ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 593 เซี่ยไห่ยังโสด

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 593 เซี่ยไห่ยังโสด

ตอนที่ 593 เซี่ยไห่ยังโสด

เซี่ยไห่ต้องการโทรมาอวด แต่เฉินเจียเหอไม่ได้พูดกับเขาเลย ดังนั้นเซี่ยไห่จึงวางสายโทรศัพท์พลางกลอกตาด้วยความผิดหวัง

เขากลัวว่าตัวเองจะผล็อยหลับไปจึงดูโทรทัศน์เพื่อฆ่าเวลา สุดท้ายรายการโทรทัศน์ก็จบไปนานแล้ว หน้าจอจึงมีแต่สีขาวดำ

เขาลุกขึ้นนั่งแล้วยิ้มอย่างโง่เขลาอยู่ชั่วครู่แล้วค่อย ๆ เดินไปที่ห้องนอน

เขาใช้มืออังหน้าผากลินดา ดูเหมือนว่าหน้าผากของหล่อนจะร้อนเล็กน้อย แต่ก็ไม่มากเหมือนก่อนหน้านี้

เขาหยิบเทอร์โมมิเตอร์ขึ้นมาแล้วเลิกผ้าห่มขึ้น ก่อนสอดมันเข้าไปใต้รักแร้ของหล่อน

ลินดายังไม่ได้นอนหลับสนิท ทันทีที่เขาสัมผัสผิวของหล่อน หล่อนก็คว้าแขนของเขาพร้อมมองด้วยสายตาดุดัน “นายจะทำอะไร?”

“เสียบเทอร์โมมิเตอร์” เซี่ยไห่กล่าว “ดูซิว่าเธอระแวงขนาดไหน ตอนนี้เราสองคนเป็นแฟนกันแล้ว ฉันอยากดูแลเธอหน่อยไม่ได้เหรอ ทำไมต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ด้วย?”

ลินดาเห็นเทอร์โมมิเตอร์อยู่ในมือของเขาจึงยอมปล่อย “ฉันทำเองได้”

เซี่ยไห่หยุดหล่อนเอาไว้แล้วพูดคำเบา “อย่าขยับ”

เซี่ยไห่เสียบเทอร์โมมิเตอร์ไว้ใต้รักแร้ของหล่อน นิ้วเย็นของเขาสัมผัสผิวที่ร้อนจี๋ของลินดาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ร่างกายของเขาพลันแข็งทื่อทันที

มือของเซี่ยไห่ชาวาบราวกับถูกไฟฟ้าช็อต

แม้ว่าหัวใจของเขาจะเต้นแรง แต่ทันทีที่นึกถึงความสัมพันธ์ของตนเองและอีกฝ่าย เขาก็รู้สึกดีขึ้น

เซี่ยไห่พูดเบา ๆ ว่า “พักผ่อนก่อนเถอะ ฉันจะเช็กอุณหภูมิทีหลัง และถ้าตัวยังร้อนอยู่ ก็ค่อยเช็ดตัวให้อีกรอบ”

ลินดาออกจากบ้านและทำงานหาเลี้ยงตัวเองมานานหลายปี จึงไม่มีประสบการณ์ถูกคนอื่นดูแลปรนนิบัติในตอนกลางคืนมาก่อน

หล่อนคุ้นชินกับการใช้ชีวิตคนเดียว และแม้ว่าจะมีความสัมพันธ์อันดีกับเซี่ยอวี่ หล่อนก็รักษาระยะห่างเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานเท่านั้น พูดได้ว่าหล่อนไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับคนอื่นมากนัก

โดยเฉพาะในเมืองไห่เฉิงที่ไม่คุ้นเคย

ขณะนี้เมื่อมองไปที่เซี่ยไห่ หล่อนก็รู้สึกเหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความจริง

ผู้ชายที่เคยเย็นชาและดูถูกหล่อน กำลังดูแลหล่อนอยู่ข้างเตียงด้วยความห่วงใยในฐานะแฟนหนุ่ม

ลินดากลัวว่าเมื่อตื่นขึ้นทุกสิ่งจะกลายเป็นเพียงความฝัน

หล่อนพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันค่อยกินยาทีหลัง นายกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

เซี่ยไห่ปฏิเสธอย่างหนักแน่น “ฉันจะกลับไปทั้งที่เธอเป็นแบบนี้ได้ยังไง ถึงพวกเราจะเป็นแค่เพื่อนกัน ฉันก็ทิ้งเธอไว้ตามลำพังไม่ได้หรอก แล้วยิ่งตอนนี้ฉันกลายเป็นแฟนเธอแล้ว”

เขามองดูนาฬิกาแล้วเดินไปเลิกผ้าห่มขึ้น จากนั้นสอดมือเข้าไปและดึงเทอร์โมมิเตอร์ออกมา

ปรากฏว่าอุณหภูมิอยู่ที่สามสิบเจ็ดจุดแปดองศาเซลเซียส

“ไข้สูงนิดหน่อย”

เซี่ยไห่เก็บเทอร์โมมิเตอร์พลางกล่าวว่า “ฉันจะไปเอาผ้าเช็ดตัวกับกะละมังมาเช็ดตัวให้เย็นลง แล้วรอดูว่าไข้จะลดลงด้วยไหม”

ลินดาไม่เคยเห็นเซี่ยไห่แสดงความอบอุ่นและเอาใจใส่ใครมาก่อน

ก่อนหน้านี้เซี่ยไห่เช็ดตัวและหายาให้หล่อนก่อนแล้ว แต่สติของหล่อนเลือนรางเล็กน้อย ดังนั้นจึงทำได้แค่ดูเขาง่วนอยู่กับการดูแลหล่อน

หัวใจของหล่อนสั่นไหวอย่างรุนแรง

สายตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

เซี่ยไห่วางผ้าเช็ดตัวลงบนหน้าผากของลินดาและเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องมองตัวเองด้วยความว่างเปล่า เขาจึงจับมือหล่อนแล้วพูดว่า “เป็นอะไร? เสียสติไปแล้วเหรอ?”

เขายิ้มหว่านเสน่ห์แล้วพูดว่า “หรือกำลังตกหลุมรักฉัน?”

เขาพูดด้วยความหลงตัวเอง “เป็นธรรมดาที่เธอจะตกหลุมรักฉัน เพราะฉันทั้งร่าเริงและสดใสขนาดนี้”

หลังจากชมตัวเอง เขาก็ไม่ลืมที่จะพูดชื่นชมหล่อนเช่นกัน “จริง ๆ แล้วเธอก็สวยมากเหมือนกันนะ แต่ทรงผมกับเสื้อผ้าสีมืดหม่นดันกลบความสวยซะมิดเลย”

เซี่ยไห่นั่งอยู่ขอบเตียงพลางใช้มือข้างหนึ่งเชยคางลินดาขึ้น ถามด้วยความสงสัย “เจ้านายของเธอกลัวว่าหน้าตาเธอจะดึงดูดความสนใจจากดาราด้วยกัน เลยสั่งให้เธอแต่งตัวแบบนี้ใช่ไหม?”

ลินดาไม่ได้โกรธ แต่ตอบด้วยความอดทนว่า “บางทีก็มีสถานการณ์แบบที่นายพูดจริง ๆ นั่นแหละ”

หล่อนพูดต่อด้วยสีหน้าเย็นชา “แต่ทีมเราไม่ได้เป็นแบบนั้น ฉันไม่รู้สึกว่าต้องทำให้ตัวเองขี้เหร่ ถ้านายไม่ชอบ พวกเราจะพอกันแค่นี้ก็ได้”

เซี่ยไห่เห็นว่าหล่อนเข้าใจผิดอีกครั้งจึงรับอธิบายอย่างรวดเร็ว “อย่าเข้าใจผิดสิ ไม่ใช่ว่าฉันรับไม่ได้ คิดว่าคนอย่างฉันมองคนแค่ภายนอกเหรอ? สายตาฉันของผมเฉียบคมมากนะ ต่อให้เธอจะพยายามปกปิดมากแค่ไหน แต่ฉันก็ค้นพบความงามของเธอได้อยู่ดี”

เซี่ยไห่พลิกลิ้นได้อย่างคล่องแคล่วจนลินดาขี้เกียจเกินกว่าจะเถียงกับเขา ดังนั้นเธอจึงหลับตาลง

เซี่ยไห่ดูแลผู้อื่นได้ดีมาก เขาหยิบผ้าเช็ดตัวและเช็ดตัวของลินดาจนกว่าอุณหภูมิร่างกายจะกลับเป็นปกติ

ลินดาผล็อยหลับไปแล้ว เขาจึงก้มมองนาฬิกาและพบว่าตอนนี้เป็นเวลาตีห้าครึ่งแล้ว เขาจึงวิ่งเข้าไปในห้องครัวและทำโจ๊ก แต่ภายในห้องครัวของลินดาไม่มีอะไรเลยยกเว้นหม้อเปื้อนสนิม

เขาคิดว่าหล่อนคงไม่เคยทำอาหารเลย

เซี่ยไห่ถอนหายใจและทำได้แค่รอจนถึงรุ่งเช้า จึงจะออกไปซื้ออาหารเช้ามาได้

เมื่อลินดาตื่นขึ้นมา หล่อนก็ยังคงนอนอยู่บนเตียงและจ้องมองเพดานอยู่สองสามวินาที ก่อนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

บ้านของหล่อนยังคงเงียบสงบ ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงของเซี่ยไห่ ลินดาลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่น แต่ไม่มีวี่แววของเขาเลย

ดวงตาของลินดามืดหม่นลง จากนั้นหันหลังกลับเพื่อไปอาบน้ำ

ถึงไข้จะลดลงแล้ว แต่หล่อนก็ยังคงเวียนศีรษะอยู่เล็กน้อย ขณะที่ร่างกายยังคงอ่อนแอ อีกทั้งน้ำมูกยังคงไหลไม่หยุด

แต่ลินดาไม่ได้สนใจมากเท่าใด วันนี้หล่อนต้องตามเซี่ยอวี่ไปพบผู้เขียนบทและหารือเกี่ยวกับบทภาพยนตร์ ตราบใดที่สามารถลุกออกจากเตียงได้ หล่อนก็จำเป็นต้องไป

ลินดาเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ หล่อนตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นเซี่ยไห่เดินเข้ามาพร้อมกับอาหารเช้าในมือ

เมื่อเขาเห็นหล่อนสระผม จึงรีบวิ่งเข้าไปบ่นว่า “ให้ตายสิ เธอเพิ่งจะหายไข้แล้วยังกล้าสระผมอีก อยากตายเหรอ”

ลินดากำลังเช็ดผมสั้นของหล่อนอยู่ เมื่อเห็นเขา สีหน้าของหล่อนก็ฉาบฉายความดีใจจนแทบปิดไม่มิด

ลินดาตอบ “ฉันต้องออกไปประชุมเลยต้องอาบน้ำน่ะ”

หล่อนมองเขาแล้วถามว่า “ทำไมนายยังไม่กลับอีกล่ะ?”

เซี่ยไห่เดินเข้ามาหาหล่อนพร้อมพูดเสียงเข้ม “แฟนฉันยังป่วยอยู่ แล้วฉันจะกลับไปได้ยังไง?”

เมื่อลินดาได้ยินคำพูดของเซี่ยไห่ หล่อนก็รีบเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย ก่อนวิ่งไปที่ห้องนอนเพื่อเป่าผม

เซี่ยไห่เห็นว่าหล่อนไม่ตอบสนองและหนีไปที่ห้องนอน เขาก็ตกใจก่อนรีบวางถุงอาหารลงบนโต๊ะแล้วตามหล่อนไป

ลินดากำลังจะเป่าผมให้แห้ง เซี่ยไห่จึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมาแล้วพูดว่า “เดี๋ยวฉันเป่าให้”

ลินดาไม่ชินกับการถูกดูแลอย่างกะทันหัน หล่อนจึงปฏิเสธ “ไม่เป็นไร ฉันจะทำเอง”

เซี่ยไห่ยังคงยืนกรานที่จะช่วย “ฉันทำดีกว่า เธอยังไม่หายดี วันนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเถอะ เซี่ยเซี่ยเคยสอนแล้ว ความยาวเส้นผมของเราพอ ๆ กัน ฉันจะเป่าผมให้เธอเอง”

ลินดาไม่สามารถต้านทานอีกฝ่ายได้เลย เขาหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมาและเริ่มเป่าผมของหล่อน

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขามีประสบการณ์มาก่อน ท่าทางการเป่าผมของเขามีความนุ่มนวล มีเอกลักษณ์ และมีจิตวิญญาณ

หลังจากเป่าผมของลินดาเสร็จแล้ว เขาก็จับมือหล่อนแล้วพูดว่า “ไป ไปกินข้าวกันเถอะ”

“คุณควรรีบกลับบ้านนะ” ลินดาพูดด้วยความไม่สบายใจเพราะต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้า

“วันนี้เธอยังไปทำงานอยู่เหรอ?” เซี่ยไห่ที่ยืนอยู่ข้างหลังหล่อนถามขึ้น

ลินดาพยักหน้าพร้อมตอบ “ฉันต้องพาเซี่ยอวี่ไปเจอคนเขียนบท”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น เซี่ยไห่จึงโพล่งออกมา “ถ้างั้นไปที่บ้านผมด้วยกันสิ”

เมื่อได้ยินว่าต้องไปที่บ้านตระกูลเซี่ย ลินดาก็ยิ่งมีสีหน้ากังวลมากกว่าเดิม

รู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นวัวสันหลังหวะ

หล่อนไม่ลังเลที่จะปฏิเสธอย่างสุภาพ “ไม่เป็นไร ฉันโทรหาเซี่ยอวี่แล้วให้หล่อนออกมารอที่ริมถนน ฉันเลยไปที่บ้านคุณไม่ได้ ทางที่ดีอย่าให้เซี่ยอวี่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นดีกว่า”

“ลินดา เธอหมายความว่ายังไง? กำลังเล่นตลกอยู่เหรอ?” สีหน้าของเซี่ยไห่มืดมนลง เขาจ้องลินดาเขม็งพร้อมยื่นมือออกไปจับไหล่ของหล่อนอย่างแรง

เขาออกแรงบีบมากกว่าเดิมจนทำให้ลินดารู้สึกเจ็บ “จะทำอะไรน่ะ?”

“เธอจำเรื่องเมื่อคืนได้ไหม?” เขาถามขณะจ้องมองหล่อน

นัยน์ตาของลินดาสั่นไหว ขณะเลี่ยงที่จะมองเขา

ทันทีที่เซี่ยไห่มองหล่อน เขาก็รู้ได้ทันทีว่าตนเองคิดถูก

แต่หล่อนยอมรับว่าชอบเขาแล้วนี่ แล้วเขาจะปล่อยให้หล่อนมีโอกาสหนีไปได้ยังไง จึงโอบไหล่หล่อนแล้วพูดอย่างกำกวม “ถ้าเธอลืม ฉันจะช่วยเตือนความจำเอง ว่าเราสองคนตกลงเป็นแฟนกันแล้วเมื่อคืนนี้ และพวกเราก็ดูแลกันอย่างใกล้ชิด แต่ตอนนี้เธอกลับลังเลขึ้นมาอีก มันหมายความว่าไง? เธอกำลังแกล้งทำเป็นความจำเสื่อมงั้นเหรอ?”

ลินดา “…”

“ในเมื่อลืมก็ช่างเถอะ ฉันจะช่วยเธอรื้อฟื้นความทรงจำและช่วยให้เธอรู้ใจตัวเองซะที”

เขาพูดขณะกอดลินดาไว้แน่น จากนั้นดึงหล่อนเข้ามาจูบอย่างช้า ๆ

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ดูแลแฟนดีมากเลยน้าเซี่ยไห่เนี่ย ลินดาใจอ่อนยัง

ไหหม่า(海馬)

……………………………………

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท