ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – บทที่ 860 การเริ่มต้นของภัยพิบัติ (4)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

บทที่ 860 การเริ่มต้นของภัยพิบัติ (4)

เขารู้เช่นกันว่าไป๋เจ๋อเป็นพ่อครัวที่มีระดับฐานพลังและทักษะพิเศษเหนือสามัญ และเขาก็สุภาพต่อไป๋เจ๋อมาก

ไป๋เจ๋อรู้ว่า อาจารย์ของหลี่ฉางโซ่ว ฉีหยวน และศิษย์น้องหญิงของเขา หลิงเอ๋อร์ มีความสำคัญมากมายเพียงใดในหัวใจเต๋าของหลี่ฉางโซ่ว

ทันใดนั้นเขาก็กลายร่างสู่ร่างหลักที่แท้จริงที่ดูเหมือนสัตว์มงคล และขนยาวๆ ก็ค่อยๆ เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ และตรงไปสัมผัสที่หน้าอกของนักพรตเต๋าฉีหยวน

ในขณะนั้นฉีหยวนรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขาเพียงแค่ปล่อยให้หลี่ฉางโซ่ว และไป๋เจ๋อทำทุกอย่างตามที่พวกเขาต้องการ

หลังจากนั้นไม่นาน ไป๋เจ๋อก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า

“ข้าเพียงจินตนาการว่าจะออกไปกับสหายเต๋า และข้าก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรในใจ

หากพลังเวทของข้าไม่มีอะไรผิดไป ก็ดูเหมือนว่าจะมีโชคอย่างหนึ่งที่รอให้สหายเต๋าได้รับมันไป”

ดวงตาของหลี่ฉางโซ่วสว่างวาบขึ้น และเขาก็ถามอย่างรวดเร็วว่า “โชคแบบใดกัน?”

ไป๋เจ๋อกำลังบีบนิ้วคำนวณอย่างที่ทำเป็นประจำ เมื่อนิ้วของเขาแข็งค้าง เขาก็ยิ้มอย่างกระดากและกล่าวว่า “นี่… มันยากจะพูดได้”

“ข้าจะมีโชคแบบใดได้บ้างเล่า?”

นักพรตเต๋าเฒ่าฉีหยวนกล่าวยิ้มๆ ว่า “บางทีมันอาจเป็นเรื่องดีหาได้ยากที่ข้าจะได้ไปรับรางวัลที่ศาลสวรรค์”

ไป๋เจ๋อยิ้มและไม่เอ่ยอะไรในขณะที่หลี่ฉางโซ่วยังรู้สึกกังวล

แต่ท่านอาจารย์จะไปศาลสวรรค์ และไป๋เจ๋อก็กล่าวเช่นนี้อีก…

“ท่านอาจารย์ ข้าจะส่งท่านไปที่ศาลสวรรค์ขอรับ”

“เหตุใดเจ้าจะออกไปส่งข้าด้วยเล่า!?!” นักพรตเต๋าเฒ่าฉีหยวนกล่าวพลางถอนหายใจ “อาจารย์ของเจ้าไม่ใช่เด็กสามขวบนะ!

รออยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะเอาตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของเจ้าติดตัวไปด้วย แล้วเราจะกลับมาได้ภายในครึ่งวัน ”

กล่าวจบ นักพรตเต๋าเฒ่าฉีหยวนก็ค่อยๆ ขี่เมฆขึ้นไปช้าๆ และออกจากค่ายกลใหญ่เป็นชั้นๆ ชั้นแล้วชั้นเล่าบนยอดเขาเฮยฉือจนถึงประตูภูเขา แล้วรีบพุ่งไปที่ประตูสวรรค์บูรพา

แน่นอนว่า หลี่ฉางโซ่วไม่กล้าไม่ระวัง

ตอนนี้ภัยพิบัติเพิ่งมาถึง แล้วด้วยเหตุผลบางอย่าง ท่านอาจารย์ของเขาก็จะต้องไปรายงานตัวที่ศาลสวรรค์ แล้วหลี่ฉางโซ่วจะกล้าลดความระมัดระวังลงได้อย่างไร?

ทันใดนั้นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ตัวหนึ่งก็ได้ใช้วิชาแปลงร่างเพื่อกลายร่างเป็นวิหควิญญาณ แล้วกางปีกไล่ตามฉีหยวนไป

ในระหว่างทางนั้น ไร้คลื่นลม[1]ใดๆ และฉีหยวนก็มาถึงได้สำเร็จราบรื่น จากนั้นเขาก็ถือตราประทับเล็กๆ ของเทพแห่งภูเขาของเขาผ่านประตูสวรรค์บูรพา

หลี่ฉางโช่วถอนหายใจอย่างโล่งอก และสัมผัสเซียนรับรู้ของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ในศาลสวรรค์ก็ยังคงติดตามรอยที่อยู่ของอาจารย์ของเขาต่อไป

จากนั้นหลี่ฉางโซ่วก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา

เมื่ออาจารย์เข้าไปในหอทงหมิง เขาก็เบนจิตสนใจไปและขับเคลื่อนตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ให้ไปดูสถานการณ์ของ “ผู้แสดงบทบาทสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ของเหล่าทวยเทพ”

เขาไม่รู้ว่าในเวลานี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นเนื่องจากผลกระทบจากหมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์กับเสือดำที่สูญเสียความรักไป

ทว่าในไม่ช้า หลี่ฉางโซ่วก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

ในขณะนี้ เสือดำยังคงฝึกบำเพ็ญอยู่ในถ้ำ แม้ว่าระดับฐานพลังของเขาจะเพิ่มพูนขึ้นมาก แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ

หลี่ฉางโซ่วแอบสังเกตมาเป็นเวลานาน และพบว่าเสือดำไม่คิดจะออกจากการปิดด่าน

แต่ทันใดนั้น ก็เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายเล็กน้อยในหอทงหมิงแห่งศาลสวรรค์ แล้วจิตสนใจของเขาก็เคลื่อนย้ายกลับไปทันที

ทว่าเขาก็เห็นแม่ทัพตงมู่กำลังจับข้อมือของอาจารย์ของเขา นักพรตเต๋าเฒ่าฉีหยวน แล้วกำลังก้าวออกจากหอไป พวกเขาทั้งสองพูดคุยกันอย่างมีความสุขมาก

“สหายเต๋าฉีหยวน ข้าจะไปส่งท่าน!”

“แม่ทัพตงมู่กำลังยุ่งเรื่องต่างๆ อยู่ เทพน้อยกลับไปเองได้”

“เฮ้ นั่นมันใช้ไม่ได้” แม่ทัพตงมู่เข้ามาใกล้แล้วหัวเราะพลางกล่าวว่า “เรากับเทพวารีต่างก็เป็นสหายสนิทกัน”

ทันใดนั้น นักพรตเต๋าเฒ่าฉีหยวนก็ยิ้มอย่างขอโทษออกมา เขาอยากจะแยกตัวออกไปแต่ก็ไม่กล้า

เขาจึงทำได้เพียงจ้องมองไปที่สายตาอยากรู้อยากเห็นที่อยู่รอบตัวเขาเท่านั้น แล้วก้มศีรษะลงและเดินเคียงข้างแม่ทัพตงมู่ไป

แม่ทัพตงมู่ระดมทหารสวรรค์กองหนึ่งมาปกป้องเขา และนักพรตเต๋าเฒ่าฉีหยวนก็ยิ่งสำรวมท่าทีมากยิ่งขึ้นไปอีก

หลี่ฉางโซ่วแอบหัวเราะเบาๆ และวิหคซึ่งเขาใช้วิชาแปลงร่างมา ก็บินติดตามไปไม่ไกล

นอกจากนี้ ท่านอาจารย์ของเขาก็ยังมีร่างของสองตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เซียนจินและตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เซียนเทียนอยู่ในแขนเสื้อของอาจารย์ของเขาอีกด้วย

หลังจากออกจากประตูสวรรค์บูรพาแล้ว เขาก็มุ่งหน้าตรงไปที่ดินแดนเทวะบูรพา

ในระหว่างทาง แม่ทัพตงมู่ และนักพรตเต๋าเฒ่าฉีหยวนก็พูดคุยกันอย่างรื่นเริงในขณะที่ดวงตาของ หลี่ฉางโซ่วก็เต็มไปด้วยความเบิกบาน

ทันใดนั้นเขาก็มีความคิดแบบพ่อเฒ่าที่ลึกซึ้ง…

ไม่สุภาพ นี่ถือเป็นการไม่เคารพ

ณ ขณะนี้!

จู่ๆ หลี่ฉางโซ่วก็ได้ยินเสียง ‘ซวิน[2]’ แปลกๆ ที่ข้างหูของเขา และสัมผัสวิญญาณรับรู้ของเขาก็สั่นเล็กน้อย ราวกับว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามา

ทันใดนั้น สัมผัสเซียนรับรู้ของเขาก็ตรวจจับลำแสงสีขาวที่พุ่งมาจากข้างล่างขึ้นบนได้ แล้วมุ่งหน้าตรงไปที่แม่ทัพตงมู่!

………………………………………………………………..

[1] เป็นเชิงเปรียบเทียบถึงความวุ่นวาย ปัญหา อุปสรรค

[2] เป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่าอย่างหนึ่งที่มีมาแต่โบราณ ส่วนใหญ่ทำจากดินเหนียว มีบ้างทำจากกระดูก หิน ไม้ไผ่ ไม้

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท