ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 1439 เข้าจวน

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1439 เข้าจวน

บทที่ 1439 เข้าจวน

“เพ่ยหยาทักทายหมิงตูจวิ้นจู่!”

ถ้าเมื่อครู่กู้เสี่ยวหวานไม่เห็นแววตาเกลียดชังและความอิจฉาริษยาของซูหมิ่น ตอนนี้นางคงคิดว่าซูหมิ่นยินดีต้อนรับตัวเองจริง ๆ

ซูหมิ่นเห็นท่าทางห่างเหินของกู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกไม่พอใจ

ข้าเป็นหมิงตูจวิ้นจู่ เป็นลูกสาวของท่านอ๋องที่แสดงความปรารถนาดีต่อเจ้า เจ้ายังไม่รับความหวังดีของข้าอีก!

ซูหมิ่นยิ้มเบา ๆ ก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อหลบซ่อนแววตาชั่วร้าย ในตอนนี้เองก็มีเสียงตื่นตระหนกสองเสียงดังขึ้นข้างหลัง “หมิงตูจวิ้นจู่”

เป็นน้องสาวฝาแฝดของฟางเพ่ยหยา… ฟางหลานซินและฟางจู๋อวิ๋น

ใบหน้าของทั้งสองประดับไปด้วยรอยยิ้มประจบสอพลอ แตกต่างกับตอนอยู่ข้างนอกที่เห็นสายตาที่แสดงตนว่าตนเหนือกว่าของฟางเพ่ยหยา

เมื่อพวกนางก้าวเข้ามาใกล้ ทั้งสองคนก็แสดงความเคารพ “หมิงตูจวิ้นจู่…”

ซูหมิ่นเห็นสองคนนี้ยอมอยู่ใต้อำนาจของตัวเอง เชื่อฟังและชื่นชมยินดีด้วยใจจริงจึงทำให้นางรู้สึกสบายใจ ลืมเรื่องการกระทำที่เย็นชาของกู้เสี่ยวหวานไปชั่วขณะ

“ไม่ใช่ว่าพวกเจ้ามาถึงนานแล้วไม่ใช่หรือ เพื่อให้ต้อนรับพี่น้องของจวิ้นจู่เป็นอย่างดี จึงทำให้พวกเจ้ามาสายใช่หรือไม่!” ซูหมิ่นยิ้มจาง ๆ แล้วพูดด้วยความโมโห

ฟางหลานซินและฟางจู๋อวิ๋นตัวสั่นระริกและเงยหน้ามองสีหน้าของซูหมิ่น ก่อนจะเห็นรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของอีกฝ่ายไร้ซึ่งความโกรธเคืองก็แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับหมิงตูจวิ้นจู่กันแน่

สองคนกำลังมองซูหมิ่นที่โกรธเคือง หากแต่ปากกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าคำพูดที่เอ่ยออกมาราวกับจะตำหนิที่พวกนางสองคนมาช้า แต่บนหน้ามีรอยยิ้มชัดเจน อีกทั้งก็ไม่เหมือนกับกำลังตำหนิพวกนาง

พวกนางทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับอย่างไร แม่นางไฉ่เยว่ที่อยู่ข้างซูหมิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่รอง พี่สาม จวิ้นจู่กับพี่ทั้งสองเป็นสหายที่ดีต่อกัน งานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่นี้จัดขึ้นที่จวนหมิงอ๋อง ในจวนไม่มีใครอื่นนอกจากจวิ้นจู่ ปกติแล้วจะเชิญพี่น้องที่สนิทสนมกันมาเพื่อรักษาหน้าเอาไว้ แม่นางทั้งสองมาช้า แขกทุกคนล้วนมาถึงแล้ว”

“บอกให้พวกเจ้ามาเร็ว แต่กลับมาสายขนาดนี้ แม้แต่แขกเองยังมาครบแล้ว แต่พวกเจ้ากลับเพิ่งมาถึง มันจะมีประโยชน์อะไร”

พูดจบ ไฉ่เยว่ยังมองไปที่พี่น้องตระกูลฟางอย่างโกรธ ๆ ราวกับกำลังรู้สึกคับแค้นใจ

จวิ้นจู่มองพวกเจ้าเป็นพี่น้อง ไม่คิดว่าพวกเจ้าจะไม่ใส่ใจเรื่องของจวิ้นจู่ขนาดนี้ การกระทำนี้ทำให้จวิ้นจู่ผิดหวังจริง ๆ

ฟางหลานซินเป็นคนเข้าใจความคิด เพียงแค่มองไฉ่เยว่ ใบหน้าก็ปรากฏร่องรอยความเสียใจจากนั้นก็มองไปที่ฟางเพ่ยหยาอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “จวิ้นจู่ เดิมทีหลานซินกับจู๋อวิ๋นมาแล้ว แต่มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นข้างนอกเลยทำให้เสียเวลา”

ฟางหลานซินพูดอย่างคับแค้นใจ แววตาในตอนนี้น่าสงสารมาก ตรงกันข้ามกับฟางเพ่ยหยาที่อยู่ด้านข้าง

กู้เสี่ยวหวานมองพี่น้องทั้งสามอย่างสอดรู้สอดเห็น

ฟางเพ่ยหยามีดวงตากลมโต คิ้วทั้งใหญ่และหนา ตรงกันข้ามกับน้องสาวที่คิ้วบางเหมือนต้นหลิว รูปร่างอรชรทำให้ผู้ชายอยากจะปกป้อง

กลับกันฟางเพ่ยหยาดูแข็งแรง จึงไม่มีใครมีความคิดที่จะปกป้องนาง

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท