คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 711 ความชั่วมีสิ่งตอบแทน ลงไปยมโลก

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 711 ความชั่วมีสิ่งตอบแทน ลงไปยมโลก

ใบหน้าเมิ่งชังเปี่ยมไปด้วยความโกรธ ส่วนทางด้านหลังทั้งเมิ่งเหนียงจื่อและเมิ่งเฉินเต้าต่างก็ร้องไห้พลางตามออกมา

“ท่านหยุดเดี๋ยวนี้ เซียงเอ๋อร์จากไปแล้ว ท่านยังจะฆ่าคนแล้วถูกจับเข้าคุกอย่างนั้นหรือ ท่านกำลังบีบบังคับพวกเราแม่ลูกนะ” เมิ่งเหนียงจื่อตะโกนเสียงดังพร้อมไอออกมา เพราะใช้แรงมากเกินไป ทำให้ไอเป็นเลือดออกมา

“ท่านแม่” เมิ่งเฉินเต้าและเมิ่งเฉินเซียงร้องเรียกด้วยความตกใจ

ฉินหลิวซีเองก็หยุดเมิ่งชังเอาไว้ สกัดจุดที่แขนของเขา เมิ่งชังรู้สึกเจ็บที่แขน มีดผ่าฟืนร่วงลงมาอยู่ในมือฉินหลิวซี

“เอามีดคืนมาให้ข้า ข้าจะไปฆ่าเจ้าเดรัจฉานนั่น” ดวงตาของเมิ่งชังแดงก่ำ

ฉินหลิวซีเอ่ย “เฉินเซียงกลับมาแล้ว เขาจะหนีจากกฎหมายของต้าเฟิงไปได้หรือ คนตายก็ตายไปแล้ว คนอยู่ก็เป็นเช่นนี้ บุตรสาวได้ตายจากไปแล้ว หรือว่าท่านยังจะพาตนเองเข้าไปร่วมด้วย ทำให้ภรรยาและลูกชายต้องมากังวล ครอบครัวสูญสิ้นอย่างนั้นหรือ ท่านไม่ลองหันกลับไปดูเล่า”

เมิ่งชังหันกลับไป เห็นสายตาเป็นห่วงของภรรยา บุรุษแข็งแกร่งระเบิดออกมา ทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้น สองมือกุมศีรษะร้องไห้เสียงดังด้วยความเจ็บปวด

พวกเมิ่งเหนียงจื่อเองก็เดินมา ครอบครัวกอดกันอีกครั้งพลางร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

เนิ่นนานกว่าทุกคนจะสงบจิตสงบใจลงได้

ฉินหลิวซีจึงเอ่ยถาม “ในเมื่อดวงวิญญาณของเฉินเซียงกลับมาแล้ว พวกท่านเองก็จะได้รับนางกลับบ้านอย่างแท้จริงในเร็ววัน”

พวกเมิ่งชังได้ฟัง มองไปยังบุตรสาว น้ำตาไหลลงมาอีกครั้ง พวกเขาต่างเข้าใจว่าหมายถึงอะไร

ฉินหลิวซีเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ร้องไห้กันไปแล้ว มาเอ่ยเรื่องสำคัญกันเถิด บ้านหลังนี้ของพวกท่านมีผู้ใดมาเยือนแล้วบ้าง ฮวงจุ้ยของบ้านถูกแตะต้องแล้ว”

เมิ่งชังตกใจ “ท่านอาจารย์ หมายความอย่างไรหรือ”

ใช่แล้ว ด้วยฝีมือของฉินหลิวซี อีกทั้งยังพาเมิ่งเซียงกลับมาส่งบ้าน ยังได้ฟังถึงความสามารถของคนผู้นี้จากปากเฉินเซียง พวกเมิ่งชังจึงเห็นว่าควรเรียกขานฉินหลิวซีว่าท่านอาจารย์

ยามนี้ได้ยินนางบอกว่าฮวงจุ้ยในบ้านถูกแตะต้อง จึงตกใจขึ้นมา

ฉินหลิวซีเดินไปยังตำแหน่งที่รู้สึกไม่ปกติเมื่อครู่ ผลักหินหรือกำแพงที่ไม่โดดเด่นและไม่มีประโยชน์ออก ใช้ไม้เขี่ยของที่ซ่อนอยู่ด้านในออกมา

เมิ่งเหนียงจื่อร้องออกมาด้วยความตกใจ นั่นมันอะไรกัน แมวตายนกตาย ยังมียันต์สีเหลืองด้วย

“ไยจึงมีของเหล่านี้ได้” เมิ่งชังสีหน้าเขียวคล้ำ

ต่อให้เขาไม่รู้เรื่องนัก ก็พอรู้ว่าของตายเหล่านี้จะทำให้โชคร้าย ยังมาฝังอยู่ในบ้านของตนอีก ไม่ต้องคิดก็รู้ได้

“ท่านอาจารย์ ของเหล่านี้ทำให้ฮวงจุ้ยของบ้านเราเป็นอย่างไรหรือ”

