ตอนที่ 1490 ถ้ำเสือถ้ำจระเข้
ไป๋ชิงเหยียนมองท่าป๋าเย่าด้วยแววตานิ่งขรึมอย่างไม่เห็นด้วยกับการกระทำเมื่อครู่ของเขา นางอยากให้ท่าป๋าเย่าเข้าใจว่าหลังจากนี้ห้ามใช้วิธีที่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตเช่นนี้อีกเด็ดขาด
“พอแล้ว!”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้น ท่าป๋าเย่าจึงวางดาบในมือลง
ดาบหนักหล่นจากมือซึ่งเปื้อนไปด้วยเลือดของฮองเฮาลงสู่พื้น ฮองเฮาตงอี๋ทรุดกายลงบนพื้น นางกำนัลรีบเข้าไปช่วยประคองร่างของฮองเฮาไว้ มือทั้งสองข้างและนิ้วมือทั้งห้าถูกดาบบาดลึกจนเห็นถึงกระดูกด้านใน เห็นได้ชัดว่าท่าป๋าเย่าแทงดาบใส่ร่างของตัวเองอย่างแรงเหมือนคนไม่กลัวตายจริงๆ
เมื่อเห็นฮองเฮาตกใจจนไม่ได้สตินางกำนัลจึงรีบฉีกเสื้อของตัวเองมาพันแผลให้ฮองเฮา จากนั้นหันไปก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียน
“จักรพรรดินีต้าโจวได้โปรดตามหมอหลวงมารักษาแผลให้ฮองเฮาด้วยเถิดเพคะ หากฮองเฮาเสียโลหิตมากเกินไปจนสิ้นพระชนม์อยู่ที่นี่จะไม่เป็นผลดีต่อต้าโจวนะเพคะ”
ไป๋ชิงเหยียนไม่สนใจเสียงร้องไห้อ้อนวอนของนางกำนัล นางมองไปทางฮองเฮาตงอี๋นิ่ง
ฮองเฮาตงอี๋ชูมือเปื้อนเลือดทั้งสองข้างขึ้นพลางมองไปทางเด็กชายที่สวมหน้ากากตรงหน้า ใจของนางเจ็บปวดราวกับถูกมีดกรีด เด็กคนนี้กล้าแทงดาบใส่ตัวเองอย่างไม่กลัวตายเช่นนี้แสดงว่าเขาเคยลองทำเช่นนี้ตอนอยู่ต้าโจวมาแล้ว เขาบาดเจ็บ…บุตรชายของนางก็คงบาดเจ็บยิ่งกว่า หากเขาตายบุตรชายของนางจะต้องตายแทนเขา!
ไม่รู้ว่าบุตรชายของนางอยู่อย่างทุกข์ทรมานเพียงใดในต้าโจว บุตรชายของนางถูกเลี้ยงดูมาอย่างสมเกียรติ นางเลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่โดยที่ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ทว่า ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะมีชีวิตเช่นไรในต้าโจว ไม่รู้ว่าเขาจะอยู่อย่างทุกข์ทรมานมากเพียงใด
ฮองเฮาตงอี๋เกือบเปล่งเสียงร้องไห้ออกมา นางเจ็บปวดใจมาก ทว่า นางทำสิ่งใดไม่ได้ทั้งสิ้น
นางเสียใจมาก เหตุใดตอนนั้นนางต้องส่งบุตรชายของตัวเองไปยังถ้ำเสือถ้ำจระเข้อย่างต้าโจวด้วย
“เช่นนั้น…ฮองเฮาตงอี๋คงยอมร่วมมือกับต้าโจวแล้วใช่หรือไม่ หากเจ้ายอมร่วมดีกับต้าโจวดีๆ อีกสามปีเราจะให้พวกเจ้าสองแม่ลูกได้พบหน้ากัน! ตงอี๋อาจดำรงอยู่ต่อไปโดยการเป็นรัฐบรรณาการของต้าโจว ทว่า หากเจ้าไม่ยอมร่วมมือ ข้าก็จะส่งพวกเจ้าสองแม่ลูกไปพบหน้ากันเหมือนกัน ทว่า ตอนนั้นคงต้องพบกันในปรโลกแล้ว!”
คำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนทำให้ร่างของฮองเฮาสั่นสะท้าน นางหันไปมองไป๋ชิงเหยียนด้วยใบหน้าซีดเผือด
“ตอนนี้ข้าไม่มีหลักประกันอันใดเลย ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้อย่างไร”
“เพราะเจ้าไม่มีสิ่งใดเลยเจ้าจึงทำได้เพียงเชื่อใจเราอย่างไรเล่า!”
ไป๋ชิงเหยียนยกยิ้มมุมปาก
“ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนน่าจะใกล้เดินทางมาถึงแล้ว เขาอาจอยากทำสัญญาบางอย่างกับต้าโจวและตงอี๋ หากเจ้าคิดหลอกใช้ต้าเยี่ยนมาต่อกรกับต้าโจวก็จงทำให้แน่ใจว่าต้าโจวจะไม่รับรู้เรื่องนี้ หากเรารับรู้เรื่องนี้…เจ้าคงรู้ดีว่าบุตรชายของเจ้าจะมีจุดจบเช่นไร!”
ฮองเฮาตงอี๋รู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนคือคนที่สามารถสังหารทหารยอมจำนนนับแสนของซีเหลียงได้โดยไม่รู้สึกอันใด หญิงสาวไม่มีทางใจอ่อนกับบุตรชายของนางแน่นอน ฮองเฮากล่าวขึ้นด้วยร่างที่สั่นเทา
“ข้ารู้แล้ว…”
“ขอเตือนฮองเฮาอีกสักเรื่อง ในราชสำนักตงอี๋ไม่ได้มีแค่ซื่อหล่างของกรมการคลังเท่านั้นที่เป็นคนของต้าโจว…”
ไป๋ชิงเหยียนยิ้มออกมาน้อยๆ
“ข้างกายของฮองเฮาและขุนนางตำแหน่งสูงในราชสำนักตงอี๋ก็มีคนของเราอยู่ เมื่อองค์ชายเจ็ดขึ้นครองราชย์สำเร็จ คนเหล่านั้นจะกลายเป็นขุนนางคนสำคัญของตงอี๋ ดังนั้นเมื่อฮองเฮาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นไทเฮาก็อย่าคิดทำสิ่งใดที่ไม่ควรทำอีก มิเช่นนั้นเจ้าอาจพลัดพราดจากบุตรชายของเจ้าตลอดไป”
ฮองเฮาตงอี๋เบิกตาโพลง ไป๋ชิงเหยียนต้องการทำให้ราชสำนักตงอี๋อยู่ในการควบคุมของต้าโจวอย่างนั้นหรือ!
“ฮองเฮาช่วยบอกขุนนางของเจ้าด้วยว่าให้เตรียมพิธีบรมราชาภิเษกให้พร้อม เมื่อจักรพรรดิตงอี๋ขึ้นครองราชย์เสร็จ เราจะเดินทางกลับต้าโจวแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบจึงหันไปกล่าวกับนางกำนัลของฮองเฮา
“พาฮองเฮาของเจ้าไปทำแผลให้เรียบร้อย พวกเจ้าอธิบายกับหมอหลวงของพวกเจ้าเรื่องบาดแผลเอง!”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบจึงเดินออกไปทันที ไป๋จิ่นจื้อรีบเดินตามหลังพี่สาวของตัวเองไป
“เพคะ!”
นางกำนัลคลานเข่าหันไปน้อมส่งไป๋ชิงเหยียนอย่างนอบน้อม เมื่อประตูตำหนักถูกเปิดออกนางจึงหันไปเตรียมประคองร่างของฮองเฮา ทว่า “องค์ชายเจ็ด” ซึ่งสวมหน้ากากผู้นั้นประคองร่างของฮองเฮาลุกขึ้นแล้ว
เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนและไป๋จิ่นจื้อซึ่งสวมชุดเกราะเดินออกมาเสิ่นชิงจู๋และกองทัพไป๋ที่คุ้มกันอยู่นอกตำหนักจึงเดินตามหลังคนทั้งสองลงบันไดไปทันที ขุนนางตงอี๋ที่คุกเข่าอยู่นอกตำหนักจึงพากันเดินเข้าไปในตำหนัก จากนั้นทำความเคารพฮองเฮาและองค์ชายเจ็ด
ไป๋ชิงเหยียนกำมือที่ไขว้อยู่ทางด้านหลังนิ่ง นางทิ้งให้ท่าป๋าเย่าเผชิญหน้ากับขุนนางตงอี๋ตามลำพังไม่รู้ว่าเด็กนั่นจะหวาดกลัวหรือไม่
แม้ท่าป๋าเย่าจะเป็นเพียงเด็ก ทว่า เขาคือจักรพรรดิองค์น้อยของแคว้นเว่ย ไป๋ชิงเหยียนหวังว่าอีกสามปีท่าป๋าเย่าจะหายไป เหลือเพียงไป๋อวี๋เซิงเท่านั้น
ฮองเฮาตงอี๋หันไปมอง “บุตรชาย” ที่กำลังประคองร่างนางอยู่แวบหนึ่ง นางได้แต่กัดฟันกรอด เท่าสิ่งใดมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
“ฮองเฮา พระหัตถ์ของพระองค์…”
หัวหน้ากองกำลังรักษาพระองค์มองไปทางฮองเฮาด้วยความตกใจ
ฮองเฮากล่าวออกมาเสียงเรียบ
“มิเป็นอันใด เมื่อครู่ข้าสาบานด้วยเลือดกับจักรพรรดินีต้าโจวว่าต่อไปนี้ตงอี๋จะสวามิภักดิ์ต่อต้าโจวตลอดไป นี่…คือทางรอดเดียวของตงอี๋แล้ว! มิเช่นนั้นหากผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนมาถึง หากพวกเราไม่ได้รับความคุ้มครองจากต้าโจว ต้าโจวกับต้าเยี่ยนต้องทำลายล้างตงอี๋และแบ่งผลประโยชน์กันเองแน่นอน!”
เหล่าขุนนางตงอี๋ได้ยินเช่นนี้จึงได้แต่ก้มหน้านิ่ง
เป็นดั่งที่ฮองเฮากล่าว ตงอี๋ไม่เหลือทางเลือกอื่นแล้วนอกจากสวามิภักดิ์ต่อต้าโจว
“แคว้นจะขาดจักรพรรดิไม่ได้ องค์ชายเจ็ดได้โปรดเสด็จขึ้นครองราชย์ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
หัวหน้ากองกำลังรักษาพระองค์กล่าวขึ้น
“องค์ชายเจ็ดได้โปรดเสด็จขึ้นครองราชย์ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
แม้ฮองเฮาจะไม่อยากทำเพียงใด ทว่า นางได้แต่หันไปกล่าวกับองค์ชายเจ็ด
“ลูกแม่ เสด็จพ่อทรงยกบัลลังก์ให้เจ้าก่อนพระองค์จะสิ้นพระชนม์ เจ้าคือโอรสที่เกิดจากฮองเฮา เจ้าสมควรได้ขึ้นครองบัลลังก์แห่งนี้ ตอนนี้เจ้ากลับมาแล้ว เจ้าควรได้ขึ้นครองบัลลังก์เสียที”
ท่าป๋าเย่าเห็นเหล่าขุนนางคุกเข่าก้มคำนับแนบพื้น ได้ยินฮองเฮากล่าวด้วยภาษาตงอี๋ เขาจึงโค้งกายคำนับขุนนางตงอี๋ทุกคน จากนั้นกล่าวขึ้นด้วยเสียงที่แหบพร่า
“ขอบใจทุกท่านที่ไม่ทอดทิ้งเราและสนับสนุนเราขึ้นครองบัลลังก์แห่งนี้ เราอายุยังน้อย ต้องฝากทุกคนช่วยกันดูแลแคว้นตงอี๋ของพวกเราด้วย”
มารยาท ภาษา ไม่มีที่ติเลยสักนิด
ขอบตาของเหล่าขุนนางร้อนผ่าว เมื่อได้ยินเสียงอ่อนเยาว์ ทว่า เต็มไปด้วยปณิธานขององค์ชายเจ็ดทุกคนจึงรู้สึกตื้นตันมาก ทุกคนก้มศีรษะคำนับแนบพื้นอีกครั้ง
ฮองเฮาตงอี๋กำมือที่สั่นเทาของตัวเองแน่น ต้าโจว…เตรียมการเรื่องนี้ไว้นานแล้ว!
“เสด็จแม่ทรงให้สัตย์กับต้าโจวด้วยพระโลหิตของตัวเอง ลูกจะจดจำสายโลหิตที่ไหลหยดในวันนี้ของเสด็จแม่เอาไว้ให้ขึ้นใจ ลูกจะไม่ทำให้เสด็จแม่ทรงผิดหวังพ่ะย่ะค่ะ!”
ท่าป๋าเย่าโค้งกายคำนับฮองเฮา จากนั้นกล่าวขึ้น
“รีบพาเสด็จแม่ไปทำแผลเร็ว!”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
ขันทีในตำหนักรีบพาฮองเฮาจากไป
ฮองเฮาตงอี๋หันกลับไปมององค์ชายเจ็ดตัวปลอมอีกครั้ง นางไม่รู้ว่าต้าโจวไปหาตัวปลอมที่ดูเหมือนได้รับการอบรมมาอย่างดีจากราชวงศ์ตั้งแต่เล็กผู้นี้มาจากที่ใดกันแน่