บทที่ 1153 ตอนพิเศษ (48/2)
บทที่ 1153 ตอนพิเศษ (48/2)
พี่สะใภ้หยางมองดูเด็กน้อยในอ้อมแขนแล้วกล่าว “เจ้าเด็กคนนี้โชคดีจริง ๆ ได้พบอาที่ดีเช่นนี้ โตขึ้นเจ้าจะต้องกตัญญูรู้คุณกับท่านอารู้หรือไม่?”
หลิวจิ่วจู๋อาศัยอยู่ที่บ้านของหยางชวน ในห้องเดียวกันกับหยางชิงซือ
วันรุ่งขึ้น หยางชิงซือรอตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายก็ยังไร้วี่แววของจงซู่เกิน
นางหยิบตะกร้าขึ้นมาแล้วเอ่ยกับหลิวจิ่วจู๋ “พวกเราไปเก็บสมุนไพรกันเถอะ!”
นางไม่อยากรออยู่ที่บ้านแล้ว
หลิวจิ่วจู๋เข้าใจความทุกข์ของสหายจึงกล่าว “ได้ ข้ากำลังขาดสมุนไพรพอดี”
พี่สาวน้องสาวทั้งสองอยู่บนภูเขาเป็นเวลาสองชั่วยาม เฝ้าชมพระอาทิตย์ตกดิน
หลิวจิ่วจู๋หันกลับมามองหยางชิงซือที่นั่งยอง ๆ เหม่อลอยอยู่อย่างนั้น
“ชิงซือ ไม่เช่นนั้น พวกเราลงเขาเถอะ?”
หยางชิงซือยิ้มน้อย ๆ “เอาสิ!”
เวลาเหลือไม่มาก ควรได้คำตอบแล้ว
นางหยางชิงซือแต่ไรมาไม่เคยเป็นคนดื้อดึง ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร นางล้วนยอมรับได้
ทันทีที่ลงมาถึงตีนเขา ชาวบ้านเห็นหยางชิงซือแล้วต่างก็มีสีหน้าแปลก ๆ
“ชิงซือ เจ้าอย่าโมโหไปเลยนะ!”
“ป้าอวี๋ มีเรื่องอะไรหรือ?” หลิวจิ่วจู๋เอ่ยถาม
“โถ่เอ๊ย จงซู่เกินเจ้าเด็กคนนั้นไม่รู้ว่าเป็นอะไรไป เขาพาแม่นางสวยหยาดเยิ้มราวบุปผาดุจหยกเนื้อดีผู้หนึ่งกลับมา บอกว่าต้องการแต่งงานกับนาง”
หยางชิงซือสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
หลิวจิ่วจู๋พยุงนางไว้ได้ทันเวลา
“ชิงซือ ตอนนี้จงซู่เกินเป็นเจ้าหน้าที่ทางการแล้ว ทุกเดือนหาเงินได้เดือนละสิบตำลึง! บุรุษก็เช่นนี้ มีเงินแล้วก็เปลี่ยนไป เจ้าอย่าได้เก็บไปใส่ใจ อย่างไรใต้หล้าก็ไม่ได้มีบุรุษเพียงผู้เดียว”
“จู๋จือ พวกเราไปกันเถอะ” หยางชิงซือเดินจากไปด้วยสีหน้าเย็นชา
คนในหมู่บ้านเห็นนางเดินจากไปแล้ว คำพูดเหน็บแนมประชดประชันทุกรูปแบบที่บ่งบอกว่ายินดีปรีดาในความทุกข์ของผู้อื่นจึงดังขึ้นอีกครั้ง
“สมแล้ว! นังเด็กผู้นี้เย่อหยิ่งทะนงตนเกินไป ข้าว่านะ เจ้าเด็กสกุลซ่งผู้นั้นไม่เลวเลย ผู้อื่นเขาเป็นพ่อค้าหาบเร่ หาเงินได้มากมาย! อีกทั้งพวกเขายังเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ญาติกันแต่งงานกันมีอะไรไม่ดี? นางยังก่อเรื่องวุ่นวายถึงเพียงนั้น ไม่ไว้หน้าสกุลซ่งแม้แต่น้อย จงซู่เกินเจ้าเด็กคนนั้นแต่ก่อนโง่ปานใด ตามติดนางเป็นลูกกะจ๊อกทั้งวี่ทั้งวัน นางก็หาได้เกรงใจไม่ สั่งการผู้อื่นเขาไปทั่ว…”
“ชิงซือ อย่าไปสนใจพวกเขา” หลิวจิ่วจู๋รู้จักหญิงปากยืดปากยาวพวกนั้นดี อย่างไรคนที่เผชิญความทุกข์จากสตรีเหล่านั้นมาก่อนหน้านี้ก็คือนาง “ข้าจะไปถามพี่ซู่เกินว่าเกิดอะไรขึ้น จากความเข้าใจของเราที่มีต่อพี่ซู่เกิน ถึงแม้เขาจะมีแผนการอื่นก็ไม่มีทางจงใจปล่อยให้เจ้าต้องสงสัยอย่างแน่นอน หากเขาไม่อยากแต่งงานก็สามารถบอกเจ้าตรง ๆ ไม่จำเป็นต้องตัดขาดไม่เป็นแม้แต่สหายกันเช่นนี้”
“ไม่ต้องถาม ไม่มีอะไรให้ถามแล้ว” หยางชิงซือเอ่ย
ขณะเดินผ่านประตูบ้านจงซู่เกิน นางได้ยินเสียงหัวเราะเฮฮาดังมาจากข้างใน หยางชิงซือพลันเม้มริมฝีปากแน่น
“ซู่เกิน ในที่สุดเจ้าก็ทำให้แม่หมดห่วงเสียที” ป้าจงกล่าว “แม่นางซู่ซู่ผู้นี้เป็นคนที่ใดหรือ?”
“ข้า…”
หยางชิงซือแค่นเสียงหึแล้วสาวเท้าฉับ ๆ จากไปทันที
“พี่ชิงซือ พี่ชิงซือ…” เด็กน้อยในหมู่บ้านวิ่งเข้ามาหา
หยางชิงซือนั่งคุกเข่าลงแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “น้องชายมีอะไรหรือ?”
“พี่ชิงซือ นี่คือของที่พี่ซู่เกินให้ข้าเอามาให้ท่าน” น้องชายยื่นดอกไม้ในมือให้หยางชิงซือ
นั่นเป็นดอกไม้ป่าที่หยางชิงซือชอบ
หยางชิงซือมองดูดอกไม้แล้วขมวดคิ้ว
“มีอะไรหรือ?” หลิวจิ่วจู๋เอ่ยถาม “ดอกไม้นี้ไม่ใช่เขามักจะส่งให้เจ้าหรือ? ตอนนี้เขาไม่ได้จะแต่งกับผู้อื่นแล้วหรือไร เหตุใดยังต้องให้ดอกไม้เจ้าอีก?”
“นี่เป็นรหัสลับตั้งแต่เมื่อก่อนของเรา” หยางชิงซือเอ่ย “แม่เขาไม่ชอบข้า ทุกครั้งที่เห็นข้าก็จะดุด่าอยู่ร่ำไป บางครั้งข้าอยากนั่งเกวียนเขา หากแม่เขาอยู่ก็จะคิดเงินข้า ซู่เกินจึงคิดหาวิธี หากครั้งนั้นแม่ของเขาจะไปตลาด เขาก็จะให้เด็ก ๆ ในหมู่บ้านนำดอกไม้ที่ข้าชอบมาให้ หมายความว่าให้ข้ารออีกหน่อย”
“เช่นนั้นเขาหมายถึงให้เจ้ารอหรือ?”
“คงจะหมายความเช่นนี้”
“ข้าก็ไม่รู้ว่านี่มันเรื่องอะไร” หยางชิงซือเอ่ย “เพียงแต่เห็นดอกไม้นี้แล้ว ข้ายังยินดีที่จะให้โอกาสเขาสักครั้ง”
“บางทีเขาอาจมีแผนอะไรบางอย่าง เช่นนั้นพวกเราคอยดูเถิด”
การรอคอยของหยางชิงซือครั้งนี้ใช้เวลาเกือบครึ่งเดือน
จงซู่เกินทางนั้นคึกคักเป็นอย่างมาก พวกเขาถึงขั้นหารือเรื่องการแต่งงาน มารดาของจงซู่เกินชอบซู่ซู่ผู้นั้นเป็นพิเศษ พานางไปเยี่ยมญาติทุกหนทุกแห่ง อดใจไม่ไหวที่จะให้ทุกคนได้เห็นลูกสะใภ้หน้าตาสะสวยที่ลูกชายของนางพากลับมา
หยางชิงซือใกล้หมดความอดทนในการรอคอยแล้ว
“หากจงซู่เกินให้ข้ารอเขาแต่งงาน ดูสิว่าข้าจะทำลายชีวิตเขาอย่างไร” หยางชิงซือขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเอ่ย
“เกิดเรื่องแล้ว” หยางชวนเดินถือจอบกลับมา “สกุลจงทางนั้นเกิดเรื่องแล้ว!”
“เกิดอะไรขึ้น?” พี่สะใภ้หยางถาม
“ซู่ซู่ผู้นั้น… ถูกคนจับได้ว่าเป็นบุรุษ”
“หา?!”
พี่สะใภ้หยางกับหยางชิงซือล้วนมีสีหน้าราวกับเห็นผี
พี่สะใภ้กับน้องสามีมองหน้ากันไปมา
พี่สะใภ้หยางอ้าปากค้าง “เกิดอะไรขึ้น? ป้าจงพาแม่นางชื่อซู่ซู่ผู้นั้นไปทุกหนทุกแห่ง ทุกคนในหมู่บ้านล้วนเคยเห็นนาง นั่นเป็นสตรีที่งดงามราวบุปผา ดุจหยกเนื้อดี ผิวพรรณของนางยังขาวผุดผ่องเนียนละเอียด…”
พี่สะใภ้หยางหุบปากลง
นางอุทานไปสองสามคำแล้ว แต่กลับลืมดูอารมณ์ของน้องสามี
หยางชิงซือเอ่ย “ข้าก็เคยเห็นเช่นกัน ตอนนั้นรู้สึกว่าหากจงซู่เกินจะแต่งงานกับนางจริง ๆ ก็เป็นเรื่องธรรมดา อย่างไรเสียหน้าตาก็งดงามเพียงนั้น ไหนจะเอวบางร่างน้อยนั่นอีก จักเป็นบุรุษไปได้อย่างไร?”
“เมื่อครู่มีคนเห็นเขายืนปลดเบา…” หยางชวนรู้สึกกระอักกระอ่วนแต่ก็ยังเล่าเหตุการณ์ตามความเป็นจริง “ตอนนี้สกุลจงกำลังวุ่นวายอลหม่าน ป้าจงนั่งร้องไห้อยู่กับพื้น ขอให้จงซู่เกินกับแม่นางปลอมผู้นั้นเลิกรากัน จงซู่เกินไม่พอใจ เขายังคงยืนกรานที่จะแต่งงานกับแม่นางปลอมผู้นั้น”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” พี่สะใภ้หยางกล่าว “ชิงซือเอ๋ย ซู่เกินชอบบุรุษหรอกหรือ?”
ดูเหมือนนางจะเข้าใจแผนการของจงซู่เกินแล้ว
วิธีนี้อันตรายเกินไปหน่อยหรือไม่?
เพื่อที่จะจัดการกับมารดาของเขา จงซู่เกินถึงกับกินยาแรงแล้วจริง ๆ ทว่าด้วยวิธีนี้ชื่อเสียงของเขาแทบจะป่นปี้ไม่มีชิ้นดี อีกอย่าง เขาแน่ใจหรือว่านางจะไม่รังเกียจ? ชื่อเสียงเขาเป็นเช่นนี้ หากนางแต่งให้เขา ผู้อื่นจะไม่หัวเราะเยาะเอาหรือ?
“เขาไม่ได้ชอบบุรุษ” หยางชิงซือเอ่ย “ข้าคิดว่าเขาทำเช่นนี้ก็เพราะข้า”
พี่สะใภ้หยางและหยางชวนไม่ใช่คนโง่ จากสิ่งที่หยางชิงซือบอก พวกเขาก็พอคาดเดาได้แล้วว่าจงซู่เกินมีเจตนาดี
“น้องหญิง ต่อเจ้าแล้ว จงซู่เกินไม่มีที่ติ เพียงแต่… เรื่องเช่นนี้ไม่น่าดูจริง ๆ เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องเท็จ แต่ในสายตาผู้อื่นมันจะเป็นเรื่องจริง”
“ข้าเข้าใจ” หยางชิงซือกล่าว “เขาจ่ายให้ข้ามามากพอแล้ว ข้าย่อมไม่ยอมให้เขาเสียเปรียบ ขอเพียงเขาจัดการเรื่องนี้ได้ดี ข้าก็จะแต่งให้เขา”
หยางชวนถอนหายใจ “ข้าไม่เข้าใจพวกเจ้าจริง ๆ”