ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน – บทที่ 254 ไม่ให้โอกาสข้าหายใจเลยจริง ๆ หรือ?

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

บทที่ 254 ไม่ให้โอกาสข้าหายใจเลยจริง ๆ หรือ?

บทที่ 254 ไม่ให้โอกาสข้าหายใจเลยจริง ๆ หรือ?

บรรยากาศภายในห้องเริ่มอึดอัด หกคนที่ยืนอยู่ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เสียงประตูหินที่ถูกทุบแตกดังมาจากภายนอก พร้อมกับเสียงคำรามด้วยความตื่นเต้นที่พวกมันได้รับอิสระกำลังทำลายพื้นที่ข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง

กึก… ตูม!

ทันใดนั้นชั้นสองพลันสั่นสะเทือน เสียงคำรามอย่างตื่นเต้นแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครวญคราง…

หลิงเยว่เริ่มมีเหงื่อออกที่หน้าผาก คงเป็นเพราะสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่จากชั้นสามทุบทะลุพื้นใต้ก้นของมันลงมาเล่นกับกระบี่เหมันต์เร้นลับแล้วเป็นแน่!

กระบี่เหมันต์เร้นลับที่ถูกจ้องมองด้วยสายตาทั้งหก “…”

พวกเขาคงไม่คิดจะโยนมันออกไปเผชิญหน้ากับฝูงอสูรเพียงลำพังกระมัง?

โม่จวินเจ๋อมีความคิดนี้จริง ๆ เขาอยากให้มันออกไปเปิดทาง ส่วนพวกเขาจะรับมือกับหนอนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้า

เจ้าหนอนตัวเล็กขยับตัวทันใด ทั้งหกคนรีบตั้งท่าโจมตีทันที

“อย่าเพิ่งตื่นเต้นไป ข้าแค่รู้สึกคันหลังเลยเกาเฉย ๆ น่ะ”

พูดจบก็ยกปลายหางลื่น ๆ ของตัวเองขึ้นมาเกาหลังจริง ๆ

สามารถพูดได้ว่าหนอนตัวนี้มีสติปัญญา ไม่เหมือนกับปลาหมึกยักษ์ที่จัดการได้ง่าย หัวใจของทั้งหกคนจมลงสู่ก้นหุบเหว เพิ่งขึ้นมาชั้นสองก็ต้องเผชิญหน้ากับปีศาจทะเลที่มีสติปัญญา ถ้าขึ้นไปอีกจะเป็นอสูรที่มีร่างกายหรือไม่?

“ให้ตายสิ สิ่งที่เตะก้นข้าเมื่อกี้อยู่ไหน ออกมา! ข้าจะฆ่าเจ้า!”

ประตูห้องถูกเคาะดังปัง! เสียงหยาบกระด้างดังเข้ามาในหูของทุกคน

“เจ้าหนอนตัวเล็กรีบเปิดประตูเร็ว ไม่งั้นข้าจะบุกเข้าไปเอง!”

สัตว์อสูรด้านนอกดูหงุดหงิดมาก

“พวกเจ้าต้องการขึ้นไปชั้นสามหรือไม่?”

งูทะเลปีศาจที่ถูกเรียกว่าตัวหนอนเล็ก ๆ เบิกตากว้าง มันมองหกคนตรงหน้าทีละคน เมื่อมองมาถึงหลิงเยว่ สายตาของมันก็หยุดนิ่ง

งูทะเลปีศาจขยับร่างกาย ด้านหลังของมันปรากฏประตูเปิดแง้มอยู่ ผ่านช่องว่างสามารถมองเห็นบันไดยาวขึ้นไป

“เจ้ามีเงื่อนไขอะไร?”

โม่จวินเจ๋อไม่เชื่อว่างูทะเลปีศาจตัวนี้จะปล่อยให้พวกเขาขึ้นไปง่าย ๆ

“นาง” งูทะเลปีศาจชี้ปลายหางไปที่หลิงเยว่ “ให้นางอยู่ที่นี่”

ก็จริงอยู่

นี่อยู่ในความคาดเดาของหลิงเยว่ นางยังไม่รู้ว่าจนถึงตอนนี้ว่าตัวเองมีเสน่ห์มาจากที่ไหนกัน ถึงได้ทำให้เหล่าสัตว์อสูรหลงใหลได้ขนาดนี้? นางถามอีกาสุริยันและระบบ แต่ทั้งสองต่างไม่ยอมตอบนาง

ไม่ว่าอย่างไร นางต้องได้หัวใจของร่างแยกของจอมปีศาจมาให้ได้ สิ่งที่อยู่ข้างในต้องให้คำตอบแก่นางแน่นอน!

ช่างน่าสงสัยเสียจริง…

“ดี ๆ ๆ ตัวหนอนน้อย เจ้าไม่ยอมเปิดประตูสินะ!” พี่ใหญ่อารมณ์ร้อนด้านนอกเริ่มทุบทำลายประตูอย่างรุนแรง ประตูหินเพียงแค่โดนฝ่ามือไปทีเดียวก็ปรากฏรอยร้าวแล้ว หากโดนฝ่ามือที่สองลงไปประตูคงจะแตกละเอียด

โม่จวินเจ๋อย่อมไม่ยอมใช้หลิงเยว่มาแลกกับโอกาสในการขึ้นไปชั้นสาม อวี้เจินเริ่มเปล่งประกายสีทองออกมาแล้ว ก็แค่ต่อสู้กับปีศาจที่มีสติปัญญาเพียงเล็กน้อย ตราบใดที่พวกเขาร่วมมือกัน ต้องสามารถฆ่ามันจนราบคาบได้แน่นอน!

“หืม? อยากจะสู้ขึ้นไปหรือ?”

ดวงตาของงูทะเลปีศาจเต็มไปด้วยความสนใจ ประตูหินสั่นคลอนเหมือนกำลังจะพังลงมา

“ศิษย์พี่ พวกท่านขึ้นไปก่อนเถิด เดี๋ยวข้าจะตามไป”

หลิงเยว่คว้ากำปั้นที่อวี้เจินชูขึ้น ทั้งหกคนรวมกับความช่วยเหลือจากอสูรรับใช้ ถึงแม้จะสามารถฝ่าด่านเลือดออกไปได้ แต่ต้องบาดเจ็บแน่ ๆ ถ้าบาดเจ็บแล้วจะไปต่อได้อย่างไร?

สู้รักษากำลังไว้ก่อน รอจนกว่าจะเจอร่างแยกของจอมปีศาจแล้วค่อยสู้ตายดีกว่า!

“ศิษย์น้องหลิง เจ้ามีวิธีหนีหรือไม่?”

อวี้เจินสื่อสารกับหลิงเยว่ สายตาของอีกสี่คนก็มองมาที่นางเช่นกัน

หลิงเยว่พยักหน้าเบา ๆ อย่างคลุมเครือ

โม่จวินเจ๋อเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถฆ่าสัตว์อสูรทั้งสองตัวนี้ได้

“ข้าเห็นด้วยที่จะอยู่ต่อ!”

หลิงเยว่จับอวี้เจิน และติงหลิวหลิ่วไว้คนละข้าง แล้วโยนพวกนางเข้าประตูที่เปิดอยู่ด้านหลังของงูทะเลปีศาจ ว่านอวี้เฟิงและลู่เป่ยเหยียนไม่ต้องให้นางลงมือ พวกเขาก้าวเดินไปข้างหน้าทีละก้าวพลางหันหลังกลับมามอง

โม่จวินเจ๋อยืนอยู่ข้าง ๆ หลิงเยว่ด้วยท่าทีหนักแน่น

ปัง!

ประตูห้องหินถูกทุบแตก ประตูทางเดินด้านหลังงูทะเลปีศาจปิดลงอย่างรวดเร็ว ไม่เปิดโอกาสให้หลิงเยว่และโม่จวินเจ๋อได้พักหายใจ

ข้างหน้ามีงูทะเลปีศาจ ข้างหลังมี… หืม? ตัวนี้หน้าตาน่าขยะแขยงเกินไปแล้ว!

มันมีลักษณะเหมือนกับดอกเบญจมาศสีดำนับไม่ถ้วนมารวมกัน แม้แต่รอบ ๆ ตาดอกเบญจมาศทั้งสองข้างก็ยังมีรอยย่น มันมีน้ำสีดำไหลออกมาจากกลีบดอกด้านข้าง กลิ่นเหม็นคาวฟุ้งไปทั่วอย่างผิดปกติเพราะการมาของมัน

สายตาของปีศาจดอกเบญจมาศวนเวียนอยู่ที่โม่จวินเจ๋อก่อน จากนั้นก็เลื่อนไปที่กระบี่เหมันต์เร้นลับในมือเขา “กระบี่เล่มนี้แหละที่แทงข้า!”

“ชายคนนี้กับกระบี่ข้ายกให้เจ้า ส่วนผู้หญิงนั่นเป็นของข้า”

หลิงเยว่ถูกหางสีดำเย็นเฉียบของงูทะเลปีศาจพันรอบตัว ดูเหมือนมันจะกลัวว่าปีศาจเบญจมาศจะสังเกตเห็นความผิดปกติบนตัวนาง จึงช่วยซ่อนพลังชีวิตของนางไว้อย่างใจดี

แต่ยังช้าไป

สัตว์อสูรที่อยู่ในชั้นที่สามไม่ได้โง่ ปีศาจเบญจมาศหัวเราะเยาะ แล้วแบ่งร่างออกเป็นเบญจมาศนับไม่ถ้วน ส่วนหนึ่งโจมตีโม่จวินเจ๋อ อีกส่วนหนึ่งล้อมงูทะเลปีศาจไว้

“ข้าต้องการทั้งหมด รวมถึงเจ้าด้วย!” ปีศาจเบญจมาศประกาศอย่างเกรี้ยวกราด

“ปากดีนัก!”

งูทะเลปีศาจอ้าปากคำราม สัตว์อสูรในทางเดินตอบรับเสียงดัง แล้วพุ่งเข้ามาที่นี่ทันที สงครามใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้ว!

หลิงเยว่ที่ถูกหางพันอยู่ตอนนี้นอกจากจะรู้สึกหน้ามืดอยากอาเจียนแล้ว นางหยิบเมล็ดพันธุ์ออกมาจากแหวนเก็บของอย่างยากลำบาก แล้วโปรยไปที่หางงู

โม่จวินเจ๋อพยายามหลายครั้งที่จะฝ่าวงล้อมของปีศาจเบญจมาศออกไป แต่ร่างแยกของปีศาจเบญจมาศช่างเจ้าเล่ห์ ไม่ว่าเขาจะฟันมันจนแหลกเป็นชิ้น ๆ มันก็ยังสามารถฟื้นคืนชีพได้ และยังทรงพลังมากขึ้นอีกด้วย

“เหมันต์ปิดผนึก!”

กระบี่เหมันต์เร้นลับกลายเป็นกระบี่สีขาวนับไม่ถ้วนล้อมปีศาจเบญจมาศไว้ และใช้พลังของน้ำแข็งปิดผนึกพวกมัน

ได้ผล!

โม่จวินเจ๋อยังไม่ทันได้ยิ้ม ปีศาจเบญจมาศที่ถูกแช่แข็งก็กลายเป็นของเหลวสีดำซึมออกมา หยดลงบนพื้นเป็นจังหวะ จากนั้นก็กลายเป็นปีศาจเบญจมาศตัวใหม่

โม่จวินเจ๋อ “…”

จากนั้นเขาก็โยนก้อนน้ำแข็งออกไปให้มันแสดงพลัง แล้วเรียกวิญญาณผู้พิทักษ์ตัวน้อยออกมา ทั้งสองร่วมมือกันเตรียมวางกับดักฆ่าหมู่ในสถานที่นั้นทันที!

โม่จวินเจ๋อผู้มีแก่นปราณลมนั้นเร็วมาก ตามองไม่ทันเห็น แม้แต่งูทะเลปีศาจและปีศาจเบญจมาศที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดยังรู้สึกได้แค่ลมพัดผ่านไปเป็นระลอก พอมองไปก็ไม่เห็นตัวแล้ว

กระบี่เหมันต์เร้นลับและปีศาจดอกเบญจมาศต่อสู้กัน แม้ว่ากระบี่เพิ่งจะพัฒนาได้ไม่นาน ยังไม่ทันได้ไปเสริมแกร่งที่ทะเลเพลิง แต่ก็ไม่ใช่ปีศาจธรรมดาที่จะมาเยาะเย้ยได้!

ลูกน้องที่งูทะเลปีศาจเรียกตัวพากันมารุมเร้า ห้องหินขนาดใหญ่กลายเป็นที่แออัดไปทันที หลิงเยว่ในตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำ แต่ยังคงพยายามปลุกพืชพิษ

หนังงูนี่ช่างหนาเหลือเกิน ปลุกอยู่ครึ่งวันก็ยังไม่ออก หลิงเยว่สบถไปพลางปลุกไปพลาง

ตูม!

อืม… ไม่สำเร็จ หลิงเยว่ไม่ยอมแพ้ เลือกที่จะทำต่อไป

สี่คนที่ขึ้นไปถึงชั้นสามได้แล้วในตอนนี้ไม่ได้มีความสุขที่หนีรอดมาได้ พวกเขากังวลใจยิ่งนัก เสียงดังมาจากชั้นสองนั้นรุนแรงเหลือเกิน ไม่รู้ว่าโม่จวินเจ๋อและหลิงเยว่เป็นอย่างไรบ้าง

“พวกเราไปหารูที่ปีศาจชั้นสามเจาะทะลุลงไปช่วยคนกัน!”

อวี้เจินกำลังจะไปหารูที่ถูกเจาะทะลุ แต่กลับพบว่าชั้นสามมีหมอกปีศาจหนาแน่นมาก หนาแน่นจนพวกเขามองไม่เห็นทางข้างหน้าเลย!

หมอกปีศาจดูเหมือนจะรู้สึกถึงการบุกรุกของมนุษย์ มันเริ่มรวมตัวกันกลายเป็นรูปร่างของปีศาจล้อมพวกเขาไว้

ตุบ ๆ ๆ…

เสียงฝีเท้าคุ้นเคยของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ดังขึ้น

ติงหลิวหลิ่วและอีกสี่คน “…”

จะไม่ให้หายใจหายคอสักนิดเลยจริง ๆ หรือ?

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

Status: Ongoing
‘หลิงเยว่’ ผู้ฝึกตนสำนักฝ่ายนอกแสนอ่อนหัด ทั้งยังถูกกลั่นแกล้งจากศิษย์ร่วมสำนัก ทว่ายังโชคดีได้ระบบนี้มาช่วยชีวิต มอบหมายภารกิจให้นางสามารถแข็งแกร่งขึ้นโดยใช้ทักษะการทำอาหารให้เกิดประโยชน์ แม้เส้นทางการเป็นยอดเซียนจะหริบหรี่ ทว่าโชคชะตาของยอดแม่ครัวได้เปิดทางให้ ‘หลิงเยว่’ ได้พบหนทางที่จะช่วยให้ตนรอดจากวิกฤติในครั้งนี้ไปได้‘ลิขิตฟ้าหรือจะสู้ตะหลิว เอ้ย! มานะตน หากนางไม่ยอมแพ้ ย่อมต้องมีหนทางสดใสรออยู่ข้างหน้าแน่’

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท