บทที่ 1273 เขาคือเจี๋ยนเซียวเหยา

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 1,273 เขาคือเจี๋ยนเซียวเหยา

อสูรกิ้งก่าทะเลทรายทองคำค่อย ๆ หรี่ตาปิดลงและฝังหัวของมันลงไปในดงหญ้า

เจ้าอ้วนกำมือเป็นหมัดกัดฟันด้วยความโกรธแค้น…

คนผู้นี้คุณชายเจี๋ยนเคยไว้ชีวิตมาแล้วครั้งหนึ่ง

คิดไม่ถึงเลยว่ายังจะกล้ากลับมาปรากฏตัวอีก

คนกลุ่มนั้นเดินมาถึงบ่อน้ำในไม่ช้า

ผู้ที่สวมใส่ชุดเกราะสีทองคำเดินนำมาด้านหน้าก็คืออวิ๋นอู่เหิน

ว่านหยวนและลูกสมุนคนอื่น ๆ จากวิหารสาขาที่ 98 ก็ติดตามมาด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีผู้คนที่หลงเชื่อในคารมของอวิ๋นอู่เหินติดตามมาด้วยอีกกลุ่มใหญ่…

แต่สถานการณ์ของชายร่างเตี้ยไม่สู้ดีนัก

บัดนี้ เขามีท่าทีกระวนกระวาย

เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา อวิ๋นอู่เหินล้วนแต่พบเจอกับผู้เข้าแข่งขันที่หารูปสลักเทวะไม่ได้เช่นกัน

เดิมที อวิ๋นอู่เหินไม่อยากจะคบค้าสมาคมกับคนกลุ่มนี้

เขาวางแผนเอาไว้ว่าจะตามหาผู้เข้าแข่งขันที่มาจากตระกูลใหญ่ เมื่อต่อรองราคาได้แล้ว ก็จะขายข้อมูลเรื่องที่หลินเป่ยเฉินมีรูปสลักเทวะทั้งหมดออกไป

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ ผู้เข้าแข่งขันหนึ่งคนจำเป็นต้องมีรูปสลักหนึ่งตัวเท่านั้นเพื่อความอยู่รอด อวิ๋นอู่เหินไม่กลัวอยู่แล้วว่าผู้ที่เขาขายข้อมูลให้ไปจะเก็บรวบรูปสลักทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว

เพราะถึงอย่างไรก็สามารถนำมาวางขายได้อยู่แล้ว

แต่สิ่งที่ทำให้อวิ๋นอู่เหินต้องตื่นตระหนกก็คือ ไม่ว่าเขาจะเดินค้นหาอย่างไร ตนเองกลับไม่พบบุคคลที่หมายตาไว้เลย

อวิ๋นอู่เหินไม่ทราบเลยว่าบรรดาผู้เข้าแข่งขันในทะเลทรายทองคำหายไปอยู่ที่ไหนกันหมด

โดยเฉพาะคุณชายลู่ปิงเหวินซึ่งมาจากตระกูลลู่ ผู้เป็นตระกูลรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเทพอัคคี อวิ๋นอู่เหินต้องการจะพบกับคุณชายลู่ปิงเหวินมาโดยตลอด แต่เขากลับหาตัวไม่เจอ

เมื่อเห็นว่าใกล้หมดเวลาแข่งขันเต็มทีและคงไม่พบกับผู้คนที่ตนเองหมายตาไว้ อวิ๋นอู่เหินจึงได้จำใจเปลี่ยนแผนการมาคบหาสมาคมกับบรรดาผู้เข้าแข่งขันเศษเดนเหล่านี้

ตลอดเส้นทาง เขาจะเอาแต่กล่าวว่า “ข้าทราบว่ารูปสลักเทวะเหล่านั้นอยู่ในมือของผู้ใด”

“คนผู้นั้นโง่เขลาเป็นอย่างยิ่ง ขอแค่พวกเราร่วมมือกัน ย่อมแย่งชิงมาได้อย่างแน่นอน”

ด้วยเหตุนี้ อวิ๋นอู่เหินจึงหลอกลวงผู้คนมาได้ถึงสามสิบกว่าชีวิต

หลังจากนั้น เขาก็เริ่มออกตามหาพวกของเด็กหนุ่มหน้ากากขาวกับเจ้าอ้วน

ด้วยกำลังคนที่มากกว่ากันหลายเท่า การเอาชนะเจ้าอ้วนเพื่อแย่งชิงรูปสลักเทวะจึงไม่ควรเป็นเรื่องที่ยากมากเกินไป

แต่ตลอดเส้นทางการค้นหา อวิ๋นอู่เหินพบเจอเพียงความว่างเปล่า เขากำลังคิดถอดใจ ก็พอดีเห็นว่ามีคนจำนวนมากกำลังยืนรวมตัวกันอยู่ทั้งด้านในและด้านนอกป่าเขียวกลางทะเลทราย

อวิ๋นอู่เหินยิ้มด้วยความลิงโลดใจ

และเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนที่อยู่นอกชายป่าเกิดความเข้าใจผิด เขาจึงยกมือป้องปากตะโกนบอกตั้งแต่ไกล

“ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยพวกท่านตามหารูปสลักเทวะ”

อวิ๋นอู่เหินตะโกนบอกออกไปเช่นนั้น

บรรดาผู้คนที่ยืนรวมตัวกันอยู่ทั้งด้านในและด้านนอกป่าเขียว ต่างก็พากันจ้องมองมาที่พวกของอวิ๋นอู่เหินด้วยความฉงนสงสัย

มีรูปสลักเทวะชุดใหม่อย่างนั้นหรือ?

อวิ๋นอู่เหินรีบวิ่งมาถึงริมบ่อน้ำ กำลังยืนหอบหายใจ สายตาก็พบเข้ากับหลินเป่ยเฉินที่ยืนแฝงตัวอยู่ในกลุ่มคน ชายร่างเตี้ยสะดุ้งโหยง รู้ทันทีว่าสถานการณ์ไม่ถูกต้อง

“รูปสลักอยู่ที่ใด รีบพูดออกมาเร็วไว”

ใครคนหนึ่งทนไม่ไหวร้องตะโกนออกมา

“พูดออกมา”

“บอกมาสิ”

กลุ่มคนที่พ่ายแพ้ในการประมูลตกอยู่ในสภาวะหมดหวังสุดขีด พวกเขาเดินไปยืนล้อมกรอบอวิ๋นอู่เหินและเริ่มต้นตั้งคำถามอย่างบ้าคลั่ง

อวิ๋นอู่เหินเห็นทุกคนร้อนรนถึงเพียงนี้ก็ไม่มีเวลาให้คิดอะไรมากอีกแล้ว

เขาเองย่อมรู้ดีว่าเวลาใกล้หมดลงทุกขณะ สำหรับผู้ที่ไม่มีรูปสลักเทวะก็จะต้องตายอยู่ที่นี่ ดังนั้นอวิ๋นอู่เหินจึงพูดออกไปโดยไม่ลังเล “ข้ารู้ว่ามีคนผู้หนึ่งเก็บรูปสลักเอาไว้อยู่กับตัวเป็นจำนวนมาก แต่พลังของมันต่ำต้อยนัก ข้าสามารถจัดการมันได้ในหมัดเดียว แต่ข้าอยากถามพวกท่านให้แน่ใจ พวกท่านยินดีรับเงื่อนไขของข้าหรือไม่ หากยินดี ข้าจะพาพวกท่านไปพบกับมันผู้นั้น”

อวิ๋นอู่เหินไม่ได้ชี้มือตรงไปที่หลินเป่ยเฉิน

และจากข้อมูลที่เขาบอกมา มันก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับความแข็งแกร่งของหลินเป่ยเฉินเลยสักนิด

ด้วยเหตุนี้ ทุกคนที่รับฟังจึงไม่ได้คิดถึงหลินเป่ยเฉิน

พวกเขารีบตกปากรับคำอย่างไม่ลังเล

“ท่านบอกมา ข้ายินดีช่วยเหลือท่าน”

“ข้าเป็นตัวแทนจากเผ่าเทพไม้เขียว ขอสาบานว่าจะช่วยเหลือท่านเอง…”

“รีบบอกมาเถอะ ท่านต้องการสิ่งใด”

กลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนมากยินดีร่วมมือกับอวิ๋นอู่เหิน

อวิ๋นอู่เหินแสยะยิ้มด้วยความดีใจ “เงื่อนไขของข้าไม่มีสิ่งใดซับซ้อน เมื่อพวกท่านแย่งชิงรูปสลักเทวะมาจากคนผู้นั้นได้แล้ว พวกท่านต้องแบ่งปันมันให้กับข้าหนึ่งตัว”

เมื่อได้ยินเงื่อนไขของชายร่างเตี้ย ทุกคนก็ยินดีตอบรับด้วยความเต็มใจ

พวกเขาถึงกับสาบานว่าหากแย่งชิงรูปสลักเทวะมาได้ แล้วไม่แบ่งปันให้แก่อวิ๋นอู่เหินตามสัญญา ก็ขอให้ตนเองต้องตกตายอย่างทุกข์ทรมานอยู่ที่นี่ตลอดไป

แต่ว่านหยวนและลูกสมุนที่ยืนอยู่ด้านหลังอวิ๋นอู่เหินกลับมีสีหน้าลนลานขึ้นมาแล้ว

อวิ๋นอู่เหินขอรูปสลักเทวะมาเพียงตัวเดียว แล้วของพวกเขาเล่า?

“พี่อวิ๋น พวกเราล่ะ…”

“นั่นสิขอรับ ท่านสัญญากับพวกเราว่าหากช่วยท่านทำภารกิจได้สำเร็จ ก็จะมีรูปสลักเทวะเพียงพอสำหรับพวกเราทั้งหกคน…”

แต่อวิ๋นอู่เหินจะสนใจพวกของว่านหยวนก็หาไม่

บัดนี้ มีผู้คนรวมตัวกันอยู่มากมายเกินไป ทุกคนล้วนแต่เป็นผู้ที่ไม่มีรูปสลักเทวะอยู่ในการครอบครอง หากอวิ๋นอู่เหินเรียกร้องมากเกินไป ย่อมไม่มีผู้ใดยอมร่วมมือด้วย ดังนั้นอวิ๋นอู่เหินจึงได้แต่เมินเฉยต่อลูกสมุนของตนเองแล้ว

เมื่อได้รับคำสัญญาจากทุกคน ชายฉกรรจ์ร่างเตี้ยก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “ทุกคนจงเชื่อเถิด ร่วมมือกับข้ารับรองได้ว่าไม่มีทางเสียเวลาเปล่า…”

เขาระเบิดเสียงหัวเราะ ก่อนจะหันมาจ้องมองที่หลินเป่ยเฉิน “คิดไม่ถึงเลยนะ เจ้าหน้ากากน้อย ความตายของเจ้าจะมาถึงเร็วขนาดนี้”

“เป็นมันผู้นี้เอง…”

อวิ๋นอู่เหินยกมือชี้หน้าหลินเป่ยเฉิน แสยะยิ้มและพูดเสียงดังกังวาน “ทุกท่านจงฟังให้ดี มันผู้นี้ครอบครองรูปสลักเทวะถึงหกสิบสี่ตัว ระดับพลังของมันไม่ได้สูงส่งอันใด ขอเพียงพวกเราร่วมมือกัน ย่อมสามารถแย่งชิงมาได้ไม่ยากเย็น…”

รอยยิ้มที่แสนอบอุ่นบนใบหน้าของกลุ่มชายฉกรรจ์พลันเลือนหายไปในเวลาเพียงพริบตาเดียว ก่อนที่ใบหน้าของทุกคนจะแทนที่ด้วยความเย็นชาปานทะเลสาบน้ำแข็ง

เพียะ!

ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งตบหน้าอวิ๋นอู่เหินจนล้มคะมำลงไปอยู่บนพื้นด้วยความโกรธแค้น “เจ้าตัวบัดซบ คิดว่านี่ตลกนักหรือไง?”

เขาคือนักรบเทวะตัวแทนจากเผ่าเทพไม้เขียว กระทืบเท้าเหยียบไปบนหน้าอกอวิ๋นอู่เหินอย่างแรงและถามด้วยน้ำเสียงดุดัน

มีใครบ้างไม่ทราบว่าเจี๋ยนเซียวเหยามีรูปสลักเทวะอยู่กับตัว?

ไม่ต้องเอ่ยถึงว่าบัดนี้การประมูลจบลงแล้ว ต่อให้การประมูลยังไม่จบลง มีผู้ใดบ้างที่จะกล้าไปแย่งชิงรูปสลักเหล่านั้นมาจากปีศาจน้อยตนนี้?

“ทะ…ท่านหมายความว่าอย่างไร?”

อวิ๋นอู่เหินถามด้วยความมึนงงสับสนไม่เข้าใจ

เขาพยายามรวบรวมสติโต้แย้งกลับไปว่า “สิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริงทุกประการ… เด็กหนุ่มผู้นี้มีรูปสลักอยู่ถึงหกสิบสี่ตัว เขากับข้าเคยอยู่กลุ่มเดียวกันมาก่อน ข้าเห็นเขาขุดรูปสลักเหล่านั้นขึ้นมาด้วยตาของตนเอง หากพวกท่านไม่เชื่อ ลองค้นร่างกายเขาดูก็ได้”

“ค้นร่างกายเขา?”

เสียงหนึ่งดังขึ้นด้วยความเดือดดาล “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาคือใคร? จะให้เราไปค้นตัวเขา ต้องการจะให้พวกเราตายหรืออย่างไร?”

“แต่เด็กคนนี้ไม่มีพลังสูงส่ง พวกท่าน…”

แม้ตนเองจะถูกหักหลัง แต่ในยามคับขัน ว่านหยวนก็ยังอดออกหน้าช่วยเหลืออวิ๋นอู่เหินไม่ได้

เพียะ!

สิ่งที่เขาได้รับคือฝ่ามือที่ตบเข้าใส่ใบหน้าฉาดใหญ่

ใบหน้าของว่านหยวนบิดเบี้ยวไปถึงครึ่งหนึ่ง

“เขาคือคุณชายเจี๋ยนเซียวเหยา พวกเจ้าเป็นใครมาจากไหน กล้าดีอย่างไรถึงตั้งตนเป็นศัตรูกับคุณชายเจี๋ยน?”

ลู่ปิงเหวินก้าวเดินออกมาข้างหน้า ร้องคำรามด้วยความโกรธา ได้ยินเสียงกระดูกแตกหักดังกร๊อบ แล้วแขนขาของว่านหยวนก็หักงอผิดรูปผิดร่างไปทันที

จะ…เจี๋ยนเซียวเหยา?

เด็กหนุ่มผู้สร้างปาฏิหาริย์ด้วยการทำคะแนนสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์จากการแข่งขันรอบแรก?

พวกของอวิ๋นอู่เหินถึงกับตกตะลึงไปแล้ว

“ไม่… เป็นไปไม่ได้ คุณชายเจี๋ยนเซียวเหยาจะมาสังกัดวิหารสาขาที่ 98 จากพื้นที่เขต 3 อันแสนต่ำต้อยได้อย่างไร…”

อวิ๋นอู่เหินพูดออกมาด้วยความไม่อยากเชื่อ

ใต้เท้าก่ายปาหวงบอกมาเองไม่ใช่หรือว่าเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นเพียงมือกระบี่ชั้นปลายแถว หาได้เป็นบุคคลสำคัญของตระกูลใดไม่?

แล้วเหตุไฉนเขาถึงกลายเป็นเจี๋ยนเซียวเหยาไปได้?

หรือว่า… ใต้เท้าก่ายจะโกหก?

อวิ๋นอู่เหินไม่ใช่คนโง่ จึงเข้าใจทุกอย่างได้โดยทันที

ไม่ต้องสงสัยอีกแล้วว่าเพราะเหตุใด ก่ายปาหวงจึงส่งพวกเขาไปฝึกพิเศษอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ ตัดขาดจากโลกภายนอกเป็นเวลาสามวันสามคืน แม้จะให้เหตุผลว่าป้องกันการถูกรบกวน แต่เจตนาที่แท้จริงคือต้องการปิดข่าวพวกเขาใช่หรือไม่?

อวิ๋นอู่เหินรู้แล้วว่าพวกตนเองถูกก่ายปาหวงหลอกใช้จริง ๆ

ชายฉกรรจ์ร่างเตี้ยนึกเศร้าเสียใจขึ้นมาแล้ว

“คุณชายได้โปรดให้อภัยข้าน้อยด้วย ข้าน้อยไม่รู้จริง ๆ ว่าท่านคือเจี๋ยนเซียวเหยา…”

อวิ๋นอู่เหินจ้องมองมาที่หลินเป่ยเฉินร่ำร้องขอความเมตตา

“คุณชายเจี๋ยน ได้โปรดให้อภัยข้าน้อยด้วยขอรับ ถึงอย่างไรพวกเราก็เคยอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกัน…” ว่านหยวนเองก็รีบคุกเข่าร้องขอความเมตตาเช่นกัน

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

Status: Ongoing

หืมมม วิชานี้น่าสนใจดี แชะ ! ติ๊งง คุณได้รับแอพพลิเคชั่นวิชากระบี่ทะลวงจันทร์ ต้องการติดตั้งหรือไม่ ! ด้วยสมาร์ทโฟนในมือของเจ้าแกะดำหลิวเป่ยเฉิน ทำให้เขาสามารถผงาดบนโลกจอมยุทธ์นี้ได้อย่างง่ายดาย…. แต่ข้าไม่เอาหรอก ใครมันจะอยากอยู่โลกแบบนี้กัน YouTube ก็ไม่มี Facebook ก็เข้าไม่ได้ ข้าขอกลับโลกเดิมไปนั่งเล่นเกมในห้องแอร์เย็น ๆ ดีกว่าโว้ยยย !!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท