สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1517 หายนะ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1517 หายนะ

แววตาภายใต้หน้ากากของเซียวหรงเหยี่ยนนิ่งขรึม เขาโค้งกายคำนับไทเฮา จากนั้นหยัดกายขึ้น “หากไม่กลับมา ต้าเยี่ยนคงวุ่นวายมากกว่านี้!”

เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวพลางมองไปทางเสนาบดีเมิ่ง “เสนาบดีเมิ่งเป็นคนแนะนำไม่ให้ไทเฮาส่งยาสมุนไพรเข้าไปยังเมืองที่อยู่ในการปกครองของต้าโจวอย่างนั้นหรือ”

เสนาบดีเมิ่งได้ยินจึงรู้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว เขาคงแก้ตัวไม่ขึ้น เขารีบโค้งกายทำความเคารพ “ผู้สำเร็จราชการ ตอนนี้สองแคว้นกำลังเดิมพันกันอยู่ จู่ๆ ต้าเยี่ยนก็เกิดโรคระบาดขึ้น เมืองในการปกครองของต้าโจวเริ่มเกิดโรคระบาดรุนแรงเช่นเดียวกัน นี่คือโอกาสแห่งชัยชนะที่สวรรค์มอบให้ต้าเยี่ยนของพวกเรา ดังนั้นกระหม่อมจึงเสนอให้ไทเฮาเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าพ่ะย่ะค่ะ!”

หน้ากากสีเงินปิดบังใบหน้าที่แท้จริงของเซียวหรงเหยี่ยนเอาไว้ น้ำเสียงของชายหนุ่มราบเรียบจนคนฟังจับความรู้สึกไม่ได้ “เตรียมพร้อมอย่างนั้นหรือ”

เสนาบดีเมิ่งมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนที่ยืนเอามือไพล่หลัง จากนั้นก้าวไปด้านหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวขึ้น “ตามข้อตกลงในเดิมพัน การนับจำนวนประชากรที่เหลืออยู่ในเมืองตัวแทนคือจุดเปลี่ยนสำคัญอีกจุดหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ”

“ดังนั้นเสนาบดีเมิ่งจึงต้องการทำให้เมืองต้าเยี่ยนที่อยู่ในการปกครองของต้าโจวกลายเป็นเมืองร้างอย่างนั้นหรือ”

เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเสียงสูง บารมีที่แผ่ออกมาจากร่างของชายหนุ่มทำให้ขุนนางใหญ่ในราชสำนักรีบคุกเข่าก้มศีรษะคำนับลงบนพื้นด้วยความหวาดกลัว

เซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้ามองไปยังร่างของเสนาบดีเมิ่งที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ชายหนุ่มเดินวนรอบร่างของเสนาบดีเมิ่ง จากนั้นก้มมองเขา “ปิดเมืองในการปกครองของต้าโจว ไม่อนุญาตให้ส่งยาและสมุนไพรเข้าไปในเมือง เสนาบดีเมิ่งกำลังจะฆ่าชาวบ้านแคว้นตัวเองอยู่นะ! หากตอนที่ต้าเยี่ยนลำบากไม่ได้ชาวบ้านเหล่านั้นช่วยเหลือ ต้าเยี่ยนจะมีอย่างทุกวันนี้ได้หรือ ฝ่าบาททรงพระเยาว์ ไทเฮาประทับอยู่แต่ในวังหลังอาจรู้ไม่ชัดเจน ทว่า เสนาบดีเมิ่งไม่รู้อย่างนั้นหรือ!”

ไทเฮาอยากแก้ต่างแทนเสนาบดีเมิ่ง ทว่า นางเห็นสายตาของเซียวหรงเหยี่ยนมองมาทางนางซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์เสียก่อน “หากผู้มีอำนาจไม่สามารถปกป้องคุ้มครองชาวบ้านได้ ผู้นั้นสมควรใช้ภาษีของชาวบ้านอย่างนั้นหรือ!”

“อาเหยี่ยน เสนาบดีเมิ่งทำไปเพื่อต้าเยี่ยน…” ไทเฮากล่าวออกมาด้วยความร้อนใจ ทว่า เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ

เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้ฟังคำของไทเฮาแม้แต่น้อย เขากล่าวต่ออย่างไม่รีบร้อน “เสนาบดีเมิ่ง เจ้ายุยงให้ไทเฮากักบริเวณฝ่าบาท เมื่อไทเฮากุมอำนาจอยู่ในมือ เจ้ายังหลอกให้นางทอดทิ้งชาวบ้านของตัวเอง เจ้าสมควรตาย…”

“ผู้สำเร็จราชการได้โปรดตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมิกล้าทำเช่นนั้นแน่พ่ะย่ะค่ะ!” เสนาบดีเมิ่งเบิกตาโพลงพลางก้มศีรษะแนบพื้น

แม้แต่ไทเฮาก็รีบเอ่ยปฏิเสธ “อาเหยี่ยนใส่ร้ายพี่เช่นนี้ได้อย่างไรกัน อาลี่แอบออกไปจากวังโดยพลการจนติดโรคระบาด พี่จึงมารักษาการแทน…”

“ตอนนี้ลูกหายดีแล้ว เชิญเสด็จแม่กลับไปพักผ่อนที่วังหลังเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

เสียงของมู่หรงลี่ดังมาจากนอกตำหนัก ไทเฮากำหมัดแน่น ขุนนางบางคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นรวบรวมความกล้าเงยหน้ามองไปทางต้นเสียง เขาเห็นเยว่สือและหวังจิ่วโจวประคองมู่หรงลี่ซึ่งใบหน้าซีดเซียวและร่างกายอ่อนแอเดินเข้ามาในตำหนัก เมื่อคิดได้ว่ามู่หรงลี่ติดโรคระบาดจึงตกใจจนทำสิ่งใดไม่ถูก เขามองซ้ายมองขวาเพื่อหาทางหลบหลีก ทว่า สุดท้ายก็ได้แต่ก้มหน้าลงและพยายามกลั้นหายใจไว้ให้นานที่สุด

ไทเฮากำหมัดแน่น นางมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนแวบหนึ่ง จากนั้นหันไปมองมู่หรงลี่ “อาลี่ เจ้ายังไม่หายดี เหตุใดจึงออกมาเช่นนี้”

“เราแค่เป็นหวัดเท่านั้น ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว เราไม่ได้ติดโรคระบาดแต่อย่างใด ทำให้เสด็จแม่ทรงเป็นกังวลแล้ว” มู่หรงลี่เดินไปหยุดอยู่ข้างกายเซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นโค้งกายทำความเคารพ “ท่านอาเก้า!”

“ยาในร่างกายของเจ้ายังไม่หมดฤทธิ์ ไม่จำเป็นต้องมากพิธี” เซียวหรงเหยี่ยนจงใจกล่าวออกมาว่ามู่หรงลี่ถูกวางยาโดยไม่ไว้หน้าไทเฮาแม้แต่นิดเดียว

มู่หรงลี่ได้ยินเซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเช่นนี้จึงเข้าใจความหมายของท่านอาเก้าในทันที เขากำหมัดที่แนบอยู่ข้างลำตัวแน่น เมื่อคิดได้ว่าท่านแม่ต้องการขังชาวบ้านต้าเยี่ยนไว้ในเมืองซึ่งอยู่ในเขตการปกครองของต้าโจวจนตายหลังจากวางยาเขา เมื่อนึกถึงชาวบ้านที่ร่วมทุกข์กับต้าเยี่ยนตอนที่ต้าเยี่ยนลำบากที่สุดจึงกล่าวออกมาอย่างตัดสินใจแน่วแน่ “วังหลังไม่ควรยุ่งเกี่ยวเรื่องการเมือง หวังจิ่วโจว เจ้าจงพาเสด็จแม่ไปส่งที่ตำหนักของนางด้วยตัวเอง ให้นางพักผ่อนให้เต็มที่ หากเสนาบดีเมิ่งยังไปรบกวนความสงบของเสด็จแม่อีก อย่าหาว่าเราไม่ไว้หน้า!”

คำกล่าวของมู่หรงลี่ทำให้เสนาบดีเมิ่งไม่มีทางรอดอีกแล้ว

เสนาบดีเมิ่งหลับตาลง เดิมทีก็คือการเดิมพันด้วยชีวิต เขาลงมือช้ากว่าผู้สำเร็จราชการ ไม่ได้มีกำลังคนและสายเลือดของราชวงศ์เหมือนผู้สำเร็จราชการ จะพ่ายแพ้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด

“อาลี่! อาลี่…” ไทเฮาเห็นกลุ่มของหวังจิ่วโจวกำลังเดินตรงมาทางนาง “บังอาจนัก! ข้าคือไทเฮาของแคว้นต้าเยี่ยน ผู้ใดกล้าแตะต้องข้า!”

“ไทเฮาโปรดระงับโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ” หวังจิ่วโจวยังคงยิ้มอย่างนอบน้อมเหมือนเคย “ฝ่าบาททรงเชิญไทเฮาเสด็จกลับไปพักผ่อนที่ตำหนักเพื่อตัวไทเฮาเอง พระองค์พระชนมายุมากแล้ว ควรพักผ่อนได้แล้ว เชิญไทเฮาเสด็จพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเป็นคนหยาบ หากกระหม่อมประคองไทเฮาเองอาจทำให้ไทเฮาเจ็บพระวรกายได้พ่ะย่ะค่ะ!”

ไทเฮาถอยหลังไปสองก้าว นางมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนอีกครั้ง “อาเหยี่ยน อาเหยี่ยน หวังจิ่วโจวคือคนรับใช้ของเจ้า เจ้าจะมองดูเขาล่วงเกินพี่เช่นนี้หรือ!”

เซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้ามองเสนาบดีเมิ่งราวกับไม่ได้ยินคำกล่าวของไทเฮาต้าเยี่ยน ชายหนุ่มกล่าวขึ้น “ได้ยินว่าเสนาบดีเมิ่งต้องการส่งบุตรสาวเข้ามาเป็นฮองเฮาของต้าเยี่ยน ปณิธานของเจ้าช่างยิ่งใหญ่นัก”

ไทเฮาได้ยินเช่นนี้สีหน้าจึงซีดเผือดลงทันที นางแทบทรงตัวไม่อยู่ นางนึกไม่ถึงเลยว่าเซียวหรงเหยี่ยนจะรู้แม้กระทั่งเรื่องนี้

“กระหม่อมมิกล้าพ่ะย่ะค่ะ” เสนาบดีเมิ่งรีบก้มศีรษะคำนับ เขากลัวจะทำให้บุตรสาวพลอยเดือดร้อนไปด้วย “กระหม่อมไม่เคยมีความคิดเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมรู้ตัวเองดี บุตรสาวของกระหม่อมจะคู่ควรกับฝ่าบาทได้เช่นไรพ่ะย่ะค่ะ ล้วนเป็นพระประสงค์ของไทเฮาทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับกระหม่อมแม้แต่น้อย ไทเฮา ไทเฮาได้โปรดอธิบายให้ผู้สำเร็จราชการเข้าพระทัยทีพ่ะย่ะค่ะ”

“หวังจิ่วโจวมัวทำอันใดอยู่ ยังไม่รีบส่งเสด็จแม่ไปพักผ่อนอีก!” มู่หรงลี่ตวาดขึ้นด้วยแววตานิ่งขรึม

ไม่ว่าอย่างไรไทเฮาของต้าเยี่ยนก็คือมารดาแท้ๆ ของเขา มู่หรงลี่เคยรับผิดเรื่องการแทงข้างหลังแคว้นพันธมิตรแทนมารดาของตัวเองมาแล้ว แม้มารดาของเขาจะร่วมมือกับเสนาบดีเมิ่งวางยาเขา ทว่า มู่หรงลี่ยังอยากไว้หน้ามารดาของตัวเองอยู่ เขาไม่อยากให้มารดาต้องอับอายไปมากกว่านี้

นี่คือความกตัญญูสูงสุดที่มู่หรงลี่สามารถมีให้มารดาของตัวเองได้แล้ว หลังจากนี้เขาจะส่งตัวมารดาไปจากวังหลวง จะไม่ให้นางกลับมาเหยียบวังหลวงแห่งนี้อีก เขาจะให้นางใช้ชีวิตที่เหลือในราชวังพักร้อน จะไม่พบหน้านางอีกตลอดชีวิต

หวังจิ่วโจวรับคำ

“เชิญไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ…” หวังจิ่วโจวกล่าวขึ้นอีกครั้ง เขาเอื้อมมือไปประคองร่างไทเฮา ไทเฮาพยายามสะบัดมือออก ทว่า แรงของหวังจิ่วโจวมากกว่านางมากนัก แขนของนางชาไปหมดทั้งแขน ไม่มีแรงแม้แต่จะกล่าวสิ่งใดออกมาอีก นางทำได้เพียงปล่อยให้หวังจิ่วโจวพานางออกไปจากตำหนัก

มู่หรงลี่หันไปมองท่านอาเก้าของตัวเอง จากนั้นโค้งคำนับขอขมาแล้วกล่าวขึ้น “หากท่านอาเก้ากลับมาไม่ทัน ต้าเยี่ยนคงเกิดหายนะครั้งใหญ่แน่ขอรับ! ท่านอาเก้าให้อาลี่จัดการเรื่องที่เหลือต่อเองเถิดขอรับ”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท