บทที่ 1255 วิญญาณอสูรในกระบองทมิฬ

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 1,255 วิญญาณอสูรในกระบองทมิฬ

หลังจากติดต่อนัดพบเรียบร้อย หลินเป่ยเฉินก็คิดอะไรบางอย่างเล็กน้อย ก่อนจะนำโทรศัพท์มือถือกลับออกมาอีกครั้งและส่งข้อความไปหาเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงผ่านแอปวีแชต

‘ท่านเห็นหรือยังว่าข้าแข็งแกร่งเพียงใด?’

เขาพิมพ์ข้อความอย่างผู้ชนะ

‘ไม่เห็น’

เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงตอบข้อความกลับมาอย่างเรียบง่าย ‘ดีแต่พูด ไปตายซะ’

หลินเป่ยเฉินพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว

ให้ตายเถอะ เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงเปลี่ยนไป

ทำไมถึงได้เย็นชากับเขาขนาดนี้

ไม่ได้อ่อนโยนอ่อนหวานต่อกันอีกแล้ว

‘ท่านยังไม่ได้ดูผลคะแนนของข้าในการแข่งขันรอบแรกอีกหรือ?’

หลินเป่ยเฉินส่งข้อความถามกลับไป

เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงส่งข้อความตอบกลับมาว่า ‘เจ้าทำตัวเด่นมากเกินไป นี่เรียกว่าไม้งามต้นเดียวทำลายป่าทั้งผืน และนกกาที่อาศัยต้นไม้เหล่านั้นหากิน ก็ต้องพลอยได้รับความเดือดร้อนไปด้วย… เจ้าอยู่เงียบ ๆ ไปก่อนไม่ได้หรืออย่างไร รอให้เข้ารอบสุดท้ายก่อน ค่อยระเบิดพลังให้ผู้อื่นประหลาดใจไม่ดีกว่าหรือ?’

‘ช่วยไม่ได้แฮะ’

หลินเป่ยเฉินตอบกลับไปด้วยความเหนื่อยหน่ายหัวใจ ‘ความจริงข้าก็ไม่อยากทำตัวเด่นเช่นนี้หรอก แต่พอดีว่าข้าแข็งแกร่งมากเกินไปน่ะสิ’

หากเขาไม่ทำตัวเด่น ป่านนี้ก็คงถูกราชาหมาป่าศิลาฆ่าตายไปแล้ว

หลินเป่ยเฉินจึงไม่มีทางเลือก

‘เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับรอบต่อไปเถอะ’

เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงส่งข้อความกลับมาอย่างเร็วไว ‘รอบแรกเจ้าทำผลงานไว้โดดเด่น รอบต่อไปคงมีผู้คนหมายหัวเจ้าไว้ไม่ใช่น้อย เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าต้องระมัดระวังตัวให้ดี’

หลินเป่ยเฉินอ่านข้อความนี้ด้วยความตื้นตันใจเป็นอย่างยิ่ง

ในที่สุด เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงก็เริ่มเป็นห่วงเขาแล้วสินะ

แต่นางก็ส่งข้อความต่อมาทันทีว่า ‘การแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นวันมะรืนนี้ เดี๋ยวเราค่อยพบกันคืนวันพรุ่งนี้ ไหอู่กับข้าได้เตรียมอาวุธและอุปกรณ์ชุดใหม่เอาไว้ให้เจ้าแล้ว รับรองว่าเจ้าได้ใช้งานแน่ ๆ’

หลินเป่ยเฉินหยุดชะงัก ก่อนส่งข้อความถามกลับไปด้วยความหวาดระแวง ‘ท่านคงไม่ได้เอามาหลอกขายข้าหรอกใช่ไหม?’

‘ข้าให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน’ เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงตอบ

ให้ตายสิ!

นี่พระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วใช่ไหม?

ทำไมเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงถึงได้ใจดีเช่นนี้?

หลินเป่ยเฉินอดประหลาดใจไม่ได้

หลังจากปรึกษากันสักครู่ เขาก็ตัดสินใจนัดพบกันที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในวันพรุ่งนี้

หลินเป่ยเฉินเก็บโทรศัพท์

เขาหมุนวนฝ่ามือวูบ แล้วกระบองยาวท่อนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมือ

นี่เป็นอาวุธคู่กายของราชาหมาป่าศิลา

แต่ราชาหมาป่าศิลาตัวนั้นไม่เคยนำออกมาใช้งาน

“กระบองท่อนนี้ทำขึ้นมาจากกระดูกโคนขาของเทพเจ้าระดับสูงผู้หนึ่งแห่งเผ่าเทพพงไพร มันบรรจุพลังเวทมนตร์อยู่มากมายและมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นอาวุธของเจ็ดเทพสงครามผู้โด่งดัง ก็ยังไม่สามารถฟันกระบองท่อนนี้ให้ขาดได้”

เสียงหนึ่งดังกังวานในหูของหลินเป่ยเฉิน

หากเฉียนหลงอยู่ที่นี่ด้วย เขาคงหวาดกลัวจนปัสสาวะราดแล้ว

เพราะว่านี่คือเสียงพูดของราชาหมาป่าศิลา

ราชาหมาป่าศิลาที่ตายไปแล้ว!!

แต่วิญญาณของมันยังคงอยู่ในกระบองท่อนนี้

“เจ้ามาอยู่ในเมืองเยี่ยเฉิง ยังกล้าส่งเสียงพูดอีกหรือ?”

หลินเป่ยเฉินตอบกลับไปผ่านทางพลังจิต “เจ้าไม่กลัวถูกพวกเทพเจ้าค้นพบหรืออย่างไร? อย่าลืมสิว่า บัดนี้เจ้าไม่มีร่างกายอีกต่อไปแล้ว”

“ฮ่า ๆๆ ข้าใช้กระบองท่อนนี้แทนร่างกายของข้า มันเคยเป็นกระดูกของคนในสภาเทพเจ้ามาก่อน เพราะฉะนั้น ตราบใดที่ข้าไม่อนุญาตให้ผู้อื่นได้ยิน ก็ไม่มีทางที่ผู้ใดจะค้นพบข้าเด็ดขาด”

“ฮื่อ ข้าไม่ได้เข้ามาที่เมืองนี้นานแล้ว คิดถึงเหลือเกิน”

“น่าเสียดายที่เจ้าลูกเต่าน้อยแห่งเผ่าเทพพงไพรใจร้อนมากเกินไป… เจ้านั่นมันโง่เขลาอย่างไม่ลืมหูลืมตา สุดท้ายก็เหลือแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น”

ราชาหมาป่าศิลาพูดด้วยความหมองเศร้า

“เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่?”

หลินเป่ยเฉินถามกลับไป

“ที่นี่เคยเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์มาก่อน… ช่างเถอะ นั่นมันเรื่องนานมาแล้ว พูดไปเจ้าก็ไม่รู้จัก หรือหากพูดออกไป เจ้าก็คงไม่เชื่ออยู่ดีว่าเผ่าเทพพงไพรที่พวกเจ้าให้ความเคารพนักหนานั้น แท้จริงแล้วก็เป็นเพียงปลาตัวเล็กตัวน้อยในบ่อน้ำโสโครกเท่านั้น… พวกเจ้ายังไม่เคยเห็นหรอกว่าผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงจากมหาสมุทรใหญ่นั้นเป็นเช่นไร”

ราชาหมาป่าศิลารีบตัดบทอย่างรวดเร็ว

“เจ้าอยากให้ข้าทำสิ่งใด?”

หลินเป่ยเฉินสอบถาม

ที่วิญญาณของราชาหมาป่าศิลาสื่อสารกับเขาเช่นนี้ ย่อมมีจุดประสงค์บางอย่าง

และการไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีจุดประสงค์อันใด ก็ทำให้หลินเป่ยเฉินรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาเล็กน้อย

“ช่วยตามหาคนให้ข้าหน่อย”

ราชาหมาป่าศิลาตอบ “คนที่ไม่ได้อยู่ในบ่อน้ำโสโครกแห่งนี้ แต่เป็นคนที่มาจากมหาสมุทรใหญ่อันไกลโพ้น”

“แล้วข้าจะไปหาได้อย่างไร?”

หลินเป่ยเฉินถามออกมาอีกครั้ง

ราชาหมาป่าศิลาตอบว่า “แค่เจ้าพาข้าออกไปสำรวจโลกกว้างด้วยก็พอ ส่วนที่เหลือเดี๋ยวข้าจัดการเอง หากเราพบกัน ข้าย่อมจำคนผู้นั้นได้แน่นอน”

หลินเป่ยเฉินลองควงกระบองในมือเล่น

มันมีลักษณะเหมือนทำขึ้นมาจากโลหะสีดำทมิฬ

มองไม่ออกเลยว่าสร้างขึ้นมาจากกระดูก

“คนที่เจ้าอยากพบเป็นใครกันแน่?”

หลินเป่ยเฉินถามออกมาด้วยความสงสัย “เพื่อให้ได้พบเจอคนผู้นี้ เจ้าถึงกับยอมสละร่างกายของตนเองและนำวิญญาณมาสิงอยู่ในกระบองท่อนนี้ นับเป็นเรื่องที่ทำใจได้ไม่ง่ายเลย”

“เรื่องที่เจ้าไม่ควรถาม ก็อย่าได้ถามออกมา”

เสียงจากกระบองทมิฬดังตอบกลับมา “ข้ากับเจ้าเพียงทำข้อตกลงกัน เจ้าช่วยเก็บรักษากระบองท่อนนี้เอาไว้ให้ดีก็พอ …ส่วนเรื่องนอกเหนือจากนั้น ยิ่งเจ้ารู้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อตัวเจ้าเองมากเท่านั้น”

เฮอะ

หลินเป่ยเฉินยิ้มมุมปาก สบถคำหยาบอยู่ในใจ

แต่เขาก็ไม่ได้ถามต่อไป

เพราะถึงอย่างไร เขาก็ได้ผู้ช่วยคนสำคัญมาใช้งานอีกแล้วใช่หรือไม่?

วิญญาณของราชาหมาป่าศิลาจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากเขาและนั่นหมายความว่าอสูรร้ายตนนี้ก็ต้องคอยช่วยเหลือหลินเป่ยเฉินด้วยเช่นกัน

ดูเหมือนเทพีแห่งโชคจะกลับมาเข้าข้างหลินเป่ยเฉินอีกแล้ว

เด็กหนุ่มพยายามพูดว่า “ข้อตกลงข้อแรก ข้าจะรักษากระบองนี้ไว้เป็นอย่างดี ข้อตกลงข้อที่สอง ข้าจะพาเจ้าไปสำรวจเมืองเยี่ยเฉิง นี่เท่ากับว่าเจ้าติดหนี้บุญคุณข้าอยู่ไม่ใช่น้อย โปรดจำเอาไว้ว่าเมื่อถึงเวลาตอบแทนบุญคุณ อย่าได้คิดเล่นลูกไม้กับข้าเป็นอันขาด”

“เจ้าเด็กโลภมาก… วางใจเถอะ”

ราชาหมาป่าศิลาตอบตกลงอย่างไม่ลังเล “จนกว่าข้าจะหาคนที่ข้าต้องการพบได้สำเร็จ ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าตายแน่นอน”

หลินเป่ยเฉินเก็บกระบองทมิฬกลับไปและนำกระบี่ยาวเล่มหนึ่งออกมา ก่อนจะเริ่มฝึกฝนการใช้กระบี่อยู่ในลานด้านหลัง

แม้ว่าเขาจะมีแอปพลิเคชันคอยช่วยฝึกวิชาให้ตลอดเวลา แต่หลินเป่ยเฉินก็ยังต้องทำความคุ้นเคยกับกระบี่ด้วยตนเองอยู่ดี

เพราะยิ่งมีความชำนาญในการใช้กระบี่มากเท่าไหร่ กระบวนท่าการโจมตีก็ยิ่งมีอานุภาพรุนแรงมากเท่านั้น

กาลเวลาเดินไปข้างหน้า

ในไม่ช้าก็ถึงเวลานัดหมาย

หลินเป่ยเฉินเปลี่ยนมาสวมใส่ชุดเสื้อคลุมสีขาวสะอาดตาและเดินไปหาชิงเล่ยในที่ทำการหอการค้าด้านหน้า เมื่อนางสั่งงานเจ้าหน้าที่ในหอการค้าเสร็จเรียบร้อย ชิงเล่ยจึงได้ออกเดินไปยังหอสุราเหมียวเหมียวหง่าวพร้อมกับหลินเป่ยเฉิน

ระหว่างทาง ใบหน้ารูปไข่ของชิงเล่ยเป็นสีแดงระเรื่อมากขึ้นเรื่อย ๆ

บางครั้งนางก็แอบจ้องมองไปที่หลินเป่ยเฉิน

แม้จะสวมใส่หน้ากาก แต่หญิงสาวย่อมจดจำได้ดีถึงใบหน้าที่แท้จริงอันแสนหล่อเหลาของเขา… บุรุษหนุ่มรูปงามเช่นนี้ ในสายตาของชิงเล่ย เขาไม่มีข้อตำหนิใด ๆ และนางก็ยินดีที่จะร้องไห้ไปกับเขา หัวเราะไปกับเขา ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับเขาชั่วชีวิต

ในไม่ช้า พวกเขาก็มาถึงหน้าหอสุราเหมียวเหมียวหง่าว

“ว่าไงนะ? ห้องอาหารเต็มหมดแล้ว?”

หลินเป่ยเฉินมองหน้าเด็กรับใช้แมวเหมียวด้วยความไม่อยากเชื่อ คิ้วของเขาเลิกขึ้นสูง

“เหมียว กราบเรียนนายท่าน วันนี้กิจการของเราคึกคัก ห้องอาหารมีผู้คนสั่งจองไว้เต็มหมดแล้วเจ้าค่ะ”

เด็กรับใช้แมวเหมียวตอบกลับมาอย่างน่ารักน่าชัง

“ห้องอาหารชั้นล่างล่ะ?”

หลินเป่ยเฉินถามอย่างไม่ยอมแพ้

“ชั้นล่างก็เต็มเหมือนกันเจ้าค่ะ เหมียว นายท่านต้องรอโต๊ะว่างอีกพักใหญ่ทีเดียว” เด็กรับใช้แมวเหมียวตอบกลับมาด้วยเสียงอ่อนโยน

ฮึ่ย

น่าขายหน้าจริง ๆ

อุตส่าห์นัดแขกไว้เป็นอย่างดี แต่ห้องอาหารในหอสุรากลับมีคนเต็มแล้ว?

ใครจะไปคิดเลยว่าหอสุราเหมียวเหมียวหง่าวที่ไม่กี่วันก่อนยังเงียบเหงา มาวันนี้กลับมีลูกค้าเนืองแน่นถึงเพียงนี้

หลินเป่ยเฉินเคยมีแต่ผู้คนมาคอยเอาใจและเขาไม่เคยต้องรอคอยห้องอาหารที่ใดมาก่อน

“หากไม่มีทางจริง ๆ พวกเรามานั่งรอข้างนอกกันก่อนก็ได้นะเจ้าคะ”

ชิงเล่ยกระซิบข้างหูเด็กหนุ่ม

หลินเป่ยเฉินกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

ทันใดนั้น เสียงที่แสดงออกถึงความเหยียดหยามพลันดังขึ้นจากด้านข้าง “อ้าว พี่ชายท่านนี้บอกว่ามีธุระต้องรีบกลับไปจัดการไม่ใช่หรือ? เหตุไฉนถึงมาปรากฏตัวขึ้นที่หอสุราเหมียวเหมียวหง่าวที่พวกเรานัดพบกันได้เล่า?”

ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา

นำหน้ามาโดยอวิ๋นอู่เหินชายฉกรรจ์ร่างเตี้ยผู้เข้าแข่งขันที่รอดชีวิตกลับออกมาจากวิหารสาขา 98

หลินเป่ยเฉินหันหน้าไปมองแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

เขาขี้เกียจสนใจ

“ฮ่า ๆๆ ที่ปฏิเสธคำเชิญไม่ยอมมากับพวกเรา ที่แท้ก็เพราะนัดพบหญิงงามไว้นี่เอง ดูเหมือนในสายตาของคุณชาย พวกเราสหายร่วมกลุ่มที่ต้องต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันในรอบต่อไป กลับมีความสำคัญน้อยกว่าแม่นางท่านนี้เสียแล้ว”

อวิ๋นอู่เหินจ้องมองเด็กหนุ่มและหญิงสาวสลับกันเล็กน้อย เพียงเท่านี้เขาก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร จึงกล่าววาจาเสียดสีออกมาไม่ปิดบัง

ทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์ที่เดินมาด้วยกันพลันระเบิดเสียงหัวเราะขบขัน

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

Status: Ongoing

หืมมม วิชานี้น่าสนใจดี แชะ ! ติ๊งง คุณได้รับแอพพลิเคชั่นวิชากระบี่ทะลวงจันทร์ ต้องการติดตั้งหรือไม่ ! ด้วยสมาร์ทโฟนในมือของเจ้าแกะดำหลิวเป่ยเฉิน ทำให้เขาสามารถผงาดบนโลกจอมยุทธ์นี้ได้อย่างง่ายดาย…. แต่ข้าไม่เอาหรอก ใครมันจะอยากอยู่โลกแบบนี้กัน YouTube ก็ไม่มี Facebook ก็เข้าไม่ได้ ข้าขอกลับโลกเดิมไปนั่งเล่นเกมในห้องแอร์เย็น ๆ ดีกว่าโว้ยยย !!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท