ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – บทที่ 850 หลิงเอ๋อร์กลับคืนสู่ภูเขา (2)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

บทที่ 850 หลิงเอ๋อร์กลับคืนสู่ภูเขา (2)

ภูเขาลูกนี้ไม่ได้แปลกหรือสูงมาก มันเหมือนกับป่องเล็กๆ ยื่นออกมาจากที่ราบ หากจะอธิบายให้ถูกต้อง ก็จะเป็นการเหมาะสมกว่าที่จะเรียกมันว่า “เนินว่านโซ่ว”

ในยามนั้น สายลมพัดมาปะทะใบหน้าของนาง และหลิงเอ๋อร์ก็รู้สึกว่ามันยากที่นางจะก้าวออกไปข้างหน้าได้ นางถูกจักรวาลที่นี่ปฏิเสธอย่าง ‘นุ่มนวล’

แน่นอนว่า นางไม่ได้รู้สึกประหลาดใจเลย ผู้ฝึกบำเพ็ญที่ต้องการมาที่ภูเขาว่านโซ่วเพื่อรับโชคบางอย่าง พวกเขาทั้งหมดก็ล้วนได้รับการปฏิบัติเช่นนี้เหมือนกัน

เมื่อมองขึ้นไปบนยอดเขา ก็จะสามารถมองเห็นมุมหนึ่งของชายคาของอารามเต๋าในเทือกเขาเขียวขจีนั้น

ที่นี่ไม่มีแสงเซียน หรือสัญลักษณ์มงคลใดๆ และไม่มี “การตกแต่งระดับสูง” เหมือนหมู่เมฆมงคล

หลิงเอ๋อร์สามารถมองเห็นสัตว์วิญญาณที่กำลังเล่นอยู่บนภูเขา นกกระเรียนกำลังจิกปีกอยู่ริมสระน้ำ และวิหคนับร้อยที่กำลังบินวนอยู่อยู่เหนือป่าเขา

นางสัมผัสได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนว่า เต๋าในโลกนี้ดูเหมือนจะซ่อนตัวอยู่ในสถานที่แห่งนี้ และที่ด้านหน้าของนางนั้น เป็นเพียงสถานที่ที่มนุษย์อาศัยอยู่เท่านั้น

ไฉนข้าถึงรู้สึกว่ามันเหมือนกับยอดเขาหยกน้อย…

หลิงเอ๋อร์สูดลมหายใจเข้าลึก และเหลือบมองไปที่หินสัมผัสดำมืด นางรู้ว่า มีสัมผัสเซียนรับรู้มากมายที่ตรึงอยู่กับร่างนาง และอดจะคิดไม่ได้ว่า ศิษย์พี่น่าจะกำลังเฝ้าดูการปฏิบัติงานของนางอยู่…

หลิงเอ๋อร์โน้มกายโค้งคำนับออกไปด้านหน้า และร้องตะโกนออกมาด้วยเสียงดังชัดเจน

“ข้าเป็นศิษย์รุ่นเยาว์แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน ข้ามาที่นี่ในวันนี้เพื่อแสดงความเคารพต่อท่านบรรพชนแห่งเซียนพิภพ และส่งจดหมายจากท่านปรมาจารย์แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินของข้าเจ้าค่ะ!”

ไม่มีการตอบสนองใดๆ

หลิงเอ๋อร์ขมวดคิ้วเล็กน้อยและร้องตะโกนออกไปอีกสองครั้ง

ในขณะนี้ มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านข้าง เป็นนักพรตเต๋าร่างท้วมเล็กน้อยที่บินจากป่าเหมยด้านล่างขึ้นไปในอากาศ

เขากล่าวยิ้มๆ ว่า “อย่ากังวลไปเลย สหายเต๋า มีค่ายกลใหญ่อยู่ที่นี่ และเสียงก็ไม่สามารถส่งผ่านเข้าไปได้ นอกจากนี้ แม้เสียงจะถูกส่งเข้าไปได้ ทว่าแล้วเจ้าจะพบข้าได้อย่างไร…

เฮ้อ!”

นักพรตเต๋าร่างท้วมตัวสั่นขณะมองดูธารแสงที่ค่อยๆ รวมตัวกันต่อหน้าหลิงเอ๋อร์ช้าๆ

จากนั้นลำแสงเซียนเหล่านี้ก็ก่อตัวขึ้นเป็นประตูทางเข้าที่ดี และมีโลกอีกใบอยู่ข้างในประตูนั้น

อักขระเต๋าที่สงบ ลึกซึ้งและยาวต่อเนื่องได้ลอยออกมาพร้อมกับเสียงชราว่า “แขกผู้ทรงเกียรติได้มาถึงแล้ว โปรดเข้ามาเร็วๆ เถิด”

หลิงเอ๋อร์กะพริบตา และยันต์หยกในมือของนางก็เปล่งแสงระยิบระยับเล็กน้อย และข้อความข้างในก็ค่อยๆ จางหายไปช้า แล้วกลายเป็นตัวอักษรสั้นๆ

หลิงเอ๋อร์รีบเหลือบมองเนื้อหาของจดหมาย และพบว่ามันถูกเขียนขึ้นโดยผู้ที่เป็นปรมาจารย์แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินจริงๆ และลงนามโดยปรมาจารย์เต๋าน้อยเสวียนตู

ในขณะนั้นเสียงของหลี่ฉางโซ่วได้แทรกเข้าไปในหูของหลิงเอ๋อร์

เขากล่าวว่า

“นี่เป็นเพียงการมาเยือนครั้งแรกของเจ้าเท่านั้น จงอย่าได้ถามคำถามกับเซียนใหญ่ผู้นี้มากเกินไป

เพียงบอกเขาว่า เจ้าได้รับการนำทางจากปรมาจารย์แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินผู้หนึ่งให้มาที่นี่เพื่อสอบถามเรื่องวิถีการฝึกบำเพ็ญเต๋าเต๋าของเซียนพิภพ”

ศิษย์พี่!

หลิงเอ๋อร์ตื่นตกใจยิ่ง และทันใดนั้นนางก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ แล้วบินเข้าไปในข่ายอาคมที่อยู่ตรงหน้านาง

ภาพทิวทัศน์รอบๆ ภูเขาว่านโซ่วไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย

เห็นได้ชัดว่ามีค่ายกลใหญ่เฉียนคุนที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ราวกับว่ามีจักรวาลอีกแห่งได้ถูกสร้างขึ้นมา

ทว่า…

เดิมทีหลี่ฉางโซวคิดว่าหลิงเอ๋อย่อมจะสามารถอยู่ในอารามอู่จวงได้อย่างน้อยสักหนึ่งหรือสองชั่วยาม

ทว่า หลิงเอ๋อร์ก็ลอยออกมาในเวลาเพียงชั่วครู่เท่านั้น แล้วนางก็ขี่เมฆบินไปในทางทิศตะวันออก

ในเวลานี้ หลิงเอ๋อร์ได้จงใจถือยันต์หยกที่มีอักขระเต๋าของเซียนใหญ่เจิ้นหยวนเอาไว้ในมือ

แน่นอนว่า บรรดาผู้ที่ให้ความสนใจนางย่อมรู้ดีว่า นางเพิ่งส่งจดหมายในนามของปรมาจารย์ผู้หนึ่ง และได้รับคำตอบจากเซียนใหญ่เจิ้นหยวนแล้ว

นั่นได้ปรับปรุงส้นเท้า[1]ของตัวเขาเองให้ดีขึ้นจนแทบมองไม่เห็น และป้องกันไม่ให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย

ความจริงแล้ว หลิงเอ๋อร์มั่นคงเกินไป…

ผู้ใดจะกล้าไปยั่วยุเทพธิดาที่สามารถเข้าไปในอารามอู่จวงได้เล่า?

โดยเฉพาะเมื่อเซียนใหญ่เจิ้นหยวนกล่าวถ้อยคำว่า ‘แขกผู้ทรงเกียรติมาถึงแล้ว’

เมื่อออกจากเทือกเขาว่านโซ่วโดยไม่มีอันตรายใดๆ แล้ว ทันใดนั้นหลิงเอ๋อร์ก็ใช้หลีกลมเร้นกายและมาถึงเมืองใกล้เคียงซึ่งนางเคยพักอยู่ที่นี่มาก่อนหน้านี้อย่างรวดเร็ว

ทันทีที่นางเข้ามาทางประตูทิศตะวันตก นางก็ออกจากประตูทิศตะวันออกทันที

ครั้นเมื่อนางออกจากเมือง นางก็ได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ของนาง กลายเป็นหญิงชราในขอบเขตเซียนเทียนแล้ว

จากนั้นนางก็มุ่งหน้าตรงไปยังดินแดนเทวะทักษิณโดยตั้งใจอ้อมจากดินแดนเทวะทักษิณกลับไปยังดินแดนเทวะบูรพา

ในส่วนของการต่อต้านการสอดแนม นางก็ยังสามารถจัดการได้ดีมากอีกด้วยเช่นกัน

แน่นอนว่า หากนางอยากทำให้ศิษย์พี่ของนางสับสนมึนงง นางก็ยังต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยเพื่อให้มีความรู้และประสบการณ์ถึงระดับที่จะสามารถทำได้…

เห็นได้ชัดว่า หลิงเอ๋อร์ได้วางแผนเส้นทางกลับบ้านที่สมบูรณ์มานานแล้ว และในเวลานี้ หลังจากที่นางทำภารกิจสำเร็จเสร็จสิ้น ดวงตาคู่งามของนางก็เปล่งประกายเจิดจ้าไปด้วยแสงสีเขียว

นางผ่านโลกมนุษย์ ผ่านบึงใหญ่ และข้ามพรมแดนของดินแดนเทวะ แล้วมุ่งตรงไปที่ประตูภูเขาของสำนักตู้เซียน!

เพื่อไม่ให้เปิดเผยร่องรอยของนาง หลิงเอ๋อร์จึงรักษาร่องรอยของนางไว้ถึงระดับสิบสอง[2]โดยได้เปลี่ยนการแต่งหน้าของนางในทุกๆ หมื่นลี้

แน่นอนว่า นางย่อมรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเนื้อหาในการประเมินของศิษย์พี่ของนาง ดังนั้นนางจึงทุ่มเทพยายามทำอย่างสุดกำลังและไม่กล้าย่อหย่อนเลย

สองสามวันต่อมา ที่ด้านหน้าประตูภูเขาของสำนักตู้เซียน

หลิงเอ๋อร์ยับยั้งมือน้อยๆ ที่สั่นเนื่องจากความตื่นเต้นของนางให้มั่นคง และขี่เมฆสีขาวไป

นางฟื้นคืนรูปลักษณ์เดิมของนางกลับมาขณะที่ส่งเสียงร้องเพลงออกมาเบาๆ พร้อมกับมุ่งหน้าตรงไปยังประตูภูเขา

เมื่อมาถึงประตูภูเขา หลิงเอ๋อร์ก็หยิบป้ายหยกของเจ้าสำนักและถุงสมบัติสองใบที่เต็มไปด้วยน้ำโอสถทิพย์และสมุนไพรออกมา

………………………………………………………………..

[1] ร่องรอย ภูมิหลัง ตัวตน

[2] ปกปิดร่องรอยอย่างระมัดระวังในระดับสูง ซึ่งระดับสิบสอง มีนัยถึงระดับสูง

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท