ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 540 ทำคนโกรธหรือเปล่า(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 540 ทำคนโกรธหรือเปล่า(2)

ตอนที่ 540 ทำคนโกรธหรือเปล่า(2)

แม้แต่เซี่ยปิงชิงก็มางานนี้ เนื่องจากหล่อนออกจากการอยู่เดือนแล้วพอดี จึงมาร่วมงานด้วยได้ เพียงแต่เด็กแฝดทั้งสองยังเล็กอยู่ จึงไม่ได้พามาด้วย

“มู่หลาน ให้ฉันเจอเด็ก ๆ ทั้งสองหน่อยเร็ว ได้ยินว่าพวกเด็ก ๆ เปลี่ยนไปจากวันแรก ให้ฉันดูหน่อยว่าตอนนี้ทั้งสองโตมาเป็นยังไงบ้างแล้ว”

เซี่ยปิงชิงและเซี่ยปิงหรุ่ยสองพี่น้องต่างมายืนอยู่ตรงหน้าเด็กทั้งสอง

ตอนนี้เซี่ยปิงชิงก็เป็นแม่คนแล้วเหมือนกัน เมื่อเห็นเด็ก ก็ได้แต่รู้สึกว่าเด็กตัวน้อย ๆ ช่างน่ารักไปเสียหมด “มู่หลาน เด็กทั้งสองคนนี้หน้าตาหล่อเหลามากเลย”

“ลูกสองคนของเธอก็น่ารักเหมือนกัน”

ฉินมู่หลานยิ้มและชมตอบ ก่อนจะเอ่ยถาม “เด็ก ๆ สองคนอยู่ที่บ้าน จะยอมกินนมไหม”

“วางใจเถอะ พวกเขาสองคนก็ชอบดื่มนมผงเหมือนกัน”

วันนี้เจ้าสามและเจ้าสี่เป็นตัวเอกของงาน ดังนั้นจึงมีคนมากมายมาพบพวกเขา หลังจากเซี่ยปิงชิงและเซี่ยปิงหรุ่ยมาหาเสร็จแล้วก็รีบออกไปทันที

จนกระทั่งญาติสนิทมิตรสหายเข้ามาดูกันหมดแล้ว แม้แต่คังอันเหอก็เข้ามาดูอยู่ครู่หนึ่งเหมือนกัน

เมื่อเห็นเกี๊ยวตัวน้อยน่ารักทั้งสอง คังอันเหอก็รู้สึกอิจฉานิดหน่อย “ฉินมู่หลาน บางครั้งฉันก็อิจฉาเธอจริง ๆ ได้ลูกแฝดมังกรหงส์แล้ว ครั้งนี้ยังได้ลูกชายฝาแฝดอีก ต่อไปบ้านจะต้องมีชีวิตชีวาแน่นอน”

หล่อนและถูเฉิงเสียงแต่งงานกันมาสองปีแล้ว แต่ยังไม่มีลูกเลย

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็กล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “เธอก็ไม่ต้องอิจฉาหรอก เดี๋ยวพวกเธอสองสามีภรรยาก็มีลูกของตัวเอง ต่อไปบ้านก็คงมีชีวิตชีวาเหมือนกัน”

“งั้นก็ขอให้เป็นตามที่เธอพูดนะ”

คังอันเหอยิ้มแล้วกล่าวเพิ่มเติม จากนั้นก็หันมองฉินมู่หลานด้วยความสงสยก่อนจะเอ่ยถาม “ฉันได้ข่าวว่า…เธอปฏิเสธงานหมอเช่าไป เธอไม่ได้อยากจะเป็นหมอในโรงพยาบาลทหารเหรอ?”

ฉินมู่หลานนึกไม่ถึงว่าคังอันเหอจะถามเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่พูดไม่ได้ จึงพยักหน้าแล้วบอกกล่าวตามตรง “ใช่ หลังจากฉันเรียนจบ ฉันไม่ได้วางแผนจะไปทำงานในโรงพยาบาล”

“เธอ…เธอเก่งขนาดนี้ ไม่ทำงานที่โรงพยาบาลก็ออกจะน่าเสียดายนะ”

บางครั้งก็มีคนที่ชอบเปรียบเทียบกับคนอื่น หล่อนคิดว่าแม้กระทั่งตัวเองยังไม่สามารถเข้าทำงานในโรงพยาบาลทหารได้ แต่ฉินมู่หลานยังเป็นนักศึกษาอยู่ โรงพยาบาลทหารก็ทาบทามตัวเสียแล้ว ทว่าหล่อนกลับไม่อยากทำ และจากที่ได้ยินก็คงหมายความว่า หลังจากเรียนจบก็ไม่คิดอยากจะเป็นหมอในโรงพยาบาล

“ถ้าเธอไม่เป็นหมอ แล้วจะเรียนหมอไปทำไมกัน”

ฉินมู่หลานเหลือบมองคังอันเหอด้วยความแปลกใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ใครว่าเรียนหมอแล้วจะเป็นได้แค่หมอล่ะ ฉันวางแผนเรื่องงานหลังเรียนจบเอาไว้แล้ว งานนั้นก็ยังใช้วิชาแพทย์ที่เรียนมา”

คังอันเหอนึกไม่ถึงว่าฉินมู่หลานจะวางแผนอนาคตเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

“แผนอะไรเหรอ?”

“วิจัยและพัฒนายาหลายชนิด จำเพาะเจาะจงไปที่การผลิตยารักษาโรคเฉพาะทาง”

เมื่อได้ยินแบบนี้ คังอันเหอก็ตระหนักขึ้นได้ทันที “ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เธอสนใจมากที่สุดก็คือเรื่องทางเภสัชวิทยาสินะ ก่อนหน้านี้เธอก็เคยพัฒนายาออกมาหลายชนิดแล้ว”

“ใช่”

เมื่อได้ถามสิ่งที่ตัวเองอยากรู้แล้ว ตังอันเหอก็ไม่อยู่อีกต่อไป รีบกลับไปนั่งที่ของตัวเอง

ถูเฉิงเสียงเห็นภรรยาของเขาเดินมา จึงรีบเอ่ยถาม “เมื่อกี้คุณคุยอะไรกับภรรยาของเซี่ยเจ๋อหลี่เหรอ?”

“ไม่มีอะไร ก็แค่คุยเรื่องเกี่ยวกับการแพทย์น่ะ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ถูเฉิงเสียงก็ไม่ถามอะไรมากมายอีก

ถูไคหัวที่เห็นว่าหลานชายและหลานสะใภ้รักษาหน้าให้กันอย่างไรก็อดพยักหน้าไม่ได้ รู้สึกว่าการตัดสินใจในครั้งก่อนนั้นถูกต้องแล้วจริง ๆ ดูพวกเขาตอนนี้สิ สงบเสงี่ยมมากเลยไม่ใช่เหรอ

หลังจากแขกทุกคนมาถึง งานเลี้ยงก็เริ่มต้นขึ้น

ตอนแรกเซี่ยฉางชิงนั่งอยู่ที่โต๊ะตระกูลเซี่ย เพียงแต่ตอนนี้มีคนมากมายมาดูเด็ก จึงไม่มีใครระวัง ขณะที่ทุกคนกินข้าวอยู่นั้น เขาก็เข้ามาหา

“มู่หลาน พ่อมาอุ้มพวกเด็ก ๆ”

“พ่อคะ พ่อแค่กอดพวกเขาก็พอแล้วค่ะ”

ฉินมู่หลานบอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม เซี่ยฉางชิงกอดเจ้าสามด้วยความระมัดระวัง หลังจากนั้นก็กอดเจ้าสี่อีกครั้ง จากนั้นก็มอบของขวัญที่มาเจอกัน เป็นซองจดหมายสีแดงใบใหญ่และกล่องผ้าสองกล่องที่ดูหนากว่ากล่องอื่น “ให้เด็ก ๆ ทั้งสองน่ะ”

ฉินมู่หลานก็ไม่ปฏิเสธ รับเอาไว้ทันที

“ขอบคุณค่ะพ่อ”

เซี่ยฉางชิงส่ายหัวพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเราเป็นพ่อลูกกันมีอะไรให้ต้องขอบคุณ ลูกรีบกินข้าวเถอะ พ่อก็จะกลับไปนั่งที่แล้ว”

วันนี้ครอบครัวของเสิ่นหรูฮวนก็มาด้วย แม้แต่ฟู่ซวี่ตงก็มาด้วยกัน

ฟู่ซวี่ตงสบโอกาส จึงพูดคุยกับเซี่ยเจ๋อหลี่เรื่องที่จะโดนย้ายมาประจำการที่นี่

เซี่ยเจ๋อหลี่เคยได้ยินข่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อเห็นซวี่ตงกล่าวแบบนี้ ก็อดดีใจไม่ได้ “ดีมากเลยซวี่ตง ต่อไปเราจะได้ร่วมงานกันอีกครั้งแล้ว”

ฟู่ซวี่ตงก็ดีใจมาก

“ใช่แล้ว ต่อไปพวกเราจะต่อสู้เคียงข้างกัน” เขาไม่เพียงแต่จะได้ร่วมงานกับเซี่ยเจ๋อหลี่เท่านั้น แต่ยังได้อยู่ใกล้บ้าน ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

งานเลี้ยงมีชีวิตชีวามาก ทุกคนต่างสนุกกับการรับประทานอาหาร หลังจากรับประทานกันเสร็จแล้วก็ทยอยกลับไปกันทีละคน

ตอนแรกเหมาชุนเถาอยากคุยกับฉินมู่หลานเรื่องสำนักพิมพ์ เพียงแต่เห็นว่าเธอกำลังยุ่ง จึงวางแผนว่าจะคุยกับมู่หลานตอนที่เธอมามหาวิทยาลัย

แต่เซี่ยปิงหรุ่ยอดใจรอไม่ไหว จนกระทั่งกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว มู่หลานก็ว่างแล้ว หล่อนจึงรีบเล่าเกี่ยวกับยาที่ตนเพิ่งพัฒนาออกมาให้ฟัง

“มู่หลาน ฉันเพิ่งพัฒนายาสำหรับผู้หญิง สำหรับผู้หญิงหลังคลอดบุตรโดยเฉพาะ สามารถช่วยควบคุมสัดส่วนของร่างกายได้”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็อดกล่าวไม่ได้ “นี่เป็นเรื่องดีเลย แต่หลังจากผลิตยาออกมาแล้วต้องทดสอบอีกครั้งก่อนไหม?”

เซี่ยปิงหรุ่ยพยักหน้าแล้วบอกกล่าวตามตรง “มี ปิงชิงลองกินแล้ว หล่อนรู้สึกว่าให้ผลค่อนข้างดีมาก เป็นเพราะหล่อนฉันถึงได้มีความคิดเกี่ยวกับยาตัวนี้ ตรงที่หลังจากผู้หญิงคนหนึ่งคลอดลูกแล้วก็ต้องเผชิญปัญหาอีกมากมาย เพราะฉะนั้นฉันจึงคิดว่าจำเป็นต้องมียาเฉพาะสำหรับสตรีหลังตั้งครรภ์หรือเปล่า”

ฉินมู่หลานนึกไม่ถึงว่าเซี่ยปิงหรุ่ยจะพัฒนายาเพราะสาเหตุนี้

“ปิงชิงลองแล้วเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่มีปัญหาแล้ว” ฉินมู่หลานมองออก เซี่ยปิงหรุ่ยให้ความสำคัญกับการเปิดบริษัทยาของพวกเธอทั้งสองคนอย่างมาก และตอนนี้เธอก็คลอดลูกแล้ว จึงเข้าสู่การประชุมแผนงานได้แล้ว

“ปิงหรุ่ย ต่อไปพวกเราลองช่วยกันศึกษาอย่างละเอียดกันเถอะ ถ้าเป็นไปได้ พวกเราลองจัดตั้งบริษัทเล็ก ๆ ก่อนก็ได้”

“ตกลง”

เซี่ยปิงหรุ่ยได้แต่รู้สึกดีใจ

หลังจากเซี่ยปิงหรุ่ยกลับไป แววตาของฉินมู่หลานก็ยังเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นฝ่าฟัน อีกไม่นานก็จะเป็นเทศกาลปีใหม่แล้ว ถึงตอนนั้นก็จะเป็นปี 1980 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มทำงานได้หลากหลายรูปแบบ แน่นอนว่าพวกเธอก็จะต้องสร้างบริษัทขึ้นมาได้เหมือนกัน

หลังส่งแขกทุกคนกลับแล้ว ฉินมู่หลานจึงกลับไปหาลูกทั้งสอง

คุณนายเหยาเอ่ยด้วยสีหน้าทุกข์ใจ “วันนี้ถวนถวนและหยวนหยวนของพวกเรานอนไม่ค่อยพอเลย เดี๋ยวกลับไปแล้วให้พวกเขานอนสักหน่อย”

เมื่อเห็นท่าทางของคุณนายเหยาดูโศกเศร้า เหยาจิ้งจือจึงมองต่ออีกสักครู่

ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันนี้หล่อนก็มองออกว่าคุณนายเหยารักเด็กทั้งสองมากจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสามหรือเจ้าสี่ก็รักหมด เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกของพวกหล่อนจึงเริ่มดีขึ้นนิดหน่อย

“แม่ ถ้าอย่างนั้นให้เจ้าสามกับเจ้าสี่นอนกับพวกแม่นะคะ”

“จิ้งจือ…”

คุณนายเหยามองลูกสาวตัวเองด้วยความไม่อยากเชื่อ หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน ในที่สุดลูกสาวก็เรียกหาตัวเองสักที

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

จะถึงเวลาจัดตั้งบริษัทยาแล้ว ถึงตอนนั้นจะผลิตยาอะไรออกมาบ้างนะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท