ตอนที่ 1499 แว้งกัด
“ต้าเยี่ยนเสนอเงื่อนไขออกไปหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นการยอมสวามิภักดิ์หรืออนุญาตให้ทหารตั้งค่ายทหารในตงอี๋ ทว่า จักรพรรดิตงอี๋ตรัสมีเหตุผล ดังนั้นต้าเยี่ยนจึงยอมถอยเรื่องการสวามิภักดิ์ให้แล้ว ทว่า ตงอี๋ต้องอนุญาตให้ต้าเยี่ยนตั้งค่ายทหารตงอี๋ นี่คือขีดจำกัดของต้าเยี่ยน ข้ารู้ว่ามันค่อนข้างตัดสินใจยาก” เซียวหรงเหยี่ยนไม่ยอมถอยให้เรื่องนี้แม้แต่ก้าวเดียว “ทุกคนสามารถปรึกษากันก่อนแล้วค่อยให้คำตอบข้าในวันพรุ่งนี้ก็ได้ ลงนามในสัญญาพันธมิตรเร็วเท่าใดข้าก็จะเดินทางกลับต้าเยี่ยนเร็วเท่านั้น!”
เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนกล่าวสิ่งที่ต้องการกล่าวออกไปหมดแล้วจึงขอตัวจากไปพักผ่อนที่จวนที่ฮองเฮาเตรียมไว้ให้เพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนจากไปขุนนางตงอี๋จึงเริ่มปรึกษาเรื่องนี้กันทันที
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้นอย่างไม่รีบร้อน “ตอนนี้ตงอี๋คือแคว้นบรรณาการของต้าโจว ต้าโจวย่อมไม่อยู่เฉยแน่นอน ทว่า เป็นดั่งที่ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนกล่าว ที่เราไม่เอ่ยขัดตอนที่เขาเสนอเงื่อนไขให้ทหารของต้าเยี่ยนมาตั้งค่ายทหารในตงอี๋เพราะเราไม่อยากให้ขุนนางในราชสำนักตงอี๋คิดว่าต้าโจวเห็นราชสำนักตงอี๋เป็นราชสำนักต้าโจวที่คิดจะควบคุมเช่นไรก็ได้ ไม่อยากให้ทุกคนคิดว่าที่เราไม่ทำลายล้างตงอี๋ในตอนนี้เป็นเพราะต้องการเก็บตงอี๋ไว้เป็นทางรอด”
ขุนนางในราชสำนักตงอี๋เงียบกริบ ขุนนางบางคนของตงอี๋เชื่อในคำกล่าวของเซียวหรงเหยี่ยนและเริ่มมีความคิดเช่นนั้นแล้ว
สีหน้าของฮองเฮาตงอี๋แย่ยิ่งกว่าเดิม นางมองไปยังร่างขององค์ชายเจ็ดซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างไป๋ชิงเหยียนแล้วกำหมัดแน่น ตอนนี้แม้แต่จักรพรรดิตงอี๋ยังเป็นคนของต้าโจว ต้าโจวไม่ได้คิดยึดครองตงอี๋อย่างนั้นหรือ!
จักรพรรดินีต้าโจวกล่าวว่าอีกสามปีจะให้นางพบหน้าบุตรชายของนาง จักรพรรดินีต้าโจวคิดจะยึดครองตงอี๋หลังจากเดิมพันชนะต้าเยี่ยนหรือคิดย้ายถิ่นฐานมาตงอี๋เมื่อแพ้เดิมพันอย่างนั้นหรือ
“แม้ต้าเยี่ยนจะเคยแทงข้างหลังต้าโจวตอนที่ต้าโจวและต้าเยี่ยนร่วมมือกันทำลายล้างซีเหลียง ทว่า ตอนนี้ทำสัญญาเดิมพันระหว่างแคว้นเรื่องนี้กลายเป็นโมฆะไปแล้ว หากต้าโจวยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองของตงอี๋ในช่วงที่เดิมพันกับต้าเยี่ยนอาจทำให้แคว้นพันธมิตรของต้าโจวอย่างต้าเยี่ยนคิดว่าต้าโจวจะตระบัดสัตย์หรือจงใจใช้ตงอี๋สร้างปัญหาให้ต้าเยี่ยนได้”
“ต้าโจวคือแคว้นที่รักษาสัญญายิ่งชีพ หากต้าโจวแพ้เดิมพันขึ้นมาจริงๆ…เรายินดียกแคว้นต้าโจวให้ต้าเยี่ยนแน่นอน ถึงเวลานั้นต้าโจวคงไม่สามารถช่วยเหลือตงอี๋ได้เช่นเดียวกัน” ไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ทว่า หากต้าโจวชนะเดิมพัน ต้าโจวรับประกันว่าหากตงอี๋ยอมเป็นแคว้นบรรณาการของต้าโจวอย่างสงบเสงี่ยม ต้าโจวจะลดบรรณาการที่ตงอี๋ต้องจ่ายลง พวกเจ้าสามารถเขียนเงื่อนไขเหล่านี้ลงไปในสัญญาได้! ทุกท่านรู้จักต้าโจวดี ทุกท่านคงรู้ว่าต้าโจวไม่เคยทรยศแคว้นพันธมิตรของตัวเองมาก่อน!”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ออกมาเพื่อบอกเหล่าขุนนางของตงอี๋ว่าให้ช่วยกันสร้างปัญหาให้ต้าเยี่ยน เมื่อต้าโจวชนะเดิมพัน ตงอี๋ย่อมได้ผลประโยชน์ด้วยเช่นเดียวกัน
ต้าโจวรักษาสัญญา ส่วนต้าเยี่ยนเคยแทงข้างหลังพวกเดียวกันมาก่อน ตงอี๋ควรพิจารณาเรื่องเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบจึงลุกขึ้นยืน “นี่เป็นเรื่องภายในราชสำนักของตงอี๋ พวกเจ้าปรึกษากันไปเถิด เราขอตัวก่อน”
ไป๋ชิงเหยียนก้มศีรษะให้ขุนนางของตงอี๋เล็กน้อย จากนั้นหันไปพยักหน้าให้ท่าป๋าเย่าที่ลุกขึ้นมาทำความเคารพนางแล้วพาไป๋จิ่นจื้อและเสิ่นชิงจู๋เดินออกไปจากตำหนักใหญ่ทันที เสิ่นเหลียงอวี้และองครักษ์ไป๋เดินตามหลังไป๋ชิงเหยียนออกไปเช่นเดียวกัน
“พี่หญิงใหญ่จะให้ต้าเยี่ยนมาตั้งค่ายทหารในตงอี๋จริงๆ โดยไม่ทำสิ่งใดเลยหรือเจ้าคะ” ไป๋จิ่นจื้อขมวดคิ้วแน่นพลางเอ่ยถามพี่สาว
“ทำสิ ทว่า ห้ามเสนอตัวก่อน หากเสนอตัวเท่ากับเข้าแทรกแซงการเมืองของตงอี๋” ไป๋ชิงเหยียนนึกถึงท่าทีของเซียวหรงเหยี่ยนตอนเสนอเงื่อนไขนี้ออกมาจึงหลุดยิ้มออกมาน้อยๆ “เป็นดั่งที่ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนกล่าว หากต้าโจวไม่อนุญาตให้ต้าเยี่ยนเข้ามายุ่งเกี่ยวกับตงอี๋แสดงว่าต้าโจวอยากครอบครองตงอี๋แต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นต่อให้เราจะควบคุมก็ต้องรอให้ตงอี๋เป็นคนเอ่ยปากขอร้องต้าโจวเอง”
“ทว่า คำกล่าวของผู้สำเร็จราชการก่อนหน้านี้อาจทำให้ราชสำนักตงอี๋เริ่มหวาดระแวงต้าโจวแล้ว ขุนนางของตงอี๋ไม่ได้เป็นคนของต้าโจวทั้งหมด หากต้าเยี่ยนมาตั้งค่ายทหารอยู่ในตงอี๋จริงๆ ตงอี๋อาจไม่กล้าก่อความวุ่นวายให้ต้าเยี่ยน เช่นนั้นต้าเยี่ยนก็บรรลุเป้าหมายแล้วเจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นจื้อกำดาบที่เอวแน่น นางรู้สึกว่าพี่เขยของนางคนนี้เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว
“แค่ตั้งค่ายทหารเท่านั้น มีสิ่งใดน่าหวาดกลัวกัน…” รอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนกว้างกว่าเดิม “ต่อให้ตั้งค่ายทหารในตงอี๋ ทว่า ราชสำนักต้าเยี่ยนอยู่ไกลจากตงอี๋มาก หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นมาจริงๆ แล้วตงอี๋มาขอความช่วยเหลือจากต้าโจว ต้าโจวจะทนดูเฉยๆ โดยไม่ช่วยเหลือแคว้นบรรณาการของตัวเองอย่างนั้นหรือ”
ไป๋จิ่นจื้อคิดตามแล้วก็เริ่มคิดได้ นางเดินตามพี่หญิงใหญ่ลงไปจากบันไดสูงพลางกล่าวขึ้น “ทว่า ผู้สำเร็จราชการฉลาดถึงเพียงนั้น เขาต้องเข้าใจเรื่องนี้เช่นเดียวกันเจ้าค่ะ เราควรเตือนฮองเฮาของตงอี๋ไว้ดีหรือไม่เจ้าคะ”
“หนูจนตรอกแว้งกัดจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ได้ อย่าบีบนางเกินไปนัก มิเช่นนั้นนางอาจแว้งกัดพวกเราได้ องค์ชายเจ็ดคือหมากชั้นเลิศ พวกเราต้องใช้เขาในเวลาที่จำเป็นที่สุด!” ไป๋ชิงเหยียนเดาว่าเซียวหรงเหยี่ยนอาจเดาได้ตั้งแต่เห็นหน้ากากขององค์ชายเจ็ดของตงอี๋แล้วว่าเขาอาจเป็นคนของนาง ทว่า พฤติกรรมและมารยาทของท่าป๋าเย่าที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาจากราชวงศ์ไม่น่าจะเรียนรู้ได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ดังนั้นเซียวหรงเหยี่ยนต้องสงสัยเรื่องนี้เช่นเดียวกัน “ต่อจากนี้ผู้สำเร็จราชการต้องไปพบฮองเฮาของตงอี๋และพยายามดึงนางไปเป็นพวกแน่นอน”
“ข้าจะให้คนจับตาดูผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยนและฮองเฮาตงอี๋ไว้เจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นจื้อกล่าวเสียงเบา “จะไม่ให้พวกเขามีโอกาสพบหน้ากันได้อย่างง่ายดายแน่นอนเจ้าค่ะ”
“ในวังหลวงล้วนมีแต่คนของต้าโจวแล้ว จะจับตาดูเช่นไรอีก” ไป๋ชิงเหยียนเดินลงมาจากบันไดสูงแล้วหยุดฝีเท้าลง นางลูบนิ้วมือที่ไพล่อยู่ทางด้านหลังเล็กน้อย จากนั้นกล่าวขึ้น “ชิงจู๋ ให้คนจับตาดูผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยนไว้ให้ดี หากเขาไปพบฮองเฮาตงอี๋จริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องขัดขวาง ให้คนแอบฟังว่าพวกเขาสนทนาสิ่งใดกันก็พอ”
“เจ้าค่ะ!” เสิ่นชิงจู๋รับคำ จากนั้นถามต่อ “คุณหนูใหญ่ ข้าไปจับตาดูเองดีหรือไม่เจ้าคะ”
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสายลับของคุณหนูใหญ่ในตงอี๋ เสิ่นชิงจู๋จึงใส่ใจมากเป็นพิเศษ
“ไม่ต้อง เจ้าเหนื่อยมามากแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนเห็นเส้นเลือดฝอยแดงฉานในดวงตาของเสิ่นชิงจู๋จึงสงสารนางมาก “เจ้าไปพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนเถิด ส่งคนไปจับตาดูไว้ก็พอ พวกเรายังควบคุมสถานการณ์โดยรวมได้อยู่ ที่สำคัญต่อให้เจ้าไปเองก็ใช่ว่าจะได้ยินว่าผู้สำเร็จราชการสนทนาสิ่งใดกับฮองเฮา”
เสิ่นชิงจู๋เห็นด้วยกับคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียน วรยุทธ์ของเซียวหรงเหยี่ยนเหนือชั้นมาก ตอนนี้นางยังไม่รู้ฝีมือที่แท้จริงของชายหนุ่มเลยด้วยซ้ำ เสิ่นชิงจู๋คิดว่านางคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซียวหรงเหยี่ยน นางอาจถูกจับได้ตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าใกล้ จากนั้นอาจถูกเซียวหรงเหยี่ยนใช้ข่าวปลอมหลอกเอาได้ เมื่อกลับมารายงานคุณหนูใหญ่อาจทำให้คุณหนูใหญ่เสียเรื่องได้
“ข้าจะให้คนที่เก่งวิชาตัวเบาคอยจับตาดูเอาไว้เจ้าค่ะ” เสิ่นชิงจู๋กล่าว