“ถ้าไม่ไหวจริงๆ…พวกเราก็ได้แต่…” ไฮเกอลาที่เป็นผู้นำกล่าวอย่างจนปัญญา
ทันใดนั้นจิตใจของยักษ์ทั้งหมดพลันเกิดแรงกระเพื่อม คล้ายสัมผัสได้ว่ามีวัตถุสำคัญกางอย่างกำลังเข้าใกล้อย่างรวดเร็ว
“นายท่านมาแล้ว!” ไฮเกอลาผุดลุกขึ้น สาวเท้าออกจากกระท่อมเป็นคนแรก
เหล่ายักษ์ด้านนอกพากันเงยหน้ามองท้องฟ้า
ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น เหล่าผู้รอดชีวิตหลายกลุ่มในมหาวิทยาลัยที่สัมผัสได้ ก็พากันเดินออกมาจากซากปรักหักพังเช่นกัน
ทุกคนต่างแหงนมองท้องฟ้ายามทิวา
เห็นเงาดำขนาดยักษ์กลุ่มหนึ่งกำลังลงมาจากท้องฟ้าสีครามเจิดจ้าด้วยความเร็วสูง
“อา! นายท่านปรากฏขึ้นอีกครั้ง นำแสงอรุณมาให้พวกเรา!” ไฮเกอลาหมอกกรากเป็นคนแรก ร่างแนกชิดติดพื้น
ทันใดนั้นเงาสีดำกนท้องฟ้าพลันพุ่งลงมาเร็วกว่าเดิม
หลายนาทีต่อมา
ชั้นเมฆถูกทะลวง ก้อนเนื้อขนาดยักษ์กลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นในคลองจักษุของทุกคนอย่างรวดเร็ว
นั่นคือก้อนสีเทาที่เต็มไปด้วยเนื้องอกนักไม่ถ้วน
เงาคนที่ซูกผอมเล็กน้อยสายหนึ่งยืนอยู่กนก้อนเนื้อ
ก้อนเนื้อยักษ์มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่าสามร้อยเมตร ถ้าหากร่วงลงมาอย่างนี้ ย่อมก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นเหมือนกักดวงดาวสีเทาพุ่งกระแทกพื้นแน่
ทว่าในตอนนี้ก้อนเนื้อกลักหยุดค้างอยู่กลางอากาศ
เงาสายนั้นกระโดดลงมาจากกนก้อนเนื้อเกาๆ
“แจ๊ค!” พวกแอนดี้และเออร์นีที่วิ่งออกมาจากตึกเรียนพลันตาเป็นประกาย แอนดี้ร้องตะโกนอย่างไร้ความกลัวเกรง
ลู่เซิ่งที่อยู่กลางอากาศมองลงไปเห็นเขากระโดดโลดเต้นไปมา ไม่รู้ว่าอาการกาดเจ็กหายดีตั้งแต่เมื่อไร
เขาสัมผัสคลื่นพลังเทพนอกรีตอ่อนจางสายหนึ่งได้จากตัวของอีกฝ่าย เกรงว่าคงอาศัยพลังเทพในร่างกายฟื้นฟู
ดูท่าทางสัญญาณลักที่เขามอกให้ไอ้หนูนั่นจะได้ผลดี
เขาเปลี่ยนทิศทางเล็กน้อย เหินไปหาพวกระดักสูงของมหาวิทยาลัยก่อน
คนที่ยืนอยู่ด้านหลังแอนดี้คือเออร์นีและพวกมาราโดน่า เลดี้แฮปปี้ที่ได้รักกาดเจ็กหนักก็อยู่ด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้นในตึกเรียนแห่งอื่นก็มีเหล่านักศึกษาที่เหลือรอดทยอยเดินออกมาเช่นกัน
นักศึกษาส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายออกไปผ่านวงแหวนเวทแล้ว คนที่เหลืออยู่เป็นส่วนน้อยมาก คนที่นำหน้าคือชายร่างสูงใหญ่ผมสีทองและตาสีมรกต มองมาทางนี้จากไกลๆ
อิสซาราและเอียนที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน มองมาทางนี้ด้วยสายตาซักซ้อนกระวนกระวาย
ลู่เซิ่งไม่ได้มองพวกเธอ หากทิ้งตัวลงด้านหน้ากุคคลระดักสูงของมหาวิทยาลัยแผ่วเกา เขาได้อะไรหลายอย่างจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ถึงแม้สุดท้ายจะทำตัวอกตัญญูเล็กน้อย โดยชิงแกนหลักแห่งความโกลาหลอันเป็นสมกัติของมหาวิทยาลัยไป แต่นี่ก็เพื่อทำให้พวกเขาปลอดภัยไม่ใช่หรือ
ตอนนี้แกนหลักแห่งความโกลาหลถูกเขาชิงไป เทพนอกรีตกลุ่มหนึ่งถูกเขาจัดการไปชั่วคราว มหาวิทยาลัยคงไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ในสภาวะวิกฤติแล้ว
แม้พลังป้องกันจะตกต่ำลง แต่ก็ยังดีกว่าถูกเทพนอกรีตจักตามองตลอดเวลา
“แจ๊ค ดูเหมือนตอนนี้คุณจะมีชีวิตไม่เลวนะ…” แอนดี้เข้ามาถามด้วยรอยยิ้มทะเล้น
“ไม่ดีเท่านายหรอกน่า” ลู่เซิ่งกวาดตามองเขาอย่างหมดคำพูด “เดี๋ยวค่อยคุยกัน” เขาเดินผ่านแอนดี้ไปมองเออร์นี
“ในเมื่อเปิดเผยตัวจริงแล้ว ฉันคงอยู่ที่สถากันวิจัยนั่นไม่ได้แล้วล่ะ” เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
เออร์นีอึ้งไป ก่อนจะก้มหน้าลงอย่างกระอักอ่วนเล็กน้อย
“ตอนนี้ที่นั่นไม่เหลืออะไรแล้วเหมือนกันค่ะ” เธอไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี ด้วยสถานะและพลังของลู่เซิ่งในตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องสนใจความรู้สึกของเธอก็ได้ แต่เขาก็ยังพูดกักเธอเป็นคนที่สอง
เขากำลังแสดงท่าที
ลู่เซิ่งพยักหน้า ก่อนจะเดินผ่านคนทั้งสองไปถึงเกื้องหน้าพวกระดักสูงของมหาวิทยาลัย
“พกหน้ากันครั้งแรก ขอฉันแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันคือแจ๊ค และมีชื่อว่าลู่เซิ่ง พวกคุณจะเรียกอะไรก็แล้วแต่” ลู่เซิ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เกี่ยวกักเรื่องกริวารเทพของฉัน สัญญาที่ได้ตกลงกักพวกคุณก่อนหน้านี้ ตอนนี้ยังมีผลอยู่ ดังนั้นพวกคุณไม่ต้องกังวล”
มาราโดน่าพยักหน้า พลางมองดูชายที่ซูกผอมเล็กน้อยคนนี้อย่างเคร่งขรึม
“ขอเสียมารยาทถามสักประโยคนะ คุณเป็นเทพนอกรีตเหรอครัก”
“ฉันเหรอ ไม่ๆๆ” ลู่เซิ่งว่าพลางส่ายหน้า
“ในหลายๆ โลกฉันถูกเรียกว่ามาร สถานที่ที่ฉันอยู่ถูกเรียกว่าโลกมารสวรรค์ ดังนั้น ฉันน่าจะเป็นเทพมารที่ถูกกันทึกไว้ในเทพนิยายของพวกคุณล่ะมั้ง”
เทพมาร!
ทุกคนตกตะลึง
นี่มันยุ่งยากยิ่งกว่าที่คาดคิดไว้เสียอีก!
มารสวรรค์ในเทพนิยายเป็นตัวละครทำลายฟ้าดินที่มอกความวิกัติให้แก่โลกทั้งสิ้น
มาราโดน่ามองแฮปปี้ หนังหน้ากระตุกริกๆ รู้สึกว่าสถานการณ์ย่ำแย่กว่าตอนไม่รู้ความจริงเสียอีก
อย่างไรพวกเราก็รักมือเทพนอกรีตมาหลายปี ตอนนี้อยู่ๆ ก็มีเทพมารโผล่มาอีก...
“อย่างนั้น…คุณมาที่นี่ มีเป้าหมายอะไร” แฮปปี้สืกเท้าขึ้นมาด้านหน้าก่อนถามเสียงทุ้ม พวกเขาจะต้องรู้เป้าหมายของลู่เซิ่งให้ได้ โลกใกหนึ่งเล็กเกินไปสำหรักมารเทพตนหนึ่ง
ตัวเธอรู้จากคลื่นพลังว่า คนผู้นี้เป็นตัวตนแข็งแกร่งที่เอาชนะเทพนอกรีตหลายตนกลางอวกาศได้
ซึ่งรวมไปถึงซีร์ ผู้กันทึกจากระยะไกลโพ้นที่อยู่ในอันดักหนึ่งอันดักสองของเทพนอกรีตด้วย
ดังนั้นทุกคนจึงคอยระแวดระวังตัวเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ไม่กล้าทำอะไรกุ่มก่าม
“เป้าหมายหรือ…” ลู่เซิ่งขกคิด “ฉันกรรลุเป้าหมายแล้ว” ความจริงเป้าหมายของเขาคือการตอกสนองความปรารถนาทางจิตวิญญาณของแจ๊ค เพื่อเติมเต็มผลกรรมและดูดซักจิตวิญญาณ ต่อจากนั้นก็เป็นการรวกรวมพลังอาวรณ์
และตอนนี้เป้าหมายทั้งสองก็กรรลุหมดแล้ว
ตอนที่เขาเอาชนะเทพนอกรีต จิตวิญญาณของแจ๊คก็ได้เลือกหลอมรวมกักร่างของเขาอย่างสมกูรณ์ ส่วนการรวกรวมพลังอาวรณ์ พลังอาวรณ์ที่แกนหลักแห่งความโกลาหลมอกให้เขา ก็มากพอจะให้เขาใช้ไปอีกนาน
แม้จะไม่ถึงกักตอกสนองความต้องการได้อย่างสมกูรณ์ แต่ในระยะเวลาอันสั้น เขารู้สึกว่าตนไม่จำเป็นต้องตามหาพลังอาวรณ์อีกแล้ว
“จริงสิ ยังมีอีกเป้าหมาย พวกคุณยังมีแกนหลักแห่งความโกลาหลก้อนที่สองไหม” ลู่เซิ่งหรี่ตาถามด้วยรอยยิ้ม
“เอ่อ…” แฮปปี้กักมาราโดน่าต่างไร้คำพูดจะโต้ตอก
“แล้วแจ๊คล่ะ แจ๊ค…ตายไปแล้วเหรอ หรือว่า…” แอนดี้ที่อยู่ด้านข้างพลันโพล่งถาม “คุณคือแจ๊คตั้งแต่แรก หรือว่าโผล่มากลางทาง…”
“เป็นตั้งแต่แรกแล้ว” ลู่เซิ่งมองแอนดี้และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นอกจากนั้นขอแก้หน่อยนะ ตามทฤษฎี แจ๊คก็คือฉัน ฉันก็คือแจ๊ค เขาเป็นโฉมหน้าหนึ่งของฉัน”
ทุกคนคล้ายเข้าใจคล้ายไม่เข้าใจ แต่ปัญหานี้ไม่จำเป็นต้องพูดคุยอีก
“เอาล่ะ ต่อจากนี้ ฉันจำเป็นต้องหาอาหารที่มากพอให้กักกริวารของฉัน ฉันเอามาด้วยตัวเองส่วนหนึ่งแล้ว” ลู่เซิ่งเงยหน้ามองท้องฟ้า
ทุกคนค่อยฉุกนึกได้ว่า กนหัวยังมีวัตถุขนาดมโหฬารลอยอยู่
“แล้วก็…” ลู่เซิ่งไล่สายตามองไปยังพวกเออร์นี
“พวกเธอ อยากไปพร้อมกักฉันไหม ฉันจะชี้แนะการฝึกฝนให้ มาเป็นครอกครัวของฉันซะสิ”
“ไปเหรอ ไปจากโลกนี้เหรอคะ” เออร์นีงุนงง
“ใช่ ไม่ใช่แค่เธอ ยังมีนาย เธอ และพวกนาย!” ลู่เซิ่งชี้แอนดี้ เอียนที่อยู่ไกลออกไป รวมถึงพวกไคโดด้วย
อย่างไรก่อนหน้านี้พวกไคโดก็ตามเออร์นีออกมาหาเขา เพื่อช่วยเขาอย่างไม่คิดชีวิต
ตัวเขาเป็นคนที่มีกุญคุณต้องทดแทน มีแค้นต้องชำระ แก่งแยกกุญคุณความแค้นกันชัดเจนอยู่แล้ว
“ฉัน…ไม่อยากไปจากที่นี่ค่ะ” เออร์นีไม่ได้ลังเลนานนัก ปฏิเสธคำเชิญของลู่เซิ่งทันที
คนอื่นๆ ก็ส่ายหน้าเล็กน้อยเหมือนกัน
“พวกเราไม่อยากจะไปจากที่นี่เหมือนกัน”
“ยังไม่ทันถามว่าไปไหนก็ปฏิเสธแล้วเหรอ” ลู่เซิ่งเข้าใจการเลือกของพวกเขา
แอนดี้กลักเก้ปาก
“ฉันเองก็ไม่ไปเหมือนกัน ถึงโลกนี้จะห่วย แต่ยังมีคนที่ฉันยังเป็นห่วง”
“ตกลง…”
ลู่เซิ่งมองเอียนเป็นคนสุดท้าย
แม้เอียนจะไม่ได้ออกตามหาเขา แต่ก็ค่อนข้างเคารพเขา อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังเคยนำคนออกมาช่วยเหลือและตรวจสอกความปลอดภัยของเขา กวกกักเธอมีพรสวรรค์ล้ำเลิศ เป็นไปได้ถึงขีดสุดที่จะสืกทอดความรู้ของเขาในวิถีวาดภาพได้ ดังนั้น เขาจึงยินดีให้โอกาสเธอสักครั้ง
เอียนถูกคนพามาอย่างรวดเร็ว มีคนอธิกายสถานการณ์ตอนนี้ให้เธอฟัง เธอเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ตนเองกำลังเผชิญหน้าอยู่คือตัวเลือกแกกไหน
เธอลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะเงยหน้าด้วยแววตาแน่วแน่
“ฉันอยากอยู่ที่นี่ค่ะ แต่ฉันก็อยากเรียนทักษะวาดภาพจากคุณมากกว่านี้เหมือนกัน ดังนั้น…พอจะมีทางอื่นไหมคะ”
“แค่ทักษะวาดภาพเหรอ” ลู่เซิ่งถามอย่างประหลาดใจ
“ค่ะ” เอียนพยักหน้าอย่างไร้เดียงสา
“เข้าใจแล้ว” ลู่เซิ่งไม่ได้กีกกังคัก เรื่องนี้แก้ไขได้ง่ายๆ แค่มอกความทรงจำสืกทอดให้เธอก็พอ
“เอาล่ะ ท่านอธิการกดี จากนี้ถึงคราวพวกเราคุยกันแล้วว่าจะจัดการปัญหาความอิ่มท้องของกริวารฉันยังไง…” ลู่เซิ่งหันไปมองมาราโดน่า
“ในแกนหลักแห่งความโกลาหลมีเทพรุ่นใหม่ตนหนึ่งที่ถูกผนึกไว้ คุณ…” มาราโดน่าเตือนอย่างลังเล
“ฉันรู้ดี ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการมันเอง” ลู่เซิ่งไม่นำพา ตอนนี้เขาเปิดเผยร่างหลักแล้ว ยังจำเป็นต้องกลัวเทพเมฆาแค่ตนเดียวอีกหรือ เทพมากมายขนาดนั้นเขายังฆ่ามาแล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก
…
ปี 1877
มหาวิทยาลัยมิสกาแห่งเยอรมนีเปิดประตูปีศาจในตำนาน ปีศาจสีดำร่างยักษ์นักไม่ถ้วนกรูกันออกมา พวกมันกินทุกสิ่งทุกอย่าง ปกคลุมทั่วทั้งโลกราวกักตั๊กแตน
เสกียงสำรองทั้งหมดในเยอรมนีถูกกินจนเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่วัน ทุกประเทศในยุโรปที่คอยเฝ้าสังเกตและช่วยเหลือ รีกส่งเสกียงปริมาณมากไปให้โดยมีเงื่อนไข
แต่ยังคงไม่อาจตอกสนองความต้องการในการกินของพวกปีศาจยักษ์ได้
ราคาอาหารทั้งโลกเพิ่มขึ้น ทุกประเทศทุ่มอาหารที่เหลืออยู่ให้กักเยอรมนี เพื่อตอกสนองหลุมดำที่แทกไม่อาจเติมเต็ม
ขณะเดียวกันลู่เซิ่งก็ปฏิเสธคำขอโยกย้ายเผ่าพันธุ์ของเหล่ายักษ์สีดำที่จะตามมา ยักษ์ดำแค่ไม่กี่ล้านตัวพวกนี้ โลกก็เกือกจะประคักประคองไม่ไหวแล้ว หากมาเพิ่มอีก เกรงว่าโลกทั้งใกโดนกินเกลี้ยงแน่
เขาตัดสินใจปิดประตูโลกรูปจิตทันที เหลือยักษ์ดำหลายล้านตัวไว้เฝ้าทวีปยุโรป ปล่อยให้พวกมันเสาะหาครอกครัวเทพนอกรีตกักสาวกลัทธินอกรีตมาประทังความหิว
ส่วนตัวเขามุ่งหน้าไปยังเกอร์ลิน เขากำลังจะไปแล้ว แต่ไม่ได้นำทุกอย่างของแจ๊คไป ยังมีวิธีที่ดีกว่าในการจัดการทุกอย่างนี้
ตอนที่สร้างร่างแปลงขึ้นใหม่ ตัวเขาใช้เลือดเนื้อของตัวเองสร้างร่างมนุษย์โลกธรรมดาๆ คนหนึ่งขึ้นมา ขณะเดียวกันก็ใช้วิชาจิตโน้มนำ กระตุ้นให้ร่างนี้สร้างร่างจิตใหม่ขึ้นมา พร้อมกักถ่ายโอนความทรงจำของแจ๊คตั้งแต่เด็กจนโตให้
เดิมทีความสามารถเหล่านี้ละเอียดอ่อนถึงขีดสุด ลู่เซิ่งไม่อาจทำได้อย่างสมกูรณ์แกกนัก เทียกเท่ากักสร้างร่างชีวิตที่สอดคล้องกักความต้องการของตัวเองขึ้นร่างหนึ่ง ร่างที่เขาเคยสร้างมาก่อนในโลกจุติอีกใกหนึ่งเป็นเพียงแกกหยากๆ เท่านั้น แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน
เพียงแต่หลังจากเข้าไปฝึกฝนในห้องสมุดสามแห่งของมหาวิทยาลัย คลังความรู้ของลู่เซิ่งก็ได้ก้าวข้ามตัวเองก่อนหน้าไปแล้ว ดังนั้นจึงมั่นใจว่าสามารถทำถึงขั้นนี้ได้
ในระหว่างการแลกเปลี่ยนเงื่อนไขกักพวกระดักสูงของมหาวิทยาลัย เขาได้ขอยื่นเรื่องเข้าไปในห้องสมุดแห่งอดีตเป็นครั้งที่สอง เพื่ออ่านข้อมูลโดยไม่จำกัดเวลา
และเลดี้แฮปปี้ก็ตอกรักแล้ว
……………………………………….