สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1512 กลับบ้าน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1512 กลับบ้าน

เยว่สือรีบกล่าวขอบคุณ

“ขอบพระทัยฝ่าบาทมากพ่ะย่ะค่ะ”

“เป็นเรื่องสมควรแล้ว!”

ไป๋ชิงเหยียนนึกถึงเรื่องที่อาอวี๋นำสมุนไพรและหมอเดินทางไปต้าเยี่ยนขึ้นมาได้จึงกล่าวกับเยว่สือต่อ

“ตอนนี้เจิ้นกั๋วอ๋องของต้าโจวกำลังพาหมอและนำยาสมุนไพรเดินทางไปยังต้าเยี่ยน ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนคงรู้ดีกว่าผู้ใดทั้งสิ้นว่าเจิ้นกั๋วอ๋องรักและห่วงใยชาวบ้านมากเพียงใด หากผู้สำเร็จราชการไม่อยากให้สองแคว้นเปิดศึกกันก็ควรรีบส่งคนไปบอกให้ทหารรักษาการที่ชายแดนเปิดทางให้ต้าโจวนำยาสมุนไพรและหมอไปรักษาชาวบ้านในต้าเยี่ยนด้วย”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

เยว่สือพยักหน้ารับคำ

“ฝ่าบาทไม่ต้องเป็นห่วง เยว่สือจะกลับไปรายงานผู้สำเร็จราชการตามนี้พ่ะย่ะค่ะ”

เยว่สือกล่าวพลางมองไปทางไป๋จิ่นจื้อ ไป๋ชิงเจวี๋ยและไป๋จิ่นเซ่อแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น

“ผู้สำเร็จราชการมีเรื่องบางอย่างฝากเยว่สือมาทูลฝ่าบาทเป็นการส่วนพระองค์ ไม่ทราบว่าฝ่าบาททรงสะดวกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋จิ่นจื้อเป็นคนหัวไว พี่เขยของนางฝากคำกล่าวมาให้พี่หญิงใหญ่แน่ๆ นางลุกขึ้นยืนแล้วหันไปพยักหน้าให้ไป๋จิ่นเซ่อจากไปพร้อมนาง ทว่า นางเห็นพี่ชายเจ็ดหันไปทางพี่หญิงใหญ่ราวกับต้องการถามความเห็นของพี่หญิงใหญ่ก่อน

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าให้ไป๋ชิงเจวี๋ย ไป๋ชิงเจวี๋ยจึงลุกขึ้นยืนและพาน้องสาวทั้งสองคนจากไป เว่ยจงยืนเฝ้าอยู่ที่ด้านนอก ไม่ให้ผู้ใดเข้าไปรบกวนไป๋ชิงเหยียนและเยว่สือ

“คุณหนูใหญ่ไป๋ เดิมทีนายท่านอยากเดินทางมาฉลองวันเกิดกับคุณหนูใหญ่ เขาเตรียมของขวัญวันเกิดให้คุณหนูใหญ่เรียบร้อยแล้ว ทว่า ต้าเยี่ยนเกิดโรคระบาดขึ้นเสียก่อน นายท่านจำเป็นต้องเดินทางกลับไปแก้ปัญหา เขาให้ข้านำของขวัญวันเกิดมามอบให้คุณหนูใหญ่ หวังว่าคุณหนูใหญ่จะไม่ถือสานายท่านขอรับ”

เยว่สือกล่าวจบจึงโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียน

“เรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน ข้าย่อมเข้าใจได้อยู่แล้ว เจ้ากลับไปบอกเจ้านายของเจ้าว่าไม่ต้องกังวลเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ พวกเรายังมีเวลาอีกมาก”

ไป๋ชิงเหยียนมองเยว่สือ

“เจ้าบอกเจ้านายของเจ้าด้วยว่าเสี่ยวอาลี่ไม่น่าจะป่วยเพราะความบังเอิญ เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำแน่นอน ให้เขาระวังตัวให้ดี”

เยว่สือรู้ว่าคุณหนูใหญ่ไป๋ต้องเข้าใจเจ้านายของเขา เขาโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง

“ขอรับ เยว่สือมารายงานและนำของขวัญวันเกิดมามอบให้คุณหนูใหญ่ตามคำสั่งแล้ว เยว่สือขอตัวกลับไปหานายท่านก่อนนะขอรับ คุณหนูใหญ่รักษาตัวด้วยนะขอรับ”

“ได้…”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า

“ลำบากเจ้าคอยดูแลเจ้านายของเจ้าด้วย อย่าให้เขาติดโรคระบาดเด็ดขาด”

“คุณหนูใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ”

เยว่สือกล่าวจบจึงทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง จากนั้นจากไปอย่างรีบร้อน

ไป๋ชิงเหยียนมองตามแผ่นหลังของเยว่สือพลางขมวดคิ้วแน่น นางรู้สึกกังวลใจมาก

ตอนนี้นางยังเดินทางไม่ถึงต้าโจว การส่งข่าวมาที่นี่ค่อนข้างยากลำบาก นางไม่รู้ว่าสถานการณ์โรคระบาดในตอนนี้เป็นเช่นไรบ้าง

ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้พาหมอหงมาที่ตงอี๋ด้วย ท่านหมอหงรออยู่ที่เมืองจินกว่าน ตอนนี้เขาคงรับรู้เรื่องโรคระบาดและเตรียมปรุงยารักษาโรคแล้ว

ทว่า…ท่านหมอหงไม่มีคนป่วย เขาคงทำได้เพียงปรุงยาขึ้นตามอาการของโรคที่ได้รับรายงานมาเท่านั้น ไม่สามารถทดลองใช้จริงๆ ได้

ไป๋ชิงเหยียนเอนกายพิงพำนักพิง นางอยากให้เรือเดินทางไปถึงชายฝั่งโดยเร็วที่สุด

ทหารซึ่งอยู่ในเมืองจินกว่านได้รับรายงานว่าฝ่าบาทจะนำโลงศพของหานเฉิงอ๋องเดินทางกลับมาถึงชายฝั่งในอีกครั้งชั่วยาม หลิ่วผิงเกาพาทหารต้าโจวและทหารเรือเก่าของตงอี๋มายืนต้อนรับที่ชายฝั่ง

เมื่อเรือซึ่งมีธงสัญลักษณ์ของงต้าโจวปรากฎแก่สายตาหลิ่วผิงเกาและทหารเรือจึงพากันเดินไปด้านหน้าทันที

เรือรบหลายลำของต้าโจวแล่นอยู่กลางทะเล ธงซึ่งอยู่บนยอดเสาของเรือโบกสะบัดไปมาท่ามกลางสายลม เช่นเดียวกับผ้าไหมสีขาวผืนยาวที่ผูกอยู่ตามบนเรือทุกลำของต้าโจว

จักรพรรดินีต้าโจวยังอยู่บนเรือ ทว่า นางกลับสั่งให้ผูกผ้าสีขาวบนเรือ ต่อให้เป็นเรือบรรทุกศพของเชื้อพระวงศ์ก็คงไม่มีทางได้รับเกียรติเช่นนี้แน่นอน

เหล่าทหารเรือขอบตาร้อนผ่าวด้วยความตื้นตัน

“ฝ่าบาทพาหานเฉิงอ๋องกลับมาแล้ว!”

“ใช่แล้ว ในที่สุดก็กลับมาแล้ว!”

“นึกไม่ถึงเลยว่าฝ่าบาทจะทรงให้เกียรติหานเฉิงอ๋องถึงเพียงนี้”

ทหารเรือคนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยความซาบซึ้ง

“มิน่าหานเฉิงอ๋องจึงได้จงรักภักดีต่อฝ่าบาทถึงเพียงนี้”

“พวกเรารู้นานแล้วไม่ใช่หรือ”

หัวหน้าทหารเรือคนหนึ่งดวงตาแดงก่ำอย่างห้ามไม่อยู่

“ฝ่าบาททรงทราบว่าตงอี๋ทำให้หานเฉิงอ๋องต้องสละชีพในสนามรบ พระองค์เสด็จมาที่นี่ด้วยองค์เองโดยไม่สนว่ากำลังเดิมพันแคว้นกับต้าเยี่ยนอยู่ พระองค์เสด็จมารับหานเฉิงอ๋องกลับบ้านและทำลายล้างตงอี๋ด้วยองค์เอง การจงรักภักดีต่อบุคคลเช่นนี้ช่างน่าภูมิใจยิ่งนัก”

ทหารเรือคนอื่นได้ยินจึงพากันพยักหน้า แม้การให้เกียรติหานเฉิงอ๋องเช่นนี้จะเป็นการทำให้คนภายนอกเห็น ทว่า การที่จักรพรรดินีของต้าโจวทำได้ถึงขั้นนี้เพื่อหานเฉิงอ๋อง ต่อให้นางทำเพื่อต้องการซื้อใจคน พวกเขาก็ยอมรับด้วยความเต็มใจ

ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้สวมชุดเกราะ นางสวมชุดสีขาวยืนอยู่บนหัวเรือ

เมื่อเรือแล่นใกล้ถึงฝั่งเจียงไหวเซิงจึงเข้าไปกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน

“ฝ่าบาท…ใกล้ถึงฝั่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ เชิญฝ่าบาท จงกั๋วอ๋อง เกาอี้อ๋องและอิงฮุ่ยจวินเสด็จลงเรือก่อน จากนั้นพวกเราจะพาร่างของหานเฉิงอ๋องลงจากเรือพ่ะย่ะค่ะ”

“ให้เกียรติผู้ล่วงลับก่อน เชิญร่างของหานเฉิงอ๋องลงจากเรือก่อน”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงเบา

เจียงไหวเซิงตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นกำหมัดรับคำ

ไป๋ชิงเหยียนมองเห็นเหล่าทหารเรือและชาวประมงที่ยืนรอต้อนรับหานเฉิงอ๋องอยู่บนฝั่งมาแต่ไกล ไป๋ชิงเหยียนอดรู้สึกเสียดายไม่ได้ ตอนที่หานเฉิงอ๋องยังมีชีวิตอยู่ ตอนที่ต้าเหลียงยังอยู่ จักรพรรดิต้าเหลียงไม่ยอมให้โอกาสหานเฉิงอ๋อง ดังนั้นหานเฉิงอ๋องจึงเป็นเพียงองค์ชายใหญ่ของแคว้นต้าเหลียงในสายตาของชาวบ้านต้าเหลียง

ทว่า ตอนนี้หานเฉิงอ๋องสละชีพเพื่อชาวประมงและต้าโจว เขาจึงจะอยู่ในใจของทหารเรือและชาวประมงเหล่านี้ตลอดไป เขาเสียชีวิตอย่างมีเกียรติ

เฉิงหย่วนจื้อซึ่งยืนอยู่ด้านหลังไป๋ชิงเหยียนเกิดความรู้สึกมากมายขึ้นในใจ เขาก้าวเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกล่าวขึ้น

“เสี่ยวไป๋ไซว่ ข้าอยากแบกโลงศพของหานเฉิงอ๋องลงจากเรือด้วยตัวเองขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนมองเฉิงหย่วนจื้อที่กำหมัดขอร้องนางด้วยสีหน้าวิงวอน จากนั้นพยักหน้า

“ตกลง”

เรือรบที่มีจักรพรรดินีต้าโจวและศพของหานเฉิงอ๋องอยู่บนเรือจอดชิดชายฝั่ง พรมถูกปูยาวจากบนตัวเรือไปจรดกับพรมที่อยู่บนชายฝั่ง ทหารยืนเรียงแถวอยู่สองข้างทางของพรม พวกเขาคุกเข่าเพื่อรอต้อนรับจักรพรรดินีต้าโจว…

ไป๋ชิงเหยียนซึ่งยืนอยู่ข้างโลงศพของหานเฉิงอ๋องคลุมธงรบผืนใหญ่ในมือลงบนโลงศพของหานเฉิงอ๋อง จากนั้นตะโกนเสียงดัง

“ยกโลง พาหานเฉิงอ๋องกลับบ้าน!”

เฉิงหย่วนจื้อแบกโลงขึ้นบ่า จากนั้นตะโกนเสียงดัง

“ยกโลง!”

“ยก!”

คนแปดคนค่อยๆ แบกโลงศพของหานเฉิงอ๋องขึ้นบ่า จากนั้นเดินตามเจียงไหวเซิงซึ่งถือป้ายวิญญาณของหานเฉิงอ๋องลงไปจากตัวเรือ

ไป๋ชิงเจวี๋ยยืนอยู่ข้างกายพี่หญิงใหญ่ของตัวเอง เขารอให้โลงศพของหานเฉิงอ๋องลงไปจากเรือก่อน จากนั้นจึงเดินตามหลังโลงศพลงไปจากเรือ

หลิ่วผิงเกาและทหารคนอื่นคิดว่าไป๋ชิงเหยียนจะลงจากเรือเป็นคนแรก พวกเขาเตรียมคุกเข่าต้อนรับ ทว่า กลับเห็นเจียงไหวเซิงเดินถือป้ายวิญญาณของหานเฉิงอ๋องลงมาจากเรือเป็นคนแรก

โลงศพของหานเฉิงอ๋องถูกแบกตามหลังเจียงไหวเซิงมาติดๆ…

แม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อของกองทัพไป๋เป็นคนแบกโลงศพของหานเฉิงอ๋องด้วยตัวเอง…

พวกเขาได้ยินเพียงเสียงแส้ตวัดกลางอากาศ

“ต้อนรับหานเฉิงอ๋องกลับบ้าน!”

ไป๋จิ่นจื้อกำแส้ในมือของตัวเองแน่น เสียงตะโกนของนางดังลั่นมาจากหัวเรือ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท