ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 538 เข้าร่วมงานแต่ง(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 538 เข้าร่วมงานแต่ง(2)

ตอนที่ 538 เข้าร่วมงานแต่ง(2)

หลังจากสองแม่ลูกพูดคุยกันแล้ว ฉินมู่หลานก็กลับมาที่ห้องของตัวเอง

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นฉินมู่หลานกลับมา ก็รีบดึงเธอให้นั่งลง “กินข้าวหรือยัง เหนื่อยหรือเปล่า หน้าคุณดูเหนื่อยนิดหน่อยนะ”

ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วกล่าว “กินแล้วค่ะ เหนื่อยนิดหน่อย จริงสิ แล้วพวกเด็ก ๆ ล่ะ?”

“พวกพ่อพาชิงชิงกับเฉินเฉินไปเล่น ส่วนเจ้าสามกับเจ้าสี่อยู่กับคุณตาคุณยาย หลับไปเรียบร้อยแล้ว”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็พยักหน้าแล้วกล่าว “อย่างนั้นเดี๋ยวฉันค่อยไปหาพวกเขา” หลังจากนั้นเธอก็พูดเรื่องงานแต่งของสือหยวนฝู “อีกไม่กี่วันหยวนฝูจะแต่งงานแล้ว ถ้าตอนนั้นคุณว่างก็ไปงานแต่งกับฉันเถอะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินแบบนี้ ก็พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ได้สิ”

ฉินมู่หลานงีบสักพักหลังจากนั้นก็ลุกขึ้น เธอยังเป็นห่วงถวนถวนกับหยวนหยวนนิดหน่อย เพราะเด็กทั้งสองยังเล็กมาก

ถึงแม้คุณนายเหยาและนายท่านเหยาจะอายุเยอะมากแล้ว แต่คนทั้งคู่ก็ช่วยดูแลเด็กทั้งสองเป็นอย่างดี เมื่อทราบว่าฉินมู่หลานกลับมาแล้ว ก็อุ้มเด็กทั้งสองที่ตื่นเต็มตามาให้เธอ

ชิงชิงและเฉินเฉินก็อยู่ที่นั่นด้วย ในตอนนั้นเอง บ้านทั้งหลังก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา

เซี่ยเจ๋อหลี่มองฉินมู่หลานที่นั่งอยู่กับเด็ก ๆ หลายคน แววตาเต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่เขามีเวลาหยุดพักได้ไม่นาน เมื่อถึงวันรุ่งขึ้นก็ต้องกลับไปที่ฐานทัพอีกครั้ง ซึ่งบังเอิญว่าสือหยวนฝูกับหยางหรงฮ่าวแต่งงานและกลับมาจากบ้านเกิดเพื่อมาจัดงานแต่งที่ปักกิ่ง เซี่ยเจ๋อหลี่จึงมีวันหยุดพอดี

“อาหลี่ นึกไม่ถึงเลยว่าคุณจะมาร่วมงานแต่งได้จริง ๆ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินแบบนี้ก็ยกยิ้มแล้วกล่าว “ใช่แล้ว ผมเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน บังเอิญมากจริง ๆ เดี๋ยวคุณพร้อมแล้วเราออกเดินทางกันเลย”

“ได้”

ฉินมู่หลานเองก็ได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว เพียงแต่เจ้าสามกับเจ้าสี่ยังต้องดื่มนม ดังนั้นเธอจึงให้นมลูกทั้งสองก่อน จากนั้นจึงเพิ่งออกเดินทางกับเซี่ยเจ๋อหลี่

วันนี้คนที่มาร่วมดื่มฉลองด้วยล้วนเป็นเพื่อนร่วมชั้นของสือหยวนฝูและหยางหรงฮ่าว เมื่อฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่มาถึง เซี่ยปิงหรุ่ยและเฉินเซี่ยวอวิ๋นก็มาถึงแล้วเหมือนกัน นอกจากฉินมู่หลานที่พาสามีมาด้วย เหมาชุนเถาก็พาลูกชายมาด้วยเหมือนกัน

สือหยวนฝูก็ดีใจมากที่พวกเขามา

“พวกเธอมากันแล้ว รีบเข้าไปนั่งข้างในเลย”

สือหยวนฝูทักทายทุกคนด้วยท่าทางเปี่ยมสุข ฉินมู่หลานก็มองหล่อนแล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เธอไม่ต้องห่วงพวกเราหรอก รีบไปรับแขกเถอะ”

เหมาชุนเถาก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ใช่แล้ว เธอไม่ต้องเป้นห่วงพวกเรา รีบออกไปทักทายแขกคนอื่นเถอะ”

“ก็ได้ พวกเธอจัดการกันเองนะ เดี๋ยวฉันจะออกไปรับแขกข้างนอก”

หลังจากสือหยวนฝูไปแล้ว เซี่ยปิงหรุ่ยก็อดกล่าวไม่ได้ “นี่หยวนฝูดูอ้วนขึ้นนะ ดูมีน้ำมีนวลขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เฉินเซี่ยวอวิ๋นก็อดกล่าวพร้อมทั้งยกยิ้มเสียไม่ได้ “มีน้ำมีนวลก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ฉันรู้สึกว่าก่อนหน้านี้หยวนฝูผอมไป ตอนนี้เป็นแบบนี้แล้วดูดีขึ้นนะ”

เซี่ยปิงหรุ่ยไม่ได้บออกว่าสือหยวนฝูดูไม่ดี บอกเพียงรู้สึกว่าสือหยวนฝู่ดูอวบขึ้นนิดหน่อย แต่อาจจะเพราะการแต่งงาน สือหยวนฝูมีความสุขจึงอวบขึ้นนิดหน่อย

เซี่ยเจ๋อหลี่เฝ้ามองฉินมู่หลานพูดคุยกับคนอื่น เขาไม่ได้พูดอะไรเลย นั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ

ฉินมู่หลานก็ใส่ใจเซี่ยเจ๋อหลี่ คิดว่าเขาอาจจะเบื่อนิดหน่อย จึงพาเขาเข้ามมาร่วมวงสนทนาด้วย แต่เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะทุกคนเป็นเพื่อนร่วมห้องของฉินมู่หลาน เขาจึงไม่มีอะไรจพคุยกับพวกเธอ

หลังจากนั้นพวกเพื่อนร่วมชั้นของหยางหรงฮ่าวทุกคนมาถึง งานเลี้ยงก็เริ่มต้นขึ้น

เมื่อหลายวันก่อนหยางหรงฮ่าวได้เตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าว สีหน้าจึงเปล่งปลั่งมีชีวิตชีวาอยู่แล้ว เมื่อเห็นพวกเพื่อนร่วมชั้นมาร่วมอวยพร จึงกล่าวขอบคุณพร้อมทั้งรอยยิ้ม หลังจากนั้นก็เริ่มดื่มเหล้ามงคล

แต่สือหยวนฝูย่อมดื่มไม่ได้ หล่อนจึงยิ้มแล้วยกน้ำชาแทน คาราวะทุกคนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็นั่งลงข้างฉินมู่หลานและคนอื่น ๆ

เมื่อเห็นสือหยวนฝูมาหา ฉินมู่หลานและเฉินเซี่ยวอวิ๋นก็มอบซองแดงให้หล่อน แม้แต่เหมาชุนเถาก็ยังเตรียมซองแดงใบใหญ่มามอบให้

สือหยวนฝูไม่ปฏิเสธ รับเอาไว้ทั้งหมด “ขอบคุณพวกเธอมากนะ”

“ขอบคุณอะไรกัน นี่มันควรจะให้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

ไม่นาน หยางหรงฮ่าวก็ดื่มอวยพรเสร็จแล้วมาที่นี่ เขารู้ว่าเซี่ยเจ๋อหลี่คือสามีของฉินมู่หลาน จึงดื่มกับเขาหนึ่งจอกก่อน หลังจากนั้นก็ดื่มให้กับพวกฉินมู่หลาน “ขอบคุณทุกคนที่คอยดูแลหยวนฝูนะครับ จากนี้ไปก็ยังต้องรบกวนทุกคนอยู่”

เฉินเซี่ยวอวิ๋นได้ยินแบบนี้ ก็ยิ้มพลางบอกกล่าว “ไม่รบกวนหรอก พวกเราชอบอยู่กับหยวนฝูอยู่แล้ว นอกจากนี้หล่อนไม่ต้องการให้พวกเราช่วยดูแลหรอก ต่อไปนายก็ดูแลหล่อนดี ๆ นะ”

หยางหรงฮ่าวได้ยินแบบนี้ ก็รีบเอ่ยปากสัญญาทันที “ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลหล่อนอย่างดีแน่นอน”

เมื่อเห็นสีหน้าของหยางหรงฮ่าวดูมีความมั่นใจ หลายคนก็หัวเราะขึ้นมา และสือหยวนฝูก็มองหยางหรงฮ่าวอย่างขบขันเช่นกัน แววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแสนอ่อนโยน

จนกระทั่งมีโอกาส สือหยวนฝูก็ขอให้ฉินมู่หลานตรวจชีพจรให้อีกครั้ง “มู่หลาน ช่วงหลายวันมานี้ฉันยุ่งมาก ทุกวันนี้รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย ไม่รู้ว่าจะมีผลกระทบอะไรกับลูกหรือเปล่า”

ฉินมู่หลานตรวจชีพจรให้สือหยวนฝูอย่างละเอียด จาดนั้นก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ไม่มีปัญหาอะไร เธอไม่ต้องกังวล”

เมื่อได้ยินแบบนี้ สือหยวนฝูก็โล่งใจ

หลังจากสือหยวนฝูเดินไปข้างหน้า เซี่ยปิงหรุ่ยก็เดินออกมาจากด้านข้าง หลังจากตระหนักได้แล้วเธอก็เอ่ยขึ้นมา “ไม่แปลกเลยที่ฉันรู้สึกว่าหยวนฝู่ดูกลมขึ้นนิดหน่อย ที่แท้หล่อนก็ท้องนี่เอง” หลังพูดถึงเรื่องนี้ ในที่สุดหล่อนก็เข้าใจ ว่าทำไมสือหยวนฝู่ถึงรีบแต่งงานอย่างนี้

“ช่วงนี้เป็นอะไรกันเนี่ย ทำไมทุกคนถึงรีบมีลูกกันจัง”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็ยิ้มแล้วหันมองเซี่ยปิงหรุ่ยก่อนจะเอ่ย “เธออยากจะลองมีด้วยไหมล่ะ”

เซี่ยปิงหรุ่ยรีบโบกมือแล้วบอกกล่าวทันที “ฉันไม่อยากลองหรอก” หล่อนมาพบฉินมู่หลานเพราะอยากคุยกับเธอเรื่องการวิจัยก่อนหน้านี้ ไม่คิดว่าจะได้ยินเรื่องที่สือหยวนฝู่ตั้งครรภ์

“มู่หลาน ฉันจะคุยกับเธอ ว่าฉันมีแนวคิดใหม่” เซี่ยปิงหรุ่ยโพล่งออกมา แล้วคุยกับฉินมู่หลานอยู่เนิ่นนาน

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นว่าฉินมู่หลานยังไม่มาก็ออกมาตามหาเธอ นึกไม่ถึงว่าเธอกำลังคุยธุระบางอย่างกับเซี่ยปิงหรุ่ยอยู่ จึงไม่เข้าไปรบกวน แล้วยืนรออยู่เงียบ ๆ

แต่เซี่ยปิงหรุ่ยรู้สึกเกรงใจนิดหน่อยที่จะพูดต่อ จึงลุกขึ้นยืนแล้วบอกว่า “มู่หลาน ฉันเล่าความคิดให้เธอฟังไปเกือบหมดแล้ว ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันขอกลับก่อน พวกเธอก็รีบกลับไปเถอะ ยังมีเด็ก ๆ ที่ต้องการความดูแลจากพวกเธออยู่นะ”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้า แต่ก็ยังเอ่ยถามเรื่องของทางเซี่ยปิงชิงขึ้นอีกครั้ง

“ไม่ต้องห่วงหรอก ปิงชิงกับเด็ก ๆ ทั้งสองคนสบายดี พ่อกับแม่ฉันก็อยู่ที่บ้านตระกูลเจี่ยงด้วย กระทั่งคุณปู่ก็มาอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน แต่ละวันพวกเขาก็ช่วยกันดูแลเด็กทั้งสอง”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็โล่งใจ

“ได้ ถ้าอย่างนั้นเธอก็รีบกลับเถอะ เดี๋ยวมีเวลา ฉันจะไปเยี่ยมปิงชิงกับพวกเด็ก ๆ นะ”

“ได้”

หลังจากฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่กลับถึงบ้าน ก็พบว่าเจ้าสามกับเจ้าสี่กำลังร้องไห้ ฉินมู่หลานจึงรีบเข้าไปหา

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

เด็กๆ เป็นอะไรไปคะ คิดถึงคุณแม่เหรอ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท