ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 785 เรื่องน่าตกใจ

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 785 เรื่องน่าตกใจ

เดินครึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว โจวเจ๋อไม่ได้ไปโรงภาพยนตร์ แต่มาที่ใต้ตึกใหญ่แห่งหนึ่ง ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสิบเก้า ออกจากประตูลิฟต์ ก็คือพรมแดง มีกลิ่นหอมอ่อนๆ กลางอากาศ

“เถ้าแก่ ที่นี่จัดงานเลี้ยงเหรอ” อิงอิงถามด้วยความสงสัย

“โรงภาพยนตร์” โจวเจ๋อตอบ

ทนายอันเป็นคนแนะนำสถานที่แห่งนี้แก่เขา นับว่าเป็นโรงภาพยนตร์แบบโฮมเธียเตอร์แห่งใหม่ เปลี่ยนโครงสร้างของสถานที่ทำงานเป็นห้องขนาดเล็ก แต่ละห้องมีสิบกว่าที่นั่ง และภาพยนตร์ที่ฉายไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เป็นที่นิยมในโรงภาพยนตร์อยู่ในตอนนี้ แต่เป็นภาพยนตร์คลาสสิกและภาพยนตร์เก่าต่างๆ แน่นอนว่า เพื่อรักษาต้นทุนการดำเนินการ ราคาตั๋วจึงสูงมาก ห้าร้อยกว่าหยวนต่อหนึ่งใบ และไม่รับเด็กอายุต่ำกว่าสิบห้าปีเด็ดขาด

ธุรกิจแน่นอนว่าไม่ได้รุ่งมาก แต่ก็ไม่เงียบเหงา อย่างน้อยตอนที่โจวเจ๋อกับอิงอิงเดินเข้ามา เห็นร้านกาแฟตรงนั้นมีคนนั่งเงียบๆ อยู่ไม่น้อย เขาจองตั๋วในอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว พอใกล้ถึงเวลา โจวเจ๋อก็ไม่รอช้า แสกนคิวอาร์โค้ดกับอิงอิงแล้วจึงเดินเข้าไป ในห้องมีพื้นที่ขนนาดเท่าห้องรับแขกในบ้านทั่วไป เก้าอี้สิบสองตัววางอยู่ตรงนั้น บนโต๊ะน้ำชามีของหวานและเหล้า

โจวเจ๋อกับอิงอิงเพิ่งนั่งได้ไม่นาน ก็มีลูกค้าเข้ามาอีกสี่คน ทุกคนมีที่นั่งเว้นช่วงกันพอดี พอดับไฟ ฉากหลังจึงปรากฏบนหน้าจอ ทุกคนเข้าสู่โหมดดื่มด่ำกับช่วงเวลาดูภาพยนตร์ของตัวเองได้อย่างสบาย

ทุกวันนี้เวลาของทุกคนมีค่าเป็นอย่างมาก บางคนมีความต้องการในเรื่องการดูภาพยนตร์เป็นอย่างสูง ไม่สนใจว่าต้องจ่ายเงินเท่าไร ดังนั้นจึงเลือกที่นี่ เวลาสองชั่วโมงกับภาพยนตร์หนึ่งเรื่อง หลังจากดูจบแล้ว จึงเดินออกไป ไม่มีการพลอดรัก ไม่มีแอบนัดพบกันกันอย่างลับๆ ไม่มีการเล่นหูเล่นตา กระทั่งแบบโจวเจ๋อที่พาคู่มาด้วยก็ยังมีน้อยมาก

ทุกคนรีบมารีบไป ต้องการใช้เวลาพักผ่อนอย่างผ่อนคลายในช่วงเวลาที่เหมาะสมและชั่วคราวเท่านั้น

ภาพยนตร์ ‘ชอว์แชง มิตรภาพ ความหวัง ความรุนแรง’ เป็นภาพยนตร์แนวดราม่าน่าดูเรื่องหนึ่ง แต่ความรู้สึกที่ภาพยนตร์มอบให้คนนั้น จริงๆ แล้วไม่ได้เศร้าขนาดนั้น เมื่อภาพยนตร์จบลง ทุกคนเดินออกจากโรงภาพยนตร์อย่างเงียบๆ

ตอนลงจากลิฟต์ โจวเจ๋อหันไปมองอิงอิงที่อยู่ข้างๆ ถามว่า “ชอบไหม”

“อืม ชอบเจ้าค่ะ!”

“อืม” จากนั้น เมื่อลิฟต์มาถึงจุดหมาย ประตูเปิดออก ตอนที่ทั้งสองคนเดินออกมา โจวเจ๋อพลันพูดว่า “จริงๆ แล้ว ผมไม่ค่อยชอบ”

“ดื่มเครื่องดื่มคำโตๆ ก็ไม่ได้ กินป็อปคอร์นก็ไม่ได้ รู้สึกเหมือนขาดอะไรไป”

“ป้อนเถ้าแก่ดื่มน้ำไม่ได้ ป้อนป็อปคอร์นให้เถ้าแก่ก็ไม่ได้ รู้สึกขาดอะไรไปนิดหน่อย”

ทั้งสองคนสี่ตาประสานกัน โจวเจ๋อยื่นมือจูงมือของอิงอิง หลังจากความอึดอัดสองชั่วโมงผ่านไป ตอนนี้รู้สึกเหมือนอากาศสดชื่นมากกว่าเดิมแล้ว

“เถ้าแก่รู้จักที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ”

“ทนายอันบอกผม เขานัดผู้หญิงมาบ่อย”

“อย่างนั้นเถ้าแก่ก็มาที่นี่บ่อยหรือเจ้าคะ”

โจวเจ๋อยื่นมือแตะจมูกของอิงอิงเบาๆ เพื่อหยุดหัวข้อนี้ เพราะเขารู้ว่าหัวข้อนี้มันจะลามไปถึงสายเลือดตระกูลโจวห้ามไปทิ้งไว้ข้างนอก เวลานี้ โทรศัพท์ของโจวเจ๋อดังขึ้น เป็นสายของทนายอัน

“ฮัลโหล”

“เถ้าแก่ มาร้องเพลงไหม”

“ร้องเพลง”

“ใช่แล้ว พวกเรากำลังอยู่ที่ร้านคาราโอเกะเฮยจวี พวกคุณมาไหม ดูหนังจบแล้วใช่ไหม”

โจวเจ๋อเงยหน้า โฆษณาร้านคาราโอเกะแห่งนี้อยู่ตรงหน้าตัวเองพอดี

“โอเค เดี๋ยวไป”

วันพรุ่งนี้ต้องไปเสฉวนอีก หวังว่าจะราบรื่น ไม่มีอุปสรรคอะไรอีก อย่างไรก็ตาม เถ้าแก่โจวหวังว่าจะเล่นสนุกได้ทันเวลา เขาเดินไปข้างหน้ากับอิงอิง ขึ้นมาชั้นสาม โจวเจ๋อเห็นทนายอันยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์

“อ้าว มาแล้ว ไป ผมเปิดห้องใหญ่ไว้แล้ว”

พนักงานบริการสองคนเดินนำทางข้างหน้า ห้องส่วนตัวใหญ่มากจริงๆ พนักงานบริการถามทนายอันอย่างเฉพาะเจาะจงว่า “พี่ชาย ต้องจัดสาวๆ มาให้ไหมครับ”

“ไม่ต้องๆ”

โจวเจ๋อนั่งลงบนโซฟา อิงอิงพิงเขา พอจุดบุหรี่ โจวเจ๋อถามว่า “คุณไม่เรียกสาวๆ เหรอ”

“เรียกอะไร เดี๋ยวจิ้งจอกขาวก็มา เหอะๆ เราสองคนแบ่งกันคนละคน สาวๆ ข้างนอกจะเทียบได้อย่างไร” คำพูดเหล่านี้พูดได้ถูกต้อง เถ้าแก่โจวมีอิงอิง ทนายอันมีจิ้งจอกขาว ผู้หญิงสองคนมีความพิเศษสองอย่าง หนึ่งคือไม่ใช่คน สองคือสวยมาก

เวลานี้ เครื่องเสียงเปิดแล้ว หน้าจอเล่นเพลงเองอัตโนมัติ ‘ปฏิเสธการค้าประเวณี ปฏิเสธการพนัน ปฏิเสธการค้าประเวณี การพนัน และยาเสพติด…’

ทนายอันเดินไปทางนั้น เลือกเพลงสร้างบรรยากาศก่อน

เพลงแรกคือ ‘อรุณสีชาด’

“ถึงแม้ชีวิตจะยากลำบากเพียงใด ไม่ว่าหนทางที่จะก้าวไปจะคดเคี้ยวสักเท่าใด ถ้าชีวิตมันยากและรู้สึกไม่อยากอยู่…” ทนายอันร้องด้วยความอินเป็นอย่างมาก พลางกระโดดโหยงๆ

โจวเจ๋อเพิ่งเคยเห็นทนายอันร่าเริงสดใสขนาดนี้เป็นครั้งแรก

เขาได้แขนกลับมาแล้ว ดังนั้นคืนนี้จึงดีใจเป็นพิเศษเหรอ

โจวเจ๋อหันหน้ามองไปที่อิงอิง เอ่ยว่า “คุณจะร้องเพลงไหม”

อิงอิงส่ายหน้า พูดว่า “ร้องเพลงไม่เป็นเจ้าค่ะ”

“แม่นางไป๋ของพวกคุณก็จริงๆ เลย ตอนนั้นเอาคุณใส่โลง น่าจะใส่ลำโพงให้คุณด้วย”

“น่ากลัวเกินไปแล้วเจ้าค่ะ เถ้าแก่ สำหรับคนที่เดินผ่านแถวนั้นเวลากลางคืน…”

โจวเจ๋อฟังแล้ว จึงพยักหน้าเอ่ยว่า ก็จริง

เวลานี้ ประตูห้องส่วนตัวถูกผลักออก ชายหนุ่มสองคนใส่สูทสีดำเดินเข้ามา

“พวกคุณเป็นใคร” ทนายอันวางไมค์ลง

ผู้ชายสองคนพอเดินเข้ามาแล้วก็เริ่มถอดเสื้อผ้า ถอดเสื้อสูทออก และยังจงใจปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาว เผยให้เห็นหน้าอกสีเข้ม

“พวกคุณบ้าหรือเปล่า ใครสั่งให้พวกคุณเข้ามา” ทนายอันถาม

“ข้าเอง” เสียงของจิ้งจอกขาวดังเข้ามา เธอถือบุหรี่ผู้หญิงในมือ เดินเยื้องย่างเข้ามา กวาดตามองทั่วห้อง แล้วยิ้มพูดว่า “โธ่เอ๊ย ร้องเพลงโบราณมาก โอเคๆ ทุกคนต่างคนต่างเล่นให้สนุกก็พอ” จิ้งจอกขาวนั่งลงบนโซฟา ชายหนุ่มสองคนรีบเข้ามาใกล้เธอทันที

ทนายอันเห็นดังนั้นจึงโกรธมาก เดิมทีเขาคิดว่าเถ้าแก่มีอิงอิงอยู่เป็นเพื่อน ตัวเองมีจิ้งจอกขาวอยู่ด้วย ต่างคนต่างไม่ด้อยไปกว่ากัน แบบนี้ดีมาก แต่ใครจะรู้ว่าผู้หญิงที่ควรจะอยู่เป็นเพื่อนตัวเองตามแผนที่วางไว้ กลับเรียกผู้ชายขายบริการเข้ามาสองคน

แม่งเอ๊ย ฉันอันปู้ฉี่ ต้องเรียกร้องความสนใจแข่งกับผู้ชายขายบริการสองคนนี้เหรอ

จิ้งจอกขาวไม่สนใจทนายอัน กวักมือเรียกผู้ชายสองคน “พวกคุณเริ่มได้”

ผู้ชายสองคนลุกขึ้นทันที คนหนึ่งถือไมค์แล้วเลือกเพลง อีกคนหนึ่งเริ่มเต้นอยู่รอบตัวจิ้งจอกขาว

จิ้งจอกขาวหาว แล้วพูดกับใครบางคนว่า “คนอะไรโง่จริงๆ เลือกห้องใหญ่ขนาดนี้ แต่มีคนแค่นี้เอง รีบเลือกผู้หญิงสิ เพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเองหน่อย”

ทนายอันอยากจะพูดอะไร แต่เวลานี้ ประตูห้องส่วนตัวกลับถูกผลักออกอย่างแรง ผู้หญิงใส่ชุดนักเรียนสามคนพุ่งเข้ามา ต่อยผู้ชายที่กำลังเต้นอยู่ตรงหน้าจิ้งจอกขาวคนนั้นแล้วด่าไม่หยุด

น่าจะเป็นแฟนสาวที่โรงเรียนพบว่าแฟนหนุ่มของตัวเองมาทำอะไรที่นี่ จึงพาเพื่อนๆ มาจับตัวไป เพื่อนสาวคนหนึ่งชี้หน้าจิ้งจอกขาวแล้วด่า “เธอมันไร้ยางอาย อยากจะเล่นผู้ชายทำไมตัวเองไม่ไปนอนบนถนนล่ะ อ้าขากว้างๆ อยากจะเล่นอย่างไรก็เล่นอย่างนั้น!”

จิ้งจอกขาวเบ้ปาก สายตาจ้องนิ่ง ผู้หญิงคนนั้นถูกบรรยากาศที่แผ่ออกมาจากร่างของเธอทำให้ตกใจ จนไม่กล้าด่าต่อ หนำซ้ำไม่กล้าลงมือ

เวลานี้ ยามของร้านคาราโอเกะปรากฏตัว จับผู้หญิงสองสามคนนั้นออกไป เหลือเพียงผู้ชายคนหนึ่งยืนถือไมค์อยู่ตรงนั้น ทำตัวไม่ถูก

“จะไปไหนก็ไป” จิ้งจอกขาวเหลือบตามองผู้ชายคนนั้นอย่างไม่สบอารมณ์ ผู้ชายรีบหยิบสูทของตัวเองมาใส่แล้วออกไปทันที

“ฮ่าๆๆๆ!!!!” ทนายอันกุมท้อง หัวเราะเสียงดังเกินเหตุ

จิ้งจอกขาวหยิบไมค์ขึ้นมา ไม่เลือกเพลง แล้วเริ่มร้องเพลงออกมาสดๆ เป็นเพลงงิ้วหวงเหมย สำเนียงไพเราะเพราะพริ้ง

โจวเจ๋อรับเบียร์มาจากอิงอิง แล้วดื่มหนึ่งที จะว่าไปแล้ว จิ้งจอกขาวร้องเพราะเหมือนกัน ปกติเถ้าแก่โจวไม่ค่อยสนใจเพลงงิ้วเท่าไร และฟังไม่เป็น แต่พอได้ฟังในตอนนี้ กลับเคลิบเคลิ้ม ต่อจากนั้นการร้องเพลงอยู่ที่คนบ้าไมค์สองคน จิ้งจอกขาวกับทนายอันสลับกันรับไมค์ไปมา โจวเจ๋อกับอิงอิงรับผิดชอบนั่งปรบมือในช่วงรอยต่อระหว่างเพลงสองเพลงอยู่ข้างๆ อิงอิงยื่นผลไม้ให้โจวเจ๋อไม่หยุด ไม่ว่าอย่างไรก็รู้สึกสนุกดี

ตอนที่ออกจากร้านคาราโอเกะ เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ทั้งสี่คนเดินกลับไปที่ร้านหนังสือด้วยกัน เมื่อเปิดประตู เห็นเหล่าจางกำลังนั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ หลับตานั่งสมาธิ เขาฟังคำสั่งของโจวเจ๋อ งานของร้านหนังสือหลังจากนี้จะมอบให้เขารับช่วงต่อ เถ้าแก่โจวไม่ว่าอย่างไรก็ได้ส่วนแบ่งคะแนนจากลูกน้องของตัวเองอยู่แล้ว จึงชอบใจที่ได้มีเวลาว่าง

“พวกคุณกลับมาแล้วเหรอ” เหล่าจางลืมตาเอ่ยทักทาย ขณะเดียวกันได้ตะโกนขึ้นไปข้างบน “เถ้าแก่กลับมาแล้ว ทำอาหารมื้อดึกได้”

สวี่ชิงหล่างเดินลงมา น่าจะเพิ่งมาส์กหน้าเสร็จ ใบหน้าเปล่งปลั่งขึ้นมาก เหล่าสวี่กวาดตามองทั้งสี่คนที่เพิ่งกลับมาจากไปเที่ยวข้างนอก แล้วไม่พูดอะไร เดินตรงไปที่ห้องครัว

โจวเจ๋อนั่งลงบนโซฟา อิงอิงไปชงกาแฟ เวลานี้จิ้งจอกขาวกลับเป็นฝ่ายเข้าใกล้โจวเจ๋อก่อน พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “เถ้าแก่ วันพรุ่งนี้พวกท่านจะไปภูเขาชิงเฉิงใช่ไหม พาข้าไปด้วยคนสิ”

“พวกเราไปทำธุระ ไม่ได้ไปขายศิลปะ”

“…” จิ้งจอกขาว

“เฮ้ ผมว่านะ คุณจะไปทำอะไร ไปเยี่ยมญาติเหรอ” ทนายอันรับแก้วใบใหญ่มาจากอิงอิงแล้วถาม

“ใช่แล้ว ไปเยี่ยมญาติ”

“ใครเหรอ” ทนายอันถาม

“ไป่ซู่เจินที่ภูเขาชิงเฉิงเจ้าเคยได้ยินไหม”

‘พรืด…’ ทนายอันพ่นกาแฟออกมา เอ่ยว่า “คนหนึ่งเป็นงู อีกคนหนึ่งเป็นจิ้งจอก จะมาเป็นญาติกันได้อย่างไร”

“นางเป็นงูขาว ข้าเป็นจิ้งจอกขาว แซ่เดียวกัน”

“อย่าพูดเรื่อยเปื่อย ไม่ต้องพูดแล้ว ผมยังไม่ไปเลย เรื่องในครั้งนี้รุนแรงมาก คุณอย่าเข้ามาก่อปัญหาเพิ่ม”

“ก็ได้ ไม่ไปก็ไม่ไป เชอะ ข้าแค่อยากไปดูสถานพักฟื้นที่พวกเจ้าสร้างที่ภูเขาชิงเฉิง ไม่แน่อาจจะเป็นสถานที่ฝึกตนเงียบๆ ที่ดี เอาละ ข้าไม่ไปก็ได้ ถ้าหากมันถล่มขึ้นมาจะทำอย่างไร”

เวลานี้ โทรศัพท์ของทนายอันดังขึ้น เขารับสาย จากนั้นสีหน้าเปลี่ยนทันที มองไปที่โจวเจ๋อ เอ่ยว่า “เถ้าแก่ สถานพักฟื้นของพวกเราถูกคนระเบิด!”

“…” จิ้งจอกขาว!

……………………………………………………………………….

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท