สืบแค้นคุณหนูสวมรอย – ตอนที่ 231 ลงทัณฑ์

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

ตอนที่ 231 ลงทัณฑ์

ทหารกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินสองนายก้าวมาตรงหน้าซินโย่วด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก

“ส่งคุณหนูโค่วไปคิดให้ดีๆ”

ซินโย่วถูกนำตัวไปในห้องมืดสลัว

ในห้องมีเพียงเตียงแข็งกระด้างหลังหนึ่ง มีหน้าต่างบานเล็กๆ อยู่บนกำแพงสูง กลิ่นความชื้นของไม้ผุลอยมากระทบจมูก

ซินโย่วถูกผลักเข้าไปแล้วประตูก็ปิดลงทันที พร้อมกับเสียงคล้องกุญแจประตูที่ดังอย่างไม่คิดปิดบังแม้แต่น้อย

ในห้องมืดและเงียบมาก บรรยากาศมีแต่ความกดดัน

ซินโย่วเดินไปนั่งข้างเตียง พิงกำแพงหลับตาพัก

รองเจ้ากรมต้วนได้รับจดหมายจากนายหญิงผู้เฒ่า คิดไปคิดมาแล้วก็ไปสำนักเป่ยเจิ้นฝู่ซือ

เขายังพอมีหน้ามีตาอยู่ภายนอกบ้าง หลานสาวแท้ๆ ถูกกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินนำตัวไป หากไม่ถามไม่ไถ่ แพร่ออกไปก็คงเสียหน้า

ไม่ว่าจะนำตัวนางออกมาได้หรือไม่ ก็ต้องไปสักครั้ง

ได้ยินลูกน้องรายงานว่ารองเจ้ากรมต้วนขอพบ เซียวเหลิ่งสือเลิกคิ้ว “เชิญเข้ามา”

รองเจ้ากรมต้วนก้าวเข้ามาในสำนักเป่ยเจิ้นฝู่ซือก็รู้สึกอึดอัด ตลอดทางที่เดินมาก็คิดจะหันหลังวิ่งกลับไป แต่พอคิดดูแล้ว ก็ยังคงฝืนทนเดินเข้าไปยังสถานที่บรรดาขุนนางบุ๋นบู๊ต่างพากันหลบเลี่ยง

“ใต้เท้าเซียว” พอเห็นเซียวเหลิ่งสือ รองเจ้ากรมต้วนก็รีบประสานมือ

หากว่ากันตามตำแหน่ง เจิ้นฝูสื่อสำนักหนานเป่ยเจิ้นฝู่ซือแห่งกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินมีระดับขุนนางขั้นสี่ชั้นระดับธรรมดา ต่ำระดับว่ารองเจ้ากรมพระราชยานหลวงที่เป็นขั้นสี่ระดับชั้นหนึ่งอยู่ครึ่งระดับ แต่คนหนึ่งเป็นขุนนางบุ๋น คนหนึ่งเป็นกองกำลังองครักษ์จิ่นหลิน ไม่มีผู้ใดโง่เง่าที่จะคิดเช่นนี้

มองจากท่าทีเยียบเย็นของเซียวเหลิ่งสือที่มีต่อรองเจ้ากรมต้วนก็รู้ได้

“ใต้เท้าต้วนมาที่นี่มีอันใด”

“ข้าได้ยินว่าหลานสาวถูกนำตัวว่าที่นี่ ไม่ทราบว่าด้วยเรื่องใด…”

รองเจ้ากรมต้วนรีบโบกมือ “มิกล้าๆ เพียงแต่ข้ามีหลานสาวคนเดียว หลานสาวคนนี้กำพร้าบิดามารดามานานแล้ว ข้าเป็นลุงจำต้องใส่ใจ…”

“ข้าพอเข้าใจความเป็นห่วงของใต้เท้าต้วน แต่คุณหนูโค่วเกี่ยวพันกับคดีลับ ไม่อาจบอกได้”

“เช่นนั้น…ไม่ทราบว่าจะให้นางกลับได้เมื่อใด”

“ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อาจเป็นวันนี้ อาจเป็นพรุ่งนี้ หรือหากไม่ราบรื่น อยู่สักสามวันห้าวันก็ไม่อาจทราบได้”

รองเจ้ากรมต้วนสีหน้าลำบากใจ “อย่างไรนางก็เป็นสาวน้อย ขอใต้เท้าเซียวโปรดเมตตาสักนิด ปล่อยนางกลับเร็วหน่อย…”

เซียวเหลิ่งสือแค่นเยาะ “พวกเราทำงานไม่ดี ก็ไม่อาจทูลรายงานได้ กองกำลังองครักษ์จิ่นหลินทำคดีแต่ไรมาก็มองเพียงว่าเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ ไม่สนใจว่าชายหรือหญิง”

รองเจ้ากรมต้วนยิ้มประจบ แต่ในใจกลับด่าทอ พูดเป็นหลักเป็นการจริง หากไม่รู้ ยังคิดว่าทำคดีมามากมายเท่าใด เจ้าสุนัขบุกรุกบ้านผู้อื่น!

ในยามนี้ รองเจ้ากรมต้วนพลันคิดถึงใต้เท้าเฮ่ออย่างมาก

อย่างน้อยท่าทีใต้เท้าเฮ่อต่อหลานสาวเขาก็ไม่เลว ไม่ส่งผลกระทบต่อจวนรองเจ้ากรม

“ใต้เท้าต้วนเชิญกลับไปเถอะ หากหลานสาวท่านไม่เกี่ยวข้องกับคดี ย่อมปล่อยนางกลับไปเอง”

รองเจ้ากรมต้วนได้แต่จำได้กลับไป พอออกจากประตูสำนักเป่ยเจิ้นฝู่ซือก็โล่งใจมองกลับไปยังสำนักเป่ยเจิ้นฝู่ซือที่ผู้คนพากันหลบเลี่ยง มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาแวบหนึ่ง หากหลานสาวตายอยู่ที่นี่ เงินพวกนั้นก็ย่อมกลับคืนมาสู่เขา

แต่ไม่นานเขาก็ส่ายหน้าสลัดความคิดนี้ทิ้ง

หากหลานสาวไม่ยอมสงบเสงี่ยมของเขาตายไปก็สมดังใจเขา แต่เพราะนางก้าวเข้าไปในสำนักเป่ยเจิ้นฝูซือกองกำลังองครักษ์จิ่นหลิน หากการตายของนางพลอยทำให้จวนรองเจ้ากรมเดือดร้อนไปด้วย ก็ย่อมได้ไม่คุ้มเสีย

ไม่เอ่ยถึงความคิดกลับไปกลับมาของรองเจ้ากรมต้วน ตอนซินโย่วตามกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินไป เสี่ยวเหลียนก็แอบออกจากจวนรองเจ้ากรมตรงไปร้านหนังสือชิงซง

“เสี่ยวเหลียน เหตุใดเจ้ากลับมาคนเดียว” หลิวโจวกำลังหยิบหนังสือที่เสียหายเล่มหนึ่งลงจากชั้นมาจัดการ พอเห็นเสี่ยวเหลียนมาคนเดียว ก็ถามอย่างงุนงง

ผู้ดูแลร้านหูผ่านประสบการณ์มามากมาย ในใจก็กระตุกวาบ “เกิดเรื่องใช่หรือไม่”

“ผู้ดูแลร้าน พวกเราไปคุยที่ห้องรับรอง”

ยามนี้ในห้องโถงใหญ่แม้ไม่มีลูกค้า แต่ไม่แน่ว่าอาจอยู่ๆ มีคนเดินเข้ามา

หลิวโจวไม่สนใจหนังสืออีก รีบตามไปพลางถามขึ้นว่า “ข้าฟังได้ด้วยหรือ”

“หลิวโจว เจ้าก็มาด้วย สือโถว เจ้าเฝ้าหน้าร้าน”

สามคนเข้าไปในห้องรับรอง หลิวโจวรีบปิดประตู

“เสี่ยวเหลียน แท้จริงเกิดเรื่องอันใดขึ้น เหตุใดไม่เห็นเจ้าของร้าน”

ตั้งแต่ซินโย่วถูกกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินนำตัวไป พอเอ่ยถึงเสี่ยวเหลียนก็ขอบตาร้อนผ่าว แต่นางติดตามซินโย่วมานาน ฝึกฝนมาไม่น้อย จึงสงบสติลงได้ “วันนี้มีคนจากกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินมาสองคน บอกว่าใต้เท้าพวกเขาต้องการพบเจ้าของร้าน แล้วก็นำตัวท่านเจ้าของร้านไป”

หลิวโจวตบมือ “ข้าก็ว่า กองกำลังองครักษ์จิ่นหลินสองคนนั้นดูเหมือนไม่ใช่คนดี! พวกเขารังแกท่านเจ้าของร้านหรือ”

ผู้ดูแลร้านหูกลับถามขึ้นว่า “หรือว่ากองกำลังองครักษ์จิ่นหลินสองคนนั้นไม่ใช่คนของใต้เท้าเฮ่อ”

“ใต้เท้าเฮ่อไปราชการนอกเมือง ผู้ใดจะรู้ว่าผู้บัญชาการที่ดูแลสำนักเป่ยเจิ้นฝู่ซือกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินตอนนี้ก็คือท่านใด” เสี่ยวเหลียนถอนหายใจ บอกเรื่องที่ซินโย่วกำชับมา

ผู้ดูแลร้านหูกับหลิวโจวพยักหน้าไม่หยุด

คืนนี้ซินโย่วพักในห้องที่เย็นและมืดสลัวในสำนักเป่ยเจิ้นฝู่ซือ แต่นางไม่ได้ฝันร้าย ถึงกับหลับสบายกว่าหลายวันก่อน

วันต่อมาเซียวเหลิ่งสือก็เห็นสาวน้อยสีหน้าแช่มชื่นอย่างมาก

เขาจ้องมองใบหน้าซินโย่วเป็นนาน จากการมองประเมินกลายเป็นความโมโห

เขาคิดว่าคุณหนูสูงศักดิ์ที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีมาอยู่ในสถานที่เช่นนี้คืนหนึ่งก็คงรู้สึกหวาดกลัว ปรากฏว่าไม่เพียงแต่สีหน้าคุณหนูท่านนี้โค่วไร้ความหวาดกลัว แต่ยังถึงกับมีสีหน้าแจ่มใสทอประกาย

นี่คือการยั่วโมโห ตั้งใจยั่วโมโหเต็มที่!

เซียวเหลิ่งสือหรี่ตาตี่ลงพร้อมกับเอ่ยน้ำเสียงเยียบเย็น “คุณหนูโค่ว เมื่อคืนนี้หลับสนิทไม่เลว”

“ข้าหลับได้ทุกที่”

“คุณหนูโค่วคิดได้แล้วหรือยัง”

“ที่ข้าพูดไปล้วนเป็นความจริงทุกคำ หากใต้เท้าเซียวไม่เชื่อ ข้าก็จนปัญญา”

“ดูท่าคุณหนูโค่วคงต้องเปลี่ยนสถานที่…”

ซินโย่วถูกนำตัวไปห้องใหม่ กล่าวให้ชัดเจนก็คือห้องลงทัณฑ์ ทันทีที่ก้าวเข้าไป กลิ่นคาวโลหิตรุนแรงก็กระทบจมูก กำแพงและพื้นล้วนเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบคล้ายโลหิต

“ได้ยินว่าคุณหนูโค่วมีความสัมพันธ์กับใต้เท้าเฮ่อไม่เลว เคยมาสำนักเป่ยเจิ้นฝู่ซือด้วย คิดว่าใต้เท้าเฮ่อไม่เคยพาคุณหนูโค่วมาที่เช่นนี้กระมัง”

วาจาประสงค์ร้ายชัดเจน มีน้ำเสียงข่มขู่จะลงทัณฑ์ และยังแฝงนัยเสียดสีในเรื่องหญิงชาย

แต่ในสายตาเซียวเหลิ่งสือ สาวน้อยตรงหน้าดังบ่อน้ำเก่า สงบนิ่งจนทำให้รู้สึกประหลาดใจ

แท้จริงนางมีความมั่นใจอันใด จึงสงบนิ่งเช่นนี้ได้

เซียวเหลิ่งสือพยักหน้าให้ทหารองครักษ์จิ่นหลินนายหนึ่ง “ทำให้คุณหนูโค่วได้เข้าใจสักหน่อยว่าสถานที่นี้ใช้ทำอันใด”

องครักษ์กองกำลังองครักษ์จิ่นผู้นั้นหลินเดิมเป็นนายกองร้อยลงทัณฑ์ ติดตามอดีตผู้บัญชาการสำนักเป่ยเจิ้นฝู่ซือใกล้ชิด แต่เพราะลงมืออำมหิต ไม่เป็นที่พอใจของเฮ่อชิงเซียว หนึ่งปีกว่ามานี้ได้แต่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้เยียบเย็นไม่มีงานทำ ตอนนี้กว่าได้จะได้โอกาสนี้มา ย่อมไม่ลังเล

เขากุมแส้ยาวเส้นหนึ่งในมือ สะบัดแส้อย่างชำนาญงดงาม ฟาดใส่ร่างซินโย่วอย่างไม่ออมแรง

ยามนี้ร้านหนังสือชิงซงกำลังคึกคัก

ประกาศวางขาย ‘บันทึกตะวันตก’ เล่มสามติดที่มุมสะดุดตานอกร้านหนังสือ ไม่นานหน้าประตูก็มีผู้คนมาเข้าแถวยาวเป็นมังกรยาว

‘บันทึกตะวันตก’ ออกมาสองเล่มแล้วย่อมมีผู้อ่านที่ซื่อสัตย์ใหลหลงอยู่จำนวนมาก ลูกค้าที่หลงใหล ‘บันทึกตะวันตก’ คนหนึ่งเพิ่งได้นิยายใหม่มาครอง ก็รีบถามขึ้นว่า “เล่มสี่วางขายเมื่อไร”

คนงานถูกถามก็มีสีหน้าเหม่อลอยไปไกล

“เจ้า?”

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

Status: Ongoing
เมื่อมารดาถูกสังหาร ซินโย่วจึงมายังเมืองหลวงเพื่อสืบหาตัวฆาตกร แต่เมื่อสืบลึกลงไปก็กลับต้องพบกับความจริงอันน่าตกใจภายในนั้น…รายละเอียด นิยายรัก-สืบสวน ครบรสจากนักเขียนมากฝีมือ ‘ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย’ขณะที่ ซินโย่ว กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อสืบหาเบาะแสสำคัญของฆาตกรสังหารมารดาก็ได้บังเอิญจับพลัดจับผลูตกหน้าผาแล้วเข้าสวมรอยฐานะของ โค่วชิงชิง คุณหนูหลานนอกของจวนรองเจ้ากรมพระราชยานหลวงเข้าเพราะทรัพย์สินมากมายโค่วชิงชิงจึงถูกญาติที่มาหวังพึ่งพิงผลักตกหน้าผาจนถึงแก่ความตาย นั่นทำให้นางได้เข้ามาสวมฐานะของอีกฝ่ายซินโย่วนั้นมีดวงตาที่พิเศษกว่าคนทั่วๆ ไป นางสามารถมองเห็น ‘เรื่องร้าย’ ที่จะเกิดขึ้นกับคนผู้หนึ่งได้โดยไม่เลือกว่าจะเป็นผู้ใด เวลาไหนประกอบกับไหวพริบอันชาญฉลาดทำให้นางสามารถอยู่ในสถานะนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนักเพื่อสืบเรื่องฆาตกรสังหารมารดาซินโย่วจำต้องใช้ฐานะใหม่ที่มีสืบหาเบาะแสจาก ‘บันทึกโบตั๋น’ เปื้อนเลือดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุยิ่งสืบลงลึกเรื่องราวก็เหมือนจะซับซ้อนยิ่งกว่านั้นเรื่องราวในอดีตเบาะแสที่โยงใยสืบเนื่องกันมา ได้เวลาเผยโฉมแล้ว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท