บทที่ 252 มันคงรักการออกกำลังกายมากตอนมีชีวิตอยู่
บทที่ 252 มันคงรักการออกกำลังกายมากตอนมีชีวิตอยู่
หัวของปลาหมึกยักษ์สีดำไม่ได้มีแค่ดอกไม้สีดำหนึ่งดอก ห้าคนที่กำลังต่อสู้ได้แต่มองท่าทีราวกับกำลังสานดอกไม้ขนาดใหญ่ให้ตัวเองอยู่ แม้จะดูแปลก… แต่ช่างคุ้นตานัก
โม่จวินเจ๋อหันไปมองตำแหน่งของหลิงเยว่ คนที่แต่งตัวปีศาจทะเลตัวนี้คงเป็นนางอีกแล้ว
ปลาหมึกตัวนั้นโกรธแล้ว มันพบแล้วว่าใครเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตัวเองมีดอกไม้งอกออกมา แถมยังดูดเลือดเนื้อแม้กระทั่งพิษของมัน หนวดนับไม่ถ้วนพลันโจมตีไปยังหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงนั้นพร้อมกัน
กึก…
โล่ป้องกันปรากฏรอยแตก เมื่อปลาหมึกกำลังจะโจมตีครั้งที่สอง โม่จวินเจ๋อรีบขวางการโจมตีไว้ทัน อีกสี่คนก็ขวางอยู่ด้านหน้าของหลิงเยว่ด้วย
“ตัวใหญ่แบบนี้นี่ยุ่งยากจริง!”
หมัดของอวี้เจินชาไปหมดแล้ว ไม่ว่านางจะชกปีศาจทะเลตรงหน้ายังไง ความเสียหายที่สร้างให้มันแทบจะไม่มีเลย ความเสียหายทั้งหมดถูกดูดซับไปหมด!
“เจ้าชกหนวดมันทำไม ชกที่ตาสิ!”
ลู่เป่ยเหยียนที่ถือดาบใหญ่ ร่างกายพุ่งเข้าไปหาปีศาจทะเลราวกับเปลวไฟ กำลังจะแทงเข้าไปที่ตาใหญ่ของมัน หนวดที่เต็มไปด้วยดอกไม้นั้นพันรอบดาบไว้
ลู่เป่ยเหยียนแทงเข้าไปอย่างดื้อรั้น แต่กลับหยุดอยู่ห่างจากตาเพียงนิ้วเดียว กระบี่เหมันต์เร้นลับพลันแยกเป็นสิบแปดเล่ม เล็งไปที่สิบแปดตาแล้วแทงเข้าไปพร้อมกัน
ปีศาจทะเลมีปฏิกิริยาเร็วมาก หนวดสิบแปดอันพันรอบดาบพร้อมกัน ไม่ยอมให้พวกมันเข้าใกล้ต่ออีกแม้แต่ครึ่งส่วน และพยายามบีบให้แตก แต่กระบี่เหมันต์เร้นลับจะแตกง่าย ๆ ได้อย่างไร?
ยิ่งมันพยายามแทงไปข้างหน้า หนวดนั้นก็พยายามดึงออกมา
“ท่านพี่รองขึ้นไป!”
หลิงเยว่เตะว่านอวี้เฟิงไปข้าง ๆ ลู่เป่ยเหยียน ดอกไม้ที่พันรอบหนวดของอีกฝ่ายเบ่งบานขึ้นมาพร้อมกันทันที หนวดที่อวบอิ่มพลันเหี่ยวแห้งอย่างรวดเร็ว
ว่านอวี้เฟิง กางพัดออกเป็นหนามแหลม พุ่งเข้าใส่ดวงตาขนาดใหญ่ตรงหน้าอย่างสุดกำลัง อวี้เจินที่เปล่งประกายสีทองฉวยโอกาส ใช้พละกำลังอย่างหนักกระแทกใส่พัด ทำให้หนามพัดปักลึกยิ่งขึ้น
ปลาหมึกร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด โบกหนวดไปมา
ลู่เป่ยเหยียนที่ได้รับการปลดปล่อยชูดาบพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง ต้นไม้สีเขียวมรกตต้นหนึ่งยื่นกิ่งก้านออกมา กิ่งก้านเปลี่ยนเป็นแส้ยาว พันรอบหนวดที่กำลังโบกไปมา เปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ด้านหน้า
ปลาหมึกที่ตาบอดไปข้างหนึ่งตกอยู่ในความโกรธแค้นอย่างรุนแรง กิ่งไม้ที่พันรอบมันแตกสลายทีละน้อย ใบหน้าของติงหลิวหลิ่วซีดลง แล้วพ่นเลือดออกมา
ตะขาบมรกตตัวที่สามรับตัวติงหลิวหลิ่วที่กำลังจะล้มลงทันเวลา ตะขาบมรกตตัวที่สี่และห้ารวมร่างกันโจมตีปลาหมึกที่โม่จวินเจ๋อชูดาบฟันหนวดอยู่ตรงหน้า มังกรดำคำรามเสียงดังอ้าปากกัดหัวของปลาหมึกทันที
หลิงเยว่หายใจเข้าลึก ๆ ปล่อยให้ดอกไม้สีดำที่กระจายอยู่บนร่างกายของปลาหมึกดูดซับเลือดเนื้อของมันอย่างรวดเร็ว
ปลาหมึกที่ถูกศัตรูรุมเร้าทั้งด้านหน้าและด้านหลังกำลังจะระเบิดตัวเอง เพื่อให้ตายไปพร้อมกับมนุษย์ทั้งหลาย แต่กลับตกใจที่พบว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ระบบรากของพืชได้พันรอบตันเถียนของมัน
ในช่วงเวลานี้ ตาที่สอง สาม สี่ และห้าของปลาหมึกก็มืดบอด หัวถูกกัดขาดไปสองส่วน หนวดหลายอันแห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็ว อ้าปากจะพ่นน้ำพิษ แต่น้ำพิษในร่างกายกลับหายไป!
หลิงเยว่ควบคุมดอกไม้สีดำที่เติบโตอยู่บนหินวิเศษของปลาหมึกให้ดูดซับพลังวิเศษ
โม่จวินเจ๋อฉวยโอกาสในขณะที่ปลาประหลาดชะงักงัน ยกกระบี่ขึ้นผ่าหัวของมัน คมกระบี่ฟันต่อไปด้านล่างอย่างราบรื่น สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ถูกผ่าออกเป็นสองซีกในทันที
ทั้งหกคนถอยกรูดอย่างรวดเร็ว หลิงเยว่ถอยไปถึงระยะปลอดภัยแล้วนอนราบลงทันที ติงหลิวหลิ่วและคนอื่น ๆ ตามมาติด ๆ มีเพียงโม่จวินเจ๋อที่ยืนอยู่อย่างฝืนทน และมองห้าคนที่นอนราบอยู่บนพื้นด้วยความเป็นห่วง
โม่จวินเจ๋อให้เฝิ่นอีสร้างโล่ป้องกันให้ทั้งห้าคน
ด้านหลังปลาหมึกที่ตายแล้วปรากฏทางเดินยาว ทุก ๆ สามก้าวด้านข้างทางเดินจะมีห้องหนึ่งห้อง ประตูหินที่ปิดสนิทของห้องนั้นมีอสูรร้ายอยู่ และ… ดูเหมือนจะเป็นญาติกับปลาหมึกที่พวกเขาสังหาร
กลไกชั้นสามอยู่ในห้องใดห้องหนึ่งหรือ?
อาจจะ… เป็นไปได้ โม่จวินเจ๋อนับจำนวนห้องด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ เมื่อนับถึงห้องที่หกสิบสอง หางตาของเขาพลันกระตุก เขาเดินมาเพียงสองในสามของทางเท่านั้น เดินต่อไปนับต่อไป ทั้งหมดมีเก้าสิบเก้าห้อง ห้องสุดท้ายที่ปลายทางใหญ่ที่สุด แต่ปลาหมึกที่ถูกแกะสลักไว้นั้นเล็กเท่าไส้เดือนดิน
โม่จวินเจ๋อยื่นมือออกไปตั้งใจจะผลักประตูหิน แต่พอนึกถึงห้าคนที่นอนราบอยู่ ก็ตัดสินใจว่าปล่อยให้พวกเขาพักผ่อนสักครู่ก่อน ค่อยคิดหาทางออกทีหลัง
ขณะที่โม่จวินเจ๋อเดินกลับมา เขาได้กลิ่นหอมโชยมาท่ามกลางกลิ่นเหม็นของพลังมาร
“ศิษย์น้อง ของพวกนี้กินได้จริงหรือ? ยังไม่กินดีกว่าไหม?” อวี้เจินพูดอย่างรังเกียจ แต่ก็ยังรับหนวดหมึกย่างมาโดยไม่รู้ตัว
ถึงจะรับมาแล้ว แต่ไม่มีใครในที่นี้กล้ากิน ยกเว้นตะขาบมรกตตัวที่สาม สี่ และห้า พวกมันกำลังกอดหนวดที่ใหญ่กว่าตัวมัน พลางกัดกินอย่างเอร็ดอร่อย จนน้ำมันไหลเต็มปาก
“ยังไงการติดตามมนุษย์เปราะบางก็ได้กินเนื้ออยู่ดี” ตะขาบมรกตตัวที่สามอยากทรยศติงหลิวหลิ่วเสียตรงนั้นเลย
“อืม ๆ!” อีกสองตัวปากไม่ว่าง ได้แต่พยักหน้ารัวๆ
“พิษของมันถูกดอกไม้กินจนหมดแล้ว”
หลิงเยว่ส่งหนวดย่างรสเผ็ดกลิ่นยี่หร่าที่เพิ่งย่างเสร็จให้โม่จวินเจ๋อ
โม่จวินเจ๋อมองหนวดสีดำเป็นมันวาว มีไอร้อนลอยขึ้นมา ทั้งยังโรยเครื่องเทศเต็มไปหมด ในใจปฏิเสธที่จะกิน อาหารสีดำทำให้เขาไม่ค่อยอยากกิน โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงรูปร่างอันน่ากลัวของปลาหมึกนั่น และน้ำพิษเหม็นคาว… ยิ่งกินลงไปได้ยาก
หลิงเยว่เป่าหนวดในมือ จากนั้นก็กัดคำโตท่ามกลางสายตาที่ยอมรับได้ยากของทุกคน หนวดเคี้ยวหนึบ จากนี้ยืนยันได้ว่าตอนมีชีวิตมันรักการออกกำลังกายมาก เนื้อสัมผัสกรอบ ขาปลาหมึกที่ปรุงรสด้วยเครื่องเทศยิ่งเคี้ยวยิ่งหอม ทิ้งกลิ่นหอมติดปาก ยังมีรสหวานตามมาด้วย
อร่อยมาก!
“เจ้ามนุษย์เปราะบาง พวกเราเก็บหนวดพวกนี้ไปเถอะ”
ตะขาบมรกตตัวที่ห้ากินอยู่ในชามแล้วหันไปมองขาที่พื้น ถ้าไม่เก็บตอนนี้ เดี๋ยวดอกไม้สีดำประหลาดนั่นจะกินหมดแน่ ๆ!
“พวกเจ้าเก็บไปเถอะ พอคิดจะกินค่อยเอาออกมาย่าง เอามาหั่นเป็นชิ้นทอดกระเทียมคงอร่อยไม่เบา ผัดก็คงหอมไม่แพ้กัน…” หลิงเยว่คิดเมนูอาหารออกมาหลายอย่างแล้ว ถ้าที่นี่ไม่ค่อยปลอดภัย นางจะตั้งหม้อทำอาหารทุกอย่างที่คิดได้เลย!
“ไม่กินหรือ? ให้ข้ากินแล้วกัน”
ตะขาบมรกตตัวที่สี่จ้องมองที่หนวดปลาหมึกย่างในมือของว่านอวี้เฟิง และคนอื่น ๆ “สิ่งนี้มันเป็นสัตว์อสูรนะ พวกเจ้ามนุษย์ยังไงก็ไม่ควรกินมันดีกว่า”
พอพูดถึงมนุษย์ ทั้งห้าคนก็มองไปที่หลิงเยว่ที่กินไปหนึ่งไม้แล้วหยิบอีกไม้ขึ้นมา
จะมองนางทำไม? นางไม่ใช่มนุษย์สักหน่อย กินเข้าไปก็ไม่เป็นไร แต่คำพูดของตะขาบมรกตตัวที่สี่ก็เตือนสติหลิงเยว่ได้ สิ่งนี้โตมาจากการหล่อเลี้ยงด้วยพลังหยิน ถ้าหากพวกเขากินเข้าไปแล้วเกิดมีปัญหาขึ้นมาจะทำอย่างไร?
“เพื่อความปลอดภัย พวกเจ้ายังไม่ควรกินมันดีกว่า…”
โม่จวินเจ๋อกัดหนวดปลาหมึกย่างคำหนึ่ง ตอนที่หลิงเยว่กำลังยื่นมือไปเก็บมันกลับ
กลิ่นแปลก ๆ ของพลังหยินนั้นไม่มี รสชาติต่างจากเนื้อย่างมาก แต่… ก็อร่อยใช้ได้
“ข้าขอลองบ้าง”
อวี้เจินหลับตาแล้วกัดคำหนึ่ง จากนั้นก็หยุดไม่อยู่ กินไปด้วยเก็บหนวดปลาหมึกที่ไม่ได้ปนเปื้อนดอกไม้สีดำเข้าไปในแหวนมิติด้วย
แล้วทุกคนก็… กินจนหมดเกลี้ยง
หลิงเยว่กลัวว่าพวกเขาจะกินเข้าไปแล้วเกิดเรื่อง จึงหยิบสุราปราบมารให้ทุกคนคนละไห ถ้ากินคู่กับสุราปราบมารน่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะมั้ง?