“แน่นอนว่านำพาโชคร้ายอย่างเบาคือโชคร้ายสูญทรัพย์ เจ็บป่วย หนักคือถึงชีวิต” ฉินหลิวซีคลี่ยันต์สีเหลืองนั่นออก เป็นเพียงเครื่องรางสกปรกที่ใช้ดึงดูดสิ่งชั่วร้าย บวกกับร่างแมวร่างนกนั่น แน่นอนว่านำพาเคราะห์ร้ายมาเยือน

เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกฝังมานานนัก ตำแหน่งการฝังก็ยังไม่ถูกต้องเท่าใด มิฉะนั้นครอบครัวนี้อย่าได้คิดจะอยู่อย่างสงบเลย

แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ ก็ทำให้โชคร้ายได้ สูญเสียทรัพย์สิน ป่วยไม่หาย

สีหน้าของพวกเมิ่งชังพลันเปลี่ยน

เมิ่งเฉินเต้าสีหน้าทะมึน เอ่ย “เป็นเฉิงซิ่วไฉ เมื่อครึ่งปีก่อน ตอนที่เขาเอาหนังสือมาให้ข้าที่บ้าน ข้าเห็นเขายืนอยู่ในตำแหน่งของก้อนหินนี้ ตอนนั้นในมือเขายังมีห่อผ้าเล็กๆ”

“เจ้าเดรัจฉานที่ควรสังหารเป็นพันดาบนี่ จะต้องกลัวอย่างแน่นอน กลัวว่าเราจะพบความผิดปกติ ดังนั้นจึงทำให้บ้านเราโชคร้าย ตามหาเซียงเอ๋อร์ไม่เจอ เขาไม่ต่างอะไรจากเดรัจฉานเลยจริงๆ เสียดายที่ข้ายังเห็นว่าเขาเป็นอาจารย์ นึกว่ามีคุณธรรมหนักแน่น กลับเป็นหมาป่าชั่วร้ายที่ถลกหนังคน” เมิ่งชังกัดฟัน เอ่ย “หนึ่งปีมานี้ เซียงเอ๋อร์หายตัวไป ครอบครัวเราโชคร้ายอย่างต่อเนื่อง การค้าไม่ราบรื่นแถมยังสูญเสียทรัพย์สิน ภรรยาข้ายังป่วยมาเป็นปีอาการไม่ดีขึ้น พวกเราต่างไม่คิดอะไรมาก เพียงคิดว่าเพราะเซียงเอ๋อร์หายตัวไป ครอบครัวจึงเริ่มโชคร้าย แต่ที่แท้เพราะเจ้าคนชั่วนี่ก่อปัญหาต่างหาก”

เมิ่งเฉินเต้ามองความอดทนของบิดา กลัวว่าเขาจะเอามีดผ่าฟืนไปตัดคอเฉิงซิ่วไฉ จึงเอ่ย “ท่านอาจารย์ ท่านว่าพวกเราควรแก้แค้นเช่นไรขอรับ”

“สังหารคนแน่นอนว่าต้องชดใช้ด้วยชีวิต” ฉินหลิวซีเอ่ย “แต่ไม่ควรใช้การลงมือของพวกเจ้า ฟังที่เฉินเซียงเอ่ย คนที่ถูกเฉิงซิ่วไฉทำร้ายไม่ได้มีเพียงเฉินเซียงเพียงคนเดียว ยังมีคนอื่นอีก เจ้าไปร้องต่อทางการ ทางการจะทำคดีให้เอง อย่างไรนี่ก็เป็นการสังหารคน ยังไม่ได้สังหารเพียงคนเดียวด้วย เขาไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้หรอก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไยต้องลงมือด้วยตนเองเล่า”

เมิ่งชังกลับรู้สึกไม่พอใจอยู่ในใจ ไม่ได้แก้แค้นคืนคนที่สังหารบุตรสาวด้วยมือตนเอง เขายากที่จะสงบ

แต่ต้าเฟิงมีกฎหมาย ฆ่าคนก็คือฆ่าคน

“เฉินเซียง รู้สถานที่ที่เขาลงมือใช่หรือไม่” ฉินหลิวซีมองไปทางเมิ่งเฉินเซียง “เจ้ากล้านำทางหรือไม่”

เมิ่งเฉินเซียงนึกถึงความเจ็บปวดที่ตนได้รับ เดิมอยากปฏิเสธ แต่เห็นดวงตาที่แดงก่ำของบิดา จึงพยักหน้า

หมู่บ้านซานหยางเกิดเรื่องใหญ่ เป็นที่น่าตกใจของหมู่บ้านบริเวณโดยรอบทั้งหมด

เจอตัวบุตรสาวตระกูลเมิ่งที่หายตัวไปเมื่อหนึ่งปีก่อนแล้ว ทว่าพบเป็นศพเน่าเปื่อยมานาน และศพนี้ยังถูกพบบนเขาหลังที่พักของเฉิงซิ่วไฉที่สอนหนังสืออยู่ในสำนักศึกษา

และนอกจากบุตรสาวตระกูลเมิ่ง ด้านในยังมีร่างของเด็กหญิงอีกสองคน ทั้งสองยังถูกทรมานอย่างหนัก และผู้ที่ลงมือสังหารก็คือเฉิงซิ่วไฉผู้มีคุณธรรม หน้าคนใจเดรัจฉาน ถามหาหลักฐานคืออะไร แน่นอนว่าเป็นสิ่งของของเด็กสาวที่ถูกทิ้งเอาไว้ในเรือนพักของเขา

ครั้งนี้ทำให้หมู่บ้านซานหยางโด่งดังไปทั่วฟ้า เมิ่งชังและอีกสองครอบครัวที่ได้รับข่าวเรื่องบุตรสาวต่างก็เข้าไปทุบตีเฉิงซิ่วไฉจนเหลือลมหายใจเฮือกสุดท้าย หากไม่ใช่เพราะเจ้าหน้าที่ห้ามเอาไว้ พวกเขาคงทุบตีจนตาย

คนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านยิ่งนึกย้อนไปถึงภรรยาเฉิงซิ่วไฉ เฉิงเหนียงจื่อที่นอนป่วยอยู่บนเตียงร่างกายอ่อนแอมาตลอดหลังจากคลอดลูก ต่อมาต้องตายด้วยอาการป่วยกะทันหันเพราะสูญเสียลูกสาว สงสัยว่าเฉิงเหนียงจื่อจะรู้เรื่องราวเบื้องลึกแล้ว ทว่าถูกสามีสังหาร จึงไปร้องต่อนายอำเภอให้ผ่าศพตรวจสอบ เมื่อทำการตรวจสอบ ให้ตายเถอะ ส่วนท้องของเฉิงเหนียงจื่อผู้นั้นล้วนเป็นสีดำ นี่เป็นการถูกพิษชัดๆ

ครั้งนี้หลายชีวิตรวมกัน เฉิงซิ่วไฉถูกตัดสินตัดหัวประหารชีวิต และตระกูลเฉิงก็ถูกน้ำอุจจาระสาดเหม็นคละคลุ้ง มารดาเฉิงผู้นั้นถูกด่าทอจนไม่กล้าออกจากบ้าน ต่อมาคนบุกเข้าไปดู สองมือของนางบีบอยู่ที่คอ ดวงตาเบิกโต เมื่อทำการตรวจสอบ ผลออกมาว่านางบีบคอตนเองตาย คนในหมู่บ้านร่ำลือว่าเป็นฝีมือวิญญาณบริสุทธิ์ที่มาเรียกร้องความยุติธรรม

และเฉิงซิ่วไฉที่ถูกตัดสินประหารชีวิตเองก็ตายอยู่ในห้องขังก่อนวันประหารชีวิตเช่นกัน ตามที่นักโทษในคุกบอก เฉิงซิ่วไฉผู้นี้คลุ้มคลั่งตอนกลางดึก คุกเข่าอ้อนวอนอยู่บนพื้นก่อน จากนั้นฉีกส่วนสำคัญของเขานำมาเคี้ยวอยู่ในปาก สำลักจนตาย ภาพนี้ทำให้เหล่านักโทษหวาดกลัวจนตัวสั่น

จุดจบของแม่ลูกตระกูลเฉิง ถูกร่ำลือกันว่าเพราะพวกเมิ่งเฉินเซียงมาทวงความยุติธรรมให้แก่ตนเอง จึงตามตำแหน่งของศพเจอ ทำให้เฉิงซิ่วไฉนั่นจนตรอก สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่มาเล่าต่อทีหลัง

พวกเมิ่งชังรับเมิ่งเฉินเซียงกลับบ้าน แม้พวกเขาจะไม่อยากให้นางจากไป แม้แต่เมิ่งเซียงก็เช่นกัน แต่เพราะคำของฉินหลิวซี คนผีไม่อาจอยู่ร่วมกัน นางอยู่บนโลกนานเกินไป วิญญาณจะยิ่งเลือนราง พวกเขามีพลังหยินอยู่ใกล้ไม่เป็นผลดี ต่างฝ่ายต่างไม่ได้ประโยชน์

เมิ่งเฉินเซียงจึงกราบลาบิดา มารดา และพี่ชาย จากไปพร้อมกับฉินหลิวซีด้วยใบหน้าไม่เต็มใจ

ฉินหลิวซีไม่ได้ให้ยมทูตมารับเมิ่งเฉินเซียง ทว่าไปส่งนางถึงประตูผี ไปสู่สุขติด้วยตนเอง

อย่างไรนางก็มีเรื่องต้องไปจัดการในยมโลก

เมิ่งเฉินเซียง “?”

เทียนซือต่างร้ายกาจเหมือนท่านทั้งหมดหรือไม่ อย่างไปยมโลกก็ไปได้เลยอย่างนั้นหรือ

เมิ่งเฉินเซียงมองเห็นความหวาดกลัวในสายตาของเจ้าหน้าที่เฝ้ารักษาประตูผีเมื่อเห็นฉินหลิวซี เขาวิ่งแจ้นเข้าไปรายงานด้วยความเร็วจี๋ พลันมีประโยคเกิดขึ้นในใจ

เอ่อ พวกเขาดูเหมือนจะไม่ยินดีกับการมาของท่านเลยนะ

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท