สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 1156 ตอนพิเศษ (50)

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 1156 ตอนพิเศษ (50)

บทที่ 1156 ตอนพิเศษ (50)

ซ่งซื่อมองไปทางหยางฟู่

หยางฟู่แสร้งทำเป็นลังเล

“ซู่เกิน ไม่ใช่ว่าอาอยากสร้างความลำบากใจให้เจ้า เรื่องเจ้าเราพอได้ยินมาแล้ว หากเราแต่งลูกสาวให้เจ้า ผู้อื่นจะมองข้าอย่างไร? คงกล่าวว่าเพราะสินสอดทองหมั้นของเจ้า เราจึงส่งลูกสาวไปตกนรก” หยางฟู่กล่าว

“ด้วยสินสอดทองหมั้นหกสิบตำลึงนี้สามารถแต่งแม่นางในเมืองได้แล้ว พวกท่านยังไม่พอใจอีกหรือ?” ป้าจงกล่าวอย่างไม่พอใจ “เช่นนั้นพวกท่านต้องการอะไร?”

จงซู่เกินคิดว่าหยางฟู่กังวลเรื่องชื่อเสียงที่เขาชมชอบบุรุษจึงลังเลว่าต้องอธิบายให้ชัดเจนหรือไม่ หากความจริงเปิดเผยแล้วมารดาเขารู้เหตุผล การแต่งงานนี้เกรงว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ทว่าหากเขาไม่กล่าวให้ชัดเจนแล้วหยางฟู่ไม่ยินดีมอบชิงซือให้แต่งด้วย เช่นนั้นความพยายามทั้งหมดของเขาคงสูญเปล่าแล้ว

เขาเหลือบมองป้าจง ขณะที่กำลังจะเปิดปากก็ได้ยินหยางฟู่เอ่ย “แปดสิบตำลึง”

จงซู่เกิน “…”

ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็อ้าปากค้าง

ป้าจงกับป้าหลี่เอ่ยปากขึ้นพร้อมกัน “แปดสิบตำลึง?!”

ป้าหลี่เบ้ปาก “เหตุใดแม่นางผู้หนึ่งถึงมีค่ามากเพียงนี้?”

ป้าจงเอ่ยเหน็บแนม “หยางชิงซือเป็นคุณหนูสกุลผู้มั่งคั่งหรือไร มีค่าตัวมากเพียงเชียว? พวกท่านกล้าพูดหรือว่าไม่ได้ขายลูกสาว ข้าว่านี่มันชั่งกิโลหยางชิงซือขายชัด ๆ”

จงซู่เกินขมวดคิ้ว

แปดสิบตำลึง…

เขายืมเงินห้าสิบตำลึงมาจากลู่เจ๋อจึงรวบรวมได้ถึงหกสิบตำลึง หากงานแต่งนี้สำเร็จผล เขาจักต้องหาวิธีรวบรวมเงินมาจัดงานแต่งงาน

แม้ว่าเพื่อหยางชิงซือ เขาจะยินดีสละทุกสิ่งที่มี อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนนี้ก็เกินความสามารถของเขา

แววตาของซ่งซื่อเปี่ยมไปด้วยความโลภ

แปดสิบตำลึงเงิน! หากจงซู่เกินให้ ภายหน้าชีวิตย่อมง่ายขึ้น ประการแรก หนี้ที่ติดค้างอยู่จะต้องชดใช้ได้หมดอย่างแน่นอน หลังจากนั้นยังจะเหลือเงินก้อนใหญ่ให้ได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย

“ให้เงินมากขึ้นก็หมายความว่าจริงใจมากขึ้นหรือ?” ป้าจงกล่าว “ท่านทำให้คนลำบากเกินไปแล้ว ในหมู่บ้าน เงินสองตำลึงก็เพียงพอที่จะแต่งภรรยา หากบ้านใดมีเงินขึ้นมาอีกหน่อย ห้าตำลึงก็นับว่าดีโข พวกท่านกลับดีนัก พอเอ่ยปากก็ขอเงินแปดสิบตำลึงในคราวเดียว ข้าว่าพวกท่านอยากได้เงินจนบ้าไปแล้วต่างหาก”

“หากอยากจะแต่งกับลูกสาวเรา เช่นนั้นก็ต้องจ่ายเท่านี้” หยางฟู่กล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา

ชาวบ้านต่างก็เอ่ยถึงเรื่องนี้

ซ่งซื่ออยู่ในหมู่บ้านไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนนัก หยางฟู่มักจะทำให้คนรู้สึกว่าเขาเป็นคนซื่อตรงฟังเพียงคำสั่งของภรรยา ไม่มีความเห็นเป็นของตนเอง ทว่าในยามนี้ ท่าทีของหยางฟู่แน่วแน่ยิ่ง ทำให้คนเข้าใจว่าแปดสิบตำลึงเงินนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

“ข้าเห็นด้วยกับคำพูดท่านพ่อ” หยางชิงซือเบียดตัวผ่านประตูเข้ามา

ทุกคนเห็นนางมาจึงรีบแหวกทางให้เข้าไป

อย่างไรเสียเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว หากตัวละครหลักไม่ปรากฏตัว บทร้องครึ่งหลังย่อมไม่มีทางเกิดขึ้นได้

หยางฟู่เห็นหยางชิงซือ จู่ ๆ ก็รู้สึกจิตใจกระสับกระส่ายขึ้นมา

ลูกสาวผู้นี้ดุร้ายเพียงใด พวกเขาเพิ่งได้เข้าใจถ่องแท้ไม่นานมานี้

ทว่าเมื่อนึกถึงคำพูดของนาง เขาก็ยืดอกตั้งตรง

ไม่เลว ในยามนี้ยังรู้จักนึกถึงบิดามารดาตนเอง นับว่าไม่ได้เลี้ยงเสียข้าวสุกเสียทีเดียว

“นังเด็กเหม็น…” ป้าจงเห็นหยางชิงซือก็คิดจะด่า ทว่าเมื่อเห็นสายตาของจงซู่เกินก็หุบปากลงทันที

นางช่างปากไวจริง ๆ

ตอนนี้กำลังสู่ขอนังเด็กเหม็นโฉ่ผู้นี้ ย่อมไม่อาจทำให้นางโกรธ ไม่เช่นนั้นหากนางไม่ยอมแต่ง ลูกชายโง่ ๆ ผู้นั้นคงแต่งบุรุษผู้หนึ่งกลับมาจริง ๆ

“ท่านพ่อ ท่านต้องการสินสอดแปดสิบตำลึงเงินจริง ๆ หรือ?”

“ข้าทำเช่นนี้เพื่อเจ้า” หยางฟู่เริ่มใจไม่เป็นสุข

หยางชิงซือเอ่ย “เช่นนั้นท่านตั้งใจจะให้สินเดิมแก่ข้ามากน้อยเพียงใด?”

“อะไรนะ?” หยางฟู่ตื่นตกใจ “สินเดิมอะไร?”

“พวกท่านต้องการสินสอดแปดสิบตำลึงเงินจะไม่ให้สินเดิมข้าได้อย่างไร?” หยางชิงซือกล่าว “หรือว่าพวกท่านเรียกสินสอดสูงเพียงนี้เพราะต้องการขายลูกสาวจริง ๆ?”

หยางฟู่ขมวดคิ้ว “เจ้าเด็กคนนี้ สถานการณ์ที่บ้านเป็นอย่างไรเจ้ายังไม่รู้หรือ? พวกเราจะมีเงินมาตระเตรียมสินเดิมให้เจ้าได้อย่างไรกัน?”

“ในเมื่อไม่มีเงินให้เป็นสินเดิม เช่นนั้นมีสิทธิ์อะไรเรียกสินสอดสูงเพียงนั้น? ตามกฎของหมู่บ้าน ให้สินสอดพวกท่านห้าตำลึงเงิน ไม่มากไปกว่านั้น” หยางชิงซือเอ่ย “สถานการณ์ของสกุลจงเป็นอย่างไร พวกท่านรู้ดีแก่ใจ หากเขาต้องให้สินสอดแปดสิบตำลึงจริง ๆ นั่นไม่เท่ากับข้าแต่งไปแล้วยังจะเป็นหนี้มหาศาลอีกหรือ? พวกท่านไม่อยากให้พวกเรามีชีวิตที่สงบสุขใช่หรือไม่?”

“นังหนูเหม็นโฉ่ งานแต่งของพวกเจ้า ข้ากับพ่อเจ้าเป็นคนตัดสินใจ รีบร้อนแต่งเข้าสกุลจงเจ้าจะได้ประโยชน์อะไร?” ซ่งซื่อเริ่มไม่พอใจขึ้นมา

“หากข้าฟังพวกท่านจริง ๆ และให้เจ้าคนโง่ผู้นี้นำแปดสิบตำลึงเงินมาเป็นสินสอด เช่นนั้นข้าจึงจะไม่มีผลดีให้กินแล้วจริง ๆ ข้าแต่งให้เขา แปลว่าต้องใช้ชีวิตร่วมกัน เขาเป็นหนี้ก็คือข้าเป็นหนี้ กล่าวตามตรง พวกท่านทำเช่นนี้คือคิดจะรีดเค้นพวกเรา” หยางชิงซือกล่าว “ข้าจะแต่งกับจงซู่เกิน ทว่าสินสอดเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้น พวกท่านก็รู้นิสัยของข้า หากยังดึงดันไม่เลิกราเช่นนี้ต่อ ข้าก็จะหนีตามเขาไป แม้กระทั่งสินสอดห้าตำลึงนี้ก็จะเก็บไว้เอง”

“เจ้ายังมียางอายอยู่หรือไม่?” ซ่งซื่อยื่นมือไปบิดแขนนาง

จงซู่เกินเข้าไปยืนบังหยางชิงซือแล้วกล่าวอย่างไม่พอใจ “ชิงซือหมายความอย่างไรข้าก็หมายความเช่นนั้น หากพวกท่านไม่เห็นด้วย ข้าจะพานางไปแล้ว”

“แน่นอนว่าเจ้าต้องดีใจ พาลูกสาวข้าไปโดยไม่ให้สินสอดย่อมดีที่สุด” ซ่งซื่อกล่าว “ห้าตำลึงเงินไม่ได้”

“เช่นนั้นก็ไม่ให้แล้ว ข้าก็ไม่คิดจะให้อยู่พอดี” สิ้นคำ หยางชิงซือหันไปเอ่ยกับจงซู่เกิน “เจ้าไม่ต้องสนใจพวกเขา การแต่งงานเป็นเรื่องของข้า ข้าพอใจก็พอแล้ว”

จงซู่เกินเริ่มลังเล

หากไม่ให้สินสอด นั่นคือไม่มีแม่สื่อไม่มีการหมั้นหมาย เขาไม่สนใจได้ ทว่าผู้อื่นย่อมพูดว่านางหนีตามบุรุษไป ไม่ดีต่อชื่อเสียงของนาง

“เจ้าเด็กเหม็นโฉ่คนนี้…”

“ห้าตำลึงเงิน สรุปว่าจะเอาหรือไม่เอา?”

หยางฟู่มองหยางชิงซือด้วยความโกรธ “ไม่นานมานี้เขาพึ่งคบหากับบุรุษผู้หนึ่ง เจ้ายังคิดจะแต่งให้เขาจริง ๆ หรือ? เจ้าไม่กลัวหรือว่าหลังจากแต่งกับเขาไปแล้ว เขาจะยังติดพันอยู่กับชายผู้นั้น แล้วเจ้าจะทำได้เพียงอยู่เป็นม่าย?”

“เรื่องนี้ไม่ต้องให้พวกท่านกังวล ข้ายินดีจะแต่ง ไม่ว่าเขาจะเป็นคนหรือผีข้าก็ยอมรับได้ หากข้าไม่ยินดีแต่ง แม้นพวกท่านจะหาเทพเซียนมาให้ ข้าก็ไม่ยินยอมพร้อมใจเข้าบ้านใหม่เป็นแน่”

“เอาละ พวกท่านก็อย่าได้ทำให้หนุ่มสาวสองคนนี้ต้องลำบากใจเลย” ป้าหลี่กล่าว “ข้าว่าซู่เกินก็เป็นผู้ชายที่ดี เขากับชิงซือเข้ากันได้ดียิ่ง เดิมทีหนุ่มสาวทั้งสองก็มีความสัมพันธ์ต่อกัน พวกท่านยืนกรานจะสร้างปัญหาให้ได้ ผลที่ได้คือหมู่นี้หมู่บ้านตกอยู่ในความวุ่นวายโกลาหล พวกท่านรีบจัดการเรื่องงานแต่งนี้ให้สำเร็จเถิด พวกเราจะได้ดื่มสุรามงคลร่วมกันเสียที”

“สิบตำลึง!” หยางฟู่กัดฟันกล่าว “สินสอดสิบตำลึง ภายหน้าข้าจะไม่ยุ่งเรื่องของพวกเจ้าอีก”

“แค่สิบตำลึงก็จะยอมขายข้าแล้วหรือ?”

“ขายไม่ขายอะไร?” ซ่งซื่อเอ่ย “เจ้าแต่งงานก็จะเป็นสะใภ้บ้านผู้อื่นแล้ว แน่นอนว่าพวกเราไม่ไปยุ่งเรื่องของเจ้า ภายหน้าหากเจ้าถูกรังแก ข้ากับพ่อเจ้ายังจะออกหน้าให้อีกต่างหาก”

หยางชิงซือแค่นเสียงเย็นในลำคอ

ออกหน้าให้นางอะไรกัน เกรงว่าเพียงแค่คิดจะหาประโยชน์จากนางด้วยข้ออ้างต่าง ๆ กระมัง?

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท