ตอนที่ 1,088 เทพีกระบี่หิมะไร้นามกลับมาแล้ว
“อ้า ตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่รอวันประลองเท่านั้นเอง”
หลินเป่ยเฉินกลับไปยังที่พักของสำนักกระบี่อมตะและทิ้งตัวนอนบนเตียงอย่างสบายอารมณ์
เฉียนเหมยกับเฉียนเจินเข้ามานวดขานวดไหล่ให้เขาด้วยความชำนาญ
ตำแหน่งในกลุ่มประลองที่หลินเป่ยเฉินได้มาจากเหยียนหรู่อี้สี่ตำแหน่งนั้น เขาจะมอบให้แก่ตนเองหนึ่งตำแหน่ง ตามด้วยเฉียนเหมย เฉียนเจิน และเซียวปิงตามลำดับ
อากวงถือเป็นสัตว์อสูรจึงไม่สามารถเข้าร่วมในการประลองครั้งนี้ได้
อีกอย่าง เจ้าหนูยักษ์ก็ใช้กระบี่ไม่เป็นอยู่แล้ว
ในระหว่างที่ได้รับการนวดอย่างสบายใจอยู่นั้น หลินเป่ยเฉินก็ได้นำโทรศัพท์มือถือออกมาปัดหน้าจอ
แต่ไม่มีของรางวัลสำหรับภารกิจการตามหากระบี่เล่มใหม่ได้สำเร็จ
เด็กหนุ่มจึงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
ทันใดนั้น เขาก็เริ่มนึกถึงโลกมนุษย์ใบเก่าขึ้นมาอีกครั้ง
ตอนที่สามารถใช้โซเชียลมีเดียติดต่อกับคนได้ทั่วประเทศ ต่อให้เป็นสุนัขเดียวดาย ก็ยังสามารถหาคู่รักมาช่วยชุบชูจิตใจได้ในโลกอินเตอร์เน็ต แต่การนั่งไถหน้าจออย่างไร้ความหมายตั้งแต่เช้าจรดค่ำเช่นนี้ คือเรื่องที่น่าเศร้าไม่ใช่น้อย
หลินเป่ยเฉินกำลังคิดถึงความรู้สึกของการได้สื่อสารกับใครบางคน…
“ติ๊ง”
ทันใดนั้น เสียงที่เหมือนจะคุ้นหูแต่ก็ไม่คุ้นหูดังขึ้น
เป็นเสียงข้อความเข้าในแอปวีแชท
หลินเป่ยเฉินหัวใจเต้นโครมคราม และรีบเปิดเข้าไปเช็คข้อความโดยทันที
ในที่สุด เจ้าของรูปโปรไฟล์ที่เป็นภาพเรียวขาสวยงามก็ส่งข้อความกลับมาหาเขาแล้ว
‘อุ๊ย ต้องขอโทษน้องชายด้วย ช่วงหลังพี่สาวไม่ว่าง จึงไม่ได้มาตอบข้อความของเจ้า’
เทพีกระบี่หิมะไร้นามเขียนข้อความมาสอบถามว่า ‘น้องชายคงไม่ได้โกรธเคืองพี่สาวหรอกกระมัง?’
จะโกรธเคืองอะไรกันเล่า?
หลินเป่ยเฉินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ในที่สุดก็กลับมาแล้ว
เทพีกระบี่หิมะไร้นามกลับมาแล้ว
นางยังไม่ตาย
‘ข้ายังสบายดี ทางท่านเป็นอย่างไรบ้าง? เหตุไฉนจึงได้หายตัวไปนานเช่นนี้? ข้าหรือก็อุตส่าห์เป็นห่วงแทบแย่’
หลินเป่ยเฉินตอบข้อความกลับไปอย่างจริงจัง
‘ทางข้าก็สบายดี แต่ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ ก่อนหน้านี้ข้ามีเหตุจำเป็นต้องเก็บตัว’
เทพีกระบี่หิมะไร้นามรีบส่งข้อความตอบกลับมาอย่างเร็วไว ‘แต่เกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อยระหว่างการเก็บตัว ขณะนั้นข้ากับสหายถูกผู้อื่นตามล่า จึงต้องหลบซ่อนตัวไม่ปรากฏกายให้ผู้ใดพบเห็น… น้องชาย นี่เจ้าเป็นห่วงข้าถึงขนาดนี้เชียวหรือ? อิอิ’
ในดินแดนทวยเทพเกิดปัญหาขึ้นจริง ๆ ด้วยสินะ
และน่าจะเป็นปัญหาที่มีต้นเหตุจากเขาด้วยซ้ำ
หากบนดินแดนทวยเทพเกิดความวุ่นวายโกลาหลขึ้นจริง ๆ เขาก็แค่ต้องรีบบล็อกเทพีกระบี่หิมะไร้นามเท่านั้น จะได้ไม่ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย
‘เกิดปัญหาขึ้นหรือ? บอกข้ามาสิว่าเรื่องอันใด? มีอะไรที่ข้าพอจะช่วยเหลือได้บ้างหรือไม่?’
หลินเป่ยเฉินเสแสร้งแกล้งเป็นถามด้วยความห่วงใย
‘น้องชาย เจ้าห่วงใยข้าถึงขนาดนี้ พี่สาวซาบซึ้งใจจริง ๆ’
เทพีกระบี่หิมะไร้นามพิมพ์ข้อความใหม่โดยไม่รอช้า ‘บังเอิญว่าข้ากับสหายได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย จึงจำเป็นต้องใช้รากชงโหลวอีกจำนวนหนึ่ง ไม่ทราบว่าเจ้าพอจะหามาให้ได้หรือไม่?’
ต้องการใช้รากชงโหลวอีกแล้ว?
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องไปซื้อที่ร้านเพื่อนพ้องพี่น้องโจรในแอปจิงตงมอลล์
เด็กหนุ่มใช้ความคิดเล็กน้อย ก็เปิดแอปจิงตงมอลล์และตรวจสอบรายการสินค้าในร้านเพื่อนพ้องพี่น้องโจร
เขาพบว่ายังคงมีรากชงโหลววางขายอยู่
แต่ราคาสูงมากกว่าเดิมหลายเท่า
ราคาแพงขึ้น
ราคาของรากชงโหลวในขณะนี้ต้องใช้ศิลาบูชาถึง 199 ก้อนต่อหนึ่งต้น
ราคาแพงขนาดนี้ คงต้องมีของแลกเปลี่ยนสักหน่อย
หลินเป่ยเฉินรีบสลับหน้าจอกลับไปที่แอปวีแชทและส่งข้อความแจ้งว่า ‘บังเอิญว่าช่วงนี้รากชงโหลวหาได้ยาก ประกอบกับราคามันสูงกว่าเดิมหลายเท่า ท่านคงต้องหาอะไรมาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนบ้างแล้วกระมัง’
เทพีกระบี่หิมะไร้นามส่งข้อความตอบกลับมาด้วยความเศร้า ‘เจ้าจะเอาอะไรล่ะ? ข้าไม่มีเงินเลย’
นับว่ามีความตรงไปตรงมาใช้ได้
หลินเป่ยเฉินยิ้มอย่างมีความสุข
ถ้าไม่มีอะไรตอบแทน ก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะส่งรากชงโหลวไปให้
‘แต่หากเจ้าสามารถหารากชงโหลวมาให้ข้าได้แปดต้น พี่สาวคนนี้ก็สามารถขอบคุณเจ้าได้ด้วยวิธีการอื่น อิอิอิอิ’
นั่นคือคำตอบของเทพีกระบี่หิมะไร้นาม
“หืม?”
หลินเป่ยเฉินดวงตาลุกวาวขณะถามกลับไป ‘วิธีการอะไร?’
‘มันจะเป็นสิ่งที่เจ้าปรารถนามากที่สุด มันจะเป็นสิ่งที่เจ้าเฝ้าฝันอยู่ทุกวันทุกคืน’
เทพีกระบี่หิมะไร้นามส่งข้อความมากระตุ้นความอยากรู้มากกว่าเดิม
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นทำท่าดันแว่น
เทพีกระบี่หิมะไร้นามกำลังคิดล่อลวงเขาอยู่ใช่หรือไม่?
‘คงไม่ดีกระมัง’
หลินเป่ยเฉินตอบกลับไป
เขาไม่สามารถมีสัมพันธ์กับเทพีกระบี่ตัวจริง แล้วยังจะไปกุ๊กกิ๊กกับเทพีกระบี่ตัวปลอมได้อีกหรอกนะ…
‘มีอันใดไม่ดี?’
เทพีกระบี่หิมะไร้นามรีบส่งข้อความกลับมาอย่างรวดเร็ว ‘เจ้าไม่ได้เฝ้าฝันอยากจะกลับมาที่ดินแดนทวยเทพหรอกหรือ? ข้ามีวิธีพาเจ้ามาที่นี่ได้นะ แต่เจ้ามาอยู่ได้ในเวลาสั้นๆ เท่านั้น’
หา?!
หลินเป่ยเฉินสะดุ้งโหยง
นี่เขาเฝ้าฝันอยากจะไปดินแดนทวยเทพตั้งแต่เมื่อไหร่?
ไม่มีทาง
เขาจะขึ้นไปที่นั่นได้อย่างไร?
แต่… หากได้ไปที่นั่นจริง ๆ ล่ะ?
แผ่นดินตงเต้าเป็นเสมือนภพภูมิที่อยู่ระดับต่ำมากเกินไป แอปไป่ตู้แมปจึงไม่สามารถหาเส้นทางกลับสู่โลกมนุษย์ได้ แต่ถ้าเขาได้ขึ้นไปอยู่บนดินแดนทวยเทพ ไม่แน่ว่าแอปไป่ตู้แมปอาจจะพบเส้นทางกลับสู่โลกมนุษย์ใบเก่าก็เป็นได้กระมัง?
แต่มันมีข้อจำกัดนี่สิ
‘อยู่ได้แค่เวลาสั้น ๆ นี่หมายความว่าอย่างไร?’
หลินเป่ยเฉินส่งข้อความไปสอบถามด้วยความสนใจ ‘หากไปอยู่ได้เพียงครู่เดียวแล้วต้องรีบกลับ เพราะเดี๋ยวจะถูกผู้คนพบเห็น อย่างนั้นข้าไม่ไปดีกว่า’
‘ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น’
เทพีกระบี่หิมะไร้นามรีบอธิบาย ‘พลังปราณที่อยู่บนดินแดนทวยเทพนั้นมีความหนาแน่นมากกว่าที่อยู่บนโลกของเจ้า สำหรับร่างกายของเทพเจ้าน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่สำหรับร่างกายของมนุษย์อย่างเจ้า การได้รับพลังปราณมากเกินไปจะส่งผลเสียในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ เจ้าจึงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นาน ว่าแต่เจ้าไม่สนใจมาที่นี่จริงหรือ? หากเจ้าสนใจมาจริง ๆ ข้าก็มีวิธีพาเจ้ามาได้นะ’
หา?
มีเรื่องราวเช่นนั้นจริงหรือ?
หลินเป่ยเฉินหยุดชะงัก
คิดดูแล้ว ก็น่าลองไปดูเหมือนกันแฮะ
หลินเป่ยเฉินพิมพ์ถามอย่างระมัดระวังตัวว่า ‘มันจะมีอันตรายหรือไม่?’
‘เมื่อเทียบกับอัตราส่วนการได้รับพลังปราณมากเกินไป จึงถือว่ามีอันตรายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น’
เทพีกระบี่หิมะไร้นามตอบกลับมา
หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วหน้ายุ่ง
อันตรายเพียงเล็กน้อย ก็ยังถือว่าอันตรายอยู่ดี
เทพีกระบี่หิมะไร้นามน่าจะยังบอกความจริงเขาไม่หมดแน่ ๆ
‘อย่าเพิ่งคุยเรื่องนี้เลย’
หลินเป่ยเฉินส่งข้อความไปตัดบท ‘ท่านเคยได้ยินเรื่องตำแหน่งเซียนกระบี่ในเมืองไป๋หยุนบ้างหรือไม่?’
เด็กหนุ่มตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองไป๋หยุนอีกครั้งและถามว่า ‘เป็นไปได้หรือที่มนุษย์ธรรมดาจะเป็นเทพเจ้าได้จริง ๆ?’
‘เป็นเทพเจ้าเนี่ยนะ?’
ดูเหมือนเทพีกระบี่หิมะไร้นามก็สนใจในเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย นางจึงส่งข้อความกลับมาด้วยความตื่นเต้น ‘ลองดูสิ อย่างน้อยเจ้าก็ต้องมีตำแหน่งเป็นเซียนกระบี่อะไรนั่นให้ได้ก่อน’
‘?’
หลินเป่ยเฉินส่งเครื่องหมายคำถามตอบกลับไป
เทพีกระบี่หิมะไร้นามจึงต้องอธิบายยาวเหยียดอีกครั้ง ‘หากเจ้าได้ครอบครองตำแหน่งเซียนกระบี่อะไรนั่น เจ้าก็คงไม่ได้รับอันตรายจากการท่องเที่ยวในดินแดนทวยเทพอีกแล้ว และเมื่อเจ้ากับข้าร่วมมือกัน ยังจะมีผู้ใดมาขัดขวางได้อีก เจ้าต้องคว้าตำแหน่งนั้นมาให้จงได้’
หลินเป่ยเฉินอ่านข้อความของอีกฝ่ายแล้วก็ใช้ความคิด
ถ้าเขาได้ตำแหน่งเซียนกระบี่แห่งเมืองไป๋หยุน ก็จะสามารถเดินทางไปที่ดินแดนทวยเทพได้โดยไม่ต้องเสี่ยงอันตราย?
ฟังดูก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลดี
อย่างน้อย การได้ตำแหน่งเทพาจารย์ก็คงทำให้เขาไม่ต่างจากเทพเจ้าจริง ๆ
เทพีกระบี่หิมะไร้นามรู้สึกร้อนใจเพราะเห็นหลินเป่ยเฉินนิ่งเงียบไม่ยอมตอบข้อความสักที…
‘ถ้าเจ้าลังเล เจ้าก็จะพลาดโอกาสสำคัญ’
‘นี่คือโอกาสครั้งเดียวในชีวิตเชียวนะ หากเจ้าได้ครอบครองตำแหน่งเซียนกระบี่นั่น นอกจากจะสามารถเดินทางมาที่ดินแดนทวยเทพอย่างไร้อันตรายแล้ว เจ้ายังจะได้รับผลประโยชน์อื่น ๆ อย่างที่คิดไม่ถึงอีกด้วย’
‘และสำหรับผู้ที่มีความสามารถอย่างเจ้า ข้าขอรับรองว่าเจ้าต้องได้ทุกอย่างที่ต้องการในดินแดนทวยเทพแน่นอน’
‘นี่คือโอกาสที่เจ้าจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด’
‘ในดินแดนทวยเทพ ยังคงมีเทพธิดาอีกหลายนางที่งดงามไม่แพ้ข้า…’
‘เจ้าสามารถซื้อบ้านและที่ดินของที่นี่ เพื่อไว้เก็งกำไรได้ด้วยนะ’
‘เจ้าจะได้ขึ้นมากินดื่มอยู่กับเทพเจ้าตัวจริงเช่นนี้ เมื่อกลับไปที่โลกของเจ้า ยังจะมีผู้ใดไม่กล้านับถือเจ้าอีก?’
‘หรือหากมีเทพธิดาองค์ใดเกิดติดใจเจ้าขึ้นมา เจ้าก็จะได้มีภรรยาเป็นนางฟ้านางสวรรค์ขนานแท้ โฮะโฮะโฮะโฮะ…’
เทพีกระบี่หิมะไร้นามส่งข้อความมาหาหลินเป่ยเฉินรัว ๆ
เด็กหนุ่มไต่ตรองดูอีกเล็กน้อย สุดท้ายก็เห็นด้วยกับเทพีกระบี่หิมะไร้นาม
‘เอาละ ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ท่านเตรียมตัวให้พร้อมก็แล้วกัน ข้าจะติดต่อไปอีกครั้งเมื่อได้รับตำแหน่งเซียนกระบี่แห่งไป๋หยุน’
หลินเป่ยเฉินไม่ลืมพิมพ์ดักคอเอาไว้ล่วงหน้า ‘บอกก่อนนะว่าในช่วงเวลานี้ ท่านห้ามขาดการติดต่อไปอีกเด็ดขาด ไม่งั้นจะถือว่าข้อตกลงของเราเป็นอันโมฆะ’
ที่ต้องพิมพ์ล่วงหน้าไว้เช่นนี้ ก็เพราะเขารู้ดีว่าเทพีกระบี่หิมะไร้นามเอาแน่เอานอนไม่ได้เพียงใด
หลินเป่ยเฉินสงสัยว่านางกำลังจะหลอกลวงเขาอย่างไรชอบกล
‘ไม่ต้องห่วง ข้าจะรอตอบข้อความของเจ้าเสมอ’
เทพีกระบี่หิมะไร้นามตอบข้อความกลับมาด้วยความมั่นใจ ‘มีอะไรเร่งด่วนเจ้าสามารถติดต่อพี่สาวคนนี้ได้เสมอ… หากเกิดเหตุเข้าตาจนจริง ๆ พี่สาวก็สามารถส่งพลังไปช่วยเจ้ากำราบศัตรูได้ด้วยซ้ำ’
‘ถ้าอย่างนั้นก็ประเสริฐ’
หลินเป่ยเฉินพยักหน้าหงึกหงัก ‘ขอที่อยู่ด้วย เดี๋ยวข้าจะส่งรากชงโหลวไปให้’
เทพีกระบี่หิมะไร้นามรีบส่งที่อยู่มาให้อย่างรวดเร็ว
เมื่อคุยเสร็จ หลินเป่ยเฉินก็กดเข้าไปในแอปจิงตงมอลล์ และซื้อรากชงโหลวแปดต้นมาจากร้านเพื่อนพ้องพี่น้องโจร โดยต้องใช้ศิลาบูชาถึง 1,591 ก้อน
ใช่แล้ว
เถ้าแก่ร้านเพื่อนพ้องพี่น้องโจรบอกว่าสามารถลดราคาศิลาบูชาให้หลินเป่ยเฉินได้แค่ก้อนเดียวเท่านั้น
เมื่อส่งที่อยู่เสร็จเรียบร้อย หลินเป่ยเฉินก็กดจ่ายเงินยืนยันคำสั่งซื้อ
‘อ้อ จริงด้วยสิ ว่าแต่ใครคือสหายที่ท่านพูดถึงก่อนหน้านี้หรือ?’
หลินเป่ยเฉินนึกขึ้นมาได้จึงย้อนกลับไปถามเทพีกระบี่หิมะไร้นามในแอปวีแชทอีกครั้ง
‘เอ่อ… เดี๋ยวเจ้าก็รู้เองนั่นแหละ แต่บอกเลยว่านางเป็นเทพธิดาที่สวยงามและมีเสน่ห์มาก เจ้าเห็นแล้วจะต้องน้ำลายไหลแน่นอน’
นั่นคือคำตอบของเทพีกระบี่หิมะไร้นาม
เทพธิดา?
อย่างน้อยก็อยู่กับสตรีด้วยกันละนะ
ต่อให้พวกนางนอนร่วมเตียงกัน เขาก็ไม่สนใจหรอก
หลินเป่ยเฉินพลันยกมือขึ้นนวดขมับตนเอง