รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 987 หลี่จิ่วเต้า ‘พวกเจ้าช่างดุดันยิ่งนัก ใจเย็นลงก่อนเถิด’

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 987 หลี่จิ่วเต้า ‘พวกเจ้าช่างดุดันยิ่งนัก ใจเย็นลงก่อนเถิด’

บทที่ 987 หลี่จิ่วเต้า ‘พวกเจ้าช่างดุดันยิ่งนัก ใจเย็นลงก่อนเถิด’

ใช่แล้ว

คนกลุ่มนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากพวกหลี่จิ่วเต้า

พวกเขาเพิ่งจะมาถึงยังอาณาจักรแห่งนี้ และกำลังเตรียมจะชื่นชมทัศนียภาพ ทว่ากลับพบเข้ากับร่างจำแลงปรโลกที่บ่นถึงพวกเขาอยู่!

พวกลั่วสุ่ยเกือบจะอดทนข่มกลั้นไว้ไม่ได้ อยากจะหัวเราะก็ไม่สามารถหัวเราะได้

ร่างจำแลงปรโลกนั้นน่าสนใจยิ่งนัก ถึงกับกล้าบ่นกล้าแซะออกมาต่อหน้าคุณชาย!

ต้องกล่าวว่าร่างจำแลงปรโลกนั้นเต็มไปด้วยโชคร้าย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ถูกคนตามล่า

หลี่จิ่วเต้าเองก็รู้สึกว่าน่าสนใจเช่นกัน

เขาลอบถอนหายใจ บางครั้งเปลี่ยนเป็นอีกตัวตนหนึ่งก็สนุกไม่น้อย ไม่เช่นนั้นจะได้ยินคำบ่นแซะเช่นนี้ได้อย่างไร!

ทั้งยังเป็นคำบ่นแซะที่มาจากศัตรู!

นี่นับเป็นครั้งแรก

“ทว่าทั้งสามคนนั่นไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง ความโชคร้ายของข้าน่าจะยังไม่จบลง อาจถูกตามตัวเจอได้”

ร่างจำแลงปรโลกยังคงไม่ตระหนักสิ่งใด เอ่ยพูดออกมาต่อ

“ไม่ ไม่ ไม่ ข้าคิดว่าโชคร้ายของเจ้าไม่ได้หยุดอยู่ที่สามคนนั้น…”

หลี่จิ่วเต้ายิ้มบาง

“หมายความว่าอย่างไร?!”

ในที่สุดร่างจำแลงยมโลกก็ตอบสนอง รู้สึกว่าคำพูดของหลี่จิ่วเต้ามีปัญหาอยู่อย่างมาก

“พวกเจ้าเองก็เป็นศัตรูของหลี่จิ่วเต้าหรือ?”

เขาอดเอ่ยออกมาไม่ได้ สงสัยว่าคนเหล่านี้เองก็เป็นศัตรูของหลี่จิ่วเต้า ไม่เช่นนั้นคงไม่พูดขึ้นมาว่าโชคร้ายของเขาไม่ได้หยุดอยู่ที่สามคนนั้น

“ไม่ใช่ หลี่จิ่วเต้า คุณชายหลี่อ่อนโยนสง่างามถึงเพียงนี้ ทั้งยังจิตใจดีมีเมตตา จะมีศัตรูมากมายปานนั้นได้อย่างไรกัน”

ลั่วสุ่ยหัวเราะภายในใจ คุณชายช่าง ‘ซน’ เสียจริง ดูการอวดโอ้นั้นสิ!

“แล้วพวกเจ้าเป็นใคร?!”

ร่างจำแลงปรโลกเปลี่ยนทีท่าเป็นระแวดระวัง คนกลุ่มนี้อาจเกี่ยวข้องกับหลี่จิ่วเต้า เป็นคนติดตามของอีกฝ่าย!

“สวัสดี พวกเรามาทำความรู้จักกันใหม่ ข้าคือหลี่จิ่วเต้า”

หลี่จิ่วเต้ายิ้มบาง ๆ เปิดเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงออกมา

“ว่าอะไรนะ!”

ร่างจำแลงปรโลกกระเด้งตัวขึ้นด้วยท่าทางแปลกประหลาดยิ่ง

เขาแซะอย่างจริงจังเสียตั้งนาน…ต่อหน้าเจ้าตัวอย่างนั้นหรือ?!

ตอนนี้เขาไม่รู้จะกล่าวอันใดออกมา ควรจะกล่าวว่าเขาโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่!

“นี่เป็นโชคดี!”

เขาตื่นเต้นขึ้นมา นี่จะเรียกว่าโชคร้ายได้อย่างไร!

นับว่าเป็นโชคดีอย่างแท้จริง!

ไม่เช่นนั้นเขาจะตามหาหลี่จิ่วเต้าที่หนีไป พบได้อย่างไร?

ไม่รู้ต้องใช้เวลาเพียงเท่าใดจึงจะพบ!

เสียงชิ้งดังขึ้น เขาชักดาบใหญ่ออกมาฟันตรงไปทางชายหนุ่ม

เขาคิดจะจับหลี่จิ่วเต้าเสียก่อน จากนั้นค่อยตรวจสอบความทรงจำของอีกฝ่ายเพื่อให้ทราบสิ่งที่เขาต้องการจะรู้

อย่างไรเสียสามคนนั้นก็ยังคงตามหาเขาอยู่ อาจโดนพบเมื่อใดก็ได้ เขาจึงไม่กล้าชักช้า

จำแลงปรโลกลงมือทันทีอย่างไม่มีเก็บงำ ต้องการจะจัดการหลี่จิ่วเต้าลงภายในครั้งเดียว!

ทว่าเพียงหลี่จิ่วเต้าเรียกต้นวิเศษสัตตะออกมาโบกบนอากาศ พลังของร่างจำแลงปรโลกก็ถูกปัดเป่าออกไปในบัดดล

เสียงตุบดังขึ้น ร่างจำแลงปรโลกตกลงไปบนพื้นอย่างแรง กินโคลนเข้าไปเต็มปาก

“นี่ยังนับว่าเป็นโชคดีอยู่หรือไม่!”

ร่างจำแลงปรโลกร้องไห้ออกมาแล้ว

โชคดีอันใด ไม่ใช่เช่นนั้นเลย เขายังคงโชคร้ายเหมือนเก่า!

“บอกมาเสียว่าเจ้ามาหาข้าด้วยเหตุอันใด”

หลี่จิ่วเต้ามองไปยังร่างจำแลงปรโลก แม้ว่าภายในใจของเขาจะมีการคาดเดาเอาไว้แล้ว ทว่าก็ยังคงถามออกมา

“เพื่อของที่อยู่บนร่างเจ้า”

ร่างจำแลงปรโลกไม่คิดปิดบัง

เนื่องจากเขาตระหนักได้ว่าปิดบังไปก็ไร้ค่า หลี่จิ่วเต้าแข็งแกร่งยิ่งกว่าเขามากโข!

ทว่ายังมีเรื่องอีกจำนวนมากที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้

ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากพูด แต่เป็นเพราะเขาเองก็ไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด

เกี่ยวกับที่มา หรือเขาทำงานให้ผู้ใด เขาล้วนไม่มีความทรงจำส่วนนั้นอยู่ในหัว

“เป็นเช่นนี้…”

หลี่จิ่วเต้าหรี่ตาลง เป้าหมายของร่างจำแลงปรโลกเป็นไปตามที่เขาคิด

มุ่งเป้ามาที่เหล่าของบนตัวเขาอย่างที่คาด

“อีกสามคนก็น่าจะตามมาเช่นกัน” ชายหนุ่มครุ่นคิด

“อย่าได้คิดวุ่นวายอันใด ของเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าสามารถแตะต้องได้”

หลี่จิ่วเต้ามองร่างจำแลงปรโลกแล้วกล่าวออกมา “จากนี้ไปก็ฝึกฝนให้ดี อย่าได้คิดเรื่องวุ่นวายเช่นนี้อีก ไม่เช่นนั้นคราวหน้าข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปโดยง่าย!”

คุณชายสมกับเป็นคุณชาย แข็งแกร่งอย่างแท้จริง ตระหนักรู้ได้ตั้งแต่แรกว่านี่เป็นเพียงร่างจำแลง จึงไม่ลงมือสังหาร ต้องการให้กลับไปส่งข้อความอย่างนั้นหรือ?

ต้นหลิวถอนหายใจอยู่เงียบ ๆ เมื่อเทียบกับคุณชายแล้ว มันเองยังไม่รู้ว่ามีช่องว่างมากมายเพียงใด

นี่เป็นร่างจำแลงพิเศษ ตัดเหตุต้นผลกรรมไปสิ้น ก่อนหน้านี้มันมองไม่ออกแม้แต่น้อย ทว่าหลังจากที่คุณชายปัดเป่าร่างจำแลงปรโลกแล้ว มันจึงมองออกได้ว่านี่เป็นเพียงร่างจำแลง

ตัดเหตุต้นกรรมทิ้งทำให้ร่างจำแลงไม่มีความเชื่อมโยงใดกับร่างเดิม อีกทั้งร่างจำแลงเองก็ไม่รู้สิ่งใดเกี่ยวกับร่างต้น

คุณชายไม่ได้สังหารร่างจำแลง เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการปล่อยให้ร่างจำแลงส่งข่าวไปยังร่างต้น ตักเตือนให้หยุดความคิดวุ่นวาย

“เอาละ จัดการเจ้าคนเดียวคงไม่เป็นธรรม เช่นนั้นก็ล่ออีกสามคนมาด้วยเลยแล้วกัน”

หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้มระหว่างเอ่ยกับร่างจำแลงปรโลก

อีกสามคนเองก็คิดมุ่งเป้ามาที่เขาเช่นกัน เขาไม่ชอบใจเอาเสียเลย จึงคิดตามหาทั้งสามจับมาสนทนาดี ๆ กันสักครา

ชายหนุ่มโบกต้นวิเศษสัตตะในมืออีกครั้ง พลังของร่างจำแลงปรโลกที่ถูกปัดเป่าพลันฟื้นกลับมาในพริบตา

“อย่าได้คิดหนี เจ้าเองก็น่าจะตระหนักได้ดี ข้าสามารถปัดเป่าพลังเจ้าได้อย่างง่ายดาย ย่อมสังหารเจ้าได้อย่างไม่ยากเย็นเช่นเดียวกัน!”

เขากล่าวกับร่างจำแลงปรโลก

“เข้าใจแล้ว!”

ร่างจำแลงปรโลกพยักหน้าไม่หยุด ตระหนักได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งที่หลี่จิ่วเต้าพูดเป็นความจริง

เพียงแค่โบกมือพลังทั้งหมดของเขาก็ถูกปัดเป่าทันที หากหลี่จิ่วเต้าต้องการชีวิตเขาก็สามารถลงมือได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

“ไป”

ชายหนุ่มยิ้มพร้อมเอ่ยไล่ร่างจำแลงปรโลก สั่งให้เขาเริ่มเคลื่อนไหว

ร่างจำแลงปรโลกทะยานขึ้นไปบนยอดเขาแห่งหนึ่ง จากนั้นก็ตะโกนเสียงดัง

“เจ้าตัวโง่งมสามตัว ข้าบอกว่าไม่ใช่ แต่พวกเจ้าก็ยังคงไล่ตามไม่หยุด! น่ารำคาญยิ่งนัก รีบออกมาสู้กันซะ ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด!”

เขาตะโกนออกมาอย่างเย็นชา เสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งอาณาจักร เขารู้ว่าคนทั้งสามกำลังตามหาเขาในอาณาจักรแห่งนี้

เพียงแค่พึ่งพาวิชาลับก็สามารถสลัดสามคนนั้นหลุดไปได้หรือ?

เป็นไปไม่ได้!

เขาไม่ได้แข็งแกร่งปานนั้น วิชาลับเองก็ไม่ได้ทรงพลังเพียงพอ

อย่างมากสุดก็ทำได้เพียงแค่ให้ทั้งสามคนไม่อาจสัมผัสถึงเขาได้ชั่วคราวเท่านั้น

ชั่วพริบตาต่อมา ก็รับรู้ได้ถึงลมหายใจของทั้งสามคนที่เพ่งเป้ามาทางเขา

ทันใดนั้นเอง ร่างจำแลงปริภูมิเวลา ร่างจำแลงต้นหม่อนโบราณ และหุ่นเชิดนักพรตกู่พลันปรากฏตัวขึ้น

พวกเขาต่างยืนอยู่ในความสูงที่แตกต่างกันไปบนท้องนภา มองดูร่างจำแลงปรโลกอย่างพร้อมเพรียงด้วยรอยยิ้มเย็นชา

พวกเขาไม่ได้คิดอันใดมาก เข้าใจว่าร่างแปลงปรโลกเพียงแค่ถูกพวกเขาไล่ตามอย่างบ้าคลั่งจนรู้ตัวว่าหนีไม่พ้น จึงเผยตัวออกมา

“สวัสดีทั้งสามท่าน มาสนทนากันเถิด” หลี่จิ่วเต้าเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง ๆ

ร่างจำแลงปริภูมิเวลา ร่างจำแลงต้นหม่อนโบราณ และหุ่นเชิดนักพรตกู่รับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติ หันมองไปทางหลี่จิ่วเต้า

พวกเขาจดจำหลี่จิ่วเต้าได้ทันที เพราะตอนนี้หลี่จิ่วเต้าอยู่ในรูปลักษณ์ที่แท้จริงของตนเอง

ตู้ม!

เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังกัมปนาท ทั่วทั้งอาณาจักรสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พวกเขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย พุ่งตรงเข้าใส่หลี่จิ่วเต้าทันที

ทั้งหมดล้วนตัดขาดจากเหตุต้นผลกรรม ภายในหัวมีเพียงแค่ภารกิจหนึ่งเดียว นั่นคือจัดการหลี่จิ่วเต้า ค้นความทรงจำและนำสิ่งของบนตัวอีกฝ่ายไป

พลังอันน่าหวาดกลัวแผ่ซ่าน ต่างคนต่างชวนให้พรั่นพรึงเป็นอย่างยิ่ง แม้จะเป็นเพียงร่างจำแลง ทว่าพลังที่มีก็ยังก้าวข้ามขอบเขตอิสระ อยู่เหนือขอบเขตอิสระ!

พวกเขาต่างรู้ว่าหลี่จิ่วเต้านั้นไม่อาจต่อกรได้โดยง่าย จึงเรียกสมบัติขึ้นมาในมือ ทั้งยังใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมด!

พลังเหล่านี้น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งขั้นเก้าขอบเขตอิสระยังไม่อาจเทียบเคียง ช่องว่างใหญ่เกินไป จะต้องถูกสังหารทิ้งในพริบตาอย่างแน่นอน!

“พวกเจ้าช่างดุดันยิ่งนัก ใจเย็นลงก่อนเถิด”

หลี่จิ่วเต้าโบกต้นวิเศษสัตตะ แสงสีรุ้งทอประกายในฉับพลัน ร่างจำแลงปริภูมิเวลา ร่างจำแลงต้นหม่อนโบราณ และหุ่นเชิดนักพรตกู่ถูกปัดเป่าพลังทิ้ง ต่างพากันร่วงหล่นลงจากฟ้าสูง ก่อเกิดเป็นหลุมใหญ่บนแผ่นดินจนขุนเขาสะเทือน

น่าหวาดกลัวถึงเพียงนี้?!

พวกร่างจำแลงปริภูมิเวลาตื่นตะลึง คาดไม่ถึงสักนิดว่าหลี่จิ่วเต้าจะน่ากลัวถึงเพียงนี้!

นั่นคือสมบัติใดกัน?

ดูราวกับเป็นกิ่งไม้ที่หักออกมาอย่างไม่ใส่ใจ ทว่ากลับน่าสะพรึงกลัวอย่างไม่อาจจินตนาการได้ ปัดเป่าพลังทั้งหมดของพวกเขาได้ภายในคราวเดียว!

“ทั้งสามท่านบอกมาทีว่าเหตุใดจึงมาตามหาข้า”

หลี่จิ่วเต้าเดินเข้าไปแล้วเอ่ยปากถาม

เขาคาดเดาได้แล้ว ทว่ายังต้องการยืนยันอีกครั้ง

พวกร่างจำแลงปริภูมิเวลาทั้งสามไม่ได้ปิดบังเช่นกัน บอกจุดประสงของพวกเขาออกมา ล้วนแล้วแต่มุ่งเป้ามายังสมบัติบนร่างหลี่จิ่วเต้า

ต่อหน้าหลี่จิ่วเต้าที่ทรงพลังเพียงนี้ พวกเขาตระหนักได้เป็นอย่างดีว่าตนเองไม่สามารถปิดซ่อนความลับอันใดเอาไว้ได้

“กลับไปเสีย ของเหล่านี้เป็นของข้า อย่าคิดวุ่นวาย”

ชายหนุ่มตักเตือนพวกร่างจำแลงปริภูมิเวลาทั้งสาม จากนั้นก็ปล่อยทั้งสามไป

ร่างจำแลงปรภพเองก็จากไปแล้ว

“สามัญคือหนทางอันดี…”

หลี่จิ่วเต้าถอนหายใจ เห็นความสำคัญของการทำตัวสามัญมากขึ้นเรื่อย ๆ หากก่อนหน้านี้เขาทำตัวไม่โดดเด่น คงไม่ดึงดูดผู้คนจำนวนมากมาสร้างปัญหาให้มากมายถึงเพียงนี้

เพราะเมื่อเผชิญกับพลังที่แข็งแกร่งอย่างสิ้นเชิง สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเพียงเมฆาที่ล่องลอยอยู่บนอากาศ

และเขาก็มีพลังแข็งแกร่งเพียงพอ

ภารกิจล้มเหลว ร่างจำแลงทั้งสี่แยกย้ายจากไป ส่งข่าวกลับมาด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน

ร่างจำแลงปรโลกมาถึงยังสถานที่แห่งหนึ่ง

นี่คือสถานที่ที่ถูกประทับเอาไว้ภายในหัว ไม่ว่าภารกิจจะสำเร็จหรือล้มเหลว เขาก็ต้องมาสถานที่แห่งนี้

เมื่อมาถึง พลังอันน่าหวาดกลัวก็ปะทุขึ้นมาทันที ฉีกร่างของเขาเป็นชิ้น ๆ แสดงความทรงจำวิญญาณออกมาส่งไปยังหลายแห่ง

จากนั้นพลังอันน่าหวาดกลัวก็ทำลายร่างจำแลงปรโลกลงอย่างสมบูรณ์

นี่คือพลังที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ยังสถานที่แห่งนี้ สำหรับเอาไว้ทำลายร่างจำแลงปรโลก

สามมหากาฬแห่งปรโลกระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก กลัวว่า ‘โรค’ เหล่านั้นจะติดตามร่างจำแลงปรโลกมาพบพวกเขาเข้า

อีกด้านหนึ่ง พวกร่างจำแลงปริภูมิทั้งสามก็เกิดเรื่องเหมือนกัน

จ้าวปริภูมิเวลา ต้นหม่อนโบราณ และนักพรตกู่ล้วนระมัดระวังตัวไม่ต่างกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ถูก ‘โรค’ ตามตัวมาพบ พวกเขาได้เตรียมวิธีการต่าง ๆ เอาไว้ทำลายร่างจำแลงและหุ่นเชิดให้สิ้นซาก!

แน่นอนว่าก่อนที่ร่างจำแลงและหุ่นเชิดจะถูกทำลาย ความทรงจำทั้งหมดต่างถูกส่งไปยังสถานที่ที่พวกเขาจัดเตรียมเอาไว้

“ล้มเหลว? แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียว!”

สามมหากาฬแห่งปรโลกล่วงรู้เรื่องราวทั้งหมด สีหน้าแต่ละคนต่างจริงจังยิ่ง

ทว่าประกายในดวงตาของพวกเขาล้วนสว่างไสว

“ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ขอเพียงแค่ได้รับต้นวิเศษสัตตะมา พวกเราก็จะสามารถปกป้องตนเองได้”

พวกเขาไม่ได้ใส่ใจกับคำเตือนของหลี่จิ่วเต้า

กลับกันเสียด้วยซ้ำ เมื่อได้เห็นถึงความน่าสะพรึงกลัวของต้นวิเศษสัตตะ ยิ่งทำให้พวกเขาคิดอยากลงมือมากกว่าเดิม!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท