รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 991 ข้าไม่ชอบต่อสู้ซึ่งหน้ากับผู้อื่น ขอข้าทำนายหน่อยว่าหลุมศพบรรพบุรุษเจ้าอยู่ที่ใด

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 991 ข้าไม่ชอบต่อสู้ซึ่งหน้ากับผู้อื่น ขอข้าทำนายหน่อยว่าหลุมศพบรรพบุรุษเจ้าอยู่ที่ใด

บทที่ 991 ข้าไม่ชอบต่อสู้ซึ่งหน้ากับผู้อื่น ขอข้าทำนายหน่อยว่าหลุมศพบรรพบุรุษเจ้าอยู่ที่ใด

ประกายสีเงินพราวระยับ ทุกดาบที่ฟาดฟันลงมาล้วนน่าสะพรึงกลัว ห้วงมิติพังครืน กาลเวลาอันยาวนานแหลกเหลว สิ่งมีชีวิตโลงโลหิตตวัดออกไปหลายดาบ ไม่ให้โอกาสองค์จ้าวอู๋เฉินรอดแม้แต่น้อย

ตู้ม!

องค์จ้าวอู๋เฉินเรือนร่างส่องสว่างโปร่งแสง เลือดเนื้อช่วงอกที่แหวกออกสมานอย่างรวดเร็ว พลังวิถีพิเศษไหลเวียน ขอบเขตวิถีของเขาสูงส่งเกินไป ได้หลี่จิ่วเต้าชี้แนะด้วยตนเอง ประโยชน์ที่เขาได้รับนั้นมหาศาลจนจินตนาการไม่ออก

เขาสำแดงพลังวิถีนานัปการออกมา ผืนจักรวาลยังขับขานเคล้าคลอ กระเพื่อมไปตามท่วงท่าของเขา

ตึง! ตึง! ตึง!

เขามิได้ใช้อาวุธใด ๆ สองหมัดของเขาคือศาสตราชั้นดีที่สุด พลังวิถีถักทออยู่บนกำปั้นทั้งสอง เข้าปะทะกับดาบเงิน หยุดยั้งไว้ได้ดาบแล้วดาบเล่า

สิ่งมีชีวิตโลงโลหิตขมวดคิ้ว รับรู้ถึงแรงกดดันมหาศาล มือข้างที่จับดาบสั่นระริกเพราะแรงสะเทือนจนแทบกุมดาบไม่อยู่

ยอดฝีมือน่ากลัวปานนี้มาจากที่ใดกัน

เขานึกถึงหลี่จิ่วเต้าขึ้นมาทันที

น่ากลัวว่าคนผู้นี้เป็นผู้ที่อยู่ข้างกายหลี่จิ่วเต้า ตั้งใจมาเป็นกำลังหนุนให้เขาหลิงซานโดยเฉพาะ ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นถิ่นของต้าเต๋อ และต้าเต๋อคือผู้ติดตามหลี่จิ่วเต้า

“ฆ่า!”

เขาตวาดเสียงลั่น ประกายสยดสยองซัดสาดออกมาจากทั่วร่าง ระเบิดพลังทั้งหมด

หากแม้แต่องค์จ้าวอู๋เฉินยังจัดการไม่ได้ แล้วเขาจะจัดการหลี่จิ่วเต้าได้อย่างไร

ตู้ม!

องค์จ้าวอู๋เฉินดุดันขึ้นเรื่อย ๆ ในการต่อสู้ จังหวะแห่งเต๋าสูงส่งปะทุออกจากร่างเขาไม่หยุด พลังวิถีกลายเป็นศาสตราทรงพลังที่สุดของเขา!

เสียงดังตึง หมัดของเขาปะทะกับดาบเงิน ดาบเงินมีรอยบิ่น สิ่งมีชีวิตโลงโลหิตถอยกรูดด้วยแรงกระเทือน กระแทกดาราดวงหนึ่งจนแหลกลาญ

องค์จ้าวอู๋เฉินปรี่ประชิดตัวสิ่งมีชีวิตโลงโลหิตในพริบตา กระหน่ำหมัดไปที่หัวใจของสิ่งมีชีวิตโลงโลหิต

เสียงดังตู้ม หมัดขององค์จ้าวอู๋เฉินกระแทกกับทรวงอกสิ่งมีชีวิตโลงโลหิตจนร่างแหลกเหลว กลายเป็นหมอกเลือด

องค์จ้าวอู๋เฉินยื่นมือข้างหนึ่งเข้าไปในหมอกเลือด หมายจะกระชากวิญญาณสิ่งมีชีวิตโลงโลหิตออกมา ระดับพวกเขาต่อให้ถูกทำลายกายเนื้อ ลบล้างวิญญาณ ยังยากจะฆ่าได้อย่างแท้จริง

กระนั้นก็สร้างบาดแผลฉกรรจ์ได้

องค์จ้าวอู๋เฉินตั้งใจว่าจะเชือดเฉือนสิ่งมีชีวิตโลงโลหิตไปทีละรอบ

อนิจจา เขาทำไม่สำเร็จ มือข้างที่ยื่นเข้าไปในหมอกเลือดมิอาจกระชากวิญญาณของสิ่งมีชีวิตโลงโลหิตออกมา วิญญาณของสิ่งมีชีวิตโลงโลหิตปรากฏตัวขึ้นอีกที่

นอกจากนี้ สิ่งมีชีวิตโลงโลหิตยังสร้างร่างใหม่ขึ้นได้ในพริบตา

“เปล่าประโยชน์!”

องค์จ้าวอู๋เฉินแผดเสียง พลังวิถีส่งเสียงกู่ร้องพร้อมเพรียง สายฟ้าฟาดผ่าลงจากนภานับคณาประหนึ่งน้ำตกอสนีบาต ไหลสาดลงมา

สิ่งมีชีวิตโลงโลศพถูกเล็งเป้า ไม่ว่าหนีไปที่ใดน้ำตาอสนีบาตจะต้องอยู่เหนือหัวเขา

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เสียงระเบิดดังสนั่นไม่หยุด ลงท้ายสิ่งมีชีวิตโลงโลหิตก็สู้ไม่ไหว กายเนื้อและวิญญาณจมลงท่ามกลางน้ำตกอสนีบาต ถูกน้ำตกอสนีบาตเชือดเฉือนครั้งแล้วครั้งเล่า

ท่ามกลางอวกาศห่างไกลออกไป

สิ่งมีชีวิตตนหนึ่งยืนตระหง่านอยู่ในจักรวาล หมอกหนาปกคลุมอยู่รอบกายจนมองไม่เห็นใบหน้า

“แย่จริง ๆ ไม่ทันได้เห็นหน้าหลี่จิ่วเต้าด้วยซ้ำ”

เขาสั่นศีรษะ เขาผู้นี้เองที่ประทานพลังและดาบเงินแก่สิ่งมีชีวิตโลงโลหิต

“เช่นนี้ไม่ไหวแน่ หากไม่ได้พบหลี่จิ่วเต้า ข้าคงไม่รู้ว่าเบื้องหลังเขามีสิ่งใดอยู่…”

พลันเขาสำแดงวิชาลับบางอย่าง ถ่ายทอดพลังเข้าไปในร่างสิ่งมีชีวิตโลงโลหิตเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง

“ขอบเขตวิถีของคนผู้นี้สูงเกินไป ไม่ทันบรรลุจุดสูงสุดช่วงหนึ่งในขอบเขตล้ำขีดก็ระเบิดพลังสูงสุดช่วงหนึ่งในขอบเขตล้ำขีดได้แล้ว”

เขากล่าวต่อ “ทว่าเปล่าประโยชน์ บรรลุอีกขั้นก็พอให้กำราบเขาแล้ว”

คราวนี้เขาช่วยให้สิ่งมีชีวิตโลงโลหิตบรรลุถึงล้ำขีดขั้นสอง หลังจากนี้จักปราศจากแรงกดดันอีก สามารถปราบองค์จ้าวอู๋เฉินได้ง่าย ๆ

ตู้ม!

อีกด้าน จู่ ๆ สิ่งมีชีวิตโลงโลหิตก็ตัวโป่งพอง เปี่ยมไปด้วยพละกำลัง

“พลังนี่…!”

ดวงตาของเขาวาวโรจน์ ในใจตื้นตันเหลือแสน รับรู้ได้ว่าพลังในกายเพิ่มขึ้นหลายเท่า

“ไปตายซะ!”

เขาหัวเราะดังลั่นอย่างบ้าคลั่ง ยกมือลบล้างน้ำตกอสนีบาต ก่อนจะชี้นิ้วหนึ่งออกไป พลันนั้นลำแสงสยดสยองลำหนึ่งพวยพุ่งทะลุร่างขององค์จ้าวอู๋เฉิน เศษเนื้อผสมด้วยโลหิตสาดกระจาย

“เป็นไปได้อย่างไรกัน?!”

ร่างของเขาโซเซ ลมปราณในตัวพลุ่งพล่านไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าซีดเซียว

เขาเชื่อไม่ลง สิ่งมีชีวิตโลงโลหิตเกือบสังหารเขาได้แล้ว เหตุใดจู่ ๆ สิ่งมีชีวิตโลงโลหิตถึงน่าสะพรึงกลัวขึ้นได้เพียงนี้?!

“ไยจะเป็นไปไม่ได้เล่า! ฮ่า ๆ ข้าจะดูสิว่าผู้ใดจะช่วยเจ้าได้!”

สิ่งมีชีวิตโลงโลหิตหัวเราะอย่างสะใจ

เมื่อครู่เขาเกือบตายเต็มที บัดนี้ชะตาชีวิตขององค์จ้าวอู๋เฉินอยู่ในกำมือของเขา ความรู้สึกนี้ชวนให้เปรมปรีดิ์ยิ่งนัก

ณ เมืองชิงซาน

ภายในลานเล็กของหลี่จิ่วเต้า

“สุนัขดำ นักพรตอู๋เหลียง พวกเจ้าไปเถิด เขาหลิงซานประสบภัยแล้ว”

เสียงของลานเล็กดังขึ้น กฎระเบียบและพลังวิถีพิเศษซัดสาดออกมา ส่งตัวสุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงไปที่นั่น

“โฮ่ง! สุนัขพันธุ์ทางจากไหนกัน บังอาจกำเริบสืบสาน!”

สุนัขดำต่อว่าเสียงกร้าว

อีกด้านนักพรตอู๋เหลียงลอบหัวเราะ อะไรกัน สุนัขดำอำมหิตถึงขั้นด่าตัวเองเชียวหรือ!

สุนัขดำที่รู้ตัว ใบหน้าพลันแดงระเรื่ออย่างอดมิได้

“หัวเราะอะไร!”

มันตบอุ้งเท้ากับศีรษะของนักพรตอู๋เหลียง ทั้งยังขู่นักพรตอู๋เหลียงว่าขืนยังหัวเราะอีกมันจะเลาะฟันเขาออกมาให้หมด!

ป่าเถื่อนเกินไปแล้ว!

นักพรตอู๋เหลียงเคียดแค้นเหลือแสน เขารู้สึกว่าชื่อ ‘อู๋เหลียง’ นี้เหมาะกับสุนัขดำมากกว่า สุนัขดำไร้คุณธรรมกว่าเขามาก!

“ฮ่า ๆ ดูสิว่าเขาจะโอหังต่ออย่างไรไหว!”

องค์จ้าวอู๋เฉินหัวเราะร่วนด้วยจำสุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงได้ เขาเคยไปเยือนลานเล็กของคุณชาย

“สุนัขหนึ่งตัวกับไอ้อ้วนเผละหนึ่งคนช่วยเจ้าได้หรือ น่าขัน มีแต่ต้องตายอยู่ที่นี่ด้วยกันเท่านั้น!”

สิ่งมีชีวิตโลงโลหิตขำพรืด ยังรู้สึกมั่นใจเต็มเปี่ยม

“บัดซบ ไอ้สุนัข ไม่สิ ไอ้เวรตะไล ริอ่านจองหองถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”

นักพรตอู๋เหลียงพิโรธ เรียกเขาว่าไอ้อ้วนยังไม่เท่าไหร่ บังอาจเรียกเขาว่าไอ้อ้วนเผละเชียวรึ?

เขาทนไม่ได้!

“พี่สุนัข กัดเขาให้ตายไปเลย!”

เขาบอกกับสุนัขดำ

“ไสหัวไปไกล ๆ มีที่ไหนลูกน้องสั่งพี่ใหญ่”

สุนัขดำถลึงตาใส่นักพรตอู๋เหลียง “ยังไม่รีบไปแยกร่างเขาเป็นแปดส่วนอีก!”

ตัวตลกสองตัวมาจากไหนกันนี่!

สิ่งมีชีวิตโลงโลหิตหน้าดำคร่ำเครียด รู้สึกถูกเหยียดหยาม สุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาชัด ๆ มองว่าเขาเป็นพวกที่จัดการได้ง่าย ๆ

“ข้าจะดื่มแกงเนื้อสุนัข!”

เขาเอ่ยเสียงเคียดแค้น

“ดื่มกับย่าแกสิ!”

สุนัขดำเดือดดาล หยุดต่อล้อต่อเถียงกับนักพรตอู๋เหลียง บุกพรวดไปข้างหน้า

ป้ายชื่อสุนัขที่มันสวมใส่ตรงคอเปล่งแสง นี่คือป้ายชื่อสุนัขที่หลี่จิ่วเต้าทำให้มันด้วยตัวเอง ช่วยเพิ่มพูนพลังให้มันอย่างมหาศาล!

ในอดีต มันเคยใช้พลังป้ายชื่อสุนัขนี้กำราบมังกรทองจากสุสาน นั่นเป็นมังกรทองที่อยู่เหนือขอบเขตอิสระ หรือก็คืออยู่ในขอบเขตล้ำขีด

ทว่าสิ่งมีชีวิตโลงโลหิตแข็งแกร่งกว่ามังกรทองตัวนั้นมากอย่างเห็นได้ชัด ทันทีที่มันบุกเข้าไปปะทะกับสิ่งมีชีวิตโลงโลหิตมันก็ตระหนักถึงเรื่องนี้

“อั่ก!”

มันถูกตีจนต้องถอย กระดูกสุนัขแทบแหลกไปทั้งตัว หากไม่ใช่ว่ามีพลังป้ายชื่อสุนัขคอยปกป้อง มันคงตัวแหลกไปแล้ว

“เอาแต่เอ่ยว่าตัวเองเป็นพี่ใหญ่ เจ้ามีเค้าความเป็นพี่ใหญ่ที่ไหน สุดท้ายก็ต้องให้ข้าออกโรงอยู่ดี!”

นักพรตอู๋เหลียงปรายตามองสุนัขดำ เอ่ยอย่างลำพองใจ

เขามีไม้ตายก้นหีบ อัตประวัติโจรปล้นสุสานเล่มนั้น!

“บ้าไปแล้วหรือ ไม่รู้บ้างเลยหรือว่าตัวเองมีความสามารถแค่ไหน เจ้าคิดว่านักพรตอัษฎสมบูรณ์จะยอมช่วยเจ้าหรือ”

สุนัขดำถลึงตาใส่นักพรตอู๋เหลียง เขากลัวจนรีบหุบปาก

นักพรตอัษฎสมบูรณ์คือตัวเอกในอัตประวัติโจรปล้นสุสาน หรือก็คือไม้ตายที่เขาหวังพึ่ง

ทว่านักพรตอัษฎสมบูรณ์หวั่นเกรงต่อสุนัขสีดำมาก มิกล้าลงมือง่าย ๆ

เขาไม่อาจหวังให้นักพรตอัษฎสมบูรณ์ช่วยเขาจัดการสุนัขดำ

“ตัวละครต่ำต้อยริอ่านโอหัง ท่านนักพรตจะกำราบเจ้าเอง!”

เขารีบเบนเป้าหมาย ตะโกนใส่สิ่งมีชีวิตโลงโลหิต

เสียงดังฟึ่บ เขาเรียกอัตประวัติโจรปล้นสุสานออกมา จากนั้นประกายพิเศษส่องสว่างขึ้นจากอัตประวัติโจรปล้นสุสาน หน้ากระดาษพลิกด้วยตนเอง

คล้อยตามหน้ากระดาษที่พลิกไป ตัวละครต่าง ๆ ในหนังสือมีรูปร่างของตนเอง ท้ายที่สุดนักพรตอัษฎสมบูรณ์ก็ออกโรง

“ข้าไม่ชอบต่อสู้ซึ่งหน้ากับผู้อื่น มาเถิด ขอข้าทำนายหน่อยว่าหลุมศพบรรพบุรุษเจ้าอยู่ที่ใด จักขุดให้สิ้นซาก!”

นักพรตอัษฎสมบูรณ์จ้องสิ่งมีชีวิตโลงโลหิตเขม็ง ปากบ่นขมุบขมิบ สองมือโบกไปมา กำลังใช้วิชาลับทำนายจริง ๆ ว่าหลุมศพของบรรพบุรุษสิ่งมีชีวิตโลงโลหิตอยู่ที่ใด

สิ่งมีชีวิตโลงโลหิตตาโต นักพรตเฒ่าจากไหนกันนี่ มาถึงก็เอ่ยว่าจะขุดหลุมศพบรรพบุรุษของเขา?

มีคนเช่นนี้ด้วยหรือ!

เสียงดังตู้ม เขาบุกเข้าไปทันที นักพรตอัษฎสมบูรณ์ทำให้เขาโมโหอย่างยิ่ง เขาตั้งใจจะสังหารนักพรตอัษฎสมบูรณ์

“เจอแล้ว ดูเหมือนว่าเป็นหลุมศพบิดาของเจ้า ก็ได้ เรียงไปทีละคน เริ่มขุดจากหลุมศพบิดาของเจ้าแล้วกัน!”

ร่างของนักพรตอัษฎสมบูรณ์หายไป สิ่งมีชีวิตโลงโลหิตพลาดเป้า

“คงไม่ใช่โดนเขาหาเจอจริง ๆ กระมัง!”

ร่างของสิ่งมีชีวิตโลงโลหิตโอนเอน รู้สึกหน้ามืดตามัว

หากหลุมศพบิดาของเขาโดนขุดจริง ๆ เขาคงไม่สบายใจไปตลอดชีวิต!

จากนั้นร่างของเขาหายไปจากที่นี่ และปรากฏตัวขึ้นในสถานที่หนึ่งที่โลกหลังฉาก

ที่นี่มีหลุมศพใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหลุมศพบิดาของเขา

ในอดีตบิดาของเขาเป็นยอดฝีมือตนหนึ่งในโลกหลังฉาก อนิจจา เขาไม่รู้จักสงวนท่าที ล้างบางกองกำลังกองหนึ่งในโลกหลังฉากจนนำภัยมาสู่ตัว

เวลานั้นยังไม่หนักหนา บิดาของเขาไม่ได้ถูกเอาชีวิต

ทว่าสิ่งที่บิดาของเขาไม่รู้คือ ครานั้นมีเด็กคนหนึ่งในกองกำลังนี้ออกฝึกตนด้านนอก จนรอดจากการล้างบางนี้

เด็กคนนั้นมีพรสวรรค์น่าทึ่ง ทั้งยังมีนิสัยเข้มแข็ง ค่อย ๆ เติบโตขึ้นทีละก้าว ต่อมาได้เข้าร่วมกับสรวงสวรรค์ เป็นหนึ่งในสมาชิกของสรวงสวรรค์

ด้วยความช่วยเหลือจากสรวงสวรรค์ เด็กคนนี้แข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด ขอบเขตพลังพุ่งทะยานจนได้เป็นขุนพลใหญ่ผู้หนึ่งของสรวงสวรรค์ เก่งกาจลึกล้ำเกินหยั่ง

เด็กคนนี้ไม่เคยลืมหนี้แค้นบาดเลือดที่แบกรับ แม้ว่าผ่านไปแล้วเนิ่นนาน กระนั้นเด็กคนนี้ก็มิเคยลืม ตามหาบิดาของเขาจนเจอและจัดการสังหาร

ครานั้นเขาก็อยู่ด้วย แต่เด็กคนนั้นไม่ได้ฆ่าเขา อีกฝ่ายเพียงกล่าวว่าหนี้ใครหนี้มันและปล่อยเขาไป

เขารวบรวมซากศพของบิดาตนเองมาฝังไว้ที่นี่

ต่อมา เขาเองก็เติบโตขึ้นทีละก้าว ท้ายที่สุดยังมีชื่อเป็นหนึ่งในกำลังรบเพดานของโลกหลังฉาก ทว่าเด็กคนนั้นแข็งแกร่งขึ้นจนอยู่ในกำลังรบเพดานโลกหลังฉากก่อนเขาตั้งไม่รู้นานเท่าไหร่

มิหนำซ้ำเด็กคนนั้นยังมีสรวงสวรรค์หนุนหลัง เขายิ่งไม่มีหวังจะแก้แค้น ได้แต่บ่มความแค้นในใจ รอวันที่สามารถล้างแค้นให้บิดาของเขา

ทว่าหลังจากนั้นพลังมืดมิดปรากฏ เด็กคนนั้นตามสรวงสวรรค์ไปที่สมรภูมิมืดมิด

เขารู้ว่าพลังมืดมิดน่าพรั่นพรึงเพียงใด เด็กคนนั้นต้องตายในสมรภูมิมืดมิดแน่นอน ภายหลังเขาจึงไม่ได้คิดเรื่องแก้แค้นอีก

“ข้าก็นึกว่านักพรตเฒ่านั้นมีความสามารถหาหลุมศพท่านพ่อของข้าเจอ ที่แท้เป็นเพียงลมปากเท่านั้น ไร้น้ำยาสิ้นดี!”

เขาดูแคลนเหลือแสน ไม่พบร่างของนักพรตอัษฎสมบูรณ์ที่นี่

หารู้ไม่ เสียงของนักพรตอัษฎสมบูรณ์ดังมาจากหลุมศพ

สิ่งมีชีวิตโลงโลหิตบันดาลโทสะในบัดดล

เวรเอ๊ย!

เจ้านักพรตเฒ่าเส็งเคร็งผู้นี้เจอหลุมศพบิดาของเขาจริง ๆ หรือนี่

ไร้คุณธรรมสิ้นดี!

มิน่านักพรตเฒ่าเส็งเคร็งผู้นี้ถึงมีนามว่านักพรตอัษฎสมบูรณ์ มิใช่นักพรตนวสมบูรณ์ หนึ่งสมบูรณ์ที่ขาดไปก็คือ ‘คุณธรรม!’

“ข้าจะฆ่าเจ้า!”

เขาเดือดดาลเกินทน เส้นเอ็นปูดโปนอยู่บนหน้าผาก

หากฆ่านักพรตอัษฎสมบูรณ์ผู้นี้ไม่ได้ เขาไม่ขอเกิดเป็นมนุษย์อีก!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท