สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 1172 ตอนพิเศษ (60/1)

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 1172 ตอนพิเศษ (60/1)

บทที่ 1172 ตอนพิเศษ (60/1)

ทุกสิ่งเปลี่ยนไปแล้ว!

สกุลจางถูกยึดทรัพย์ จวนนายอำเภอถูกตรวจค้น หลักฐานทุกชนิดเผยออกมา ความผิดที่น้าหลานคู่นั้นกระทำมากมายเกินกว่าจะสาธยายออกมาได้หมด

นายอำเภอไม่มีแล้ว เช่นนั้นก็ต้องเปลี่ยนนายอำเภอคนใหม่

นายอำเภอคนใหม่จะเป็นผู้ใด?

ผู้คนล้วนคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ทว่าไม่นานก็โยนเรื่องนั้นไว้ข้างหลังอย่างรวดเร็ว เพราะไม่ว่าผู้ใดจะมาเป็นนายอำเภอ อย่างไรเสียพวกเขาก็ยังต้องใช้ชีวิตเช่นเดียวกับที่ผ่านมา

หากไม่ใช่เพราะเป็นขุนนางกระทำความผิด อย่างไรก็คงไม่ได้ปรากฏตัวในสถานที่แร้นแค้นห่างไกลเช่นนี้ ในเมื่อมาเป็นนายอำเภอที่นี่ได้ เกรงว่าคงจะทำความผิดอะไรเข้า

ขุนนางกระทำความผิดเหล่านั้นมีผู้ใดเป็นคนดีกัน? ไม่จำเป็นต้องกล่าว ผลลัพธ์ย่อมเป็นอย่างเคย หมดนายอำเภอไร้ความสามารถผู้หนึ่งไป ผู้ที่เข้ามาย่อมเป็นนายอำเภอไร้ความสามารถอีกคน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ในทางกลับกัน ผู้คนยังยินยอมไม่ให้เปลี่ยนนายอำเภอเสียดีกว่า ถึงอย่างไรคนก่อนหน้านี้ก็จุนเจือปากท้องพวกเขา ไม่ว่าจะโลภเพียงใดก็ยังคงเหลือทางรอดให้พวกเขา หากนายอำเภอคนใหม่เข้ามาและแล่เนื้อเถือหนังราษฎรอย่างพวกเขาอีก นั่นไม่เท่ากับบีบให้พวกเขาตายหรือ?

“ใต้เท้าลู่ ขอแสดงความยินดีด้วย!” จงซู่เกินกล่าว “ตอนนี้ท่านเป็นถึงนายอำเภอผู้หนึ่งแล้ว”

ลู่ฉาวจิ่งมองดูป้ายที่อยู่ตรงหน้า

ศาลาว่าการอำเภอ

เขาสวมใส่ชุดขุนนาง ด้านหลังมีลูกน้องกลุ่มหนึ่งตามมา

โดยมีจงซู่เกินเป็นผู้นำ หน้าอกของเขาผ่าเผยดูเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ เมื่อเทียบกับก่อนหน้า ยามนี้เขาเป็นผู้ที่เคยผ่านโลกมาแล้ว

ไม่ผิด!

ลู่ฉาวจิ่งก็คือนายอำเภอคนใหม่

ส่วนเหตุใดจึงให้เขาเป็นนายอำเภอนี้นั้นก็เพื่อความสะดวก… ต่อการจัดการเรื่องขุดเหมืองทอง

นายอำเภอคนก่อนสมคบคิดกับคนขนส่งทองคำเหล่านั้น ทว่าหมู่นี้ข่าวคราวของพวกเขาเล็ดลอดออกมา ทุกอย่างล้วนชี้ไปยังศาลาว่าการอำเภอ ในเมื่อนายอำเภอไม่เชื่อฟัง แน่นอนว่าต้องสับเปลี่ยนเป็น ‘พรรคพวกของตน’ ที่เชื่อฟังกว่า ลู่ฉาวจิ่งเป็นพรรคพวกที่ถูกเลือกมาเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการเคลื่อนไหว

ลู่ฉาวจิ่งก้าวเข้าไปข้างใน

ผู้คนรอบ ๆ ต่างมองพวกเขาด้วยความประหลาดใจ

“เป็นเขาจริง ๆ”

“เขาเป็นผู้ใดหรือ?”

“ถ้าเอ่ยถึงเขา เช่นนั้นก็ต้องเอ่ยถึงฮูหยินของเขา…”

หลิวจิ่วจู๋กำลังตรวจดูยาสระผมที่ให้คนเตรียมไว้ หลังจากได้ยินสิ่งที่พ่อบ้านรายงานแล้วก็แทบทำยาสระผมร่วง

“ท่านหมายถึง… สามีของข้าเป็นนายอำเภอแล้วหรือ?”

“ขอรับ ฮูหยิน”

หลิวจิ่วจู๋หันไปมองหยางชิงซือ “ชิงซือ ข้าไม่ได้กำลังฝันอยู่ใช่หรือไม่?”

หยางชิงซือยื่นมือไปหยิกแขนสหายครั้งหนึ่ง “เจ็บหรือไม่?”

หลิวจิ่วจู๋ทำหน้าบึ้ง “ข้าเจ็บนะ!”

“เจ็บก็ถูกแล้ว หมายความว่าไม่ได้ฝัน” หยางชิงซือกล่าวหน้าระรื่น “จู๋จือ เจ้าเป็นดาวนำโชคของข้าจริง ๆ เจ้าดูสิ เจ้าเพียงชี้บุรุษผู้หนึ่งมาส่ง ๆ ก็ร้ายกาจถึงเพียงนี้ สามีข้าติดตามเขา ตอนนี้ก็ได้กินดีอยู่ดีแล้ว ต่อไปข้าจะดูสิว่าจะมีผู้ใดกล้าพูดว่าสามีข้าไร้ความสามารถอีก ความสามารถในการหาผู้หนุนหลังย่อมดีกว่าผู้ใดอย่างแน่นอน”

“เช่นนั้นคืนนี้เขาจะกลับมาหรือไม่?”

“จะต้องกลับมาอย่างแน่นอน ตอนนี้เขาไปจัดการธุระที่ศาลาว่าการอำเภอ ภายหน้าคงไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาอีก”

หลิวจิ่วจู๋เช็ดมือด้วยผ้าข้าง ๆ แล้วเอ่ย “ข้าจะเตรียมอาหารสองสามอย่างไว้ คืนนี้ฉลองให้สามีสักหน่อย”

จู่ ๆ เสียงโอดครวญอย่างเจ็บปวดก็ดังขึ้นจากบ้านข้าง ๆ

หยางชิงซือกับหลิวจิ่วจู๋ต่างก็มองหน้ากัน

หยางชิงซือกล่าว “เช้านี้ข้าเห็นพี่ใหญ่หวังผู้นั้น เขาผอมลงไปมากทีเดียว ร่างกายล้วนโทรมลง ตอนข้าออกไปซื้อของยังได้ยินข่าวหนึ่งมาด้วย เจ้าอยากฟังหรือไม่?”

“เจ้าพูดมาถึงขั้นนี้แล้ว หากข้าบอกว่าไม่อยากฟัง เจ้าจะไม่ตีข้าหรือ” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “ข่าวอะไร?”

“หมู่นี้สตรีในหอโคมเขียวตายไปหลายคน” หยางชิงซือกล่าว “ดูเหมือนจะมีจอมยุทธ์ในยุทธภพผู้หนึ่งเหมาทั้งหอโคมเขียว ทั้งยังสั่งให้ยอดพธูสามคนไปปรนนิบัติในคืนนั้น ส่วนคืนนั้นเกิดเรื่องใดขึ้น… ไม่มีผู้ใดรู้ ทว่าหลังจากคืนนั้น นางโลมทั้งสามก็เริ่มไม่สบาย เดิมทีไม่มีผู้ใดนึกสนใจ แต่บุรุษที่มีความสัมพันธ์กับนางโลมทั้งสามเริ่มมีอาการทีละคน จากนั้นทุกคนถึงได้พบว่าพวกเขาติดกามโรค”

“เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับพี่ใหญ่หวัง?”

“คนรักของพี่ใหญ่หวังเป็นหนึ่งในนางโลมที่ว่า”

“โรคนี้ควรรักษาหายขาดได้”

“หากรักษาโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ โอกาสรักษาหายขาดย่อมมีมาก ทว่าหากถึงระยะสุดท้ายแล้วตรวจพบ แม้จะเป็นเทพเซียนก็รักษาไม่ได้”

“พี่ใหญ่หวังบ้านข้าง ๆ ยังไม่ป่วยหนักมาก หากยินดีจ่ายเงินก็ยังรักษาได้ เพียงแต่หมอทั่วไปต่างก็คิดว่าโรคนี้เป็นโรคอัปมงคล ไม่ยินดีจะข้องเกี่ยว ท้ายที่สุดแล้วเพื่อที่จะรักษาคนไข้โรคนี้ก็ต้องเสียคนไข้จำนวนหนึ่งไป ย่อมไม่ต้องการทำ”

“เจ้าฟังเสียงร้องไห้ของป้าจางสิ แม้กระทั่งพวกเราได้ยินแล้วยังรู้สึกไม่สบายใจเลย”

คืนนั้นลู่ฉาวจิ่งกลับมา

หลิวจิ่วจู๋ได้ตระเตรียมงานเลี้ยงฉลองไว้แล้ว ดังนั้นเมื่อลู่ฉาวจิ่งกับจงซู่เกินกลับมาจึงมีโคมไฟแขวนอยู่ทั่วทั้งเรือนเพื่อนำทางพวกเขาเข้าบ้าน

บ่าวรับใช้ทุกคนรวมตัวกันเข้าแถวอยู่ที่ประตู รอต้อนรับลู่ฉาวจิ่งกลับบ้าน

ลู่ฉาวจิ่ง “…”

เพียงแค่เป็นนายอำเภอผู้หนึ่ง พวกเขาก็ตื่นเต้นยินดีเพียงนี้ หากได้รู้สถานะที่แท้จริงของเขา…

“ท่านพี่ ข้าเตรียมอาหารไว้แล้ว วันนี้พวกเรามาฉลองกันสักหน่อยเถิด!” หลิวจิ่วจู๋เดินออกมาต้อนรับ

“พวกเรากำลังหิวพอดี เช่นนั้นดื่มสุราสักสองสามจอกกันดีกว่า”

ลู่ฉาวจิ่งกระจ่างแก่ใจตนเองว่าเป้าหมายที่ตนมาเป็นนายอำเภอก็เพื่อล่อผู้ที่อยู่เบื้องหลังออกมา

คนผู้นี้มีความสามารถจริง ๆ กล่าวว่าจะซื้อตัวขุนนางก็ซื้อตัวขุนนาง จำต้องรู้ว่าถึงตำแหน่งนายอำเภอนี้จะเล็กน้อย อย่างไรก็ถือว่าเป็นขุนนาง ด้วยความเข้มงวดของราชสำนักในตอนนี้ ไม่ควรเกิดเรื่องซื้อขายตำแหน่งขุนนาง ทำเช่นนี้เท่ากับไม่เห็นหัวราชสำนัก

เพียงแต่ในยามนี้ ความคิดเขากลับเปลี่ยนไป

บางทีการรับตำแหน่งนายอำเภอนี้อาจเป็นสะพาน ถึงแม้จะเป็นภิกษุเพียงหนึ่งวันก็ยังต้องตีระฆังหนึ่งวัน เขาเป็นนายอำเภอหนึ่งวันย่อมต้องทำเพื่อความเป็นอยู่ของราษฎร

ส่วนคนเหล่านั้น พวกเขาสนใจแค่เพียงทองคำจะขนออกไปได้หรือไม่ จะกอบโกยผลประโยชน์ได้เท่าไหร่ เรื่องอื่นเดิมทีก็ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย

ลู่ฉาวจิ่งดื่มหนักไปเล็กน้อย ทว่ายังคงมีสติอยู่

เมื่อหันกลับไปดูหลิวจิ่วจู๋ก็เห็นได้ชัดว่านางดื่มเหล้าผลไม้ไปเพียงสองจอก แต่กลับนั่งซบอยู่ในอ้อมแขนเขา อย่างไรก็ไม่ยอมลุก

จงซู่เกินอุ้มหยางชิงซือกลับไปที่ห้อง

ลู่ฉาวจิ่งเห็นเช่นนี้ก็ทำได้เพียงอุ้มหลิวจิ่วจู๋ผู้ที่ไม่ยอมอยู่นิ่งเดินกลับไปที่ห้องเช่นกัน

หลิวจิ่วจู๋กระโดดลงจากอ้อมแขนของลู่ฉาวจิ่งตรงดิ่งไปกอดเสาฝั่งตรงข้าม หันไปพูดกับเขาว่า “ข้าจะแนะนำท่านให้รู้จักสักหน่อย นี่คือสามีข้า ท่านพี่ ข้าจะแนะนำท่าน นี่เป็นสหายที่ดีของข้า… เป็นสหายที่ดี…”

ลู่ฉาวจิ่งอุ้มนางขึ้นมา พลางเอ่ยเกลี้ยกล่อมอย่างอ่อนโยน “สหายที่ดีของเจ้าต้องพักผ่อนแล้ว หากเจ้ายังไม่พักผ่อน ย่อมรบกวนเวลาพักผ่อนของนาง อย่างนี้นางจะโกรธเอาได้”

“อย่าโกรธเลย โกรธแล้วไม่น่ามอง”

“ใช่ โกรธแล้วไม่น่ามอง ดังนั้นพวกเรากลับไปที่ห้องเถอะ อย่าได้รบกวนผู้อื่น”

หลิวจิ่วจู๋ยกแขนขึ้นคล้องคอของลู่ฉาวจิ่ง ก่อนจะจุมพิตลงบนหน้าผากของเขา

ลู่ฉาวจิ่งตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะหนึ่ง

หลิวจิ่วจู๋พึมพำอยู่ข้าง ๆ หูชายหนุ่ม “ข้าจะบอกความลับเจ้าเรื่องหนึ่ง สามีข้า… หน้าตาดีมากเลยละ!”

ลู่ฉาวจิ่ง “…”

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท