้น​ก็​ปรากฏ​ใน​มหา​มรรค​ของ​หลิน​สวิน​ แดน​ลับ​นับไม่ถ้วน​ส่อง​ประกาย​อยู่​ใน​แดน​เทพ​มาก​เร้น​

สุดท้าย​บ่อเกิด​แรก​กำเนิด​แถบ​หนึ่ง​ปรากฏ​ ราวกับ​ม่าน​แสงเป็นชั้นๆ​ ภายใน​แสงสีมากมาย​สะท้อน​ความ​เร้นลับ​เหลือเชื่อ​ที่​ยาก​จะคาดคิด​อย่าง​การ​มอบ​วิญญาณ​ วัฏจักร​เป็นต้น​

กระทั่ง​ภายหลัง​ยิ่ง​มีต้นไม้​โบราณ​ปรากฏ​กลาง​ไอ​แรก​กำเนิด​!

นี่​คือ​เขต​ผนึก​อัศจรรย์​!

และ​ตอนนี้​แดน​เทพ​สรรพ​วิญญาณ​ แดน​เทพ​มาก​เร้น​ เขต​ผนึก​อัศจรรย์​รวม​เข้าด้วยกัน​ วาด​โครงร่าง​ของ​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​ที่​เกือบ​สมบูรณ์​ออกมา​ใน​มหา​มรรค​ของ​หลิน​สวิน​

กลิ่นอาย​ทั้ง​ร่าง​เขา​เปลี่ยนไป​ใน​ชั่ว​ขณะนี้​ เหมือน​กลายเป็น​นาย​เหนือ​หัว​ของ​แดน​เทพ​มาก​เร้น​นี้​ ทุก​การเคลื่อนไหว​ ทุก​ลมหายใจ​เข้าออก​ ล้วน​ชักนำ​ฟ้าดิน​ให้​ขานรับ​ กลายเป็น​ท่วงทำนอง​ที่​มีหลิน​สวิน​เป็น​ศูนย์กลาง​

และ​เวลานี้​ขั้น​ไร้​ขอบเขต​ที่​กระจาย​อยู่​ใน​โลก​เก้า​ชั้น​ของ​แดน​เทพ​สรรพ​วิญญาณ​ ตอนนี้​ต่าง​สั่น​ไป​ทั้งตัว​ สัมผัส​ได้​ว่า​กลาง​ฟ้าดิน​ปรากฏ​พลัง​เจตจำนง​ประหนึ่ง​ไร้​เทียมทาน​ ทำให้​พวกเขา​อด​มองหน้า​กัน​ด้วย​ความตกใจ​ไม่ได้​ จิตใจ​ได้รับ​การ​โจมตี​หนักหน่วง​

หรือ​พูด​อีก​อย่างว่า​ตอนนี้​กลิ่นอาย​ต้นกำเนิด​ของ​ทั้ง​แหล่ง​สถาน​อัศจรรย์​ ล้วน​ถูก​ชักนำ​และ​ได้รับ​ผลกระทบ​จาก​มรรค​วิถี​ของ​หลิน​สวิน​!

ภาพ​นี้​ทำให้​เฉิน​ซีและ​บรรพ​จารย์​วานร​ที่​กำลัง​ต่อสู้​ใจสะท้าน​ สีหน้าแตก​ต่างกัน​ไป​ เฉิน​ซีหัวเราะ​อย่าง​ยินดี​ ท่าทาง​ดู​เข้าใจ​ที่มา​ที่​ไป​

ส่วน​ใบหน้า​ของ​บรรพ​จารย์​วานร​ปรากฏ​แวว​อึมครึม​

สำหรับ​เฉิน​หลิน​คง​และ​อีกา​ดำ​ จิตใจ​ก็​กระทบกระเทือน​เช่นกัน​ ทำให้​การต่อสู้​ระหว่าง​ทั้งสอง​ถูก​รบกวน​ แต่​โชคดี​ที่​ต่าง​ได้รับ​ผลกระทบ​ทั้งคู่​ จึงไม่ถูก​อีก​ฝ่าย​ฉวยโอกาส​ทำร้าย​

ส่วน​โพธิ​และ​จักจั่น​ทอง​ สีหน้า​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​เช่นกัน​

โพธิ​ยินดี​และ​ตื่นเต้น​

จักจั่น​ทอง​กลับ​คล้าย​ขบคิด​

เวลานี้​ไท่​ชูที่อยู่​ใน​สนามรบ​ก็​หวั่นไหว​ในที่สุด​ เอ่ย​ว่า​ “นี่​ก็​คือ​สิ่งที่​เจ้าหยั่งรู้​ใน​สิบ​ปี​นี้​หรือ​”

“ไม่ผิด​”

หลิน​สวิน​กล่าว​พร้อมกับ​ซัด​หมัด​หนึ่ง​ออก​ไป​

หนึ่ง​หมัด​ที่​เรียบง่าย​ไม่ซับซ้อน​ แต่​ไท่​ชูกลับ​รู้สึก​ถึงการ​คุกคาม​อย่าง​ที่​ไม่เคย​มีมาก่อน​ เพราะ​พลัง​ของ​หนึ่ง​หมัด​นี้​คุกคาม​ถึงชีวิต​เขา​โดยตรง​!

ตูม​!

ครู่​ต่อมา​ร่าง​ของ​ไท่​ชูซวนเซ​ถอยหลัง​ ถูก​ซัด​จน​ต้นกำเนิด​ชีวิต​สั่นสะเทือน​ สาร​กาย​ พลัง​ชีวิต​ จิตวิญญาณ​ เลือด​ลม​ทั่ว​ร่างกาย​ถูก​โจมตี​เหมือน​โดน​ทัณฑ์​สวรรค์​ก็​ไม่ปาน​

นี่​คือ​การต่อสู้​ที่​เจาะจงเล่นงาน​ชีวิต​ แข็งแกร่ง​ถึงขั้น​ที่​วิธี​ทั่วไป​ไม่สามารถ​ต้านทาน​ได้​!

ทว่า​ไท่​ชูกลับ​หัวเราะ​เสียงดัง​ “ไม่เลว​ๆ ไม่เสียแรง​ที่​ข้า​รอ​มาไม่รู้​นาน​เท่าไร​ สิ่งที่​รอคอย​ก็​คือ​มรรค​แห่ง​ชีวิต​เช่นนี้​!”

ขณะ​พูด​เขา​พลัน​ยื่นมือ​คว้า​กลางอากาศ​

พลัง​ของ​ฝ่ามือ​นี้​เหมือน​พาด​ผ่าน​กาลเวลา​ไร้​สิ้นสุด​ ทลาย​การ​ขวางกั้น​ของ​ไอ​แรก​กำเนิด​เป็นชั้นๆ​ และ​ก็​เป็น​เวลานี้​ที่​เงาร่าง​งดงาม​อรชร​นั้น​ของ​ซย่า​จื้อ​ค่อยๆ​ เดิน​ออกจาก​เขต​ผนึก​อัศจรรย์​

ทว่า​ยัง​ไม่รอ​นาง​ยืน​มั่น​ ฝ่ามือ​ของ​ไท่​ชูก็​คว้า​เข้ามา​แล้ว​

กับ​เรื่อง​นี้​หลิน​สวิน​เตรียมพร้อม​ไว้​นาน​แล้ว​ หรือ​พูด​อีก​อย่างว่า​ตั้งแต่​การประชัน​ครั้งนี้​ยัง​ไม่เริ่ม​ขึ้น​ เขา​ก็ได้​บอก​เรื่อง​ที่​ซย่า​จื้อ​จะกลับมา​ไป​แล้ว​

การ​เลือก​ลงมือ​ตอนนี้​ของ​ไท่​ชูย่อม​ไม่ทำให้​เขา​ประหลาดใจ​

“ไป​!”

หลิน​สวิน​ความคิด​ขยับ​ไหว​ ม่าน​แสงแรก​กำเนิด​ที่​มหัศจรรย์​คลุมเครือ​สาย​หนึ่ง​ปรากฏ​กลางอากาศ​ตรงหน้า​ซย่า​จื้อ​ ขวางกั้น​อยู่​เบื้องหน้า​ฝ่ามือ​ของ​ไท่​ชู

ตูม​!

เสียง​ปะทะ​ปาน​ฟ้าถล่ม​ดิน​ทลาย​ดังก้อง​ ห้วง​อากาศ​ตรงนั้น​ปั่นป่วน​

ส่วน​เงาร่าง​ของ​หลิน​สวิน​พลัน​พริบไหว​ ทะยาน​ไปหา​ซย่า​จื้อ​ก่อน​แล้ว​ เมื่อ​เทียบ​กับ​การ​โจมตี​ไท่​ชู เขา​สนใจ​ความปลอดภัย​ของ​ซย่า​จื้อ​มากกว่า​

ไท่​ชูจะให้​เขา​สมใจได้​อย่างไร​ เงาร่าง​ทะยาน​ไป​ขัดขวาง​

“เจ้าขวาง​ไม่อยู่​หรอก​”

หลิน​สวิน​ว่า​พลาง​กำลังจะ​ชูหมัด​โจมตี​

ทว่า​ตอนนี้​เอง​เสียง​อบอุ่น​สาย​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​ “สหาย​น้อย​หลิน​โปรด​หยุด​มือ​ ไม่เช่นนั้น​ชีวิต​ของ​อาจารย์​เจ้ายาก​จะรักษา​ไว้​ได้​”

ใน​ใจหลิน​สวิน​สะท้าน​ สีหน้าที่​สุขุม​เยือกเย็น​มาตลอด​เปลี่ยนไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ใน​ชั่ว​ขณะนี้​

ใน​จิต​รับรู้​ของ​เขา​

จักจั่น​ทอง​ซึ่งยืน​ดู​การต่อสู้​ห่าง​ออก​ไป​ เวลานี้​กลับ​วาง​มือบน​ไหล่​ของ​โพธิ​ สีหน้า​ราบเรียบ​ เพียงแต่​สีหน้า​ของ​โพธิ​กลับ​ทั้ง​โกรธ​ทั้ง​ตกใจ​ เต็มไปด้วย​ความ​ยาก​จะเชื่อ​

คล้าย​คิดไม่ถึง​ว่า​จักจั่น​ทอง​จะลงมือ​กับ​เขา​ตอนนี้​!

การเปลี่ยนแปลง​นี้​หลิน​สวิน​ก็​คิดไม่ถึง​เช่นกัน​ ทำให้​เขา​ตั้งตัว​ไม่ทัน​ แม้แต่​สภาวะ​จิต​ยัง​ปรากฏ​ความปั่นป่วน​ไป​ชั่วพริบตา​

ก็​เป็น​ตอนนี้​เอง​ ไท่​ชูฉวยโอกาส​ฟัน​ฝ่ามือ​กลางอากาศ​

ตูม​!

สาร​กาย​ พลัง​ชีวิต​และ​จิตวิญญาณ​ทั้ง​ร่าง​หลิน​สวิน​ถูก​ทำ​ลายอย่าง​สิ้นเชิง​ ร่างกาย​ของ​เขา​เหมือน​สูญเสีย​พลัง​ชีวิต​ไป​ทันที​ เหี่ยวเฉา​แตกสลาย​ ปรากฏ​รอยแตก​นับไม่ถ้วน​

“หลิน​สวิน​!”

โพธิ​ทั้ง​โกรธ​ทั้ง​ตกใจ​ พยายาม​ดิ้นรน​ แต่​ฝ่ามือ​ของ​จักจั่น​ทอง​ที่​กด​บน​ไหล่เขา​กลับ​มั่นคง​จน​น่ากลัว​ กักขัง​กำราบ​มรรค​วิถี​ขั้น​ไร้​ขอบเขต​สัมบูรณ์​ของ​เขา​ไว้​ อย่า​ว่าแต่​ดิ้นรน​ แม้แต่​นิ้ว​มือหนึ่ง​ยัง​ไม่สามารถ​ขยับ​ได้​

และ​เวลานี้​เฉิน​ซีที่​กำลัง​ต่อสู้​กับ​บรรพ​จารย์​วานร​นัยน์ตา​หด​รัด​ลง​เช่นกัน​

เขา​ไม่ได้​ลนลาน​ แต่​พลัน​สูด​หายใจ​ลึก​ครา​หนึ่ง​ เงาร่าง​พุ่ง​ไป​ข้างหน้า​ พริบตา​นั้น​ก็​ซัด​บรรพ​จารย์​วานร​กระเด็น​ออก​ไป​ทั้งอย่างนั้น​

ฉวยโอกาส​นี้​เฉิน​ซีเคลื่อนย้าย​ผ่าน​ห้วง​อากาศ​ โจมตี​ใส่ไท่​ชู

“สหาย​ยุทธ์​ นี่​คือ​การต่อสู้​มหา​มรรค​ระหว่าง​พวกเขา​สอง​คน​ โปรด​หยุด​เท้า​ด้วย​”

ทันใดนั้น​จักจั่น​ทอง​มาขวาง​อยู่​เบื้องหน้า​เฉิน​ซี สีหน้า​สงบนิ่ง​ และ​ใน​มือ​เขา​ยังคง​คุมตัว​โพธิ​อยู่​

ตูม​!

เฉิน​ซีฟัน​กระบี่​ออกมา​

จักจั่น​ทอง​แขน​เสื้อ​โบกสะบัด​ ปรากฏ​เงาแสงศักดิ์สิทธิ์​อัศจรรย์​ สกัดกั้น​กระบี่​นี้​อย่าง​เงียบๆ​

เฉิน​ซีนัยน์ตา​หด​รัด​เล็กน้อย​

และ​ไม่ไกล​นัก​บรรพ​จารย์​วานร​เคลื่อนย้าย​ผ่าน​ห้วง​อากาศ​เข้ามา​โจมตี​อีกครั้ง​ ทำให้​เฉิน​ซีตก​สู่สถานการณ์​ถูก​ศัตรู​โจมตี​ทั้ง​หน้า​และ​หลัง​

ตูม​!

บรรพ​จารย์​วานร​โจมตี​เข้ามา​ เฉิน​ซีไม่อาจ​ไม่รับศึก​ เพียงแต่​สีหน้า​กลับ​อึมครึม​ลง​ไม่น้อย​ “จักจั่น​ทอง​ เจ้าเป็น​ใคร​กัน​แน่​”

แม้แต่​เขา​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​ใน​ฝั่งของ​พวกเขา​ จักจั่น​ทอง​กลับ​กลายเป็น​ ‘คน​ทรยศ​’

อีก​ทั้ง​จังหวะ​การ​ลงมือ​ของ​จักจั่น​ทอง​เรียก​ได้​ว่า​เหมาะเจาะ​ เป็น​ชั่ว​ขณะที่​หลิน​สวิน​จะรับ​ตัว​ซย่า​จื้อ​พอดี​

ชีวิต​ของ​โพธิ​ถูก​คุกคาม​ ทำให้​หลิน​สวิน​ตั้งตัว​ไม่ทัน​ไป​ชั่วขณะ​ เปิดโอกาส​ให้​ไท่​ชูมอบ​การ​โจมตี​ที่​รุนแรง​ถึงชีวิต​ให้​หลิน​สวิน​!

และ​การเปลี่ยนแปลง​เช่นนี้​ทำให้​สถานการณ์​ของ​การประชัน​หมาก​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ หลิน​สวิน​ไม่เพียง​ตกอยู่ในอันตราย​ สถานการณ์​ของ​โพธิ​อาจารย์​ของ​เขา​และ​ซย่า​จื้อ​ก็​น่าเป็นห่วง​

ดังนั้น​ภายใต้​ผลกระทบ​ทั้งหมด​ ทำให้​สถานการณ์​ของ​เฉิน​ซีและ​เฉิน​หลิน​คง​เปลี่ยนเป็น​ย่ำแย่​เช่นกัน​

นี่​ก็​คือ​การขยับ​ครั้ง​เดียว​ส่งผล​ทั้ง​กระดาน​

และ​จักจั่น​ทอง​ กลับ​กลายเป็น​ตัวแปร​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ใน​การประชัน​หมาก​ครั้งนี้​!

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท