บทที่ 868 แกนหลัก (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

“หือ​ การ​ประสาน​พลัง​ของ​ปีศาจ​จาก​ห้วง​ความว่างเปล่า​กับ​มนุษย์​เหรอ​ เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​” ตอง​โป​อึ้ง​งัน​ไป​ รับมือ​ไม่ทัน​อยู่​บ้าง​

“พลัง​แบบนี้​ไม่ควร​เป็น​สิ่งที่​มิสกา​ครอบครอง​สิ”

แต่​ตอนนี้​ไม่มีเวลา​ให้​เขา​ลังเล​แล้ว​

เทพ​ปีศาจ​วายุ​ที่อยู่​อีก​ด้าน​โบกมือ​ ทันใดนั้น​ก็​มีอนุภาค​พลังงาน​กลาง​สุญญากาศ​นับไม่ถ้วน​ไหลเวียน​รวมตัว​ กลายเป็น​พายุ​สีรุ้ง​ ม้วน​พัด​ใส่เขา​จาก​ทุก​ทิศ​ทุก​ทาง​

“เข้ามา​เลย​!”

ใน​มิติ​ผืน​นี้​ ทั้งสอง​คน​ไร้​ความ​กริ่งเกรง​

ตอง​โป​ปล่อยแสง​สีม่วง​นับไม่ถ้วน​ออกมา​จาก​ร่าง​ แสงสีม่วง​ทั้งหมด​พา​กัน​กลายเป็น​ดาบ​แสงแหลมคม​หลาย​สาย​ออกมา​ ดาบ​แสงแน่นขนัด​ประกอบ​กัน​เป็น​กระแสน้ำ​ที่​เหมือน​มหาสมุทร​ ต้าน​รับ​พายุ​สีรุ้ง​อย่าง​ดุดัน​

ตูม​!

แสงสีม่วง​แหลก​สลาย​ สีรุ้ง​กระจัดกระจาย​

ไม่รอ​ให้​การระเบิด​สงบ​ลง​ ตอง​โป​กับ​ปีศาจ​เทพ​วายุ​ก็​เข้า​สู้ระยะ​ประชิดตัว​กัน​แล้ว​

ส่วน​บัญชาการ​แกน​หลัก​ใน​ฐานทัพ​จันทรา​

“มีตัว​ร้ายกาจ​บุก​เข้ามา​…ปฏิกิริยา​ของ​พลัง​สูงสุดขีด​!”

ผู้หญิง​ที่​มีผม​เหมือน​เปลวเพลิง​ลุกไหม้​คน​หนึ่ง​ นั่ง​อยู่​บน​ที่นั่ง​หิน​งามประณีต​สีดำ​ที่​สลัก​อักขระ​ไว้​เต็มไปหมด​ เธอ​กล่าว​ขณะ​เพ่ง​สมาธิหลับตา​

“แนว​ป้องกัน​ชั้นนอก​ถูก​ทะลวง​ แนว​ป้องกัน​ชั้น​ที่หนึ่ง​ถูก​ทะลวง​! เริ่ม​ใช้แผน​ฉุกเฉิน​! ฐานทัพ​กาง​พื้นที่​สนาม​พลัง​ป้องกัน​โดยอัตโนมัติ​ ระบบ​ป้องกัน​อัตโนมัติ​ ชั้น​ที่หนึ่ง​ ตัดขาด​มิติ​รอยต่อ​ กาง​ออก​!”

เสียง​รายงาน​ที่​เร่งด่วน​สะท้อน​ขึ้น​ใน​หน่วย​บัญชาการ​อย่าง​ไม่หยุดยั้ง​

ผู้หญิง​สวม​เสื้อ​สีแดง​สามคน​ที่นั่ง​บน​เก้าอี้​หิน​รีบ​ลืมตา​ขึ้น​จ้อง​มองหน้า​กันเอง​

“ทำไม​ถึงได้​เร็ว​ขนาด​นี้​ล่ะ​!?”

“ระบบ​ป้องกัน​โดยอัตโนมัติ​ของ​ฐานทัพ​ถูก​กระตุ้น​ให้​ทำงาน​แล้ว​!”

“ยัง​ใช้การ​สาดส่อง​ของ​เงาเทพ​ไม่ได้​ สิ้นเปลือง​พลังงาน​เกินไป​ ต้อง​ให้​เวลา​พัก​ก่อน​! เกรง​ว่า​การป้องกัน​อัตโนมัติ​จะป้องกัน​คน​คน​นั้น​ไม่ได้​”

“ไม่เป็นไร​ นาย​ท่าน​ตอง​โป​ไป​ชั้น​ที่สอง​แล้ว​”

ผู้หญิง​คน​หนึ่ง​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ “ยัง​ดี​ที่​ท่าน​ตอง​โป​ไม่ได้​ออกจาก​ฐานทัพ​ไป​บน​พื้นดิน​ ไม่อย่างนั้น​ได้​เกิดเรื่อง​แน่​”

“ถูกต้อง​!”

“สนามรบ​เปลี่ยนแปลง​แล้ว​ นาย​ท่าน​ตอง​โป​กาง​โลก​ดวงดาว​เสมือน​แล้ว​ อีก​ฝ่าย​แข็งแกร่ง​มาก​! เกรง​ว่า​จะเป็น​ผู้​เข้มแข็ง​ขั้น​สุดยอด​ระดับ​ร่าง​บุตร​ของ​เทพ​นอกรีต​!”

“พวกเรา​ส่งพลัง​เทพ​ป้องกัน​ทั้งหมด​ให้​ท่าน​ตอง​โป​ได้​ ถ้านาย​ท่าน​ต้านทาน​ไม่อยู่​ อย่างนั้น​กับดัก​พลัง​เทพ​ที่​เหลือ​ก็​คง​ไม่มีผล​เท่าไร​เหมือนกัน​!”

“ฉัน​เห็นด้วย​! ยัง​สามารถ​ใช้สนาม​พลัง​ปนเปื้อน​แกน​หลัก​ของ​ชั้น​สาม ฉวยโอกาส​โจมตี​คน​คน​นั้น​ก่อนเวลา​ได้​ด้วย​!”

สนาม​พลัง​ป้องกัน​การ​ปนเปื้อน​แกน​หลัก​ แม้จะบอ​กว่า​เป็น​การป้องกัน​ ความจริง​เป็น​พลัง​ทำลายล้าง​ที่​พิสดาร​และ​น่า​สะพรึง​ถึงขีดสุด​ ปกติ​ติดตั้ง​ไว้​รอบ​แกน​หลัก​แห่ง​ความโกลาหล​ เพื่อ​ป้องกัน​ภัยคุกคาม​จาก​ภายนอก​

“แต่​เมื่อ​เป็น​แบบนี้​ จะป้องกัน​ทาง​ประมวล​กฎเกณฑ์​ไม่ได้​แล้ว​นะ​…”

“ไม่เป็นไร​ ถ้าต้านทาน​ศัตรู​คน​นี้​ไม่ได้​ ผลลัพธ์​จะเลวร้าย​ยิ่งกว่า​เดิม​! พวกเรา​จะตาย​ทั้งหมด​!”

ตูม​!

ด้านใน​เส้นทาง​โลหะ​สีเงิน​สาย​หนึ่ง​ ทางเข้า​ถูก​ระเบิด​ที่​ไร้​รูปร่าง​เจาะทะลวง​ใน​พริบตา​

กำแพง​โลหะ​ที่​บิดเบี้ยว​ระเบิด​ออก​เป็น​เศษชิ้นส่วน​ร่วง​ตก​บน​พื้น​ แล้ว​กลิ้ง​ไป​หลาย​ตลบ​ ก่อน​จะมีควัน​ขาว​เดือด​พล่าน​ลอย​ขึ้น​หลาย​สาย​

ยู​ซาเดิน​เข้ามา​ด้วย​รอยยิ้ม​

“โอ้​? ที่นี่​นี่เอง​ ที่นี่​นี่แหละ​…!” เขา​สะกิด​เท้า​ไป​ด้านหน้า​

ร่าง​พุ่ง​ก้าว​ข้าม​ระยะห่าง​หลาย​สิบ​เมตร​ไป​เหมือน​ธนู​ยิง​ออกจาก​เกาทัณฑ์​ ลอย​อยู่​ใน​ระเบียง​ทาง​เชื่อม​อย่าง​รวดเร็ว​

ไม่นาน​นัก​ เขา​ก็​ชะงัก​ฝีเท้า​ เส้นทาง​ด้านหน้า​ทาง​ขาด​ ด้านหน้า​ไม่มีทาง​ไป​ต่อ​ มีเพียง​ที่ว่าง​ประหลาด​สีดำ​สนิท​ไร้​สิ้นสุด​ผืน​หนึ่ง​

“นี่​คือ​อะไร​กัน​” ยู​ซาหรี่ตา​ พร้อมกับ​เหิน​ร่าง​เข้าไป​ใน​มิติ​สีดำ​เบาหวิว​

ตุบ​ เขา​หยั่ง​เท้า​ลง​บน​พื้น​ ก่อน​จะจุดไฟ​สีเหลือง​ขึ้น​บน​มือ​เพื่อ​ส่องสว่าง​ทุก​สิ่งรอบข้าง​

เขา​อาศัย​แสงไฟจน​มองเห็น​อย่าง​รวดเร็ว​ว่า​ ตน​ยืน​อยู่​หน้า​กำแพง​หิน​สีรุ้ง​ที่สูง​สิบ​กว่า​เมตร​

บน​ผนัง​กำแพง​มีภาพวาด​สีรุ้ง​ขนาดใหญ่​ติด​อยู่​

ฟันเฟือง​เล็ก​จำนวนมาก​ห้อม​ล้อมรอบ​ฟันเฟือง​มหึมา​อัน​หนึ่ง​ กลาง​ฟันเฟือง​มีดวงตา​สีแดงฉาน​มากมาย​

“นี่​คือ​อะไร​กัน​ ภาพวาด​โบราณ​หรือ​” ยู​ซาเลีย​ริมฝีปาก​ เหลียว​มอง​โดยรอบ​ก่อน​จะเดิน​ไป​ทาง​ซ้ายมือ​

พอ​เขา​เดิน​ไป​ถึงทางซ้าย​ของ​ภาพวาด​บน​ผนัง​กำแพง​ ก็​เจอ​ประตู​เล็ก​ๆ บาน​หนึ่ง​ เขา​ผลัก​ออก​เบา​ๆ

ประตู​เปิด​ออก​

ด้านใน​คือ​ที่ว่าง​มหึมา​สีเงิน​

ทั่ว​ที่ว่าง​มีเส้นทาง​โลหะ​สีเงิน​หลาย​เส้น​เป็น​โครงสร้าง​ เส้นทาง​พวก​นี้​เหมือนกับ​เส้นเลือด​และ​เส้นประสาท​ใน​กาย​เนื้อ​ ราวกับ​บรรจุ​กฎเกณฑ์​กับ​การ​เรียบเรียง​จังหวะ​บางอย่าง​

‘ที่นี่​เคย​เกิด​การต่อสู้​มาก่อน​’ ยู​ซาก้มลง​มอง​รอย​ดาบ​ลึก​ที่​เหลืออยู่​บน​พื้น​ นัยน์ตา​ฉายแวว​กระจ่าง​

‘ดูเหมือน​นอกจาก​เรา​แล้ว​ จะยังมี​คนอื่น​เข้ามา​อีก​’ เขา​ขบคิด​ พลาง​สัมผัส​สภาพแวดล้อม​รอบข้าง​ ใน​อากาศ​มีกระแส​พลังงาน​ที่​สับสน​และ​บ้าคลั่ง​อยู่​เป็น​จำนวนมาก​

แสดงให้เห็น​ว่า​การต่อสู้​ตรงนี้​เพิ่ง​อุบัติ​ขึ้น​ได้​ไม่นาน​

‘ต้อง​เร่งมือ​แล้ว​’ ยู​ซาเงยหน้า​มอง​ท้องฟ้า​ ตรงนั้น​มีลูกบอล​พลังงาน​สีดำ​สนิท​ก้อน​เล็ก​ๆ ลอย​อยู่​ ด้านใน​เหมือน​มีความขัดแย้ง​ของ​พลังงาน​ที่​รุนแรง​ถึงขีดสุด​

เขา​ไม่คิด​อะไร​อีก​ สะกิด​เท้า​ทะยาน​ไป​ยัง​ประตู​เล็ก​ข้างใต้​ช่องว่าง​ฝั่งตรงข้าม​ทันที​

ไม่นาน​เขา​ก็​หาย​ลับ​เข้าไป​ใน​ประตู​

แกนกลาง​ด้านใน​ฐานทัพ​จันทรา​แนว​ป้องกัน​ที่สาม​

กำแพง​โลหะ​ความทนทาน​สูงหลาย​กลุ่ม​ คือ​ชั้น​ปราการ​แนว​ป้องกัน​ที่สาม​ที่​ฐานทัพ​ภาคภูมิใจ​

ชั้น​ปราการ​เหล่านี้​สามารถ​ตัดขาด​การ​ฉายรังสี​พลังจิต​ได้​เป็น​จำนวนมาก​ ทั้ง​ยัง​มีผล​ตัดขาด​ที่​ไม่เลว​ต่อ​เสียง​ กลิ่นอาย​ และ​พลัง​งานพิเศษ​บางส่วน​ด้วย​

เวลานี้​สเต​ล​โว​ล​ คู​ล​ หัวหน้า​หน่วย​ป้องกัน​ของ​สภานักศึกษา​ชั้นปี​ที่สี่​ กำลัง​สั่งให้​นักศึกษา​คณะ​ต่างๆ​ จาก​หลาย​ๆ ชั้นปี​ที่​มุ่งหน้า​มาจับกลุ่ม​กัน​

นักศึกษา​ทุกคน​แบ่ง​ออก​เป็น​สี่กลุ่ม​ กลุ่ม​ละ​สิบห้า​คน​

“ลำแสง​ทำลายล้าง​แบ่ง​เป็น​กลุ่ม​หนึ่ง​ ภารกิจ​ของ​พวกคุณ​คือ​กระจาย​กำลัง​สนับสนุน​ หาก​ทาง​ไหน​เกิด​วิกฤติ​ พวกคุณ​ต้อง​ทุ่ม​กำลัง​ไป​ทันที​ เข้าใจ​ไหม​” สเต​ล​โว​ล​ คู​ล​ กล่าว​เสียงดัง​

“รับทราบ​!”

เออร์นี​กับ​อิส​ซาลา​ยืน​อยู่​ใน​กลุ่ม​ ตอบรับ​เสียงดัง​

ตอนนี้​พวก​เธอ​ไม่มีสถานะ​อื่น​ เป็น​เพียง​นักศึกษา​สาย​ต้องห้าม​สอง​คน​เท่านั้น​

“ประมวล​กฎเกณฑ์​แห่ง​ความโกลาหล​กับ​แกน​หลัก​แห่ง​ความโกลาหล​ เป็น​รากฐาน​ที่​ใช้รักษา​วงแหวน​อักขระ​ป้องกัน​ของ​มหาวิทยาลัย​ หากว่า​ที่นี่​โดน​ทะลวง​ อย่างนั้น​พวกเรา​ก็​จะสู้ปีศาจ​จาก​ห้วง​ความว่างเปล่า​ไม่ได้​อีกต่อไป​ จำนวน​ที่​พวก​มัน​บุก​มาจะเพิ่ม​เป็น​หลาย​สิบ​เท่า​ของ​ตอนนี้​!”

“ตอนนี้​พวก​ศาสตราจารย์​กำลัง​สู้กัน​บน​พื้นดิน​ ฐานทัพ​แห่ง​นี้​มีพลัง​ป้องกัน​แข็งแกร่ง​สุดขีด​ ใน​สถานการณ์​ปกติ​ไม่มีใคร​บุกรุก​เข้ามา​ได้​ จุดหมาย​ของ​พวก​มัน​อยู่​บน​พื้นดิน​ ดังนั้น​พวกคุณ​เพียงแค่​ต้อง​ทำงาน​ป้องกัน​ของ​ตัวเอง​ให้​ดี​ตามลำดับ​ขั้นตอน​ก็​พอ​…”

ตูม​!

ฐานทัพ​สั่น​ไหว​เบา​ๆ เสียง​ระเบิด​รุนแรง​ดัง​มาจาก​ด้านนอก​

“มีคน​บุก​เข้ามา​แล้ว​!?” นักศึกษา​บางส่วน​หวาดหวั่น​

“ใจเย็น​หน่อย​! กลัว​อะไร​กัน​! คิด​ซะว่า​เป็น​ภารกิจ​ธรรมดา​ก็​พอ​! ฐานทัพ​มีรูป​สลัก​เวท​และ​กลไก​ที่​ทรง​ประสิทธิภาพ​มากมาย​ ต่อให้​มีศัตรู​บุก​มา เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​รูป​สลัก​เวท​และ​กับดัก​กลไก​ ก็​ต้อง​ถูกลด​พลัง​ลง​ไป​ไม่น้อย​แน่​” หัวหน้า​หน่วย​ป้องกัน​สเต​ล​โว​ล​ คู​ล​ คำราม​เสียงทุ้ม​

“ทุกคน​ประจำตำแหน่ง​! อย่า​เคลื่อนไหว​มั่วซั่ว​! เตรียม​ใช้ความสามารถ​!”

ตูม​!

ทันใดนั้น​ กำแพง​โลหะ​สีเงิน​แนว​หนึ่ง​ก็​ถูก​ระเบิด​รุนแรง​พังทลาย​

เศษโลหะ​จำนวนมาก​กระจาย​เวียน​ว่อน​เหมือน​กระสุน​ กระเด็น​ไป​ทั่ว​บริเวณ​ทำให้เกิด​เสียงร้อง​อุทาน​ดัง​ติดต่อกัน​

บน​กำแพง​ไม่ทราบ​ว่า​ปรากฏ​อุโมงค์​ใหญ่​สูงเท่า​หนึ่ง​คน​ครึ่ง​ตั้งแต่​ตอน​ไหน​

ยู​ซาชายหนุ่ม​ผม​ทอง​ผู้​หล่อเหลา​เดิน​ออก​มาจาก​อุโมงค์​ เขา​ยิ้ม​งดงาม​ชวน​หลงใหล​ กวาดตา​มอง​นักศึกษา​ใน​กลุ่ม​กอง​ต่างๆ​ ที่​ทำท่า​เหมือน​เผชิญ​ศัตรู​ตัวฉกาจ​

“สายัณห์​สวัสดิ์​ ทุกท่าน​” ยู​ซาแสยะ​ยิ้ม​ ก่อนที่​ร่าง​จะแตก​ออก​เป็น​เสี่ยง​ๆ กระจัดกระจาย​จางหาย​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​

“แย่​แล้ว​! มัน​ไป​ทาง​แกน​หลัก​!” สเต​ล​โว​ล​ คู​ล​ ที่​เป็น​ผู้นำ​กลุ่ม​นิ่งงัน​ไป​ ก่อน​จะตอบสนอง​ทันที​

“นั่น​มัน​ยู​ซา! ไอ้​หมอ​นั่น​!”

เออร์นี​กับ​อิส​ซารา​จำสถานะ​ของ​ผู้​มาได้​ทันที​ ไม่เพียงแค่​พวก​เธอ​เท่านั้น​ บาง​คนใน​หน่วย​ปฏิบัติการ​ขั้นสูง​ของ​สภานักศึกษา​ ก็​เคย​ร่วมมือ​กับ​พวก​ดุ๊ค​และ​แอนดี้​ไล่ล่า​ยู​ซาเช่นกัน​ ตอนนี้​จึงจำได้​ว่า​หมอ​นี่​เป็น​ใคร​

“มัน​จะชิงแกน​หลัก​ รีบ​หยุด​มัน​ไว้​!” อิส​ซารา​โบกมือ​ แสงสีขาว​กลุ่ม​หนึ่ง​พลัน​ระเบิด​ขึ้น​ แล้ว​กระจัดกระจาย​กลายเป็น​จุด​แสงสีขาว​จำนวนมาก​พุ่ง​ลง​ไป​ใต้​ร่าง​ทุกคน​

ทุกคน​รู้สึก​ได้​ว่า​ความเร็ว​เพิ่มขึ้น​มาก​

แต่​ก็​สาย​ไป​เสียแล้ว​ ทุกคน​ที่อยู่​ที่นี่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​คือ​รูปแบบ​ที่สาม​และ​รูปแบบ​ที่สี่​ เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​ยู​ซา ถึงขั้น​ไม่มีโอกาส​ลงมือ​ ก็​สูญเสีย​ร่องรอย​ของ​อีก​ฝ่าย​ไป​แล้ว​

ใน​มิติ​สีเงิน​

ก้อน​สีดำ​ระเบิด​ออก​อย่าง​ฉับพลัน​ เงาคน​สอง​สาย​ร่วงหล่น​ลงมา​กระแทก​พื้น​อย่าง​แรง​

โครม​

ลู่​เซิ่งร่าง​อาบ​เลือด​ คุกเข่า​ข้าง​หนึ่ง​ลง​กับ​พื้น​อย่าง​ทุลักทุเล​ หลังจาก​กระแทก​กับ​พื้น​ก็​ไม่ขยับเขยื้อน​อีก​ การ​หายใจ​ทอด​ยาว​และ​ติดขัด​เหมือนกับ​เครื่อง​เป่า​ลม​

ตรงข้าม​เขา​ เอว​และ​ท่อน​ล่าง​ของ​ตอง​โป​แยก​ออก​จากกัน​ ใบหน้า​ถูก​ทำลาย​เละ​ จน​มองไม่เห็น​เค้าหน้า​อีกแล้ว​

ลู่​เซิ่งชนะ​แล้ว​ ชนะ​อย่าง​ยากลำบาก​

แม้เขา​จะอยู่​สูงกว่า​ระดับ​ร่าง​สมบูรณ์​สอง​ระดับ​ แต่​ตอง​โป​ที่​เป็น​คู่ต่อสู้​ก็​ไม่ใช่ร่าง​สมบูรณ์​ทั่วไป​ บน​ตัว​เขา​มีพลัง​เทพ​ของ​เทพ​รุ่นใหม่​อยู่​ไม่น้อย​ ใน​ด้าน​คุณสมบัติ​พลังงาน​ สามารถ​ถูก​จัด​เป็น​อันดับ​แรก​ แถมสายลม​แห่ง​การ​ประสาน​ก็​สู้ความสามารถ​ของ​ปีศาจ​ขั้นสูง​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​

ศึก​นี้​ ทั้งสอง​สู้กัน​อย่าง​สะบักสะบอม​

ถ้าไม่ใช่เพราะ​ตอน​สุดท้าย​ ลู่​เซิ่งใช้วิชา​ลับ​มรรคา​ยุทธ์​ อาศัย​เลือด​ครึ่งหนึ่ง​เป็น​ค่าตอบแทน​ เผาไหม้​เลือดเนื้อ​ทั้งหมด​เพื่อ​ระเบิด​พลัง​ออกมา​กว่า​สามเท่า​

คาด​ว่า​ศึก​นี้​จะยังคง​ดำเนิน​ไป​อีก​เนิ่นนาน​

ทว่า​แม้จะเป็น​เช่นนี้​ ตอนนี้​ร่าง​ของ​ลู่​เซิ่งเลือด​ลม​ก็​พร่อง​ลง​ไป​ไม่น้อย​ ไม่เพียง​จิตวิญญาณ​ของ​แจ๊ค​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​เท่านั้น​ ร่างกาย​ใน​ตอนนี้​ก็​ได้รับ​ความเสียหาย​อย่าง​สาหัส​เช่นกัน​ เป็น​เพราะ​มีอาการ​บาดเจ็บ​รน​แรง​มากเกินไป​ ทำ​ให้การ​ชดเชย​ของ​ปราณ​ปฐพี​ไม่อาจ​ฟื้นฟู​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​

เรื่อง​พวก​นี้​ไม่ใช่เรื่อง​ที่​ลำบาก​ที่สุด​ สิ่งที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​ตอนที่​ลู่​เซิ่งฆ่าตอง​โป​ ได้​ถูก​ก้อน​แสงสีม่วง​ที่​โผล่​มาจาก​ไหน​ไม่รู้​กระแทก​ใส่ท้อง​ จากนั้น​ก็​ยัด​พลัง​เทพ​ประหลาด​สาย​หนึ่ง​เข้ามา​ใน​ร่าง​เขา​

สวบ​

ลู่​เซิ่งกุม​ท้อง​เอาไว้​ ฝ่ามือ​ที่​มีผิว​เป็น​สีม่วง​ข้าง​หนึ่ง​คิด​จะมุด​ออก​มาจาก​ใน​ท้อง​ แต่​ถูก​เขา​กดดัน​เข้าไป​

อั่ก​

ในที่สุด​ลู่​เซิ่งก็​ทนไม่ไหว​ กระอัก​เลือด​ออกมา​

เลือด​สีแดงฉาน​ตกลง​บน​พื้น​ ด้านใน​มีแมลง​สีขาว​ตัวเล็ก​ๆ อยู่​อย่าง​แน่นขนัด​

เขา​มีสีหน้า​แปรเปลี่ยน​ ยื่นมือ​ออกมา​ ลังเล​เล็กน้อย​ สุดท้าย​ก็​ไม่ประสาน​มุทรา​สั่งให้​ค่าย​กล​ทำงาน​

‘ช่างมัน​ เทพ​องค์​ใหม่​ก็ดี​ เทพ​องค์​เก่า​ก็ดี​ ไม่ได้​เกี่ยว​อะไร​กับ​เรา​ เป้าหมาย​ของ​เรา​มีเพียง​หนึ่งเดียว​ คือ​การ​เอา​แกน​หลัก​แห่ง​ความโกลาหล​มาให้ได้​ เรื่อง​อื่น​ปล่อย​คนอื่น​จัดการ​ไป​’ เขา​เข้า​ใจดี​ว่า​ถ้าหาก​กระตุ้น​ค่าย​กล​เมื่อไร​ นั่น​หมายความว่า​เขา​จะต้อง​ประจัญ​หน้า​กับ​เหล่า​เทพ​นอกรีต​ของ​โลก​ใบ​นี้​อย่าง​เป็นทางการ​

นี่​ไม่ใช่เป้าหมาย​ที่​เขา​ต้องการ​

ค่าย​กล​เป็น​เพียง​แผน​สำรอง​เท่านั้น​

“เหลือ​เวลา​ไม่มาก​แล้ว​ ต้อง​รีบ​เอา​แกน​หลัก​ไป​ เรา​ไม่อยาก​จะไป​เกี่ยวข้อง​กับ​ความวุ่นวาย​ของ​ที่นี่​” ลู่​เซิ่งใช้ปราณ​ปฐพี​ สะกด​พลัง​เทพ​ประหลาด​ใน​ร่าง​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​ ก่อน​จะลุกขึ้น​ เขา​คิด​จะกลายเป็น​สายลม​แล้ว​ใช้ท่า​เคลื่อน​วายุ​อี​กรอบ​ แต่ว่า​พลัง​เทพ​ใน​ตัว​กลับ​ขวาง​เขา​ไว้​ ตัดขาด​กระบวน​การหลอม​เข้ากับ​สายลม​ของ​เขา​

ลอง​อยู่​หลายครั้ง​ ก็​ยัง​ไม่ได้ผล​

ด้วย​ความ​จนปัญญา​ ลู่​เซิ่งได้​แต่​อาศัย​กาย​เนื้อ​ พุ่ง​ไป​ยัง​ประตู​เล็ก​ๆ ของ​มิติ​สีเงิน​ด้วย​ความเร็ว​สูง

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท