ตอนที่ 702 ผ่าท้องเอาเด็กออก
คำพูด ‘โหดร้าย’ ของฉินหลิวซี ทำให้ผู้คนในห้องคลอดต่างตะลึงงัน ใบหน้าซีดขาวกันหมด
นี่ ไม่เท่ากับว่าจะเอาหนึ่งร่างสองชีวิตเลยหรือ
ฮูหยินเฉาผู้เฒ่าถลึงตามองฉินหลิวซี แม่นางน้อยผู้นี้ นางกล้าได้อย่างไร กล้าได้อย่างไร
แต่นางมองไปยังลูกสะใภ้ที่นอนหน้าซีดขาวไร้สีเลือดหายใจรวยรินอยู่บนเตียง อีกทั้งท้องใหญ่โตทว่าไม่มีความเคลื่อนไหวนั่น หัวใจกระตุกเกร็ง รู้สึกปวดใจขึ้นมา
เป็นสตรีด้วยกันทั้งนั้น และเป็นคนที่ผ่านสิ่งต่างๆ มาก่อน มีอายุอยู่มาจนถึงปูนนี้ ตนเองก็เคยให้กำเนิดลูกในตอนอายุเพียงนี้ เคยทุกข์ทรมานมาก่อน เมื่อถึงวัยชราบุตรชายก็จากไปแล้ว ลูกสะใภ้ตั้งครรภ์หลังจากสามีนางตายไป ทุกครั้งที่เชิญหมอมาตรวจชีพจร มีครั้งใดบ้างไม่บอกให้ปล่อยใจให้สงบ
แต่ลูกสะใภ้กลับไม่รับฟัง ทุกข์ระทมอยู่เช่นนั้น ทุกข์ทมมาจนถึงตอนนี้ ซ้ำยังมีข่าวร้ายที่น่าสิ้นหวังเช่นนี้อีกหรือ
ฮูหยินเฉาผู้เฒ่าอยากตำหนิฉินหลิวซีมาก แต่วาจามาถึงปาก กลับกลายเป็นน้ำตาที่ร่วงผล็อยลงมา
ในใจนางเข้าใจแจ่มแจ้ง สภาพของลูกสะใภ้เช่นนี้ ไหนเลยจะคลอดลูกออกมาได้
ด้านนอก เมื่อยมทูตมาถึง เจ้าอาวาสอารามชิงหลายที่มีสัมผัสไวก็รู้สึกได้ทันที ลุกขึ้นด้วยสีหน้าตึงเครียด มองเข้าไปในห้องคลอด มือนับข้อนิ้ว ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เขามองไปทางแม่ทัพอาวุโสเฉาท่าทีอึกอักราวกับอย่างเอ่ยสิ่งใด
หัวใจของแม่ทัพอาวุโสเฉาเต้นระรัวขึ้นมา กระสับกระส่ายไม่น้อย
ฉินหลิวซีกลับไม่เสียเวลาพูดมากกับฮูหยินเฉาผู้เฒ่า เพียงมองไปยังหมอตำแย เอ่ยถามหนึ่งรอบ “เจ้าดึงเด็กออกมาได้หรือไม่”
ความจริงหมอตำแยรู้อยู่แก่ใจ ฮูหยินน้อยผู้นี้ในสภาพอย่างนี้ ช่องคลอดเปิดช้าไม่ว่า ยังมีไอแห่งความตายเข้มข้นไม่มีโอกาสรอดชีวิต ไม่มีทางคลอดเด็กออกมาได้ นางรู้ว่าเงินรางวัลคงไม่ได้ ไม่แน่ยังมีคนต้องตาย กำลังกระวนกระวายอยู่ในใจ
ฉินหลิวซียังมาถามนางว่าดึงเด็กออกมาได้หรือไม่ นางตกใจแทบตายอยู่แล้ว สองมือสั่นเทาจนไม่อาจยกขึ้นมาได้ เอ่ยพร้อมเสียงร้องไห้ “ข้า ข้าทำไม่ได้”
ฉินหลิวซีเห็นเช่นนั้นไม่เอ่ยให้มากความ มองไปยังเฉาหลินซื่อ รวมไปถึงเด็กในท้องของนางที่โอกาสรอดชีวิตน้อยลงเรื่อยๆ ยื่นมือออกมาส่งพลังชี่เข้าไปที่ท้องของนาง
“ฮูหยินผู้เฒ่า หากยื้อเวลาต่อไปคงเป็นจุดจบของหนึ่งร่างสองชีวิตแล้ว หากอยากช่วยชีวิตเด็กเอาไว้ ข้าผ่าท้องเอาเด็กออกมาได้”
ฮูหยินเฉาผู้เฒ่าเพิ่งถูกประคองขึ้นมา ได้ยินวาจานี้ขาพลันอ่อนแรงอีกครั้ง ริมฝีปากสั่นเอ่ย “เจ้า เจ้า”
หมอตำแยเองก็อ่อนยวบไปทั้งตัว ผ่าท้องเอาเด็กออกอย่างนั้นหรือ
นี่ไม่ได้แตกต่างไปจากการฆ่าคนเลยมิใช่หรือ
“ท่านรีบตัดสินใจเถิด” สีหน้าของฉินหลิวซีเย็นชา “พวกเขารอไม่ได้แล้ว เหลือเวลาอีกครึ่งเค่อ”
ฮูหยินเฉาผู้เฒ่ากัดปลายลิ้นแรงๆ หันหน้าเล็กน้อย สาวใช้ด้านข้างเดินออกไป ทว่านางกลับเอ่ย “เชิญท่านเจ้าอาวาสชิงหลานเข้ามา”
สาวใช้ผู้นั้นเดินออกไป บอกกล่าวคำของฉินหลิวซีให้กับแม่ทัพอาวุโสเฉาไปด้วย
แม่ทัพอาวุโสเฉาได้ยินวาจานี้ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาว แทบเป็นลมล้มไป น้ำตาไหลทะลัก “สวรรค์จะทำลายตระกูลเฉาของข้า”
อดีตเสนาบดีหวังรู้สึกประหลาดใจและไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ประคองเขาขึ้นมา เอ่ย “เหล่าเฉา ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเสียใจ รีบตัดสินใจเถิด”
“ไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือ”
“หากมี ข้าเชื่อว่าท่านเจ้าอาวาสน้อยจะไม่เอ่ยเช่นนี้”
น้ำตาของแม่ทัพอาวุโสเฉาไหลนอง
เมื่อเจ้าอาวาสชิงหลานเข้าไป พลันสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็น มองไปทางยมทูตยืนอยู่โดยไม่รู้ตัว เพียงมอง หัวใจพลันจมดิ่งลง
มียมทูตมารอแล้ว นั่นหมายความว่ามีเวลาอีกไม่มากแล้ว
ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นเขาราวกับเห็นดวงดาวช่วยชีวิต เอ่ย “ท่านเจ้าอาวาส ท่านช่วยดูลูกสะใภ้ข้า พวกเขาแม่ลูก…”
“ฮูหยินผู้เฒ่า เวลาของฮูหยินน้อยมีไม่มากแล้ว” เสียงของเจ้าอาวาสชิงหลานฝืดเฝื่อน
มือของฮูหยินผู้เฒ่าชะงักงัน ทิ้งลงมา
“ผ่าเถิด”
ท่ามกลางความเงียบงันในห้องคลอด เสียงไร้เรี่ยวแรงพลันดังขึ้นมา
เฉาหลินซื่อฟื้นแล้ว นางไม่รู้ว่าจวนจะตายหรือไม่ นางมองเห็นยมทูตที่มายืนรออยู่มุมมุมหนึ่ง สายตากวาดผ่านร่างเขาไป จากนั้นมาหยุดอยู่ที่ฉินหลิวซี สบเข้ากับดวงตาของนาง ริมฝีปากที่ไม่มีสีเลือดเอ่ยหนึ่งคำออกมา “ผ่า”
ฉินหลิวซีหยิบผลหลิงกั่วป้อนใส่ปากให้นางกินลงไป
เฉาหลินซื่อรู้สึกว่าร่างกายมีเรี่ยวแรงขึ้นมา
“ฉินเหนียง” ฮูหยินเฉาผู้เฒ่ามองลูกสะใภ้ด้วยความทุกข์ใจ
เฉาหลินซื่อมองนาง เอ่ยแผ่วเบาไร้เรี่ยวแรง “ท่านแม่ ขอโทษด้วย”
ฮูหยินเฉาผู้เฒ่ารู้สึกปวดใจขึ้นมา น้ำตาร่วงลงมา อยากเอ่ยบางอย่าง ลำคอกลับรู้สึกราวกับมีสิ่งใดอุดตันอยู่ ไม่อาจเอ่ยออกมาได้แม้เพียงคำเดียว
เวลาไม่คอยท่า
หมอตำแยเองก็มีเครื่องมือในการช่วยทำคลอดติดตัวมา มีกรรไกรและยังมีมีดเล็กๆ เหล่านี้เป็นต้น ฉินหลิวซีให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป เหลือไว้เพียงหมอตำแย และฮูหยินเฉาผู้เฒ่าที่ยืนกรานจะอยู่ในห้องพร้อมทั้งหมัวหมัวบ่าวรับใช้คนสนิทของนางหนึ่งคน
เฉาหลินซื่อใกล้จะไม่ไหวแล้ว สติเริ่มเลือนราง แต่ฉินหลิวซียังคงใช้เข็มเงินในการสกัดความเจ็บปวดของนาง เปิดผ้าห่มขึ้น เผยให้เห็นท้องนั้น หยิบมีดเล็กของหมอตำแยขึ้นมา มือข้างหนึ่งจับท้องของนางเอาไว้ ลงมีดลงไป
เลือดแดงฉานไหลออกมา
หมอตำแยส่งเสียงร้องตกใจ ถูกสายตาฉินหลิวซีตวัดมองมา รีบยกสองมือขึ้นปิดปาก สายตาหวาดกลัว
“มองดูให้ดี” ฉินหลิวซีเอ่ยเสียงเข้ม “ในวันข้างหน้าหากเจ้าทำคลอดแล้วเจอแบบนี้ ช่วยผู้ใหญ่ไม่ได้ เด็กยังสามารถช่วยได้ ผ่าท้องได้ แต่หากไม่ถึงที่สุด อย่าได้ทำเช่นนี้”
หมอตำแยตัวแข็งทื่อ
ตามความลึกของมีด เลือดทะลักออกมาไม่หยุด ไหลลงมาตามท้อง สีแดงย้อมไปทั่วเตียงขาวสะอาด
ฮูหยินผู้เฒ่าเพียงมองเล็กน้อย จากนั้นก็ไม่มองอีก เพียงจับมือลูกสะใภ้เอาไว้แน่น น้ำตาหลั่งรินไม่หยุด
ลมหายใจของเฉาหลินซื่อแผ่วเบา ทว่ายังรู้สึกถึงมีดเย็นเฉียบผ่าลงมาที่ท้อง ถูกใช้แรงเปิดออก นางนึกไปถึงสามีที่จากไปโดยไม่อาจเลี่ยงได้
พวกเขาแต่งงานกันตอนอายุเกือบยี่สิบ สามีภรรยารักใคร่หวานชื่น แต่งงานได้สี่ปีถึงได้รับข่าวดี พวกเขาตั้งตารอลูกมาก ทว่าไม่คิดว่าเมื่ออายุครรภ์มั่นคงเขากลับได้รับคำสั่งให้ไปปราบโจร ตายในดาบของหัวหน้าโจร
ท้องฟ้าของนางพังทลาย โลกกลายเป็นสีดำมืดมิด บางครั้งยังนึกโทษเด็กคนนี้ เพราะเขามาหรือไม่ ดังนั้นสวรรค์จึงเอาบิดาเขาไป
ความคิดถึงต่อสามีฝังลึกเข้ากระดูก โกรธไปทั่วโดยไม่มีเหตุผล นางวิ่งหาความตายอยู่หลายครั้ง กลับถูกช่วยเอาไว้ทั้งหมด นางใช้ชีวิตราวกับกายเนื้อไร้จิตวิญญาณ หมกมุ่นอยู่ในวังวนความทุกข์และสมเพชตนเอง
ความรักหยั่งลึกทว่าไม่ยั่งยืน
นางอยู่ต่อไปไม่ได้
นางไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไป
สติของเฉาหลินซื่อเลือนรางลงเรื่อยๆ รู้สึกว่าร่างกายเบาหวิว ผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาตลอดระยะเวลากว่าครึ่งปีมานี้
ยมทูตยืนมองอยู่มุมหนึ่งอยากเข้ามา ทว่าไม่กล้า
ครั้งนี้ช่างซวยเสียจริง รับงานนี้มา เขาจะคล้องเอาดวงวิญญาณหรือไม่คล้องดี
หากเข้าไปคล้องวิญญาณ นักพรตน้อยผู้นี้จะตีเขาตายตรงนี้หรือไม่ แต่ถ้าไม่คล้องเขากลับไปจะส่งงานอย่างไรเล่า
ยมทูตวุ่นวายใจใบหน้าเต็มไปด้วยความอึมครึม
และในตอนนั้นเอง ฉินหลิวซีได้นำเด็กที่ห่อไปด้วยรกออกมาภายใต้สายตาหวาดผวาของหมอตำแย ภาพที่เต็มไปด้วยเลือดนั้น ติดตาของทุกคน
“กรรไกร”
หมอตำแยรีบส่งกรรไกรให้
ฉินหลิวซีหนีบรกเปิดออก เผยให้เห็นเด็กใบหน้าเขียวคล้ำที่คอถูกพันด้วยสายสะดือ เป็นตายไม่อาจรู้ได้
ฮูหยินเฉาผู้เฒ่าเหลือบมองเล็กน้อย กุมมือลูกสะใภ้แน่น ลมหายใจติดขัดตามไปด้วย