บทที่ 1159 ตอนพิเศษ (53)
บทที่ 1159 ตอนพิเศษ (53)
“ถึงแล้ว” จงซู่เกินปล่อยหยางชิงซือลง
หยางชิงซือมองดูต้นอ้อที่อยู่ตรงหน้าแล้วกล่าวด้วยความโมโห “เหตุใดเจ้าจึงพาข้ามาที่นี่กลางดึก? น่าขนลุกขนชันพาให้คนกลัวจะตายไป”
“เจ้าหลับตาลงก่อน” จงซู่เกินเอ่ย
หยางชิงซือมองเขาอย่างสงสัย “จักเล่นอะไรกันแน่?”
“เจ้าหลับตาลงก่อนเถอะ”
หยางชิงซือยอมหลับตาลง
“เสร็จหรือยัง?”
เสียงหนึ่งดังขึ้น นางได้ยินเพียงเสียงแปลก ๆ
“เสร็จแล้ว” จงซู่เกินกล่าว
หยางชิงซือลืมตาขึ้นมา
ท้องฟ้าเต็มไปด้วย ‘ดวงดาว’ ที่บินออกมาจากต้นกก เป็นจุดเล็ก ๆ สวยงามยิ่ง ราวกับแสงประกายของดอกไม้ไฟ ทว่างดงามยิ่งกว่าดอกไม้ไฟเสียอีก
“เจ้าทำได้อย่างไร?” หยางชิงซือยกมือขึ้นปิดปาก น้ำเสียงของนางแหบแห้ง
จงซู่เกินมองนางแล้วเอ่ยเบา ๆ “ข้าบังเอิญพบเช่นกัน อันที่จริงวันนี้ข้าไม่รู้ว่าจะได้เห็นทิวทัศน์งดงามเช่นนี้หรือไม่ ข้าคอยมาดูเรื่อย ๆ จึงพบว่าพวกมันอยู่ที่นี่ตลอดเลยตัดสินใจว่าจะพาเจ้ามาดูวันนี้ หากวันนี้พวกมันไม่อยู่ที่นี่ ข้าจะหาโอกาสอีกครั้ง แต่ข้าจะต้องให้เจ้าได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของที่นี่อย่างแน่นอน”
“เจ้าเก่งเรื่องทำให้เด็กผู้หญิงมีความสุขถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“ข้าไม่หล่อเหลา อีกทั้งยังไม่ได้มีความสามารถเท่าลู่เจ๋อ ไม่ได้เก่งทั้งบู๊ทั้งบุ๋นอย่างเขา ยิ่งไม่รู้ว่าจะทำให้สตรีมีความสุขได้อย่างไร ข้าเพียงแค่อยากดีต่อเจ้า ดีต่อเจ้าจากใจ เรื่องอื่นข้าไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร”
“เจ้าโง่ เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว” หยางชิงซือเข้าไปกอดเอวของเขา “ซู่เกิน เจ้าจะดีกับข้าตลอดไปได้หรือไม่?”
จงซู่เกินชะงักไปครู่หนึ่ง
ในอนาคตเขาไม่รู้ว่าต้องเผชิญกับอะไร อีกทั้งยังไม่มีความมั่นใจที่จะกล่าวออกไป
หยางชิงซือหยิกเนื้อนุ่มรอบเอวเขาพลางเอ่ยด้วยความขุ่นเคือง “เจ้ายังลังเลอยู่อีกหรือ? หรือที่เจ้าทำทุกอย่างวันนี้ก็เพื่อปลอบข้า?”
“ไม่ใช่ ข้าเพียงกังวลว่าจะเกิดเรื่องกับตน…”
“ถุย…” หยางชิงซือตีท้องเขาเบา ๆ “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร? วันนี้เป็นคืนแต่งงานของเรา เจ้าไม่พูดเรื่องน่าฟัง แต่กลับพูดเรื่องไม่เข้าหูเหล่านี้”
“ขอเพียงข้ายังมีชีวิตอยู่หนึ่งวัน ข้าก็จะดีต่อเจ้า”
“เช่นนั้นเจ้าจะมีชีวิตยืนยาว”
“อืม”
“พวกเรากลับบ้านเถอะ ทุกอย่างที่นี่ก็เห็นแล้ว ข้าเหนื่อย อยากพักเร็ว ๆ” หยางชิงซือกล่าวด้วยน้ำเสียงเขินอาย “อีกอย่าง เท้าข้ายังเจ็บอยู่เจ้าต้องแบกข้ากลับ”
“แน่นอนว่าต้องแบก หากเจ้าคิดจะเดินกลับเองข้าย่อมไม่มีความสุขแล้ว!”
หลิวจิ่วจู๋เห็นว่าเรื่องระหว่างหยางชิงซือกับจงซู่เกินเรียบร้อยแล้วจึงกลับเข้าเมือง
หลังจากกลับเข้ามาในเมืองก็ได้ยินว่าคุณชายถังผู้นั้นมาหา นางจึงไปสอบถามที่ร้านผ้าไหมของเขา
“เจ้านายเราไม่อยู่ขอรับ”
“เช่นนั้นเขาจะกลับมาเมื่อไหร่?” หลิวจิ่วจู๋เอ่ยถาม
“ตอนนี้ยังไม่รู้ขอรับ เจ้านายเราหาตัวน้องสาวที่หายไปนานพบแล้วจึงอยากพาน้องสาวกลับไปบ้านเกิด เกรงว่าในระยะเวลาสั้น ๆ นี้จะยังไม่กลับมาขอรับ”
“เช่นนั้นก็แล้วไปเถิด” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “ข้าได้ยินว่าเขามาหาข้าจึงอยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรหรือไม่เท่านั้น”
“อันที่จริงเป็นคุณชายน้อยที่อยากเล่นกับท่านขอรับ” ผู้จัดการร้านกล่าว “เพียงแต่ตอนนี้คุณชายน้อยกลับไปที่บ้านเกิดพร้อมกับเจ้านายแล้ว”
“ข้าทราบแล้ว”
หลิวจิ่วจู๋กลับไปที่บ้านของตนเอง
นางพึ่งเข้าบ้านก็เห็นผักตรงมุมบ้านตายไปหมดแล้ว คิ้วหญิงสาวขมวดมุ่น
เมื่อดูผักและผลไม้ที่อยู่บริเวณอื่นพบว่าล้วนเติบโตได้ดี มีเพียงผักและผลไม้ที่ปลูกติดกับบ้านสกุลหวังเท่านั้นที่ตายจนไม่เหลือแม้แต่ซาก
หลิวจิ่วจู๋มองดูคราบน้ำที่หลงเหลืออยู่บนผนังก็พอคาดเดาบางอย่างได้
ตัวเป่าวิ่งกระดิกหางเข้ามาหานาง
หลิวจิ่วจู๋ลูบขนของมันแล้วกล่าว “อย่ากระโดด ข้าจะไปหาอะไรให้เจ้ากิน”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
หลิวจิ่วจู๋เปิดประตูออก เห็นเพียงลู่ฉาวจิ่งยืนอยู่ตรงนั้น
“ท่านกลับมาได้อย่างไร?”
“วันนี้หยุดพักผ่อน”
“เช่นนั้นท่านไม่หยุดพักเร็วเสียหน่อย เช่นนี้จะได้เข้าร่วมงานแต่งของชิงซือกับพี่ซู่เกิน”
“ข้าบอกเขาแล้ว ทางนั้นมีเรื่องมากมายต้องจัดการ ปลีกตัวไปไหนไม่ได้จริง ๆ เขารู้สถานการณ์ของข้าดี ย่อมไม่ถือสา นอกจากนี้ ข้ายังให้เจ้าเตรียมของขวัญให้พวกเขาแล้วไม่ใช่หรือ?”
“ของขวัญย่อมมี เพียงแต่หากท่านไปร่วมงานแต่งด้วยตนเองได้ พวกเขาย่อมมีความสุขยิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอน”
“พรุ่งนี้ข้าต้องออกเดินทางไกล เจ้าอยู่ที่บ้านรักษาตัวให้ดีเถิด” สิ้นคำ ลู่ฉาวจิ่งก็ตะโกนไปข้างนอก “เข้ามา”
ชายชราผู้หนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก
ชายชราทักทายหลิวจิ่วจู๋ “ฮูหยิน”
“นี่คือ…”
“บ่าวรับใช้ของข้า” ลู่ฉาวจิ่งเอ่ย “ที่บ้านได้รับจดหมายที่ข้าส่งไปแล้วจึงส่งบ่าวรับใช้เก่าแก่ผู้หนึ่งมาดูแลข้า ตอนนี้ข้ามีธุระ ไม่อาจกลับไปได้จึงต้องรั้งอยู่ที่นี่ชั่วคราว”
“อ้อ” หลิวจิ่วจู๋พึมพำ “เพียงแค่ชั่วคราวหรือ เช่นนั้นภายหน้าท่านยังจะไปหรือไม่?”
“ถึงแม้ข้าไปก็จะพาเจ้าไปด้วย” ลู่ฉาวจิ่งลูบผมของนาง “หากเจ้าจะทำสิ่งใดต่อไปก็ให้เขาทำ เพื่อที่จะได้ดูแลเจ้าสะดวก ข้าจะให้เขาเป็นพ่อบ้าน ต่อไปจะซื้อบ่าวรับใช้ทำความสะอาดให้สองสามคน หากเจ้าไม่ถือ ข้าจะจ้างสาวใช้สองคนมาปรนนิบัติเจ้า”
“ข้าไม่อยากได้สาวใช้ ส่วนบ่าวรับใช้ทำความสะอาด… มีสักคนก็ได้ อย่างไรที่นี่ก็ไม่ได้ใหญ่โต ไม่มีที่ให้พวกเขาทำความสะอาดมากเพียงนั้น”
หลิวจิ่วจู๋ถามบ่าวชรา “ท่านชื่ออะไรหรือ?”
“บ่าวแซ่จางขอรับ”
“ไม่รบกวนขอรับ นี่เป็นเรื่องที่บ่าวสมควรทำ” พ่อบ้านจางกล่าว
“ท่านอย่าได้เรียกตนเองว่าบ่าวเลย ข้ารู้สึกไม่คุ้น” หลิวจิ่วจู๋กล่าวอย่างทำตัวไม่ถูก
“ขอรับ”
หลิวจิ่วจู๋ไปตระเตรียมอาหาร
พ่อบ้านจางเอ่ยถามลู่ฉาวจิ่ง “คุณชายรอง ท่านแต่งงานอยู่ข้างนอก คนที่บ้านยังไม่รู้ หากท่านอ๋องกับคุณชายใหญ่รู้แล้ว เกรงว่าจะโมโหนะขอรับ”
“เรื่องมันยาว รอข้ากลับเมืองหลวงแล้วจะอธิบายให้คนที่บ้านฟัง” ลู่ฉาวจิ่งกล่าว “ลุงจาง จิ่วเอ๋อร์เป็นผู้มีพระคุณของข้า หากไม่มีนาง ข้าคงตายไปนานแล้ว แน่นอนว่าข้ายินดีแต่งกับนาง ไม่ใช่เพื่อตอบแทนบุญคุณ หากแต่เป็นเพราะนางเป็นแม่นางที่ดีผู้หนึ่ง ข้ารู้สึกสบายใจที่ได้อยู่กับนาง”
“ขอเพียงนายน้อยคิดกระจ่างก็พอแล้วขอรับ”
หลิวจิ่วจู๋โผล่หัวออกมา “พ่อบ้านจาง รบกวนท่านไปซื้อเต้าหู้หน่อยเถิด ข้าจะทอดเต้าหู้ให้ท่านพี่กิน เขาชอบให้ข้าทำอาหารจานนี้มากที่สุดแล้ว”
“ขอรับ” พ่อบ้านจางรับคำแล้วหันไปมองลู่ฉาวจิ่ง “ตอนอยู่ที่จวนท่านมักจะเลือกกิน ตอนนี้ดีนัก แม้กระทั่งปัญหาการเลือกกินก็ยังหายขาด”
บ้านสกุลหวังข้าง ๆ หวังสือจู้เดินหิ้วน้ำเข้ามา เมื่อเห็นจางซื่อพิงอยู่ข้างกำแพง แอบฟังเสียงบ้านข้าง ๆ เขาก็ขมวดคิ้วแล้วเอ่ย “ท่านแม่ ท่านวุ่นวายอะไรอยู่?”
“นางปีศาจน้อยข้างบ้านมีผู้ชายมาหาอีกคนแล้ว” จางซื่อกล่าว “ข้าบอกแล้วว่านางดูไม่ใช่คนซื่อ บอกให้เจ้าอยู่ให้ห่างจากนาง พูดไม่ผิดเลย! นางจิ้งจอกผู้นี้มีตะขออยู่ในดวงตา ขอเพียงนางชายตามองเจ้าเพียงแวบเดียว แม้นจะเป็นบุรุษที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้าก็ไม่อาจต้านทานได้แม้แต่น้อย”
“ท่านแม่ เมื่อไม่กี่วันก่อนท่านเทน้ำเดือดลงข้างบ้าน ทำให้ผักที่อีกฝ่ายปลูกไว้ตายไปมากมาย ดีเพียงใดแล้วที่ผู้อื่นเขาไม่มาเอาความท่าน ท่านอย่าได้สร้างปัญหาอีกเลย ข้าได้ยินว่าสามีของนางเป็นขุนนาง ระวังเขาจะมาเอาความเราเถอะ”
“หากไม่มีหลักฐานจะมาเอาความพวกเราได้อย่างไร? ข้าเพียงแค่ไม่ชอบนาง หากข้าสามารถบีบให้นางออกไปจากที่นี่ได้ ข้าก็มีความสุข” จางซื่อเอ่ย “เจ้ากล่าวว่าเจ้าไม่ได้หลงกลนาง แต่ตอนนี้ไม่ใช่ว่าเจ้ากำลังพูดแทนนางทุกคำหรือไร?”