ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 532 จะคลอดแล้ว(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 532 จะคลอดแล้ว(2)

ตอนที่ 532 จะคลอดแล้ว(2)

เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ว่านจี้อวิ๋นก็พาเริ่นม่านนีไปที่โรงพยาบาล ซึ่งผลการตรวจปรากฏว่าตั้งครรภ์แล้ว แม่สามีและลูกสะใภ้ที่ดูภาพในเครื่องบีอัลตราซาวนด์จึงได้แต่รู้สึกว่ามันมหัศจรรย์มาก

ทั้งสองกลับถึงบ้านตระกูลเซี่ยและบอกทุกคนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้นายท่านเซี่ยเอ่ยขึ้นทันที “พรุ่งนี้พวกเราไปหามู่หลานกัน ถึงตอนนั้นฉันกับย่าของพวกเธอก็จะไปด้วย”

คุณนายเซี่ยเห็นว่าชายชราพูดแบบนั้นแล้ว นางจึงไม่คัดค้านอะไร

ฉินมู่หลานไม่ทราบเลยว่าตระกูลเซี่ยกำลังจะพากันมาหาเธอ หลังจากเห็นนายท่านเซี่ยและคุณนายเซี่ยมาแล้ว สีหน้าก็ดูแปลกใจ

คุณนายเซี่ยผู้เย็นชาใส่หลานสาวรู้สึกมาตลอดว่าตั้งแต่ฉินมู่หลานเข้ามา บ้านของพวกเขาก็ไม่เงียบสงบอีกต่อไป แต่วันนี้นางกลับกอบกุมมือของฉินมู่หลานไว้อย่างจริงใจ ก่อนจะพร่ำเอ่ยซ้ำๆ ไม่รู้จบ

ฉินมู่หลานรับฟังด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร

ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือก็ไม่คิดว่าตระกูลเซี่ยจะแห่กันมา แม้แต่นายท่านเซี่ยและคุณนายเซี่ยก็มาด้วย ทั้งสองจึงออกไปซื้อของสำหรับทำอาหาร หลังกลับมาก็รีบไปเข้าครัวทำอาหาร โชคดีที่วันนี้พวกหล่อนหยุดอยู่กับบ้าน จึงสามารถอยู่ทำอาหารให้ได้

ว่านจี้อวิ๋นเห็นแบบนี้ ก็รีบเข้าไปช่วยพร้อมรอยยิ้ม

หลังจากมื้อกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเหวินปิงและฉินเจี้ยนเซ่อก็มาเชิญนายท่านเซี่ยและคนอื่น ๆ มากินดื่มด้วยกัน ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือก็เชิญว่านจี้อวิ๋นและเริ่นม่านนี

ฉินมู่หลานค่อย ๆ กินข้าว คอยดูว่าเด็กทั้งสองกินข้าวกันเป็นอย่างไรบ้าง

ชิงชิงและเฉินเฉินนั่งอยู่ข้างเซี่ยฉางชิง ทั้งสองคนนั่งขนาบข้างคุณตา ทำให้เซี่ยฉางชิงหันไปหาไม่ถูกและไม่มีกะจิตกะใจจะรับประทานอาหาร เพราะต้องคอยดูเด็กทั้งสองกินตลอด

ทั้งเจ้าบ้านและแขกต่างเพลิดเพลิน จากนั้นคุณนายเซี่ยก็มอบกล่องของขวัญที่เตรียมเอาไว้และซองแดงขนาดใหญ่ให้กับฉินมู่หลาน “มู่หลานเอ๊ย ครั้งนี้ต้องขอบคุณเธอมากจริง ๆ”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ”

ฉินมู่หลานส่ายหัวพลางยกยิ้ม แต่เธอก็ไม่เกรงใจ ยอมรับของขวัญเอาไว้

คุณนายเซี่ยเห็นฉินมู่หลานยอมรับไว้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก สุดท้ายทั้งครอบครัวก็เตรียมจะกลับไป แต่เซี่ยฉางชิงอยากให้เวลาอยู่กับหลานทั้งสองให้มากขึ้นกว่านี้หน่อย จึงยังไม่กลับไปตอนนี้ “พ่อครับ พวกพ่อกลับกันไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมกลับช่วงบ่าย”

“ได้”

หลังจากนายท่านเซี่ยและคนอื่นกลับไปแล้ว เซี่ยฉางชิงก็อยู่เล่นกับเด็กทั้งสองต่ออีกสักพัก หลังจากเด็กทั้งสองงีบหลับไป เขาก็มาคุยกับมู่หลาน ถามไถ่สถานการณ์ปัจจุบัน หลังจากทราบว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เซี่ยฉางชิงก็โล่งใจ และนอกจากนี้เขายังเตรียมของบางอย่างมาให้ฉินมู่หลานด้วย

“มู่หลาน ลูกรับของพวกนี้เอาไว้สิ ตอนนี้ลูกมีภาระค่าใช้จ่ายเยอะ จะได้ไม่ต้องกังวล”

ฉินมู่หลานมองสมุดบัญชีธนาคารตรงหน้า ก่อนจะผลักมันกลับไปแล้วเอ่ยว่า “ไม่ต้องหรอกค่ะพ่อ ฉันเองก็มี”

“พวกลูกมีมันก็เป็นส่วนของพวกลูกเอง พ่อให้ตรงนี้ก็ถือเป็นส่วนของพ่อ รับเอาไว้เถอะ แล้วเงินพวกนี้ก็ไม่ได้ถือว่าให้ลูกหรอก เป็นของเด็กทั้งสองที่ยังไม่คลอด ลูกจะปฏิเสธแทนพวกเขาไม่ได้หรอกนะ”

เมื่อเห็นเซี่ยฉางชิงพูดแบบนี้ ฉินมู่หลานก็ไม่ปฏิเสธอีกแล้ว

สองพ่อลูกคุยกันอยู่สักพัก เซี่ยฉางชิงก็ให้ฉินมู่หลานรีบไปพักผ่อน “มู่หลาน ลูกก็ไปพักผ่อนสักหน่อย เดี๋ยวพ่อจะกลับแล้ว”

“ได้ค่ะพ่อ กลับดี ๆ นะคะ”

หลังจากเซี่ยฉางเจี๋ยกลับไป ฉินมู่หลานก็ไปหาเด็กทั้งสองก่อน หลังจากนั้นก็ไปนอนกลางวัน

หลังจากมู่หลานตื่นขึ้นมา เหยาจิ้งจือก็ถือซุปไก่หนึ่งชามเข้ามา “มู่หลาน นี่เป็นซุปไก่ที่คุณยายตุ๋นมาให้เธอ คุณตากับคุณยายเพิ่งมาหา เห็นเธอหลับอยู่ ไม่อยากปลุกเธอ ก็เลยนั่งอยู่สักพักแล้วก็กลับไปแล้ว”

ฉินมู่หลานไม่คิดว่าวันนี้นายท่านเหยาและคุณนายเหยาจะมาหาด้วยเหมือนกัน

“แม่คะ คุณตากับคุณยายกลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”

“พวกท่านกลับไปได้สักพักแล้วล่ะ เห็นบอกว่าอีกสองวันจะมาหาเธอใหม่” เหยาจิ้งจือส่งซุปไก่ให้ฉินมู่หลาน จากนั้นก็มองเธอพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอรีบดื่มเถอะ ยังร้อนอยู่เลย”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้า หลังจากดื่มไปหนึ่งจิบก็พบว่ารสชาติดีมาก ไม่มันเลี่ยนเลยสักนิด จึงดื่มต่อถึงสองชามเต็ม

หลังจากผ่านไปสองวัน นายท่านเหยาและคุณนายเหยาก็มาหาอีกครั้ง ครั้งนี้เห็นว่าฉินมู่หลานตื่นอยู่ พวกเขาจึงหัวเราะแล้วพูดคุยกับเธออยู่สักพัก นอกจากนี้ยังนำสิ่งของมากมายมาให้มู่หลานและลูก ๆ ด้วย

“มู่หลาน อันนี้ของชิงชิงกับเฉินเฉิน ส่วนพวกนี้เป็นของเด็กทั้งสองที่ยังไม่เกิด”

“คุณยายคะ ก่อนหน้านี้ก็ให้แล้วไม่ใช่เหรอคะ” ฉินมู่หลานเห็นคุณนายเหยานำของมาให้มากมายขนาดนั้น จึงอยากปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิด

คุณนายเหยายิ้มแล้วบอกกล่าว “นั่นไม่เหมือนกัน หลานรีบรับไว้เถอะ”

นายท่านเหยาที่อยู่ข้าง ๆ ก็กล่าวตาม “ใช่แล้วมู่หลาน หลานรับเอาไว้เถอะ ทั้งหมดนี้เป็นของที่พวกเรามอบให้เด็ก ๆ ทั้งสี่คน และที่พวกเรามาหาวันนี้ก็เพื่อจะหารือเรื่องบางอย่างกับหลาน” พูดจบ นายท่านเหยาก็หยิบกระดาษสีแดงแผ่นหนึ่งออกมา

“บนกระดาษนี้มีชื่ออยู่หลายชื่อ มีทั้งชายและหญิง หลานลองเลือกดูว่าพวกเราควรจะตั้งชื่อเด็ก ๆ ว่ายังไงดี”

ฉินมู่หลานนึกไม่ถึงว่าผู้อาวุโสทั้งสองจะคิดชื่อเด็กเอาไว้หมดแล้ว

และนายท่านเหยาก็กลัวว่ามู่หลานจะรู้สึกไม่สบายใจ จึงรีบกล่าวทันที “มู่หลาน พอดีพวกเราบังเอิญไปเจอสหายเก่า เขาเก่งเรื่องตั้งชื่อมาก ตาก็เลยให้เขาช่วยคิดมาสักสองสามชื่อ ถ้าหลานไม่ชอบ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้หรอก”

ฉินมู่หลานรับกระดาษสีแดงไป หลังจากดูชื่อบนนั้น จึงรู้ว่าชื่อพวกนี้ถูกคัดสรรมาด้วยความใส่ใจ จึงไม่ว่าอะไร

“คุณตาคะ ชื่อของเจ้าคนโตพวกคุณตาเลือกกันเองได้เลยค่ะ”

“จริงเหรอ?”

สีหน้าของนายท่านเหยาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ แม้แต่คุณนายเหยาก็มองฉินมู่หลานด้วยสีหน้าตื่นเต้น

ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “จริงแท้แน่นอนค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้น…รอจนกว่าเด็ก ๆ จะคลอด พวกเราค่อยเลือกเถอะ” อันที่จริงนายท่านเหยาก็ยังไม่ได้เลือกเลย เพราะคิดว่าทุกชื่อต่างฟังดูดีไปหมด

ท้องของฉินมู่หลานขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากถึงช่วงปิดเทอม เธอก็อยู่แต่ในบ้าน รอคลอดด้วยความอุ่นใจ

เซี่ยเจ๋อหลี่กลับมาทุกครั้งและเห็นท้องของมู่หลาน ก็กลัวว่าเธอจะคลอดกะทันหัน ดังนั้นตราบใดที่มีเวลาว่าง เขาก็จะกลับมาดูแลที่บ้าน

ขณะที่มู่หลานเข้าสู่เดือนที่สองของการปิดเทอม สุดท้ายเซี่ยเจ๋อหลี่ก็ได้ลาหยุดสองวัน เขาจึงเก็บข้าวของแล้วรีบกลับบ้านทันที

“มู่หลาน ผมเอาขนมเปี๊ยะไส้ถั่วแดงมาฝากคุณด้วย”

ทันทีที่เซี่ยเจ๋อหลี่กลับถึงบ้าน เขาก็เดินไปยังส่วนหลังบ้านเพื่อตามหามู่หลาน เมื่อเห็นว่าเธอกำลังเล่นอยู่กับลูก ๆ ทั้งสอง ก็รีบวิ่งตรงไปหาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า “มู่หลาน ชิงชิง เฉินเฉิน”

แต่เมื่อสิ้นเสียงตะโกนเรียกของเซี่ยเจ๋อหลี่ เขาก็พบว่าท่าทางของภรรยาดูแปลกไป จึงรีบเข้าไปอยู่ข้าง ๆ มู่หลาน แล้วถามอย่างประหม่า “เป็นอะไรไปมู่หลาน ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

ฉินมู่หลานเอ่ยขณะที่คิ้วขมวด “รีบพาฉันไปโรงพยาบาลเร็วค่ะ ฉันรู้สึกเหมือนใกล้จะคลอดแล้ว”

ตอนแรกเธอมีความสุขมากเมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่กลับมา อีกทั้งยังคิดว่าพรุ่งนี้จะไปโรงพยาบาลแต่เช้า เซี่ยเจ๋อหลี่จะได้ไปด้วยกัน ไม่คิดเลยว่าเธอจะเจ็บท้องคลอดล่วงหน้าหลายวันขนาดนี้

“มู่หลาน คุณอย่าเพิ่งตกใจ เดี๋ยวผมจะรีบพาคุณไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย”

ในตอนนี้เซี่ยเจ๋อหลี่ก็เริ่มเป็นกังวลขึ้นมาเหมือนกัน เขาอุ้มฉินมู่หลานขึ้นมา ก่อนจะรีบเรียกหาคนอื่น “พ่อ แม่ มู่หลานจะคลอดแล้ว พวกเรารีบไปโรงพยาบาลกัน”

…………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

มู่หลานจะคลอดแล้ว ขอให้ปลอดภัยนะคะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท