บทที่ 631 ประกาศความเป็นเจ้าของ (2)
บทที่ 631 ประกาศความเป็นเจ้าของ (2)
ถังเซวี่ยรีบวิ่งออกไปอย่างตื่นเต้น หลังจากที่รับมาก็เปิดออกดูทันที เมื่อเห็นผลใบประกาศการรับเข้าเรียนในมือเป็นไปตามความต้องการ น้ำตาก็รื้นออกมา “ฉันทำได้แล้ว ฉันทำได้แล้วจริง ๆ ในที่สุดก็ได้เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับพี่สาวและพี่เขย ได้เข้ามหาวิทยาลัยในฝันแล้วจริง ๆ ด้วย”
คุณนายจิงและคนอื่น ๆ ต่างก็ออกมาดู เมื่อเห็นท่าทีตื่นเต้นดีใจของถังเซวี่ย สีหน้าของพวกเขาก็ตื่นเต้นตามไปด้วย “เสี่ยวเซวี่ย เอาใบประกาศมาให้ย่าดูหน่อยเร็ว”
ถังเซวี่ยได้ยินก็รีบยื่นใบประกาศไปให้ “คุณย่า หนูสอบเข้าได้แล้วค่ะ สอบเข้าได้แล้วจริง ๆ หนูดีใจที่สุดเลย”
คุณนายจิงเห็นชื่อถังเซวี่ยบนใบประกาศ ก็หัวเราะออกมาด้วยความดีใจเช่นกัน “ฮ่า ๆๆ… เสี่ยวเซวี่ย ย่ารู้อยู่แล้วว่าหลานทำได้”
คุณชายจิงเองก็อยากดูบ้าง แต่เมื่อเห็นว่าภรรยาถือใบประกาศเอาไว้ไม่ยอมวางก็อดไม่ได้ที่จะกล่าว “ให้ผมดูบ้างสิ”
“ไป ๆ พวกเราค่อยเข้าไปดูกันข้างใน”
คุณนายจิงยังคงถือใบประกาศเอาไว้ไม่ยอมปล่อย หลังจากที่เข้ามาในบ้านแล้วก็สั่งให้ในครัวทำอาหารกลางวันมื้อใหญ่ทันที “พวกเรามาทานอาหารเที่ยงกันให้อร่อย พอตอนเย็นคนในบ้านกลับมาแล้วค่อยฉลองกันอีกที”
หลังจากที่จิงเจ้อหรง ถังหลาน และคนอื่น ๆ กลับมาก็ได้รู้ว่าลูกสาวคนเล็กสอบผ่านแล้ว
จิงเจ้อหรงและถังหลานแสดงความยินดีกับถังเซวี่ยด้วยความตื่นเต้น
ทั้งถังซวงและโม่เจ๋อหยวนกลับมาทีหลัง หลังจากที่ได้รู้ก็แสดงความยินดีด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวเซวี่ย พี่ยินดีด้วยนะ ต่อไปพวกเราก็จะได้ไปกลับมหาลัยด้วยกันแล้ว”
“ใช่ค่ะ ดีจังเลย”
ถังเซวี่ยยังคงรู้สึกตื่นเต้นมากจนถึงตอนนี้ แต่ถึงอย่างนั้นภายในใจก็ยังรู้สึกผิดหวังที่เฟิงเยี่ยหานยังไม่กลับมาสักที เธอยังไม่ได้บอกข่าวดีกับเขาเลย ทั้งที่ตอนเที่ยงเธอโทรหาเขาแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมรับสาย
ขณะที่คิดอยู่ในใจเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น และถังเซวี่ยก็ได้ยินเสียงฝีเท้า เมื่อเห็นว่าเป็นเฟิงเยี่ยหาน เธอถึงกับรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา “เฟิงเยี่ยหาน คุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” เมื่อครู่เธอเพิ่งคิดถึงเฟิงเยี่ยหานไป แต่จู่ ๆ เขาก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
ไม่ทันที่เฟิงเยี่ยหานจะได้กล่าวอะไร คุณนายจิงก็เอ่ยปากออกมาก่อน “เสี่ยวเยี่ย เธอกลับมาได้เวลาพอดี ใบประกาศรับเข้าเรียนของเสี่ยวเซวี่ยมาถึงแล้ว เธอสอบติดคณะสถาปัตย์ มหาวิทยาลัยชิงต้าได้แล้ว ต่อไปก็จะได้เป็นสถาปนิกที่ยอดเยี่ยมได้แน่”
เฟิงเยี่ยหานยังไม่รู้เรื่องนี้ ทันทีที่ได้ยินก็รีบหันไปถามถังเซวี่ย “จริงหรือ เสี่ยวเซวี่ย ดีจัง ยินดีด้วยนะครับ”
“ฉันทำได้แล้วค่ะ”
ถังเซวี่ยก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที เฟิงเยี่ยหานกลับมาแล้ว วันนี้เป็นวันที่ดีจริง ๆ นั่นแหละ
คนในครอบครัวอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา อวยพรให้ถังเซวี่ยกันยกใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเหลือเวลาอีกมากก่อนที่มหาวิทยาลัยจะเปิด ดังนั้นถังเซวี่ยก็ยังพอมีเวลาวาดรูปอย่างสบายใจได้บ้าง แม้ในขณะที่คนอื่นจะยังคงยุ่งมากก็ตาม
หลังจากที่ถังซวงได้ผลิตเครื่องสำอางหลายตัวที่เหมาะสำหรับคนต่างชาติเรียบร้อยแล้ว เธอก็ตรงไปที่ตระกูลถังทันที ในครั้งนี้เธอมาคนเดียว เพราะโม่เจ๋อหยวนค่อนข้างยุ่ง พอกลับไปที่ปักกิ่งอีกครั้ง ก็เป็นเวลาที่มหาวิทยาลัยเปิดเทอมแล้ว
วันรายงานตัววันแรก ถังเซวี่ยรู้สึกตื่นเต้นมาก พวกเขาเป็นที่สะดุดตาอย่างมาก ซึ่งไม่ใช่แค่ถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนที่เป็นคนมีชื่อเสียงในมหาลัยอยู่แล้ว แต่รูปลักษณ์ของถังเซวี่ยและเฟิงเยี่ยหานก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน เมื่อพวกเขาทั้งสี่คนเดินไปด้วยกัน เรียกได้ว่าเจริญหูเจริญตาสุด ๆ
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านก็เพิ่งมาที่มหาวิทยาลัย ทันทีที่พวกเธอเข้ามาในรั้วมหา’ลัยก็มองเห็นถังซวงและคนอื่น ๆ ทันที พวกเธอจึงรีบวิ่งเข้าไปหาด้วยรอยยิ้ม “ถังซวง เธอก็มารายงานตัวด้วยหรือ” กล่าวจบก็ทักทายโม่เจ๋อหยวน จากนั้นก็หันไปมองถังเซวี่ยด้วยสีหน้าประหลาดใจ และกล่าวว่า “เสี่ยวเซวี่ย เธอมาทำอะไรที่นี่” พวกเธอเคยไปบ้านตระกูลจิงมาก่อน จึงได้รู้จักกับถังเซวี่ย
เจียนหวานหว่านทักทายทันที
“เสี่ยวเซวี่ย พี่จำได้ว่าเธอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย อย่าบอกนะว่าสอบติดมหา’ลัยของพวกเรา?”
ถังเซวี่ยพยักหน้ายิ้ม ๆ และกล่าวว่า “ใช่ค่ะ พี่หวานหว่าน ฉันได้เป็นรุ่นน้องพวกพี่แล้วนะ ต่อไปฉันก็จะได้มามหาวิทยาลัยพร้อมกับพี่สาวแล้ว”
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านได้ยินก็แสดงความยินดีด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวเซวี่ย ดีใจกับเธอด้วยจริง ๆ นะ ดีจังเลย งั้นเดี๋ยวพวกเราก็ไปกินข้าวด้วยกันนะ”
“ได้เลยค่ะ”
ในขณะนี้เองถังซวงก็สังเกตเห็นว่ามีคนอื่นอีกคนอยู่ข้าง ๆ เจียนหวานหว่าน เขามีหน้าตาคล้ายกับเธออยู่บ้าง “หวานหว่าน คนนี้คือ…?”
เจียนหวานหว่านจึงนึกขึ้นได้ เธอรีบแนะนำ “ฉันลืมไปเลย ถังซวง นี่พี่ชายฉันเอง เขามาส่งฉันน่ะ”
เจียนต้งเหลือบมองน้องสาวของตนด้วยความระอา เขาได้ยินก็กล่าวยิ้ม ๆ “สวัสดีครับทุกคน ผมเจียนต้งครับ เป็นพี่ชายของเจียนหวานหว่าน ที่ผ่านมาก็ขอบคุณนะครับที่คอยดูแลน้องสาวผม” เขารู้ว่าน้องสาวของเขามีเพื่อนในมหา’ลัยดี ๆ หลายคน และดูเหมือนว่าน่าจะเป็นคนที่อยู่ตรงหน้าเขา ทุกคนต่างก็เป็นคนที่ดูดีกันมาก ๆ
เจียนหวานหว่านและต้วนเฟิ่งหยิงพบว่ามีคนที่พวกเธอไม่รู้จักอยู่ข้างถังซวงด้วย
“ถังซวง คุณคนนี้คือ…?” ในขณะที่ทั้งสองคนกล่าวก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองเฟิงเยี่ยหาน ก่อนหน้านี้พวกเธอคิดว่าโม่เจ๋อหยวนเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุดเท่าที่พวกเธอเคยเจอแล้ว แต่พอได้มาเจอเฟิงเยี่ยหาน จึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วยังมีคนที่หน้าตาดีกว่าอยู่อีก
ความจริงแล้วทั้งโม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานต่างก็ดูดีกันคนละแบบ แต่สำหรับเจียนหวานหว่านและต้วนเฟิ่งหยิงแล้วเฟิงเยี่ยหานนั้นหล่อเกินไปมาก
“สวัสดีครับ ผมคือว่าที่สามีของถังเซวี่ย”
“อะไรนะ…”
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านต่างมองถังเซวี่ยด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ “เสี่ยวเซวี่ย เธอหมั้นแล้วหรือ?”
“ใช่ค่ะ”
ถังเซวี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่นานมานี้เราเพิ่งหมั้นกันไปเอง”
เฟิงเยี่ยหานยืนอยู่ข้างถังเซวี่ยตลอด เขาประกาศความเป็นเจ้าของอย่างเงียบ ๆ เพราะตั้งแต่ก้าวเข้าไปในประตูโรงเรียนก็มีคนจำนวนมากมองมา ผู้คนรอบ ๆ พวกเขาน่าจะรู้จักถังซวงและโม่เจ๋อหยวนแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงสงสัยว่าเขาและเสี่ยวเซวี่ยเป็นใคร แถมยังจ้องเสี่ยวเซวี่ยอยู่ตลอด เมื่อเห็นคนอยากรู้ว่าเขาเป็นใคร เขาเลยจะทำให้ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นคู่หมั้นของเสี่ยวเซวี่ย
อีกอย่างเขาได้ยินเรื่องนักศึกษาที่ชอบหาแฟนมามาก และรู้ด้วยว่าเพื่อนผู้ชายในมหาวิทยาลัยที่โดดเด่นก็มีไม่น้อย เขาไม่อยากเห็นพวกผู้ชายที่ไม่ดูตาม้าตาเรือมาเข้าใกล้เสี่ยวเซวี่ย เลยอยากจะทำให้รู้กันชัด ๆ ไปเลยว่าเขากับเสี่ยวเซวี่ยเป็นคนรักกัน