เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 1020 ตอบแทนให้เจ้าแล้ว

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 1020 ตอบแทนให้เจ้าแล้ว

ฉู่โหยวเจาถูกผลักออกไปไกลด้วยแรงที่มองไม่เห็นและอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด “นายหญิงของเจ้ากำลังทำอะไร ขังพี่เขยของข้าไว้ทำไม? จะล่อลวงเขาอย่างนั้นเหรอ?”

“ฮูหยิน? ล่อลวงพี่เขยของเจ้า?” คนขับชราโมโหจนแทบหัวเราะ ถ้าเขาจัดแถวชายทุกคนในเมืองหลวงที่อยากจะล่อลวงฮูหยิน แถวอาจจะยาววนไปรอบเมืองหลวงสามรอบ เริ่มต้นจากประตูวังนั่นเลย ใครควรกลัวใครล่อลวงกันแน่?

ขณะที่ด้านนอกวิวาทกัน หญิงงามที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของหญิงสาวที่โตแล้วกำลังเอนกายอยู่บนเบาะนุ่มด้านใน ดวงตาที่สุกสกาวเหมือนบรรจุไปด้วยดวงดาวมองดูผู้ชายที่ซบอยู่กับอกด้วยรอยยิ้มที่คลุมเครือ “เจ้าคิดจะนอนอยู่อย่างนี้อีกนานเท่าไร?”

ซูอันรู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก ข้าดูเป็นพวกชอบเอาเปรียบผู้หญิงหรือไม่? ปกติแล้วข้าอาศัยเสน่ห์ของตัวเองดึงดูดสาวงามให้มาหาด้วยความเต็มใจ!

แต่นี่มันอะไรกัน ผลักนางลงไปทันทีที่เข้ามา? นางคงคิดว่าข้าเป็นพวกวิปริต! นี่ข้ายังมีศักดิ์ศรีเหลืออยู่บ้างไหม?

อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าผลสะท้อนของ ‘คีย์บอร์ดจงมา!’ จะรุนแรงขนาดนี้

ก่อนหน้านี้เขาเคยใช้ ‘คีย์บอร์ดจงมา!’ เพื่อสร้างชุดเครื่องแบบทูตยุทธ์เสื้อแพรทองชุดใหม่ จึงทำใจไว้อยู่แล้วว่าต้องได้รับผลสะท้อนที่หนักหน่วง

แต่คราวนี้ เขาแค่ทำให้กางเกงของหานเฟิงชิวหลุดเท่านั้น ทำไมผลสะท้อนยังคงรุนแรงมาก?

จริง ๆ แล้วเขาคิดผิด กางเกงของผู้บ่มเพาะระดับเก้าที่ทรงพลังจะไม่มีวันหลุดโดยไม่มีเหตุผล ผู้บ่มเพาะในระดับเดียวกันจะสามารถใช้ความฟุ้งซ่านชั่วขณะนั้นเพื่อคร่าชีวิตของหานเฟิงชิวได้ ถึงแม้ว่าการกระทำที่ทำให้กางเกงของเขาหลุดลงมากองในเวลาไม่กี่นาที แต่ในความเป็นจริงมันเกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้บ่มเพาะขั้นจุดสูงสุดของระดับเก้า ผลสะท้อนดังกล่าวจะเป็นเรื่องเล็กได้อย่างไร?

ซูอันฝืนยิ้ม “เจ้าจะเชื่อไหม ถ้าข้าบอกว่าตัวเองหมดแรงจากการต่อสู้ในศึกครั้งใหญ่ และข้าไม่ได้พยายามเอาเปรียบเจ้า?”

เขาคิดว่าทำสำเร็จแล้ว แต่คำตอบที่ได้รับนั้นไม่คาดคิด “ข้าเชื่อ แม้เจ้าจะอายุน้อย แต่เจ้าสามารถต่อสู้กับผู้บ่มเพาะระดับแปดและคนที่อยู่ในระดับเก้าได้ มันน่าประทับใจที่เจ้ารอดมาได้ยาวนานขนาดนี้”

ซูอันไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน

ผู้หญิงคนนี้โง่หรือเปล่า? ทำไมถึงเชื่อข้าง่าย ๆ แบบนี้?

“ยังไม่ลุกอีกเหรอ?” น้ำเสียงที่ไม่อดทนของหญิงงามดังขึ้น

“ลุกแล้ว” ซูอันหัวเราะอย่างเชื่องช้าและลุกขึ้นนั่ง

เขาไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาอีกต่อไปแล้ว แต่ความรู้สึกที่นุ่มนวลอย่างน่าอัศจรรย์ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง

หญิงงามยืดตัวและจัดเสื้อผ้าหน้าผมของนาง

ในที่สุด ซูอันก็มีโอกาสได้มองหญิงงามดี ๆ ผิวและใบหน้าของดูเรียบเนียนไร้ที่ติ ผมสีดำขลับเป็นเงาขดอยู่เหนือศีรษะอย่างประณีต ทำให้ช่วงคอดูเรียวสง่างาม

มุกเรืองแสงถูกฝังอยู่ที่ด้านบนของรถม้า รัศมีอันนุ่มนวลเปล่งประกายตกกระทบแก้มของนาง ทำให้ทั่งทั้งใบหน้าอ่อนละมุนชวนฝันเหมือนถูกวาดด้วยฝีแปรงของจิตกร ยากที่จะบอกว่าใครสว่างและสวยกว่าระหว่างไข่มุกเรืองแสงหรือผู้หญิงคนนี้?

“เป็นเจ้านี่เอง!” ในที่สุดซูอันก็รู้ว่านี่คือใคร เขาทั้งตกใจและมีความสุข ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาคือหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง อวี้เหยียนลั่ว!

“แล้วเจอกันใหม่นะ… ” อวี้เหยียนลั่วยิ้มอย่างสวยงามราวกับดอกไม้บานสะพรั่ง

นางไม่แสดงความโกรธที่ก่อนหน้านี้ถูกดูหมิ่นและไม่มีร่องรอยความเขินอายของหญิงสาว ท่าทางของนางสงบราบเรียบและเป็นธรรมชาติ

“มันนานมากแล้ว ฮูหยิน แต่เจ้าก็ยังงดงามเหมือนครั้งสุดท้ายที่ข้าเห็นเจ้า” ซูอันถอนหายใจ “ข้าสงสัยว่าทำไมทายาทของราชันลมปราณจึงกลายเป็นคนเลอะเลือนไปในทันใด ฮูหยิน ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้ว”

อวี้เหยียนลั่วยิ้มบาง ๆ รับการสรรเสริญของเขา “การเติบโตของเจ้าช่างน่าประหลาดใจ ครั้งสุดท้ายที่ข้าพบเจ้า เหล่าวายร้ายค่ายเมฆาทมิฬกำลังทำให้เจ้าลำบาก แต่ตอนนี้เพียงผ่านไปสองสามเดือน เจ้ากลับต่อสู้กับผู้บ่มเพาะระดับเก้าได้แล้ว”

ซูอันหัวเราะ “จำได้ว่าเจ้าบอกข้าครั้งสุดท้ายว่าข้ายังมีเวลาอีกสองสามปีก่อนที่ข้าจะคู่ควรที่จะเป็นผู้ชายของเจ้า ตอนนี้เจ้าเห็นไหมว่าข้าเติบโตขึ้นขนาดไหน? ตอนนี้เจ้าเปลี่ยนความคิดไปแล้วหรือยัง?”

อวี้เหยียนลั่วหน้าแดง นางมองเขาอย่างตำหนิ “ข้าจะทำอย่างไรกับเจ้าดี…”

ซูอันต้องยอมรับว่าคนสวยน่ามองเสมอ แม้ว่านางกำลังโกรธก็ตาม แต่การอยู่ท่ามกลางสาวสวยทำให้ภูมิคุ้มกันความงามของเขาสูงลิบ เขาตั้งสติอย่างรวดเร็วและพูดอย่างไม่พอใจว่า “มันเป็นความผิดของเจ้าที่ลืมสัญญาในอดีตไปแล้ว!”

“ข้า ลืมสัญญาเหรอ?” อวี้เหยียนลั่วเหยียดฝ่ามือออก นิ้วของนางเรียวยาวเหมือนแกะสลักจากหยกเนื้อดี “คืนมันมาให้ข้า”

“คืนอะไร?” ซูอันตกตะลึง

“จี้หยกของข้า” อวี้เหยียนลั่วพ่นลม “ข้าไม่ต้องการให้เจ้าใช้มันเผยแพร่ข่าวลือไปทั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบอกว่ามันเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักแทนตัวที่มอบให้เพราะข้าตกหลุมรักเจ้า”

ไม่ว่าซูอันจะหน้าด้านแค่ไหน เขาก็ยังรู้สึกละอายอย่างยิ่งที่การอวดอ้างของเขาถูกเปิดเผย

อย่างไรก็ตาม เขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว และเป็นฝ่ายรุกต่อไป “เจ้าลืมหนี้จริง ๆ! ก่อนหน้านี้ข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้ และเจ้าให้จี้นี้มา โดยสัญญาว่าจะชดใช้ให้ข้า แต่ภายหลังข้าได้ไปที่คฤหาสน์ตระกูลอวี้ในเมืองจันทร์กระจ่าง ข้าก็ไม่เคยได้พบเจ้าอีก! แต่ตอนนี้ในที่สุดข้าก็ได้พบเจ้าอีกครั้ง ฮูหยิน เจ้าต้องการจี้คืนหรือไม่?”

อวี้เหยียนลั่วอธิบายตัวเอง “ในตอนนั้นมีเรื่องเกิดขึ้นในเมืองจันทร์กระจ่าง ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจากมา เป็นเหตุผลที่ข้าไม่มีโอกาสขอบคุณอย่างจริงจัง แต่หลังจากนั้น ข้าก็พบวิธีที่จะชดเชยให้เจ้าแล้ว”

ซูอันรู้สึกสับสน “เจ้าจะตอบแทนข้าแล้วเหรอ?”

ดวงตาของอวี้เหยียนลั่วส่องประกาย มุมปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม “เจ้าไม่สงสัยเหรอ? ว่าทำไมฝ่าบาทปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่?”

ในขณะเดียวกันในจวนราชันลมปราณ ราชันลมปราณยืนมองลูกชายที่ไหม้เกรียมด้วยสายฟ้า สีหน้าของเขามืดมนราวกับเมฆฝนฟ้าคะนอง “ใครกันที่ทำกับลูกข้าแบบนี้!?”

ทายาทของราชันลมปราณเปิดปากพูด เขาต้องการกอดบิดาและร่ำไห้ขอการล้างแค้น แต่ทันใดนั้น เขาจำคำสาบานที่ทำกับซูอันได้ เขาไม่สามารถขอให้บิดาช่วยได้

นอกจากนี้ ด้วยธรรมชาติของบิดา การร้องไห้คร่ำครวญอาจได้รับผลตรงกันข้าม

เมื่อหานเฟิงชิวเห็นจ้าวจื่อหยุดคำพูด เขาก็พูดขึ้นโดยไม่สนใจ “ซูอันเป็นคนทำ”

“ซูอัน?” ราชันลมปราณขมวดคิ้ว “ล้อเล่นเหรอ? การบ่มเพาะของมันอยู่แค่ระดับหกระดับเจ็ด จะมาทำร้ายเจ้าขนาดนี้ได้อย่างไร?”

ทายาทหนุ่มหน้าแดงไปหมดแล้ว เขารู้สึกงุนงงกับสิ่งนี้เช่นกัน ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็มีระดับการบ่มเพาะถึงระดับแปด ทำไมถึงไม่สามารถจัดการกับซูอันได้

หานเฟิงชิวเสนอคำอธิบาย “ทักษะการเคลื่อนไหวของเด็กคนนั้นค่อนข้างแปลก แม้แต่ข้ายังจับมันไม่ได้ นายน้อยย่อมเสียเปรียบแน่นอน”

“เจ้าจับมันไม่ได้เหรอ?” ราชันลมปราณรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินเรื่องนี้ หากไม่พูดถึงลูกชายของตัวเอง แต่เขาก็ยังคุ้นเคยกับความแข็งแกร่งของหานเฟิงชิวซึ่งมีความพร้อมทั้งในด้านการบ่มเพาะและประสบการณ์การต่อสู้ ถ้าแม้แต่หานเฟิงชิวยังจับซูอันไม่ได้ แล้วปีศาจแบบไหนจะทำได้?

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท