ตอนที่ 1503 ไม่คุยเรื่องแคว้น
เซียวหรงเหยี่ยนได้ยินจึงลูบไปที่บาดแผลบนฝ่ามือของไป๋ชิงเหยียนอย่างแผ่วเบา จากนั้นเงยหน้ามองหญิงสาวนิ่ง เขาหยิบยาเจียวเหรินที่เตรียมไว้ให้ไป๋ชิงเหยียนออกมาแล้วป้ายยาออกมาจากขวดเล็กน้อยพลางทาลงบนรอยแดงบนมือของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา “อาเป่าตั้งตารอข้าถึงเพียงนี้เป็นเพราะคิดถึงข้าใช่หรือไม่”
ไป๋ชิงเหยียนได้ยินคำถามนี้จึงอยากชักมือกลับ ทว่า ถูกเซียวหรงเหยี่ยนจับไปวางไว้ที่หน้าอกของชายหนุ่มเสียก่อน “อาเป่า ตรงนี้มันคิดถึงเจ้ามาก”
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวอย่างจริงจัง ไม่มีแววหยอกล้อหญิงสาวแม่แต่น้อย ราวกับกำลังสารภาพความรู้สึกที่มีต่อหญิงสาวออกมาด้วยท่าทีที่จริงจังที่สุดจนใบหูของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าว นางกล่าวเสียงเบา “ในเมื่อท่านไปพบฮองเฮาของตงอี๋มาแล้วก็น่าจะรู้ว่า…”
เซียวหรงเหยี่ยนยังคงกุมมือไป๋ชิงเหยียนไม่ยอมปล่อย เขาพยักหน้ายิ้มๆ “ฮองเฮาตงอี๋บอกว่านางมีแม่กู่ฝังอยู่ในร่างของนางจึงไม่กล้าขัดคำสั่งต้าโจว ทว่า นางอยากประจบต้าเยี่ยนด้วยอีกแคว้น อีกทั้งอยากให้ต้าเยี่ยนช่วยหาวิธีถอนแม่กู่ออกจากร่างให้นาง ทว่า เมื่อนางได้วิธีถอนตัวกู่ออกจากร่างนางก็จะเป็นอิสระจากต้าโจวและสังหารองค์ชายตัวปลอมผู้นั้นและควบคุมราชสำนักตงอี๋เองแน่นอน”
ไป๋ชิงเหยียนมองสบกับดวงตาดำของเซียวหรงเหยี่ยนครู่หนึ่งแล้วก้มหน้าครุ่นคิด ไม่นานจึงกล่าวออกมายิ้มๆ “ฮองเฮาตงอี๋บอกกับท่านเช่นนี้อย่างนั้นหรือ”
“หืม” เซียวหรงเหยี่ยนฟังเข้าใจความหมายของไป๋ชิงเหยียน “ไม่ได้เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ”
“ต้าโจวบอกนางว่าต้าโจวใช้แม่กู่กับลูกกู่กับองค์ชายเจ็ดและองค์ชายเจ็ดตัวปลอม” ไป๋ชิงเหยียนดันถ้วยชาไปตรงหน้าเซียวหรงเหยี่ยน “ท่านปล่อยมือก่อน…”
ระหว่างพวกนางมีกระดานหมากล้อมคั่นกลางอยู่ดังนั้นไป๋ชิงเหยียนจึงนั่งไม่ค่อยถนัดสักเท่าใดนัก
เซียวหรงเหยี่ยนดันกระดานหมากล้อมและถ้วยน้ำชาไปไว้อีกด้าน จากนั้นขยับเข้าไปใกล้และรวบตัวไป๋ชิงเหยียนมากอดไว้ในอ้อมกอด ให้หญิงสาวเอนกายพิงร่างของเขาแทน
กลิ่นกายของบุรุษที่คุ้นเคยและเป็นเอกลักษณ์ลอยปะทะจมูกของไป๋ชิงเหยียนจนใบหน้าของนางแดงก่ำ ความคิดถึงที่นางพยายามเก็บไว้ในใจขยายตัวมากขึ้นจนคุมไม่อยู่ นางเงยหน้ามองใบหน้าคมคายของชายหนุ่ม จากนั้นซบศีรษะลงบนอกของเขา
“เจ้าใช้แม่ลูกกู่กับองค์ชายเจ็ดและองค์ชายเจ็ดตัวปลอมจะเป็นการเสี่ยงเกินไปหรือไม่…” เซียวหรงเหยี่ยนขมวดคิ้วแน่น “เจ้าควรใช้มันกับฮองเฮาและองค์ชายเจ็ดตัวปลอมถึงจะถูก ฮองเฮาของตงอี๋เป็นคนเจ้าแผนการ นางดูเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยม ข้ารู้ว่ามารดาของคนในตระกูลไป๋สามารถสละชีวิตของตัวเองเพื่อลูกๆ ได้ พวกนางเห็นชีวิตของลูกๆ สำคัญกว่าชีวิตของตัวเอง ทว่า บนโลกนี้ยังมีมารดาที่เห็นอำนาจสำคัญกว่าชีวิตของบุตรชายอยู่! หากฮองเฮาตงอี๋ตัดสินใจสังหารองค์ชายเจ็ดตัวปลอมเพราะเลือกอำนาจมากกว่าบุตรชายของตัวเองเล่า! หากนางไม่กล้าสังหารองค์ชายเจ็ดตัวปลอมเพราะเป็นห่วงบุตรชายตัวเองแต่จับเขาขังไว้แทนเล่า”
ไป๋ชิงเหยียนรู้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนกำลังนึกถึงบิดาของตัวเองอยู่
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองนิ้วเรียวยาวของเซียวหรงเหยี่ยนพลางคลำนิ้วของเขาเล่น นางเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นกล่าวขึ้นเสียงขรึม “ท่านแม่เย็บเสื้อไว้ให้ท่านใส่ครบทั้งสี่ฤดูเลย เดิมทีข้าควรนำมาให้ท่านด้วย ทว่า ข้าเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้บอกท่านแม่จึงไม่ได้นำมาให้ท่าน”
แม้ไป๋ชิงเหยียนจะไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนรู้ดีว่านางกำลังปลอบใจเขาอยู่ ชายหนุ่มก้มหน้าประทับจูบลงบนหน้าผากของไป๋ชิงเหยียน “เมื่อการเดิมพันระหว่างสองแคว้นสิ้นสุดลงข้าจะไปขอบคุณท่านแม่ด้วยตัวเอง! ทว่า ข้าหวังว่าเจ้าจะนำคำของข้าไปคิดให้ถี่ถ้วน ทางที่ดีเจ้าควรกุมชีวิตขององค์ชายเจ็ดและฮองเฮาตงอี๋ไว้ในมือของเจ้าให้ได้”
“ท่านคือผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยน…” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองเซียวหรงเหยี่ยนพลางหัวเราะออกมาอย่างคุมไม่อยู่ “ท่านกำลังช่วยแนะนำต้าโจวอย่างนั้นหรือ”
“วันหน้าต้าเยี่ยนและต้าโจวก็ต้องกลายเป็นแคว้นเดียวกันอยู่ดี ต่อให้สุดท้ายต้าเยี่ยนจะเป็นฝ่ายชนะต้าเยี่ยนก็ไม่อยากเก็บตัวปัญหาอย่างฮองเฮาตงอี๋ไว้อยู่ดี” เซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้ามองร่างผอมบางของภรรยารักในอ้อมกอดของตัวเอง สายตาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากบางของนาง เขาใช้นิ้วมือสัมผัสไปบนกลีบปากของนางอย่างแผ่วเบา น้ำเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มช่างมีเสน่ห์ท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิดเช่นนี้ยิ่งนัก “ทว่า ข้าเป็นผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยน ดังนั้นข้าจึงไม่อาจบอกแผนบางอย่างของต้าเยี่ยนให้อาเป่ารู้ได้ หวังว่าอาเป่า…จะไม่โกรธข้า”
“นานๆ พวกเราจะได้พบหน้ากัน ไม่ต้องคุยเรื่องแคว้นแล้ว พวกเราทำสัญญากันไว้แล้วว่าจะไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง อีกฝ่ายย่อมเข้าใจเรื่องที่อีกฝ่ายไม่สามารถบอกได้อยู่แล้ว” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับเซียวหรงเหยี่ยนยิ้มๆ นางเองก็มีเรื่องปิดบังเซียวหรงเหยี่ยนอยู่มากมายเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น…ตอนนี้ทหารห้าพันนายของเซียวหรงเหยี่ยนตกอยู่ในการควบคุมของนางแล้ว ขอเพียงนางมีคำสั่ง ทหารของนางก็จะบุกล้อมทหารต้าเยี่ยนเหล่านั้นทันที
“ร่างกายของคังเล่อแข็งแรงขึ้นมากแล้ว ดูเหมือนนางจะชอบพู่กันและหมึกมาก ยามที่ข้าอุ้มนางไว้บนตักตอนอ่านฎีกานางมักจะใช้มือเขี่ยแท่นวางพู่กันเล่นเสมอ นางอารมณ์ดีมาก มักหัวเราะให้ผู้ที่มาเล่นกับนางเสมอ สี่เล่อเป็นเด็กซน เขาทำโซ่เก้าห่วงของเสี่ยวปาพังหมดแล้ว”
ไป๋ชิงเหยียนมีงานในราชสำนักและเรื่องมากมายต้องจัดการจึงไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับลูกๆ มากนัก นางรู้สึกว่าลูกๆ โตเร็วมาก แค่พริบตาเดียวจากเด็กทารกตัวน้อยๆ ก็กลายเป็นเด็กน้อยน่าเอ็นดูตัวอ้วนกลมไปแล้ว
ความจริงไป๋ชิงเหยียนอยากให้ลูกๆ ของนางค่อยๆ เติบโต
“เมื่อการเดิมพันระหว่างแคว้นจบลงข้าจะได้ไปอยู่ข้างกายอาเป่าและลูกๆ แล้ว วันหน้าข้าจะได้มีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมของอาเป่าและลูกๆ” เซียวหรงเหยี่ยนมองไป๋ชิงเหยียนนิ่งด้วยแววตาลึกซึ้งจนคนถูกมองแทบละลาย เขาทัดปอยผมของไป๋ชิงเหยียนไปที่หลังหูของนางอย่างแผ่วเบา จากนั้นก้มหน้าประทับจูบลงบนริมฝีปากของหญิงสาว
ไป๋ชิงเหยียนวางมือทาบลงบนมือของเซียวหรงเหยี่ยนที่ประคองอยู่ที่ใบหน้าของนาง ไป๋ชิงเหยียนได้กลิ่นหอมของยาที่ติดอยู่ที่นิ้วมือของชายหนุ่ม นางพยายามข่มความรู้สึกน่าอายบางอย่างของตัวเองเอาไว้ จากนั้นกล่าวเสียงเบาอย่างพยายามคลี่คลายบรรยากาศที่ร้อนระอุในตอนนี้ “หอมจัง…”
“ยาเจียวเหริน ใช้ทาแผลที่ใกล้สมานตัว ทาแล้วจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็น” ขณะกล่าวปลายจมูกของเซียวหรงเหยี่ยนสัมผัสโดนปลายจมูกของไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนกลั้นลมหายใจในทันที นางกะพริบตารัวพลางกล่าวเสียงเบา “เจียวเหรินแพงมาก อุ๊บ…”
ริมฝีปากหนักประทับจูบลงมาอีกครั้งโดยไม่รอให้ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบ ไป๋ชิงเหยียนกระชับมือที่จับมือของเซียวหรงเหยี่ยนแน่นกว่าเดิม ริมฝีปากของชายหนุ่มร้อนราวกับเปลวไฟ ความร้อนนั้นแผ่ขยายไปตามร่างกายจนร่างของไป๋ชิงเหยียนค่อยๆ อ่อนระทวยลง สมองของนางขาวโพลนราวกับตกอยู่ในมนต์สะกด นางเอื้อมมือไปโอบลำคอของชายหนุ่มพลางตอบรับจุมพิตที่ร้อนแรงของเขาด้วยความเต็มใจ
เซียวหรงเหยี่ยนสงสารที่ไป๋ชิงเหยียนเหนื่อยมาหลายวันจึงพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง คืนนั้นเขาทำเพียงนอนกอดหญิงสาวไว้ในอ้อมแขนเท่านั้น ไม่ได้ทำสิ่งอื่นใด สำหรับเซียวหรงเหยี่ยนคืนนี้ถือเป็นคืนที่หอมหวานระคนทรมาน