เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 1005 แม้แต่คนอย่างเจ้า?

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 1005 แม้แต่คนอย่างเจ้า?

บทที่ 1005 แม้แต่คนอย่างเจ้า?

“โอ้?” หญิงภายในรถม้ารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมราวกับว่าไม่มีสิ่งใดในโลกภายนอกที่น่าสนใจสำหรับนาง

อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายเข้ามาช่วยนาง ดังนั้นนางจึงไม่ได้จากไปในทันที

คนขับชราฟันหลอรับใช้นางมาหลายปีแล้ว และสามารถอ่านความตั้งใจของนางได้ เขาเอนตัวพิงประตูรถอย่างเกียจคร้านราวกับกำลังชมการแสดงอยู่

ขุนนางหนุ่มมีท่าทีดูถูกเมื่อได้ยินสิ่งที่ซูอันพูด เขาก็ยังคงประสานมือและเล่นตามน้ำ “ยกโทษให้ข้าที่สายตาไม่ดี ด้วยความเคารพ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร?”

ซูอันกล่าวว่า “ข้าไม่ใช่คนพิเศษ ข้าเป็นเพียงขุนนางระดับล่างที่ฝ่าบาทแต่งตั้งเป็นการส่วนพระองค์ มีตำแหน่งชื่อบุรุษหงส์และเป็นราชเลขาของรัชทายาท ซึ่งประจำการอยู่ในวังตะวันออกด้วย แต่นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ในเมื่อเราทั้งสองต่างเป็นขุนนาง ทำไมเราไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปล่ะ?”

เขาพูดถึงเรื่องนี้เพราะต้องการรู้ว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ หรือคนเหล่านี้จงใจมุ่งเป้ามาที่เขา หากมันเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ บุคคลเหล่านี้คงจะไม่ติดใจเรื่องนี้อีกต่อไป

บุรุษหงส์และราชเลขาของรัชทายาทไม่ถือว่าเป็นตำแหน่งที่โดดเด่น อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งหนึ่งได้รับพระราชทานจากจักรพรรดิ ในขณะที่อีกตำแหน่งหนึ่งทำงานใกล้ชิดกับจักรพรรดิในอนาคต คนธรรมดาย่อมจะไม่สร้างปัญหากับเขาโดยไม่จำเป็น

“หืม?” เสียงร้องด้วยความประหลาดใจมาจากภายในรถม้า รอยแยกปรากฏขึ้นที่ผ้าม่าน เผยให้เห็นนิ้วมือเรียวยาว แค่เพียงปลายนิ้วก็ง่ายที่จะจินตนาการว่าเจ้าของนิ้วสวยงามเพียงใด

คนขับชราฟันหลอตกใจ ฮูหยินไม่เคยแสดงความสนใจในสิ่งใดเป็นพิเศษ วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับนาง?

ขุนนางหนุ่มหัวเราะคิกคัก “ราชเลขาของรัชทายาท? บุรุษหงส์? เจ้าเป็นคนที่ค่อนข้างสำคัญใช่ไหม? ข้ากลัวแล้ว!”

ทหารม้าคนอื่นก็คำรามด้วยเสียงหัวเราะเช่นกัน

“เจ้าเป็นแค่ขุนนางระดับล่าง เจ้ากล้าคุยโม้เรื่องตำแหน่งได้อย่างไร?”

“ข้าเกรงว่าเขาเป็นแค่คนบ้านนอก หากก้อนหินตกลงมาจากท้องฟ้าและกระแทกหัวใครบางคนในเมืองหลวง แปดในสิบส่วนของคนผู้นั้นคงจะอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าเขา”

“ข้าก็ว่าอย่างนั้น พวกเราหลายคนล้วนมีตำแหน่งสูงกว่าราชเลขาของรัชทายาท”

แม้ว่าราชเลขาจะรับใช้รัชทายาทอย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นขุนนางระดับสูง พวกทหารม้ากำลังพูดความจริง

อย่างไรก็ตาม สถานะทางสังคมของเขาไม่สามารถกำหนดได้จากตำแหน่งเพียงอย่างเดียวเนื่องจากเขาทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัชทายาท คนสนิทเช่นนี้มักจะกลายเป็นขุนนางระดับสูงในอนาคต คล้ายคลึงกับเมื่อพูดถึงเลขานุการของเจ้านายในโลกก่อนหน้า

แม้ว่าเลขานุการจะไม่ถูกมองว่ามีสถานะทางสังคมสูง แต่ก็ไม่มีใครกล้าล่วงเกินเลขาของเจ้านาย

ซูอันสังเกตคนที่เผชิญหน้ากับเขาอย่างใจเย็น คนเหล่านี้กำลังมุ่งเป้ามาที่เขาจริง ๆ และคนกลุ่มนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายรัชทายาทอย่างแน่นอน เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น อย่างน้อยอีกฝ่ายต้องแสดงมารยาทกับเขาบ้าง

ดังนั้นนี่จะต้องเป็นคนที่มาจากฝ่ายของราชันลมปราณ ไม่น่าแปลกใจที่สถานการณ์นี้กับม้าที่แตกตื่นดูเหมือนจะแปลกประหลาด ทุกสิ่งล้วนจัดฉากขึ้นโดยเจตนา

ขุนนางหนุ่มโบกมือให้ทุกคนให้เงียบลง จากนั้นเขาก็พูดกับซูอันว่า “เจ้ายืนอยู่ตรงไหนตอนที่ฝ่าบาทออกว่าราชการในท้องพระโรงล่ะ?”

เมื่ออยู่ในท้องพระโรง เฉพาะผู้มียศสูงเท่านั้นที่มีคุณสมบัติที่จะยืนใกล้กับจักรพรรดิ ขุนนางระดับล่างต้องยืนเรียงแถวอยู่ด้านนอกเท่านั้น

ขุนนางระดับต่ำสุดจะอยู่ใกล้ประตูพระราชวัง พวกเขาจะมองไม่เห็นสิ่งใดนอกเหนือจากหลังคาท้องพระโรงอันยิ่งใหญ่

นี่คือเหตุผลที่ตำแหน่งยืนในขณะที่จักรพรรดิออกว่าราชการสามารถใช้เป็นตัววัดอันดับและความโปรดปรานได้

“ข้าไม่จำเป็นต้องเข้าเฝ้าในท้องพระโรง” ซูอันตอบอย่างเฉยเมย

ขุนนางหนุ่มหัวเราะดังลั่น “ที่แท้ชายผู้นี้ไม่มีสิทธิ์เข้าเฝ้าในช่วงที่ฝ่าบาทออกว่าราชการ!”

รอยยิ้มของเขาหายไปในทันที “เจ้ายังกล้าที่จะอ้างว่าเป็นขุนนางเหมือนข้าเหรอ? คนอย่างเจ้า?”

เหล่าทหารม้าหัวเราะเยาะเย้ยไปพร้อมกับเจ้านาย

“พวกเจ้านี่มันเสียงดังเกินไปแล้ว!” ซูอันเรียกนกกระจิบร้อยเสียงออกมา คลื่นเสียงที่มองไม่เห็นกระจายออกไป ทหารม้ารู้สึกเจ็บที่ศีรษะ หลายคนหมดแรงพูดไปชั่วขณะ

บางคนที่มีการบ่มเพาะต่ำถึงกับตกจากหลังม้าลงไปกองกับพื้น

ซูอันไม่ได้ทุ่มเทกำลังทั้งหมดในการโจมตีครั้งนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นทหารม้าเหล่านี้อาจกลายเป็นคนปัญญาอ่อนทันที

ในฐานะนักรบคีย์บอร์ดชั้นยอด เขารู้ดีว่าการเปิดเผยไพ่เด็ดทั้งหมดตั้งแต่เริ่มแรกไม่ใช่การตัดสินใจที่ดี

ฝูงชนโดยรอบหันหลังหนีเมื่อเห็นทั้งสองฝ่ายเริ่มการสู้รบ ถนนทั้งสายว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว

ขุนนางหนุ่มหรี่ตาลง “ข้าสงสัยว่าทำไมเจ้าถึงมั่นใจนัก ปรากฏว่าเจ้ามีการบ่มเพาะอยู่บ้าง น่าเสียดายที่เจ้าอยู่ระดับหกเท่านั้น กล้าดีอย่างไรถึงประพฤติตัวในลักษณะนี้ในเมืองหลวงที่มีแต่ผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่ง?”

ความแข็งแกร่งที่ชายผู้นี้เพิ่งแสดงออกมานั้นตรงกับสิ่งที่เขารู้ ซูอันมีระดับการบ่มเพาะประมาณระดับห้าหรือหกเท่านั้น แม้ว่าความแข็งแกร่งในการต่อสู้ที่แท้จริงจะสูงกว่าเมื่อเทียบเท่ากับจุดสูงสุดของระดับที่หกหรือบางทีอาจเพียงแค่แตะระดับที่เจ็ด

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าซูอันจะอยู่ในระดับเจ็ด เขายังคงเป็นมดในสายตาของขุนนางหนุ่มคนนี้

ซูอันมองเขาด้วยรอยยิ้มที่คลุมเครือ “ด้วยความเคารพ ถ้าอย่างนั้น เจ้าช่วยแจ้งตำแหน่งของเจ้าให้ข้ารู้ได้ไหม? อย่างน้อยที่สุดข้าจะได้รู้ว่าเจ้าเป็นใครก่อนตาย”

ขุนนางหนุ่มเชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ จมูกชี้ขึ้นไปบนฟ้า

เขาพยักเพยิด ทหารม้าที่อยู่ด้านข้างเข้าใจสิ่งนี้และพูดว่า “จงลืมตากว้าง ๆ และดูให้ดี นี่คือทายาทของราชันลมปราณ เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาล่วงเกินท่านผู้นี้? รู้ไหมว่าการล่วงละเมิดขุนนางระดับสูงนั้นร้ายแรงแค่ไหน?”

ซูอันตกตะลึง เขาเพิ่งทำให้ราชันลมปราณขุ่นเคือง ในเมื่อผู้ใหญ่ไม่สามารถลงมือได้จึงใช้บุตรชายมาจัดการแทน

เห็นได้ชัดว่ากับดักนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเอาชีวิตเขา ม้าศึกถูกฆ่า และเขาได้ต่อสู้กับขุนนางระดับสูง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ล่อแหลมมาก แม้ว่าต่อไปจะมีการพิจารณาความผิด แต่คนเหล่านี้ต่างมีเหตุผลเพียงพอที่จะปกป้องการกระทำของพวกพ้อง

จากความลื่นไหลของเหตุการณ์โดยปราศจากสิ่งติดขัด นี่อาจไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทำสิ่งนี้

เสียงเร่งด่วนดังมาจากด้านข้าง “นายน้อย พี่เขยของข้าเพิ่งมาถึงเมืองหลวงและไม่รู้กฎอะไรมากมาย! เขาไม่ได้เจตนาทำให้ท่านขุ่นเคือง เห็นแก่ตระกูลฉินและฉู่ ได้โปรดปล่อยเขาไป!”

ชายหนุ่มที่มีหน้าตาสวยกว่าผู้หญิงค่อย ๆโผล่ออกมา ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉู่โหยวเจา

เดิมทีฉู่โหยวเจาและมู่หรงชิงเหอมาเพื่อชมความโกลาหลเท่านั้น

เมื่อฉู่โหยวเจาเห็นว่าเป็นซูอัน นางจึงรีบเข้ามาพยายามบรรเทาสถานการณ์

“นายน้อยฉู่ ท่านหญิงมู่หรง” จ้าวจื่อ ทายาทของราชันลมปราณพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการทักทาย สองคนนี้เป็นส่วนหนึ่งของแกนหลักของฝ่ายราชันลมปราณ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าปฏิบัติด้วยการดูถูก “ถ้าข้าเข้าใจถูกต้อง นายน้อยซูนี่จะต้องเป็นลูกเขยที่น่าอับอายของตระกูลฉู่ที่ชื่อซูอัน ย้อนกลับไปเมื่อคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่เลือกอันธพาลข้างถนนมาเป็นสามี นายน้อยหลายคนในเมืองหลวงต่างก็ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง แต่ข้าคิดกลับกันเพราะจากวิสัยทัศน์ที่ไม่ธรรมดาของคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ สามีที่มีฐานะต่ำต้อยของนางอาจมีบางอย่างที่พิเศษ

“แต่ตอนนี้เมื่อข้าได้พบเขาแล้ว ข้าบอกได้แค่ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ดูเหมือนจะไม่มีสายตาในการมองผู้ชายเลย”

ฉู่โหยวเจาค่อนข้างไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม นางต้องการให้บุคคลนี้ปล่อยซูอันไป ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระงับความโกรธ “พี่เขยของข้าเป็นผู้มาใหม่ ถ้าเขาทำให้นายน้อยขุ่นเคืองไม่ว่าในทางใด ข้าขออภัยแทนเขาด้วย”

“โหยวเจา กลับมานี่” ซูอันพูดอย่างเฉยเมย “ทำไมข้าต้องให้เจ้าขอโทษแทน? เขาน่ะควรจะเป็นฝ่ายขอโทษข้า!”

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท