บทที่ 1158 ตอนพิเศษ (52)
บทที่ 1158 ตอนพิเศษ (52)
หลังจากจบงานเลี้ยงก็เหลือเพียงความยุ่งเหยิงทั่วทั้งลานบ้าน
ป้าจงมองทุกอย่างที่นี่ด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วกล่าวกับหลินซื่อ “ไม่เก็บกวาดแล้ว พวกเราล้วนทำงานหนักอยู่ที่นี่ ผู้อื่นกลับแสร้งเป็นฮูหยินมั่งมีปฏิบัติต่อเราราวกับเป็นบ่าวรับใช้”
หลินซื่อตบเอวที่ปวดเมื่อยปุ ๆ พลางเหลือบมองเรือนหอแล้วขมวดคิ้วเอ่ย “นั่นน่ะสิ ยังเป็นน้องสะใภ้ที่โชคดี นางแต่งงานโดยแม้กระทั่งเหงื่อก็ไม่ออก ส่วนพวกเราเหน็ดเหนื่อยจนยืนตัวตรงไม่ได้”
จงซู่เกินเดินออกมาพร้อมกับห่อของห่อหนึ่งแล้วกล่าว “ชิงซือบอกว่าวันนี้แม่กับพี่สะใภ้ลำบากแล้ว นี่เป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนาง พวกท่านโปรดรับไว้”
ป้าจงเปลี่ยนสีหน้าทันที นางรับมันมาด้วยรอยยิ้ม เปิดห่อผ้าออกดูพบว่าข้างในมีผ้าเช็ดหน้าสองผืน
นางเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “นี่หมายความว่าอย่างไร? เราเหนื่อยมาทั้งวัน ตอนนี้กลับได้ของที่นำไปขายไม่ได้เพียงชิ้นเดียวนี่หรือ?”
“นี่เป็นของที่ชิงซือปักเอง” จงซู่เกินขมวดคิ้ว “ข้าคิดว่านี่เป็นการแสดงความรู้สึกที่ดีที่สุดแล้ว”
“ช่างเถิด” ป้าจงเก็บผ้าเช็ดหน้าใส่แขนเสื้อ มองดูเศษซากที่อยู่ข้าง ๆ แล้วกล่าว “พวกเราจะกลับแล้ว ที่เหลือพวกเจ้าจัดการเองแล้วกัน”
“อืม” จงซู่เกินยัดเงินที่หยิบออกมากลับคืนที่เดิม
เดิมทีเขาคิดจะหยิบเงินแท่งนั้นออกมาขอบคุณมารดาและพี่สะใภ้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่จำเป็นแล้ว
ตอนนั้นพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้แต่งงานกัน เขายุ่งทั้งเรื่องภายในและภายนอก ตั้งแต่หยิบยืมโต๊ะ เก้าอี้ ม้านั่ง หม้อ กระทะ จนถึงเข้าเมืองไปซื้อวัตถุดิบทำอาหารและหยิบยืมอาหารจากชาวบ้าน เขาเป็นผู้ที่จัดการดูแลทุกสิ่งทุกอย่าง หลังจากงานแต่งงานจบลง มารดาเขาบอกว่านางเหนื่อยเกินกว่าจะจัดการของพวกนั้น เขาจึงเป็นคนจัดการทุกอย่างไม่ได้ให้คนในครอบครัวต้องมากังวล
ตอนนี้ถึงคราวของเขา หากพวกเขาอยากแยกแยะให้ชัดเจนเพียงนี้ จงซู่เกินก็ไม่มีสิ่งใดจะกล่าว เดิมทีตั้งใจว่าจะขอบคุณทั้งคู่ ตอนนี้ดูท่าคงได้ประหยัดเงินจำนวนนี้แล้ว
ป้าจงจากไปพร้อมกับหลินซื่อ
หลังออกมาพ้นประตูบ้านหลินซื่อก็บ่น “ท่านแม่ พวกเราทำงานหนักมาทั้งวัน ยกข้าวปลาอาหารให้แขก ทักทายแขกเหรื่อ ซู่เกินกลับไม่ให้พวกเราแม้กระทั่งเหรียญทองแดงสักเหรียญด้วยซ้ำ ช่างตระหนี่เสียจริง”
“ช่างเถิด ตอนนี้อย่าพึ่งไปรบเร้าซู่เกิน รอผ่านไปสักระยะ พวกเราค่อยสั่งสอนกฎเกณฑ์ให้ดี ๆ ข้าเป็นแม่สามี นางเป็นเพียงลูกสะใภ้ยังจะกดขี่หัวข้าได้หรือ?” ป้าจงกล่าว
“ซู่เกินให้สินสอดถึงสิบตำลึงเงิน นางกลับตระหนี่ถี่เหนียว ให้เราเพียงแค่ผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืน” หลินซื่อหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาขยำเป็นก้อนทำท่าจะโยนมันทิ้งไป ทว่าป้าจงกลับคว้าเอาไว้
“อยากตายหรือ เจ้าไม่ถูกข้าด่าสักวันก็จะไม่รู้เรื่องใช่หรือไม่? เจ้าสัมผัสผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ดูสิ มันเป็นผ้าไหม ผืนเล็ก ๆ เช่นนี้กลับคิดเป็นเงินถึงห้าสิบอีแปะเชียว ถึงแม้เจ้าจะไม่ต้องการมันก็ขายให้ผู้อื่นได้!”
“อ้อ” หลินซื่อพึมพำ “ผ้าไหมไม่อาจกินได้ ให้เงินข้าตรง ๆ จะไม่ดีกว่าหรือ”
หยางชิงซือเดินออกมาจากเรือนหอ เห็นหลิวจิ่วจู๋กำลังช่วยจงซู่เกินจัดเก็บโต๊ะเก้าอี้จึงเอ่ยว่า “จู๋จือ ทางนี้เจ้าไม่ต้องทำแล้ว เจ้าเหนื่อยมาทั้งวัน ไปพักผ่อนก่อนเถอะ!”
หลิวจิ่วจู๋อาศัยอยู่ที่บ้านของหยางชวน วันนี้นางช่วยรับรองแขก มือเท้าเป็นระวิงไม่เคยได้หยุดพัก
“ข้าไม่เหนื่อย” หลิวจิ่วจู๋มองภาพตรงหน้า “ข้าจะทำความสะอาดที่นี่เสียก่อน พรุ่งนี้พี่ซู่เกินถึงจะนำโต๊ะเก้าอี้ไปคืน ไม่เช่นนั้นหากที่นี่เต็มไปด้วยข้าวของระเกะระกะ ย่อมง่ายที่จะดึงดูดหนูมา”
“ไม่จำเป็น ข้ากับซู่เกินเก็บกวาดก็พอแล้ว” หยางชิงซือเอ่ย “วันนี้ข้าไม่ได้ทำสิ่งใดเลย”
“เจ้าเป็นเจ้าสาว ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าทำ” หลิวจิ่วจู๋ดันตัวหยางชิงซือไป “วันนี้เจ้าใหญ่ที่สุด อย่าได้กังวลเรื่องนี้เรื่องนั้นเลย ภายหน้ายังมีเวลาให้เจ้ากังวลอีก วันนี้เจ้าดื่มด่ำกับการให้ทุกคนตามใจเถอะ”
“จู๋จือ…”
“จู๋จือพูดถูกแล้ว เจ้าไปพักผ่อนเถอะ เรื่องที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่เรา” จงซู่เกินเกาหัวแล้วกล่าวออกมาอย่างซื่อ ๆ
หยางชิงซือเหลือบมองจงซู่เกิน “อย่าได้ให้จู๋จือเหนื่อย นางเป็นแขก จะปล่อยให้นางทำงานหนักได้อย่างไร?”
“ข้ารู้”
หลังจากหยางชิงซือกลับไปที่ห้องหอแล้ว จงซู่เกินก็วุ่นอยู่กับการเก็บกวาดทุกอย่าง เพียงขอให้หลิวจิ่วจู๋ยกถ้วยชามไปเก็บกับแยกน้ำซุปที่เหลือเท่านั้น
ส่วนอาหารที่เหลือ…
จะมีอาหารเหลือได้อย่างไร?
จงซู่เกินเต็มใจซื้อวัตถุดิบอาหาร เชิญสตรีที่ฝีมือดีที่สุดในหมู่บ้านมาทำอาหารเลี้ยงแขก สตรีเหล่านั้นเห็นจงซู่เกินใจกว้างก็ใช้วัตถุดิบทุกอย่างเต็มที่ คนในหมู่บ้านไม่ได้จัดงานเลี้ยงหรูหราเช่นนี้มาเป็นเวลานานแล้ว
“พี่ซู่เกิน เก็บใกล้เสร็จแล้ว ข้าไม่รบกวนพวกท่านแล้ว”
“จู๋จือ ข้ากับซู่เกินจะไปส่งเจ้าที่บ้านพี่ข้า” หยางชิงซือเดินออกมา
หยางชิงซือไม่ได้พักผ่อน หากแต่แยกของขวัญแสดงความยินดีที่คนส่งมาให้
แม้ว่าของขวัญที่ทุกคนมอบให้จะมีไม่มากและราคาไม่แพง ทว่ากลับมีความหลากหลาย จำเป็นต้องคัดแยกอย่างระมัดระวัง เก็บรวบรวมตามประเภท
“ได้” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “วันนี้แสงจันทร์สว่าง ไม่จำเป็นต้องจุดคบไฟ อีกประเดี๋ยวพวกเจ้าอาบน้ำก่อน พักผ่อนให้สบาย ข้าต้มน้ำร้อนไว้ให้พวกเจ้าใช้แล้ว”
“จู๋จือ เจ้าดีเกินไปแล้ว” หยางชิงซือเข้าไปกอดหลิวจิ่วจู๋ “ขอบคุณเจ้า”
คู่บ่าวสาวทั้งสองส่งหลิวจิ่วจู๋กลับไปที่บ้านหยางชวนแล้วจึงกลับไปยังบ้านใหม่ของพวกเขา
วันนี้เป็นคืนวันแต่งงาน เป็นวันแรกของพวกเขาในฐานะสามีภรรยา ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะรู้จักและรักกันมาหลายปีแล้ว ทว่าในวันพิเศษเช่นนี้ก็ยังทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
ขากลับจงซู่เกินนั่งยอง ๆ แล้วกล่าว “ขึ้นมาสิ ข้าจะแบกเจ้า”
“ผู้ใดอยากให้เจ้าแบก?” หยางชิงซือพึมพำ “ข้าดูเหมือนคนที่เดินเพียงไม่กี่ก้าวไม่ไหวหรือไร?”
จงซู่เกินอุ้มหยางชิงซือขึ้นมา
หยางชิงซือนึกไม่ถึงว่าจู่ ๆ เขาจะ ‘โอหัง’ เพียงนี้ นางกอดคอเขาอย่างตื่นตระหนกพร้อมมองเขาด้วยความตกใจ “นี่เจ้ากำลังทำอะไร?”
“รองเท้าของเจ้าเล็กเกินไปใช่หรือไม่?”
“ก็ไม่นี่นา…” หยางชิงซือพึมพำ
อันที่จริงแล้วก็เล็กอยู่บ้าง
จงซู่เกินให้เงินนางไปซื้อชุดแต่งงานกับรองเท้าใหม่ เพราะนางชอบชุดแต่งงานมากจึงซื้อแพงกว่าปกติเล็กน้อย เงินที่เหลือจึงไม่พอซื้อรองเท้า บังเอิญมีรองเท้าคู่หนึ่งกำลังลดราคาพอดี นางคิดว่าคงแตกต่างกันไม่มาก อีกทั้งเมื่อสวมรองเท้าขนาดเล็กแล้วยังดูดีกว่านี้ นางจึงซื้อรองเท้าคู่นี้มาในราคาครึ่งหนึ่งของราคาปกติ
“ตอนนี้เจ้าเป็นเมียข้า ไม่ว่ามีเรื่องอะไรก็ควรบอกข้า ไม่อาจคอยปลอบใจข้าอย่างเมื่อก่อน” จงซู่เกินเอ่ย “ข้าดูรองเท้าของเจ้าก็รู้แล้วว่ามันเล็กเกินไป”
“เล็กอยู่บ้างจริง ๆ ข้าว่าไม่น่าต่างกันมากนี่นา!” หยางชิงซือกล่าว “นอกจากนี้ คงไม่ได้ส่งผลอะไรนัก”
“ย่อมส่งผลมาก” จงซู่เกินกล่าว “เมื่อครู่เกือบเท้าพลิกแล้วไม่ใช่หรือ?”
หากไม่เกือบเท้าพลิก เขาคงไม่สังเกตเห็นเท้าที่อยู่ใต้กระโปรงของนาง
“เจ้าดุข้าหรือ?” หยางชิงซือหยิกใบหูของเขา “ดีนี่ พึ่งแต่งข้ามาก็ดุข้าแล้ว ได้ข้ามาแล้วก็ไม่ทะนุถนอมแล้วใช่หรือไม่?”
“ได้ที่ใดกัน? ข้ายังไม่ได้เสียหน่อย!” จงซู่เกินเอ่ยอย่างหน้าหนา
“ไร้ยางอาย” หยางชิงซือเอ่ยเบา ๆ แก้มนางเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “เจ้ามาผิดทางแล้ว บ้านเราไม่ได้อยู่ทางนั้น”
“ข้าจะพาเจ้าไปที่หนึ่งก่อน” จงซู่เกินเอ่ย
“ทำตัวลึกลับซับซ้อนเก่งนัก” หยางชิงซือกล่าว “เช่นนั้น ข้าจะดูว่าเจ้าจะเสกดอกไม้ให้ข้าได้หรือไม่”