บทที่ 1184 ตอนพิเศษ (67.1)
บทที่ 1184 ตอนพิเศษ (67.1)
จงซู่เกินอ้าปากกว้าง มองดูสองพี่น้องตรงหน้า
สองพี่น้องพูดคุยกันเรื่องคดีนี้หลายอย่าง หลังจากพูดคุยกันแล้ว ลู่ฉาวจิ่งก็หันไปมองจงซู่เกินแล้วแนะนำพี่น้องผู้ช่วยฝีมือดีตอนที่อยู่ที่นี่ให้รู้จักกับลู่ฉาวอวี่
นักการที่อยู่ด้านข้างกระตุกเสื้อของจงซู่เกิน ส่งสัญญาณบอกให้เขารู้สึกตัว
ด้วยเหตุนี้จงซู่เกินถึงได้สติกลับคืนมา เขาคุกเข่าลงหน้าลู่ฉาวอวี่ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “คารวะใต้เท้า คารวะใต้เท้า… ข้าน้อยนึกไม่ถึงว่าจะได้พบใต้เท้าลู่ตัวเป็น ๆ แล้วจริง ๆ”
ลู่ฉาวจิ่ง “…”
เขาเองก็เป็นใต้เท้าลู่
เขาก็เป็นคนตัวเป็น ๆ เช่นกัน
จงซู่เกินติดตามเขามาทั้งวัน ไม่เห็นให้เกียรติและยำเกรงเช่นนี้มาก่อน
ลู่ฉาวอวี่เอ่ยนิ่ง ๆ “ลำบากเจ้าแล้ว”
“ไม่ลำบากขอรับ!” จงซู่เกินโบกมือไปมา “มิน่าเล่าใต้เท้าลู่ของเราฉลาดเพียงนี้ ที่แท้เป็นเพราะคำแนะนำของพี่ชายนี่เองขอรับ”
ลู่ฉาวจิ่ง “…”
ดังคาด ไม่มีผู้ใดสามารถบดบังแสงเรืองรองของพี่ใหญ่ได้จริง ๆ
ต่อไปยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องจัดการ ทว่าสถานการณ์โดยรวมคลี่คลายแล้ว เพียงแค่ต้องจัดการกับภูตผีปีศาจที่หลบหนีไปข้างนอกเท่านั้น
หลังจากจัดการงานเรียบร้อย ลู่ฉาวอวี่ก็เอ่ยถึงหลิวจิ่วจู๋ขึ้นมา
ลู่ฉาวจิ่งงานยุ่งเสียจนไม่ได้นึกถึงหลิวจิ่วจู๋ไปชั่วขณะ เมื่อลู่ฉาวอวี่เอ่ยถึง เขาจึงสั่งบ่าวรับใช้ให้ไปเรียกนางมาทันที
“ใต้เท้า ฮูหยินไม่อยู่ที่จวนขอรับ”
“นางออกไปทำการค้าอีกแล้วหรือ?” ลู่ฉาวจิ่งเอ่ย
“ข้าน้อยสอบถามได้ความว่า ฮูหยินถูกถังกั๋วกงพาตัวไปแล้วขอรับ ได้ยินว่าเพราะถังกั๋วกงอยากล่าสัตว์จึงเชิญฮูหยินให้ไปนำทาง พวกเขาไปชนบทหลายวัน ยามนี้ยังไม่กลับมาขอรับ”
ลู่ฉาวจิ่งหันไปมองลู่ฉาวอวี่ “ท่านพี่ ข้าไม่วางใจ เรื่องทางนี้ต้องฝากท่านจัดการ ข้าจะไปดูนางสักหน่อย”
ลู่ฉาวอวี่เหลือบมองน้องชาย “อายุยังน้อย นิสัยเป็นห่วงภรรยานี้เรียนรู้มาจากท่านพ่อจริง ๆ เจ้าไม่กลัวว่าคนที่บ้านจะไม่ยอมรับนางหรือ ถึงตอนนั้นเจ้าจะทำอย่างไร?”
“ไม่เป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน” ลู่ฉาวจิ่งกล่าว “ท่านแม่บอกแล้ว พวกเราจะแต่งกับผู้ใดก็ย่อมได้ นั่นเป็นเรื่องของพวกเราเอง ของเพียงตัวเราไม่เสียใจภายหลังก็เป็นอันใช้ได้แล้ว”
“ใต้เท้า ถังกั๋วกงพาฮูหยินกลับมาแล้วขอรับ” นักการเดินเข้ามารายงาน “เพียงแต่ถังกั๋วกงกล่าวว่ามีเรื่องจะพูดคุยกับท่าน”
ลู่ฉาวจิ่งถามว่าถังกั๋วกงอยู่ที่ใด จากนั้นจึงมาที่สวนด้านหลังศาลาว่าการ
ถังกั๋วกงกำลังพูดคุยกับหลิวจิ่วจู๋
เสียงหลิวจิ่วจู๋ดังขึ้น “นายท่านถัง มีอะไรเข้าใจผิดหรือไม่? ข้าจะเป็นลูกสาวของท่านไปได้อย่างไร?”
“จี้หยกนี้เป็นหลักฐาน” ถังกั๋วกงเอ่ย “แรกเริ่มข้าเพียงรู้สึกว่าคุ้นเคยกับเจ้า บัดนี้เมื่อคิดดูแล้วหน้าตาของเจ้ากับฮูหยินของข้าคล้ายคลึงกันยิ่งนัก เพียงแต่ข้าส่งคนไปตรวจสอบเวลาเกิดของเจ้าแล้ว เวลาเกิดกลับไม่สอดคล้องกัน หากไม่ใช่เพราะได้เห็นจี้หยกนี้ ข้าคงไม่สงสัยในตัวเจ้าและถามเจ้าเรื่องความเป็นมาโดยละเอียด และคงไม่รู้ว่าเจ้าเป็นทารกที่คลอดก่อนกำหนด ด้วยเหตุนี้เวลาเกิดถึงไม่สอดคล้องกัน”
หลิวจิ่วจู๋พาถังกั๋วกงไปล่าสัตว์และบังเอิญทำจี้หยกในแขนเสื้อหล่น ถังกั๋วกงเห็นจี้หยกชิ้นนั้นก็ใจสั่นไหว ยืนกรานว่านางเป็นลูกสาวของตนเอง
หลิวจิ่วจู๋รู้ว่าบิดาของตนมีภูมิหลังไม่ธรรมดา ทว่าไม่เคยคาดหวังว่าวันหนึ่งจักได้พบกับบิดาผู้ให้กำเนิด นางจึงไม่ยอมรับอยู่บ้าง
เมื่อเห็นลู่ฉาวจิ่งมาแล้ว นางก็วิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปกอดแขนของเขาแล้วกล่าวเสียงค่อย “ท่านพี่ นายท่านถังบอกว่าข้าเป็นลูกสาวของเขา ท่านคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่?”
ลู่ฉาวจิ่งหันไปมองถังกั๋วกง
“ท่านกั๋วกง ท่านจำคนผิดแล้วหรือไม่?”
“ท่านกั๋วกง?” หลิวจิ่วจู๋ถาม “ท่านกั๋วกงคืออะไร?
ลู่ฉาวจิ่งสัมผัสแขนของหลิวจิ่วจู๋ “กั๋วกงเป็นบรรดาศักดิ์ เป็นการสืบสันตติวงศ์ ทั้งยังเป็นขุนนางใหญ่ผู้หนึ่ง”
ถังกั๋วกงรอให้หลิวจิ่วจู๋แสดงท่าทีดีใจ ทว่าเมื่อหลิวจิ่วจู๋ได้ยินคำพูดของลู่ฉาวจิ่งแล้ว นางไม่เพียงแต่ไม่ดีใจ ในทางกลับกัน นางยิ่งวางตัวห่างเหินกว่าเดิม ราวกับว่าตำแหน่งของเขาไม่ได้เป็นเกียรติหากแต่เป็นความผิดบาป
หลิวจิ่วจู๋ไม่อยากยอมรับถังกั๋วกงเป็นญาติจริง ๆ
หากถังกั๋วกงเป็นเพียงพ่อค้าพาณิชย์ที่ร่ำรวยธรรมดา นั่นก็แล้วไปเถิด
นางจดจำถ้อยคำสุดท้ายของมารดาได้และยังอยากทำตามความต้องการของอีกฝ่าย คือกลับไปอยู่ข้างกายบิดา อย่างไรก็ตาม หากบิดาผู้ให้กำเนิดของนางเป็นผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังสูงศักดิ์เป็นอย่างมาก เช่นนั้นนางคงต้องตรึกตรองอีกสักครั้ง
อย่างไรเสีย….
ผู้สูงศักดิ์ก็ยุ่งยากจริงๆ
โดยเฉพาะสกุลใหญ่เหล่านั้น ยิ่งยุ่งยากในยุ่งยาก
นางเป็นเพียงสาวชาวบ้านธรรมดา ๆ ผู้หนึ่ง เพียงแค่อยากอยู่ในที่เล็ก ๆ ของตนอย่างสงบสุข ไม่อยากเล่นกลอุบายกับผู้อื่น
“ท่านพี่ ข้าว่ากั๋วกงท่านนี้จักต้องคงจำผิดเป็นแน่”
ถังกั๋วกงตกตะลึง “เสี่ยวจู๋จือ ข้าจักจำผิดได้อย่างไร? เจ้ากับมารดาเจ้าหน้าตาคล้ายคลึงกันเพียงนี้ ข้าจะจำผิดได้อย่างไรกัน?”
“หากข้ากับท่านแม่คล้ายกันมาก เหตุใดเมื่อก่อนท่านจึงจำไม่ได้เล่า เพราะจี้หยกนี้ถึงจำได้ขึ้นมาแล้วหรือ?” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “นี่เห็นได้ชัดว่าท่านโกหกข้า ท่านจำไม่ได้ว่าภรรยาที่แต่งกับตนหน้าตาเป็นอย่างไรแล้วกระมัง?”
ถังกั๋วกง “…”
หลิวจิ่วจู๋ดึงแขนของลู่ฉาวจิ่ง “ท่านพี่ นายท่านถังจำคนผิดแล้ว ข้าไม่ใช่ลูกสาวของท่านกั๋วกงอะไรนั่น”
ถังกั๋วกงจึงเอ่ยขึ้น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าสามีเจ้าเป็นผู้ใด?”
ลู่ฉาวจิ่ง “…”
ถังกั๋วกงผู้นี้ บุตรสาวไม่ยอมรับเขา ถึงได้โยนเพลิงสงครามมาใส่ตัวลู่ฉาวจิ่งแทน
หลิวจิ่วจู๋สนใจใคร่รู้จึงเอ่ยถาม “สามีข้าเป็นผู้ใดหรือ?”
ถังกั๋วกงมองลู่ฉาวจิ่งด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เจ้าแต่งให้เขานานเพียงนี้ แม้กระทั่งเขาเป็นผู้ใดยังไม่รู้ เช่นนั้นเจ้าถามเขาสิว่า เขาอยากอยู่กับเจ้าจริง ๆ หรือ?”
“แน่นอนว่าจริง” ลู่ฉาวจิ่งเอ่ย “ถึงแม้ท่านกั๋วกงจะไม่เอ่ยถึง ข้าก็ยังต้องอธิบายให้เจ้าฟังให้ชัดเจน พี่ชายข้ามาแล้ว อยากพบเจ้าน้องสะใภ้ เจ้าอยากพบเขาหรือไม่?”
“พี่ชายท่านหรือ?” หลิวจิ่วจู๋เริ่มกังวล “ข้ายังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลย ท่านรอข้ากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าประเดี๋ยวค่อยมาพบพี่ชาย ไม่เช่นนั้นจะดูไม่มีมารยาทเอาได้!”
“ไม่ต้องเปลี่ยน อย่างนี้ก็ดีแล้ว” ลู่ฉาวจิ่งเอ่ย “ส่วนถังกั๋วกง เรื่องทางนี้อย่างไรก็ไม่รีบร้อน พวกท่านค่อย ๆ คุยกันได้”
เมื่อหลิวจิ่วจู๋ได้ยินว่าพี่ชายลู่ฉาวจิ่งมา นางจึงทิ้งเรื่องของถังกั๋วกงไว้ข้างหลัง ในสมองของนางได้แต่คิดว่าอีกประเดี๋ยวจะทักทายพี่ชายของลู่ฉาวจิ่งอย่างไร
ถังกั๋วกงเดิมทีคิดจะตามไป อย่างไรเสียหลิวจิ่วจู๋ก็แต่งให้ลู่ฉาวจิ่งในฐานะสาวชาวบ้าน นั่นเป็นเพียงการปีนป่ายต้นไม้สูงเท่านั้น เขาจำต้องออกหน้าแทนลู่ฉาวจิ่งด้วยตนเองว่าหลิวจิ่วจู๋เป็นลูกสาวของเขา ลูกสาวของเขาถังกั๋วกงแต่งเข้าจวนลู่อ๋องก็นับว่าเป็นคู่ครองที่ดี อย่าได้ดูแคลนลูกสาวของเขาเป็นอันขาด
ตอนนี้ถังกั๋วกงกำลังโกรธ
ความโกรธเหล่านี้ล้วนพุ่งไปที่สกุลเหมียว
หากสกุลเหมียวไม่หลอกลวง เขาคงไม่เสียเวลามากเพียงนี้ เพียงแต่ยังดี สวรรค์เข้าข้างพวกเขาพ่อลูก ถึงได้ใช้จี้หยกนี้นำทาง
“อนุสกุลเหมียวผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นสาวใช้แต่งตามของฮูหยินในตอนนั้น เมื่อฮูหยินถูกขาย สาวใช้ของนางก็หายตัวไป ที่แท้นางมาเป็นฮูหยินเศรษฐีอยู่ที่นี่”
ผู้ติดตามรายงานผลการตรวจสอบกับถังกั๋วกง
เมื่อถังกั๋วกงรู้ว่าสาวใช้แต่งตามกลายเป็นฮูหยินของเศรษฐี อีกทั้งไม่เพียงแต่ไม่ช่วยเหลือเจ้านายเดิม แต่ยังพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อสร้างปัญหาให้กับเจ้านายเก่า หลิวจิ่วจู๋คลอดก่อนกำหนด ไม่ใช่เพียงเพราะหลิ่วซานเฉวียนเจ้าคนชั่วผู้นั้นคอยข่มเหงมารดานาง หากแต่ยังเป็นฝีมือของสาวใช้แต่งตามด้วย สาวใช้ผู้นั้นอาศัยบารมีนายรังแกผู้อื่น จงใจสร้างปัญหาให้จนกระทั่งร่างกายของมารดาหลิวจิ่วจู๋ทรุดโทรมลง