ตอนที่ 1,155 แบบนี้มันขี้โกงนี่หว่า
หลินเป่ยเฉินใช้กระบวนท่าจากวิชากระบี่ 17 คาบสมุทรที่ใช้ได้ในขณะนี้ออกมาทั้งหมด
รวมไปถึงวิชากระบี่ขั้นเซียนอื่น ๆ ที่เขามีคัมภีร์อยู่ในครอบครอง หลินเป่ยเฉินก็ใช้ออกมาหมดสิ้น
แต่ไม่ว่าโจมตีออกไปอย่างไร การโจมตีก็ล้มเหลว
เหลือความหวังอีกเพียงอย่างเดียวคือการกางอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นสิ่งอันตรายเกินไปที่จะใช้ในขณะนี้
หลินเป่ยเฉินพยายามคิดหาหนทางเอาชนะให้ได้
วูบ!
กระบี่สีทองในมือของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ หลุดลอยกระเด็นออกไป
กระบี่ในมือหลินเป่ยเฉินฟันเข้าใส่แขนของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’
โลหิตสีทองคำสาดกระจาย
แต่เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น แขนที่เป็นแผลฉกรรจ์ก็รักษาหายอย่างรวดเร็ว
‘เว่ยหมิงเฉิน’ ยังคงมีสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึก แล้วกระบี่อีกเล่มหนึ่งก็ถูกดูดเข้ามาอยู่ในมือของเขา เมื่อโคจรพลังลมปราณใส่ลงไป มันก็กลับกลายเป็นกระบี่สีทองเล่มใหม่
เคร้ง! เคร้ง!
การต่อสู้เกิดขึ้นอีกครั้ง
หลินเป่ยเฉินตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด
“หรือว่าหมอนี่จะมีพลังปราณธาตุทองคำ?”
หลินเป่ยเฉินคิดด้วยความประหลาดใจ
เขาเคยได้ยินมาว่าผู้ที่มีพลังปราณธาตุทองคำจะมีพลังโจมตีรุนแรงมากกว่ามือกระบี่ทั่วไป
แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา หลินเป่ยเฉินแทบไม่เคยพบคู่ต่อสู้ที่มีพลังปราณธาตุทองคำมาก่อน
ดังนั้นความสามารถของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ในขณะนี้ นอกจากจะสามารถดึงดูดอาวุธวัตถุโลหะได้จากรอบกาย และรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองได้อย่างรวดเร็วราวกับปาฏิหาริย์แล้ว ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ยังสามารถต้านทานการโจมตีจากกระบี่เงินของหลินเป่ยเฉินได้อีกด้วย
ทว่า หลินเป่ยเฉินก็ยังคงคิดว่าหนทางเดียวที่เขาจะสามารถเอาชนะ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ได้ ก็ต้องอาศัยกระบี่เงินของผู้อาวุโสเฉินเท่านั้น
“ลองโคจรพลังปราณธาตุทองคำลงไปหน่อยแล้วกัน”
หลินเป่ยเฉินคิดขึ้นมาในทันใด
แล้วกระบี่เงินในมือของเขาก็เป็นประกายสีทองเช่นเดียวกับกระบี่ในมือของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’
‘เว่ยหมิงเฉิน’ ตวัดกระบี่ฟาดฟัน
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
ยามกระบี่ทองคำทั้งสองเล่มปะทะกันเกิดเสียงดังกังวานปานระฆังแก้ว
เมื่อโคจรพลังปราณธาตุทองคำลงไป กระบี่เงินในมือของหลินเป่ยเฉินก็มีความรวดเร็วในการโจมตีมากขึ้น เพียงพริบตาเดียว แขนข้างที่ถือกระบี่ของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ก็เต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง
“เป็นไปได้อย่างไร?”
ในที่สุด เสียงของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ก็เริ่มแสดงอารมณ์ขุ่นเคืองใจออกมา
ทันใดนั้น ลำแสงสีทองสาดประกายวูบ
‘เว่ยหมิงเฉิน’ ตกอยู่ภายใต้รังสีกระบี่สีทองคำเจิดจ้า
ทองคำบริสุทธิ์
เป็นประกายระยิบระยับ
คุกคามถึงชีวิต
“ตายซะเถอะ”
กระบี่ในมือของหลินเป่ยเฉินโจมตีเข้าใส่อย่างไม่ลังเล
ไม่ว่าอย่างไร ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ก็ไม่สามารถรอดพ้นกระบี่นี้ได้เด็ดขาด
ไม่ว่าอย่างไร ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ก็ต้องตายภายใต้กระบี่นี้
แต่จังหวะที่คมกระบี่กำลังจะแทงเข้าไปในร่างกายของฝ่ายตรงข้าม เด็กหนุ่มกลับเกิดสังหรณ์อัปมงคลขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
หลินเป่ยเฉินรีบรั้งกระบี่กลับคืนมาและโคจรพลังลมปราณ
“กำแพงวายุ”
เขาควงกระบี่สร้างกำแพงแห่งสายลมขึ้นมาเป็นเกราะกำบัง
ทันใดนั้น ร่างของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ที่ปกคลุมด้วยม่านพลังสีทองคำกลับละลายกลายเป็นกองของเหลว ก่อนที่ของเหลวเหล่านั้นจะขึ้นรูปทรงเป็นกระบี่นับสิบเล่มพุ่งตรงเข้ามาหาหลินเป่ยเฉิน!
รวดเร็วราวสายฟ้าฟาด
พลังโจมตีรุนแรงหนักหน่วง
เพียงพอที่จะสังหารผู้มีพลังขั้นเซียนระดับสูงได้อย่างสบาย ๆ
หากไม่ใช่เพราะว่าหลินเป่ยเฉินสามารถตอบโต้ได้อย่างรวดเร็วมากพอด้วยการสร้างกำแพงวายุขึ้นมากำบังไว้ก่อน กระบี่ทองคำหลายสิบเล่มเหล่านั้นก็คงแทงทะลวงร่างกายของเขาไปเรียบร้อยแล้ว
ร่างแยกของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง
“ไม่เป็นอะไรเลยเหรอวะเนี่ย?”
หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตด้วยความเหลือเชื่อ
แต่หากพิจารณาดูให้ดี…
“ไม่ใช่ละ ก็โดนเล่นงานไปเหมือนกันนี่หว่า”
เขาสังเกตเห็นว่ากระบวนท่าที่ตนเองใช้ออกไปนั้นยังสามารถสร้างบาดแผลบนร่างกายของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ได้หลายตำแหน่ง
แต่ก็ยังหนักหน่วงไม่พออยู่ดี
คงต้องโจมตีอีกครั้ง
หลินเป่ยเฉินโคจรพลังปราณธาตุทองคำใส่ลงไปในกระบี่เต็มอัตรา
เขาทุ่มเทใช้วิชากระบี่ขั้นเซียนทุกวิชาที่ตนเองรู้จักออกไป
วูบ! วูบ! วูบ!
กระบี่เงินที่กลายเป็นกระบี่ทองคำโจมตีอย่างต่อเนื่อง
แต่ครั้งนี้ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ไม่ได้ปัดป้องอีกแล้ว
ร่างกายของเขาเปลี่ยนตำแหน่งได้รวดเร็วราวกับภูตผี สามารถหลบหลีกกระบี่ของหลินเป่ยเฉินเป็นรัศมีวงกลมได้อย่างง่ายดาย
ไม่ว่าใช้กระบวนท่าใดออกไปล้วนแต่ไม่เป็นผล
หากว่ากันเรื่องทักษะการใช้กระบี่ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ก็มีทักษะแข็งแกร่งมากกว่าหลินเป่ยเฉินหลายเท่า
ในฐานะอัจฉริยะมือกระบี่รุ่นใหม่ เพียงมองวูบเดียว ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ก็สามารถคำนวณจุดแข็งจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามได้ทะลุปรุโปร่ง นี่แสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มผู้นี้มีความรู้เกี่ยวกับวิชากระบี่อยู่ในระดับสูง เพียงปะทะกันไม่กี่กระบวนท่า เขาก็สามารถจัดการศัตรูได้อย่างง่ายดาย
ไม่มีผู้ใดรู้ว่า ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ศึกษาวิชากระบี่มามากมายเท่าใด
เพราะเขาเก่งกาจมากเกินไป
เจ็ดกระบวนท่าจากวิชากระบี่ 17 คาบสมุทรของหลินเป่ยเฉินถูกใช้ออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า
บัดนี้ ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันมาหลายร้อยกระบวนท่าแล้ว
ทันใดนั้น ร่างของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ก็สะดุดลงอย่างไม่มีสัญญาณเตือน
แน่นอนว่าหลินเป่ยเฉินย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือ กระบี่ของเขาฟันไปที่ลำคอของฝ่ายตรงข้ามทันที
ฉัวะ!
ศีรษะคนลอยขึ้นไปในอากาศ
“ชนะแล้ว!”
มือกระบี่ชาวเมืองไป๋หยุนที่ยืนดูการต่อสู้อุทานออกมาด้วยความดีใจ
ประเสริฐ
แต่หลินเป่ยเฉินยังไม่คลายใจลง
เพราะลมหายใจต่อมา ร่างที่ไร้ศีรษะของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ กลับปลดปล่อยพลังลมปราณออกมารุนแรง
เหตุไฉนถึงปลดปล่อยพลังออกมาได้อีก?
แต่อีกฝ่ายเป็นเพียงซากศพแล้ว ยังจะมีอะไรให้น่าหวาดกลัว?
หลินเป่ยเฉินจู่โจมซ้ำไปอีกหลายกระบวนท่า
แต่ที่คิดไม่ถึงเลยก็คือศพไร้ศีรษะของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ กลับไม่ระเบิดออก
สิ่งเดียวที่ระเบิดออกคือเสื้อผ้าที่ร่างนั้นสวมใส่
มันเปิดเผยให้เห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของผู้มีพลังขั้นเซียน ผิวกายขาวราวกับหยก ดูแข็งแกร่ง ทรงพลังและงดงามในเวลาเดียวกัน
พลังลมปราณที่แปลกประหลาดยังคงระเบิดออกมาจากศพไร้ศีรษะนั้น
เกิดการเคลื่อนไหว
ศพไร้ศีรษะยกมือขึ้นฉีกกระชากกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกของมันเอง
กล้ามเนื้อฉีกกระชากเปิดออก
ปรากฏดวงไฟสีทองคำลอยวนเวียนอยู่ด้านในบาดแผล
ไม่ต่างจากดวงตาคู่หนึ่ง
แต่ที่น่าขยะแขยงก็คือสะดือของศพนั้นกลับขยับพะเยิบพะยาบพูดออกมาว่า “เจ้าต้องตาย!”
เสียงพูดฟังชัดถนัดหู
แล้วศพไร้ศีรษะนั้นก็เดินตรงเข้ามาหาหลินเป่ยเฉินพร้อมกับควงกระบี่ในมืออย่างข่มขู่คุกคาม
“เชี่ย”
หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตจนดวงตาแทบถลนออกจากเบ้า
นะ…นี่มันอะไรกัน?
แบบนี้มันขี้โกงนี่หว่า
เคร้ง!
กระบี่ของทั้งสองฝ่ายปะทะกันอีกครั้ง
“พรวด!”
ร่างของหลินเป่ยเฉินลอยกระเด็นออกไป โลหิตพุ่งกระฉูดออกจากปาก
นับเป็นพลังที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
หลินเป่ยเฉินตกตะลึง
ปรากฏว่าร่างแยกของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ร่างนี้ มีความแข็งแกร่งมากกว่าหลินเป่ยเฉินถึงสิบเท่า และนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะรับมือได้
“แย่แล้วสิ”
เสี่ยวหรานอดอุทานออกมาไม่ได้
“พวกเราบุก”
ฉู่อวิ๋นซุนระเบิดเสียงคำราม เปลวไฟสีแดงลุกโชนทั่วร่างกายของเขาอีกครั้ง เส้นเลือดปรากฏขึ้นบนใบหน้า คล้ายกับเป็นรอยสักแปลกประหลาด
โดยไม่ลังเล ท่านเจ้าเมืองหนุ่มพุ่งเป็นลำแสงสีแดงตรงเข้าไปหาร่างแยกของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’
เปรี้ยง!
ร่างของทั้งสองฝ่ายชนกันกลางอากาศ
หลังจากนั้น ร่างของฉู่อวิ๋นซุนก็ปลิวกระเด็นกลับออกมาด้วยความเร็วสูง ก่อนกระแทกเข้ากับผนังหินและทะลุหายเข้าไปในส่วนลึกของผนัง
บนผนังหินเต็มไปด้วยคราบเลือดหยดย้อยลงสู่บ่อลาวาด้านล่าง
ฉู่อวิ๋นซุนพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ
เม่ยฮัวโส่วและคนอื่น ๆ มีสีหน้าตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
‘เว่ยหมิงเฉิน’ มีความแข็งแกร่งมากเกินไป
เช่นนี้พวกเขาจะไม่ตายกันหมดหรือ?
วูบ! วูบ! วูบ!
ทันใดนั้น ลู่กวนไห่ ฮั่วเฟยฮัวและคนอื่น ๆ ก็ลงมือโจมตีพร้อมกัน
พวกเขารู้ดี
หากไม่ร่วมมือกันสังหาร ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ให้ได้ วันนี้พวกเขาคงต้องตายกันทั้งหมด
การต่อสู้ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
คมกระบี่สาดประกาย สะเก็ดไฟสาดกระจาย
พลั่ก!
หลินเป่ยเฉินล้มลงมาบนสะพานหิน รู้สึกราวกับว่าแขนขวาของตนเองจะกระดูกหักและชาดิกไปถึงครึ่งร่างกาย
โชคดีที่เมื่อร่างแยกของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดหัวขาด พละกำลังของมันแข็งแกร่งมากขึ้น แต่อานุภาพการโจมตีจากพลังปราณธาตุทองคำกลับลดน้อยลง ดังนั้นมวลพลังแปลกปลอมที่ลุกลามเข้ามาในร่างกายของหลินเป่ยเฉินจึงมีจำนวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่นี่ก็นำมาสู่ข้อสงสัยข้อใหม่
เพราะอะไร ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ถึงยังคงเลือกใช้วิธีการนี้?
หลินเป่ยเฉินได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
“อ๊าก…”
ได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากวงต่อสู้
แล้วร่างคนก็ปลิวกระเด็นออกมากระแทกเข้ากับสะพานหิน โลหิตสาดกระจายบนพื้นหิน
สะพานหินสั่นสะเทือน
เริ่มปรากฏรอยแตกร้าวลุกลามอย่างรวดเร็ว