Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 722 บลูเกมส์

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 722 บลูเกมส์

วันรุ่งขึ้น

วันอาทิตย์

เมื่อหลินเยวียนตื่น ก็พบกับหลินเหยาซึ่งกลับมาจากข้างนอก ในมือถือสายจูงของหนานจี๋ซึ่งกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา

เหยาเหยาบ่น “ช่วงนี้พี่นอนเก่งจัง สองวันมานี้หนานจี๋ออกไปเดินกับหนูตลอดเลย”

หลินเยวียน “…”

หรือว่าเป็นผลสืบเนื่องจากการระเบิดพลังวาดการ์ตูนติดต่อกันเจ็ดวันที่ยังหลงเหลือเอยู่

ช่วงนี้เขางีบหลับมากกว่าปกติ เพื่อชดเชยการนอนที่ขาดหายไป

นั่นส่งผลให้เขาไม่มีเวลาพาหนานจี๋ไปเดินเล่น ทำได้เพียงให้คนในครอบครัวช่วย

“กินข้าวเข้า”

หลินเซวียนผู้เป็นพี่สาวเอ่ยเรียก

เธอหยุดวันอาทิตย์ จึงทำอาหารแทนแม่

แม่ใช้เวลาพักผ่อนซึ่งหาได้ยากนั่งดูข่าวบนโซฟา

ดูเหมือนว่าคนมีอายุเหล่านี้ชอบเปิดโทรทัศน์เสียงดัง

น้ำเสียงมีจังหวะจะโคนของผู้ประกาศข่าว “ทีมบาสชายของฉินโจวเริ่มทำการฝึกซ้อมแบบปิดเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อสี่ปีก่อนในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในบลูเกมส์ ฉินโจวของเราพ่ายให้กับจงโจวไปอย่างน่าเศร้าเนื่องจากการจ่ายบอลที่ผิดพลาดของนักกีฬาแซ่โจว ในครั้งนี้เราจะแข่งขันกันในสนามเหย้า…”

“ช่วงนี้มีแต่ข่าวบลูเกมส์”

แม่ลุกขึ้นเดินไปยังโต๊ะอาหาร ปากพลางบ่นงึมงำ

พี่สาวตักอาหารเข้าปาก เอ่ยอย่างคลุมเครือ “ถึงยังไงนี่ก็เป็นการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดในวงการกีฬา สี่ปีถึงจะจัดสักครั้ง บริษัทเราอยากใช้โอกาสนี้โปรโมตนิยายแนวกีฬา”

หลินเยวียนไม่ได้เข้าร่วมวงสนทนา

เมื่อกินโจ๊กหมดไปหนึ่งชาม จึงกินไข่ดาวเพิ่มอีกหนึ่งฟอง ก่อนจะลูบหัวหนานจี๋อย่างคล่องแคล่ว เช็ดคราบไขมันจางๆ จนละสาด

“ผมไปทำงานก่อน”

“อื้ม”

สมาชิกในครอบครัวสนทนากันต่อ

หนานจี๋เริ่มกิจกรรมเลียขนซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน

ไม่นานขนของมันก็เป็นเงางาม

……

หลินเยวียนนั่งบนรถซึ่งประธานกรรมการมอบให้ ตรงไปยังสตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์

ตอนนีคนขับรถไม่ใช่กู้ตง แต่เป็นคนขับรถซึ่งบริษัทจัดหามาให้เขา

คนขับรถจะรับส่งหลินเยวียนไปกลับที่ทำงานทุกวัน เว้นแต่จะมีสถานการณ์พิเศษ

ข่าวเช้ารายงานผ่านลำโพงในรถ

“บลูเกมส์จะจัดขึ้นในวันที่ 1 สิงหาคมปีนี้ที่สนามรังนกซึ่งเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในฉินโจว ได้เริ่มนับถอยหลังอย่างเป็นทางการ นักกีฬาจากแต่ละทวีปกำลังเตรียมชิงชัยกันอย่างเต็มที่…”

หลินเยวียนมุมปากยกยิ้ม

บลูเกมส์ซึ่งจัดขึ้นขึ้นสี่ปีต่อครั้ง

นี่คือโอลิมปิกเกมส์บนโลกไม่ใช่หรือ?

ถึงแม้จะอยู่ในคนละมิติ แต่บลูสตาร์และโลกมีความคล้ายคลึงกันหลายประการ จุดนี้ทำให้หลินเยวียนรู้สึกคุ้นเคยอยู่เสมอ

……

15 นาทีผ่านไป

ในห้องทำงานของบริษัท

เรื่องอิ่งจือทำให้เวลาล่าช้าไปมาก

เขาจำเป็นต้องบันทึกเสียงเพลงนี้อย่างรวดเร็ว

โชคดีที่เตรียมผลงานไว้มากมาย ผลงานเหล่านี้ล้วนเป็นผลงานที่เลือกสรรมาจากคลังเพลงของระบบ และรู้สึกว่าเขามีโอกาสติดชาร์ตค่อนข้างสูงทีเดียว

ในขณะนั้น

ทันใดนั้นหลินเยวียนก็เห็นอู๋หย่งรองหัวหน้าแผนกประพันธ์เพลงรีบวิ่งเข้ามาอย่างกระวนกระวาย

“เกิดอะไรขึ้นครับ”

หลินเยวียนเงยหน้ามองอีกฝ่าย

อู๋หย่งหอบพลางพูดว่า “เพิ่งได้รับข่าวมาครับ ทางคณะกรรมการบลูเกมส์สากลกำลังของเพลงโปรโมตบลูเกมส์ในครั้งนี้จากวงการเพลง!”

“เพลงโปรโมตบลูเกมส์”

หลินเยวียนเอ่ย “บริษัทอยากให้ผมเขียนเพลง…”

“ไม่ใช่บริษัทอยากให้คุณเขียน แต่คุณต้องเขียน แถมยังต้องได้รับเลือกจากเบื้องบนด้วย ไม่อย่างนั้นเส้นทางแชมป์สิบสองสมัยของคุณอาจสิ้นสุดลง!”

เสียงของอู๋หย่งร้อนรนมาก

หลินเยวียนงุนงง “ทำไมล่ะครับ”

“โปรโมตอย่างเป็นทางการน่ะสิครับ!”

อู๋หย่งยิ้มขมขื่น “เพลงโปรโมตบลูเกมส์จะได้รับการโปรโมตจากทางการอย่างแน่นอน บวกกับอิทธิพลของของบลูเกมส์ในช่วงนี้ เพลงนี้จะขึ้นไปครองบัลลังก์อย่างแน่นอน ขึ้นครองบัลลังก์อย่างไม่มีเหตุผลเลยละครับ เป็นเรื่องยากที่เพลงไหนสักเพลงหนึ่งจะชนะเพลงที่ทางการโปรโมตได้เลย!”

“อ้อ!”

หลินเยวียนกระจ่างในทันที

การโปรโมตจากทางการ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเจอกับมัน

เมื่อก่อนเขาเขียนเพลงเปลี่ยนตัวเองให้กับเฉินจื้ออวี่ เดิมทีอาจถูกลิขิตให้อยู่ในอันดับที่สอง ปรากฏว่าจับพลัดจับผลูไปได้รับการโปรโมตจากทางการ จึงเอาชนะเฟ่ยหยางไปคว้าแชมป์ได้สำเร็จ

ปลายปีที่แล้ว

เขาและหยางจงหมิงดวลกัน และเนื่องจากทางการบลูสตาร์โปรโมตเพลงของหยางจงหมิง ความสงสัยทั้งมวลจึงคลี่คลายในทันที และส่งผลให้หลินเยวียนพลาดแชมป์สามสมัยในมหาสงครามเทพเซียน

กล่าวได้ว่าความสำเร็จมาจากทางการ และล้มเหลวก็มาจากทางการเช่นเดียวกัน

นึกไม่ถึงว่าตอนนี้ตนจะต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้อีก นอกจากนั้นยังเป็นช่วงเวลาสำคัญซึ่งตนพยายามคว้าแชมป์สิบสองสมัย!

สิ่งที่ต่างกันคือ…

ครั้งนี้เขาได้รับข่าวคราวล่วงหน้า

ยังดี

หลินเยวียนรู้สึกโชคดีอยู่บ้าง

จากสิ่งที่อู๋หย่งบอก ตราบใดที่เพลงของตนได้รับการโปรโมตจากทางการ ก็ไม่ต้องกังวลใจเรื่องตำแหน่งแชมป์ในเดือนหน้า

เมื่อคิดมาถึงจุดนี้

หลินเยวียนเอ่ยตอบ “ผมส่งเพลงไปได้”

เขาไม่ต้องการแข่งเรื่องกระแสกับเพลงที่ได้รับการโปรโมตอย่างเป็นทางการ

การโปรโมตทั่วไปจากทางการยังพอทำเนา หลินเยวียนมั่นใจว่าจะลองดู อย่างมากก็หยิบผลงานในคลังของเขาออกมา แต่ครั้งนี่คือบลูเกมส์น่ะสิ!

มหกรรมการแข่งขันกีฬาซึ่งสี่ปีมีหนึ่งครั้งของบลูสตาร์!

จากความกระตือรือร้นที่บลูสตาร์มีต่อบลูเกมส์ บทเพลงโปรโมตทางการนี้ จะมีข้อได้เปรียบอย่างแน่นอน!

[สู้ไม่ไหวก็เข้าร่วมเลยสิ]

หลินเยวียนเลือกทำตามหัวใจ เพื่อเป้าหมายแชมป์สิบสองสมัย

“ต้องลองดู”

อู๋หย่งกล่าวเสริม “ที่จริงเพลงนี้ไม่ได้มีเงื่อนไขมากมายอะไร ส่วนใหญ่คือเพื่อโปรโมตฉินโจวเป็นหลัก รูปแบบย่อมต้องเป็นการขับร้องร่วมกันของคนดัง ทางที่ดีเนื้อเพลงควรมีชื่อเมืองเจ้าภาพด้วย เพราะเพลงโปรโมตบลูเกมส์ปีนี้ฉินโจวเราเป็นฝ่ายที่ตัดสินใจ ทางการฉินโจวให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ถึงอย่างไรแต่ละทวีปต้องใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะมีโอกาสเป็นเจ้าภาพบลูเกมส์ เมื่อถึงตอนนั้น ทวีปที่ยังไม่ได้ผนวกรวมจะได้ชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันด้วย…”

หลินเยวียนพยักหน้า

อู๋หย่งถอนหายใจ

“แต่เดิมเรื่องนี้ไม่ได้มีเหตุผลใหญ่โตอะไร แต่ใครจะรู้ล่ะครับว่าทางการประกาศว่าจะปล่อยเพลงนี้ในวันที่หนึ่ง ถ้าปล่อยเพลงในวันที่หนึ่งเพลงนี้ก็มีผลอย่างมากต่อฤดูกาลเพลง เรียกว่าแทบกลายเป็นเพลงแชมป์ไปเลย พ่อเพลงจะเลือกหลีกทางให้อย่างว่าง่าย ถึงยังไงของแบบนี้ก็ไร้เหตุผล ไม่มีใครต้านทานได้หรอก!”

หลินเยวียน “อื้ม”

อู๋หย่งท่าทางปวดเศียรเวียนเกล้า “ครั้งนี้คุณพยายามให้เต็มที่เลยนะ ต่อให้ไม่ถูกเลือกก็ไม่ใช่ความผิดของคุณ”

หลินเยวียนฟังออกถึงความหมายแฝงในคำพูดของอู๋หย่ง “มาตรฐานของทางการสูงมากใช่ไหม?”

“ประเด็นไม่ได้อยู่ที่มาตรฐานสูงหรือไม่สูง…”

อู๋หย่งกล่าวอย่างจนใจ “ประเด็นหลักคือขึ้นอยู่กับรสนิยมของคณะกรรมการบลูเกมส์ ในบลูเกมส์ทุกครั้งของบลูสตาร์จะดำเนินการโหวตเพลงที่แตกต่างกัน แต่มีเรื่องหนึ่งที่น่ากลัวมาก ก็คือในบลูเกมส์ทั้งสามครั้งก่อนหน้านี้ เพลงโปรโมตของทางการที่จริงแล้วมาจากคนคนเดียว นั่นคือนักประพันธ์เพลงที่มีชื่อว่าอาจารย์หวงตงเจิ้ง หวงตงเจิ้งเชี่ยวชาญการเขียนเพลงจำเพราะของทางการแบบนี้แหละครับ”

“หวงตงเจิ้ง?”

หลินเยวียนถาม “เป็นพ่อเพลงเหรอครับ?”

อู๋หย่งส่ายหน้า “หวงตงเจิ้งยังแตะไม่ถึงระดับพ่อเพลงเหมือนกับคุณ แต่เขาน่าจะมีพรสวรรค์ เพลงของเขามักจะได้รับเลือกจากทางการเสมอ แม้แต่พ่อเพลงยังสู้เขาไม่ได้ ถึงยังไงเพลงประเภทนี้ก็พิเศษมาก ไม่ได้แข่งกันที่เพลงของใครเพราะกว่า หรือเพลงของใครถ่ายทอดความหมายดีกว่า แต่แข่งกันที่ความนิยมและความเป็นสากลของเพลงนั้น เพลงที่ได้รับการโปรโมตจากทางการ ส่วนมากมักมีทำนองเรียบง่าย พวกกับเนื้อเพลงภาษาพูด”

หลินเยวียนพยักหน้า

บทเพลงซึ่งได้รับการโปรโมตจากทางการล้วนเป็นเช่นนี้

มาตรฐานด้านทำนองและเนื้อเพลงที่พวกเขาต้องการไม่ใช่เทคนิคท่ีสูง แต่เป็นความเหมาะสมในการแสดงออก

ตัวอย่างเช่นเพลงโชคดีมาแล้ว

หากจะบอกว่าเพลงนี้ใช้เทคนิคที่สูงคงไม่ใช่ เหตุผลสำคัญคือบรรยากาศเหมาะสม นี่คือจุดที่ทำให้เพลงนี้ประสบความสำเร็จ

ความรื่นเริงที่เรียบง่าย

ผู้คนเข้าถึงได้ง่าย

ขอยกอีกสักหนึ่งตัวอย่าง

ถ้าคุณให้ผู้พัฒนาเกมชั้นนำสร้างเกมที่มีการควบคุมที่ซับซ้อนและมีโลกทัศน์ที่กว้างใหญ่ พวกเขาสามารถทำได้

ถึงอย่างไรพวกเขาก็มีเทคนิคอยู่แล้ว

แต่หากคุณให้กลุ่มผู้พัฒนาเกมชั้นนำเหล่านี้แข่งขันกับผู้พัฒนาเกมเล็กๆ ว่าเกมเล็กๆ ของใครจะได้รับความนิยมมากกว่า

ผลสุดท้าย ใครจะชนะไม่มีใครรู้ได้!

ถึงอย่างไรผู้ผลิตเกมยอดนิยมซึ่งเป็นผู้ผลิตรายเล็กจำนวนมากมักไม่ได้เป็นที่รู้จัก

นี่คือสาขาที่พวกเขาสันทัดมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม

ใครจะกล้าบอกว่าหลิน(ระ)เยวียน(บบ)ไม่สันทัดด้านนี้กัน

อู๋หย่งไม่รู้ความคิดของหลินเยวียน

ตอนนี้ในสมองของเขามีเพียงคำว่า ‘ล้มเหลวโดยที่ไม่ได้ได้ทำอะไรผิดพลาด’ ราวกับคาดการณ์ไว้แล้วว่าเพลงโปรโมตในปีนี้จะตกอยู่ที่หวงตงเจิ้งอีกครั้ง

นี่ไม่ใช้เพราะฝีมือของหลินเยวียนไม่ถึงขั้น

หากจะโทษคงโทษได้แต่ช่วงเวลาที่ไม่ประจวบเหมาะ ทำให้พ่อเพลงตัวน้อยซึ่งกำลังลุยคว้าแชมป์สิบสองสมัยต้องมาตามงานจากบลูเกมส์ และหวงตงเจิ้งคนนั้นก็เชี่ยวชาญบทเพลงด้านนี้ จนแทบกลายเป็นโฆษกของเพลงโปรโมตจากทางการไปแล้ว

“คุณไม่ต้องกดดันไป…”

อู๋หย่งพยายามเอ่ยปลอบใจหลินเยวียน ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไปด้วยสีหน้าว้าวุ่นใจ

หลินเยวียนถือโอกาสนี้ค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับบลูเกมส์สักหน่อย บนโลกออนไลน์มีข่าวที่เกี่ยวข้องอยู่เต็มไปหมด บลูเกมส์จะต้องเป็นประเด็นร้อนในเวลานี้อย่างแน่นอน

สุดท้ายแล้ว

สายตาของหลินเยวียนไปหยุดที่สองสามคำสุดท้ายในข้อมูลแนะนำบลูเกมส์ในครั้งนี้จากทางการ

‘สถานที่จัด: เป้ยจิง ฉินโจว’

ทันใดนั้นหลินเยวียนก็รู้ในทันทีว่าเขาจะหยิบเพลงอะไรออกมา

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท