รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 996 นอนดี ๆ อาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 996 นอนดี ๆ อาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น!

บทที่ 996 นอนดี ๆ อาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น!

มัน…คาดเดาได้ถูกต้องแล้ว!

หลังจากได้ยินเสียงปี่สั่วน่า มันก็รับรู้ได้ทันทีว่ามีพลังที่มองไม่เห็นพุ่งเข้าใส่แล้วกักขังมันเอาไว้

ตู้ม!

เสียงดังขึ้นทันที ร่างกายทั้งหมด กระทั่งจิตวิญญาณและจิตสำนึกระเบิดออก

มันตายลงอย่างสนิท สูญสลายไปหมดสิ้น!

หลี่จิ่วเต้าเก็บปี่สั่วน่า เทชาหนึ่งถ้วยยกขึ้นจิบ จากนั้นก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ชายังไม่เย็น…”

เฟิ่งหลวนรู้สึกทุกสิ่งราวกับเป็นเพียงความฝัน ความจริงทั้งหมดดูไม่จริงเกินไปแล้ว!

“ถูกไล่สังหารมาตลอดทาง คิดว่าเจ้าน่าจะเหนื่อยล้าทั้งกายและใจแล้ว ไปพักผ่อนก่อนเถิด”

หลี่จิ่วเต้ากลับเข้าไปในรถม้า บอกให้ลั่วสุ่ยช่วยจัดเตรียมห้องสำหรับเฟิ่งหลวน ภายในรถม้าราวกับพื้นที่อีกแห่งนี้ มีห้องอยู่จำนวนมาก

อสูรเก้าตนดึงรถม้าค่อย ๆ แล่นไปในจักรวาลดวงดารา

ย่ำยามเย็น

หลี่จิ่วเต้าวานให้ลั่วสุ่ยไปเรียกเฟิ่งหลวนมาทานข้าวร่วมกัน

เฟิ่งหลวนตกตะลึงอย่างยิ่ง สิ่งที่ลั่วสุ่ยกล่าวกับนางนั้นเป็นความจริงไม่ผิดเลย การดื่มชาเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ยังห่างไกลจากจุดสิ้นสุด

อาหารบนโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดล้วนพิเศษเหนือชั้น เปี่ยมด้วยประกายชีวิตอันไม่อาจจินตนาการถึง การรับประทานเข้าไปจะนำมาซึ่งผลประโยชน์มหาศาล!

อีกทั้งสิ่งที่สำคัญสุดคืออาหารเหล่านี้รสเลิศอย่างถึงที่สุด ไม่รู้ว่านางไม่ได้กินมานานเท่าไหร่แล้ว ทำให้หลังจากเห็นอาหารบนโต๊ะ น้ำลายก็พลันไหล่ตรงมุมปากทันทีแบบไม่หยุด

เด็กสาวกินเสียจนพุงน้อย ๆ ยื่นออกมา สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกเขินอายยิ่ง สงสัยว่าตนกินอย่างหน้าไม่อายเกินไปหรือไม่

นอกจากนี้ภายในใจของนางยังตกตะลึงจนพูดไม่ออก

เพียงแค่อาหารมื้อเดียวก็สัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลไร้ขีดจำกัดในร่างกายของตัวเอง หลังจากดูดซับและฝึกฝนพลังเหล่านี้แล้ว ไม่รู้ว่าขอบเขตของนางจะพัฒนาได้สูงเพียงใด!

เฟิ่งหลวนชมดูอย่างเงียบ ๆ จากด้านข้าง

นางต้องตกตะลึงอีกครั้ง นี่คือหมากล้อมหรือ? น่ากลัวเกินไปแล้ว!

เด็กสาวเฝ้าดูอยู่ข้างสนามถูกดึงเข้าไปยังโลกแห่งหมากล้อมโดยไม่ทันรู้ตัวแม้แต่น้อย!

โลกแห่งหมากล้อมไร้ขอบเขต นางตัวเล็กประหนึ่งเมล็ดข้าว ยามตัวหมากวางลงมา กฎมหาเต๋าทุกรูปแบบเคลื่อนไหว แต่ละกฎมหาเต๋าต่างไกลเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของนาง!

สวรรค์ นางได้ทลายขีดจำกัด ก้าวสู่ขอบเขตล้ำขีดแล้ว ทว่ายังคงเล็กจ้อยถึงเพียงนี้อยู่หรือ?

จิตวิญญาณของเด็กสาวสั่นสะท้าน ตื่นตกใจเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูด หมากทุกตัวที่แหงนหน้าขึ้นมอง หากมันตกลงมาบนร่างของตน ไม่สิ ไม่ต้องตกใส่ร่าง เพียงแค่แผ่แรงกดดันใส่ เพียงพริบตาเดียวตนคงกลายเป็นฝุ่นผง ไม่อาจฟื้นกลับมาได้อย่างสิ้นเชิง!

‘มิ…มิน่าเล่า!’

เฟิ่งหลวนสูดอากาศเย็นเยียบ ค้นพบถึงเรื่องน่าสะพรึงกลัว

‘นี่คือหมากวิถีสวรรค์ กระดานหมากทั้งหมดปูด้วยวิถีสวรรค์!’

นางตื่นตะลึงอย่างถึงที่สุด คนผู้นี้คือใครกันแน่?

กระทั่งวิถีสวรรค์ยังเอาใจ ยินยอมกลายเป็นกระดานหมาก

‘บนโลกนี้จะมีผู้ยิ่งใหญ่น่าหวาดหวั่นเช่นนี้ได้อย่างไร เทียบกับอาจารย์ปู่ ผู้ที่อาจารย์เรียกว่าอาจารย์แล้ว ยังแข็งแกร่งกว่าอีกหรือ?’

อาจารย์เคยเล่าให้ฟังว่าอาจารย์ปู่ของนางคือผู้เบิกทาง คนแรกที่ก้าวสู่หนทางฝึกฝน คนแรกที่ไปถึงจุดสุดท้ายของเส้นทางการฝึกฝน!

ตามที่อาจารย์ของนางได้กล่าว อาจารย์ปู่สามารถทำได้ทุกสิ่ง ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกนี้!

ในใจของนางเองก็คิดเหมือนกัน คิดว่าในโลกแห่งนี้ไม่มีผู้ใดทัดเทียมอาจารย์ปู่ได้!

แต่ตอนนี้ความคิดในใจนางกำลังสั่นคลอน อาจารย์ปู่ไม่ได้ไร้เทียมทานในใจนางอีกต่อไป มีคนเข้ามาแทนที่อาจารย์ปู่แล้ว!

และคนที่เข้ามาแทนที่อาจารย์ปู่ก็กำลังอยู่เบื้องหน้านาง!

หลังจากเล่นหมากล้อมจบ นางก็ตื่นตะลึงค้างและได้รับผลประโยชน์มหาศาลในคราวเดียวกัน

ฝั่งขาวและฝั่งดำไล่สังหารกัน การปะทะของมหาเต๋าสูงสุดทำให้นางที่เห็นฉากดังกล่าวเสมือนอยู่ในฉากนั้นจริง ๆ ผลประโยชน์ที่นางได้รับมหาศาลจนไม่อาจจินตนาการได้!

ความแข็งแกร่งด้านจิตวิญญาณของนางได้รับการปรับปรุง ความเข้าใจในด้านนี้พุ่งทะยานสูงขึ้น

ยามนี้เพียงแค่ในด้านความเข้าใจในมหาเต๋า เกรงว่านางจะเหนือกว่าอาจารย์ตนเองเสียด้วยซ้ำ!

‘พุ่งทะยานในทุกด้าน ข้าจะสามารถก้าวขึ้นไปสูงได้เท่าใดกัน กระทั่งตัวข้าเองยังไม่กล้าคิดถึงเรื่องนี้เลย!’

ร่างกายของนางสั่นสะท้าน ผลประโยชน์ที่นางได้รับมหาศาลเกินไปแล้ว!

หลี่จิ่วเต้าเล่นหมากล้อมกับลั่วสุ่ยอีกสองสามครั้ง หลังจากนั้นก็จบเกมลง

“เจ้าเองก็ชื่นชอบหมากล้อมด้วยหรือ? ข้าเห็นว่าเจ้าเอาแต่มองอย่างดื่มด่ำ”

หลี่จิ่วเต้ามองไปทางเฟิ่งหลวนพร้อมหัวเราะอย่างแผ่วเบา

ระหว่างเล่นหมากล้อมกับลั่วสุ่ย บางครั้งเขาเองก็มองไปทางเฟิ่งหลวงที่เฝ้าชมอยู่ด้านข้าง พบว่าเฟิ่งหลวนขมวดคิ้วแน่นทำสีหน้าครุ่นคิดตลอดเวลา

เขาคิดว่าเฟิ่งหลวนเองก็น่าจะชื่นชอบการเล่นหมากล้อมเหมือนกัน เมื่อมองกระดานหมากจึงเกิดความรู้สึกขบคิดหมกมุ่นถึงเพียงนี้

“เจ้าค่ะ!”

เฟิ่งหลวนอดพยักหน้าตอบรับไม่ได้ หมากล้อมเช่นนี้ ผู้ใดกันจะไม่ชื่นชอบ!

“ฮ่าฮ่า ไว้มีเวลาพวกเราค่อยมาประชันแลกเปลี่ยนความรู้กันสักกระดาน”

หลี่จิ่วเต้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ดึกเกินไป…”

“ตกลงคุณชาย”

เฟิ่งหลวนพยักหน้ารับด้วยความประหลาดใจและตื่นเต้น คุณชายอยากเล่นหมากล้อมกับนาง เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการชี้แนะนาง!

นี่นับว่าเป็นวาสนาการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!

‘นี่ยังต้องตามหาหลี่จิ่วเต้าอีกหรือ ไม่ตามหาแล้ว ติดตามข้างกายท่านผู้นี้ต่างหากที่ปลอดภัย!’

นางคิดในใจ ไม่ต้องการจะตามหาหลี่จิ่วเต้าอีกต่อไป

ก่อนที่จะจากอาจารย์มา อาจารย์บอกให้นางตามหาหลี่จิ่วเต้า

แม้ว่ายามนั้นอาจารย์จะไม่ได้อธิบายเหตุผลอันใดให้กับนาง

ทว่านางก็ล่วงรู้เรื่องนี้ในภายหลัง

รู้จากปากของสิ่งมีชีวิตที่ตามไล่สังหารนาง

ตามที่สิ่งมีชีวิตนั้นเอ่ย โลกหล้าใกล้จะถูกทำลาย ทุกสรรพสิ่งล้วนต้องถูกทำลาย!

สิ่งมีชีวิตนั่นยังกล่าวอีกว่าอาจารย์ของนางโง่เขลาอย่างถึงที่สุด ยังคิดว่าจะสามารถต่อต้านได้ ช่างน่าขันเสียจริง จุดจบถูกกำหนดไว้แล้วว่ามันจะจบสิ้นอย่างน่าสังเวชที่สุด

จากคำกล่าวของสิ่งมีชีวิตตนนั้น นางจึงคาดเดาสาเหตุที่อาจารย์บอกนางให้ออกไปตามหาหลี่จิ่วเต้า

ภัยพิบัติแห่งการทำลายล้างกำลังย่างกรายเข้ามา อาจารย์ของนางมุ่งตรงไปยังสมรภูมิแล้ว ส่วนนางถูกสั่งให้ไปตามหาหลี่จิ่วเต้า เห็นได้ชัดว่าหลี่จิ่วเต้าไม่ธรรมดา หากนางติดตามอีกฝ่ายจะปลอดภัยกว่า บางทีอาจสามารถรอดจากภัยพิบัติได้

ทว่าดูจากตอนนี้แล้ว นางไม่จำเป็นต้องไปหาหลี่จิ่วเต้าอีก

หลี่จิ่วเต้าจะทรงพลังเท่าเย่ปู้ฝานที่อยู่เบื้องหน้านางได้อย่างไร?

อาจารย์รู้เพียงหลี่จิ่วเต้าแข็งแกร่ง แต่ไม่รู้ว่ามีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าหลี่จิ่วเต้าอยู่!

นางโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบกับคุณชายเย่ ทั้งยังได้ติดตามข้างกายคุณชายเย่

“ดึกแล้ว ไปนอนเถิด”

หลี่จิ่วเต้าเอ่ยออกมา “ใช่แล้ว นี่สำหรับเจ้า ด้านในมีหญ้าสงบจิตอยู่ ช่วยเจ้าในการนอนหลับ”

เขายื่นถุงหอมให้กับเฟิ่งหลวน ด้านในใส่หญ้าสงบจิตที่เขาได้รับจากบรรพจารย์ฝูเอาไว้ นี่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ฝึกตน ทำให้จิตใจสงบลง

เฟิ่งหลวนถูกไล่สังหารอย่างน่าเวทนา ในช่วงบ่ายเขาจึงทำสิ่งนี้ขึ้นมาให้เป็นพิเศษ หวังว่าจะช่วยให้นางฟื้นฟูตนเองได้เร็วที่สุด

“ขอบคุณคุณชาย!”

เฟิ่งหลวนรับถุงหอมมา เอ่ยขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า นางสัมผัสได้ถึงความพิเศษบนถุงหอม นี่เป็นสมบัติล้ำค่าอย่างถึงที่สุด เพียงแค่สวมเอาไว้บนร่างย่อมมอบผลประโยชน์มหาศาลให้

“เรื่องเล็ก ไม่จำเป็นต้องเกรงใจเพียงนี้”

หลี่จิ่วเต้ายิ้ม จากนั้นก็กลับเข้าห้องตนเองเตรียมเข้านอน

เฟิ่งหลวนเองก็กลับไปยังห้องของตัวเอง

นางไม่ได้หลับและก็ไม่ได้ฝึกฝนอันใด แต่เดินไปตรงหน้าต่าง ทอดสายตามองดวงดาวที่อยู่แสนไกล

“อาจารย์…”

ความคิดของนางสับสนว้าวุ่น นึกถึงช่วงแยกจากอาจารย์ตนเอง อาจารย์เมตตาอ่อนโยนกับนางมาตลอด ทว่ายามช่วงก่อนจาก อาจารย์เย็นชากับนางอย่างยิ่ง

ในตอนนั้นนางไม่เข้าใจ ทว่าตอนนี้นางเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ท่าทางเย็นชาที่อาจารย์มีต่อนางเป็นเพียงแค่การเสแสร้งเท่านั้น เนื่องจากเกรงว่าจะไม่อาจหักใจแยกจากนางได้

“หัวใจของอาจารย์ยามนั้นจะเจ็บปวดมากเพียงใด!”

ดวงตาของนางอดรินน้ำขึ้นมาไม่ได้ ช่วงเวลาอันงดงามที่มีกับอาจารย์ยังคงปรากฏต่อหน้านางจนน้ำตาไม่อาจหยุดไหล ไม่รู้ว่าในอนาคตนางยังจะสามารถพบเจออาจารย์ได้อีกหรือไม่!

ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

พลันนั้นมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เป็นเสียงของลั่วสุ่ยที่อยู่นอกประตูดังขึ้นว่า “แม่นางเฟิ่งหลวนหลับหรือยัง?”

“ยัง!”

เฟิ่งหลวนปาดน้ำตา รีบไปเปิดประตูให้ลั่วสุ่ย

“พี่ไป๋ มีเรื่องอันใดหรือ?” เฟิ่งหลวนเอ่ยถาม

นางไม่รู้ชื่อจริงของลั่วสุ่ย รู้เพียงแค่ว่าคุณชายเรียกว่าเสี่ยวไป๋

“ไม่มีอันใด เพียงแค่ข้ารู้สึกว่าเจ้าเหมือนมีบางสิ่งในใจ…”

ลั่วสุ่ยคลี่ยิ้ม ความคิดนางละเอียดละอ่อนอย่างถึงที่สุด “หากไม่รังเกียจ สามารถบอกข้าถึงเรื่องในใจเจ้าได้หรือไม่?”

“อ่า…”

เฟิ่งหลวนคาดไม่ถึงว่าลั่วสุ่ยจะมาด้วยเหตุนี้ นางอดน้ำตาไหลออกมาอีกครั้งไม่ได้

เด็กสาวซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ภายในใจเต็มไปด้วยความอบอุ่น ลั่วสุ่ยเป็นคนดีห่วงใยนางจากใจอย่างแท้จริง

“ข้ามีเรื่องในใจจริง ๆ…”

นางเล่าทุกอย่างโดยไม่ปิดบัง รวมถึงเรื่องที่อาจารย์บอกให้นางไปหาหลี่จิ่วเต้า

ที่แท้ก็มาหาคุณชายอย่างนั้นหรือ?

สีหน้าของลั่วสุ่ยเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาดขึ้นมา บนโลกหล้ามีเรื่องราวบังเอิญเช่นนี้ด้วยหรือ?

“พี่ไป๋อย่าได้เข้าใจผิด ข้าไม่ไปหาหลี่จิ่วเต้าแล้ว ข้าอยากอยู่ติดตามคุณชายเย่! ในใจของข้าคุณชายเย่แข็งแกร่งที่สุด ไม่มีผู้ใดเทียบได้ กระทั่งหลี่จิ่วเต้าผู้นั้นก็ทำไม่ได้!”

เฟิ่งหลวนเห็นสีหน้าแปลกประหลาดของลั่วสุ่ย จึงคิดว่าลั่วสุ่ยเข้าใจผิดว่านางจะจากไป จึงรีบร้อนอธิบายออกมา

หลังจากฟังคำพูดของเฟิ่งหลวนแล้ว สีหน้าของลั่วสุ่ยก็ยิ่งแปลกประหลาดขึ้นไปอีก

หลี่จิ่วเต้าไม่อาจเทียบคุณชายเย่ได้?

นี่มันอะไรกัน!

นางพลันหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกขึ้นมาจริง ๆ คุณชายเย่ก็คือคุณชายหลี่!

“เอ่อ ข้าพูดอันใดผิดไปหรือ?”

เฟิ่งหลวนเห็นสีหน้าลั่วสุ่ยแปลกประหลาดกว่าเดิมก็พลันวิตกกังวลขึ้นมา รู้สึกว่าตนเองพูดผิดไปอีกแล้ว

“ไม่ ไม่”

ลั่วสุ่ยยิ้มแล้วเอ่ยกับเฟิ่งหลวน “อย่าได้ดูแคลนหลี่จิ่วเต้า เขาเองก็เป็นคุณชายผู้หนึ่ง แข็งแกร่งเทียบเท่าคุณชายเย่”

“เอ๋ แข็งแกร่งถึงเพียงนั้น?!”

เฟิ่งหลวนตกตะลึง หลี่จิ่วเต้าแข็งแกร่งเท่าคุณชายเย่อย่างนั้นหรือ? นี่เกินความคาดหมายของนางยิ่ง

“เช่นนั้น…ข้าควรไปหาหลี่จิ่วเต้าหรือไม่?”

นางถามเสียงแผ่ว

“ไม่ต้อง”

ลั่วสุ่ยหัวเราะ “ติดตามคุณชายเย่ กับติดตามคุณชายหลี่ก็เหมือนกัน”

เหมือนกัน?

เฟิ่งหลวนบังเกิดความสับสัน จะเหมือนกันได้อย่างไร? นางไม่เข้าใจ

ลั่วสุ่ยมองออกว่าเฟิ่งหลวนไม่เข้าใจ นางจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “วันข้างหน้าเจ้าจะเข้าใจเอง”

“นอนเถิด อย่าได้คิดมาก นอนดี ๆ สักหนึ่งตื่น”

ลั่วสุ่ยเอ่ยสำทับอีกว่า “ใช่แล้ว อย่าลืมถุงหอมที่คุณชายมอบให้เจ้า วางเอาไว้บนหัวเตียง บางทีอาจเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นก็ได้!”

หลังจากกล่าวจบ นางก็บอกลาเฟิ่งหลวนแล้วออกจากห้องไป

เฟิ่งหลวนได้พบคุณชาย นี่เป็นเพียงเรื่องบังเอิญจริงหรือ?

ลั่วสุ่ยคิดในใจ มองว่าเรื่องราวทั้งหมดอาจไม่ใช่ความบังเอิญ

บางทีนี่อาจเป็นเรื่องที่คุณชายจัดเตรียมไว้แล้ว

เมื่อคิดถึงถุงหอมที่คุณชายมอบให้ ทั้งยังมีคำกำชับที่กล่าวกับเฟิ่งหลวน นางก็รู้สึกว่าเมื่อเฟิ่งหลวงนอนหลับสบาย อาจได้พบกับเรื่องดี ๆ ที่คาดไม่ถึงจริง ๆ

ภายในห้อง

เฟิ่งหลวนยังคงมึนงง ไม่อาจทำความเข้าใจคำพูดของลั่วสุ่ยได้

“วางไว้บนหัวเตียง นอนดี ๆ สักหนึ่งตื่น อาจมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น? นี่…หมายความว่าอย่างไร?”

นางคิดแล้วคิดอีก แต่ก็ยังไม่เข้าใจ สุดท้ายก็ส่ายหัวตัดสินใจเข้านอน

“จะหลับง่ายถึงเพียงนั้นจริงหรือ? ข้าไม่ได้นอนมากี่ปีแล้วก็ไม่รู้…”

เด็กสาวนอนลงบนเตียง รู้สึกว่าน่าจะเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับนางที่จะหลับลง

อย่างที่กล่าว นาง…ไม่ได้นอนมานานแสนนานแล้วจริง ๆ

ยามค่ำคืนนางล้วนใช้เวลาทั้งหมดไปกับการฝีกฝน

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท