บทที่ 885 แก้แค้น (1)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

นคร​ตราชั่ง​

หลังจาก​นคร​ตราชั่ง​ขยับขยาย​ ก็​เหมือนกับ​นาฬิกา​จาน​กลม​ขนาด​ยักษ์​กลาง​ท้องฟ้า​ พื้นผิว​สีเทา​เรือง​แสงอ่อน​ โดยรอบ​มีดาวเคราะห์​เล็ก​จ้อย​หลาย​ดวง​ กำลัง​โคจร​รอบตัว​

เรือ​คุ้มกัน​เล็ก​ๆ ที่​กระจัดกระจาย​เหมือนกับ​แมลง​ บิน​วนเวียน​รอบ​ดาว​ดวง​เล็ก​เหล่านี้​

ฟ้าว​

ทันใดนั้น​ ลม​ไร้​รูปร่าง​หอบ​หนึ่ง​ได้​พัดผ่าน​แนว​ป้องกัน​ของ​เรือ​คุ้มกัน​อย่าง​เงียบงัน​ ลอย​เข้าสู่​นครหลวง​ของ​นคร​ตราชั่ง​อย่าง​ไร้​สุ้มเสียง​ แล้ว​พัด​ต่ำ​ลงพื้น​ กลายเป็น​มนุษย์​ใน​มุมหนึ่ง​ของตลาด​ขนาด​ยักษ์​สีเหลือง​

เค​ร้งๆๆ!​

เสียง​ตี​เหล็ก​ที่​มีจังหวะ​ลอย​มาจาก​สิ่งก่อสร้าง​รอบข้าง​

ลู่​เซิ่งกับ​คน​อีก​กลุ่ม​ปรากฏ​ตัวตรง​สุด​ตรอก​เล็ก​แคบ​เส้น​หนึ่ง​ มีไม่ถึงยี่สิบ​คน​ แม้ยาม​ยืน​ด้วยกัน​จะดู​เบียดเสียด​เล็กน้อย​ แต่​ไม่ได้​กระตุ้น​ให้​กลไก​ตรวจตรา​ของ​นคร​ตราชั่ง​เกิดปฏิกิริยา​ใดๆ​

“เอาล่ะ​ ที่นี่​คือ​นครหลวง​ของ​นคร​ตราชั่ง​” เขา​มอง​บัน​ไซที่อยู่​ด้าน​ข้าง​

“เชื่อมือ​ข้า​ได้​เลย​” บัน​ไซพยักหน้า​ ก้าว​ออกมา​พร้อมกับ​หยิบ​จาน​ค่าย​กล​ออกจาก​อก​เสื้อ​ แล้ว​เริ่ม​เจาะเครือข่าย​ตรวจตรา​ของ​ที่นี่​ อำพราง​การ​ระบุ​ตัว​พวกเขา​ผู้​มาจาก​ภายนอก​ชั่วคราว​

“ภายใน​หนึ่ง​นาที​ พวกเรา​จะกลายเป็น​ผู้อยู่อาศัย​ตามกฎหมาย​ของ​ที่นี่​” บัน​ไซเอ่ย​อย่าง​มั่นใจ​ เทียบ​กับ​ก่อนหน้า​ เขา​ใน​ตอนนี้​เติบโต​ขึ้น​มาก​เหลือเกิน​ โดย​เฉพาะตอน​อยู่​บน​ดาว​เงาพริบตา​ เขา​ที่​เป็นยอด​อัจฉริยะ​ไม่ทราบ​พัฒนา​ศาสตร์​อักขระ​ค่าย​กล​ของ​ตัวเอง​ถึงระดับ​ที่​อลังการ​ขนาด​ไหน​ ภายใต้​การ​สนับสนุน​สุดกำลัง​ของ​ลู่​เซิ่ง

การเจาะ​เครือข่าย​ตรวจตรา​ของ​นคร​ตราชั่ง​จาก​ภายใน​เป็น​แค่​เรื่อง​ง่ายดาย​ เพียง​ยกมือ​เท่านั้น​

“ถาวร​หรือไม่​” ทัวห​ลัน​ถามอย่าง​ฉงน​

“เอ่อ​…” บัน​ไซพลัน​สะอึก​ “ตอนนี้​ยัง​ทำ​ไม่ได้​”

“เอาล่ะ​ พวก​เจ้าไปหา​ที่อยู่​ก่อน​ ข้า​จำเป็นต้อง​อยู่​ที่นี่​สัก​สอง​สามวัน​เพื่อ​รับ​คน​บางส่วน​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​อย่าง​ราบเรียบ​

เมื่อ​มาถึงระดับ​ของ​เขา​ แค่​นคร​ตราชั่ง​เพียง​แห่ง​เดียว​ นอกจาก​เจ้านคร​ตราชั่ง​ระดับ​ผู้ปกครอง​แล้ว​ ขุม​กำลัง​แบบนี้​เป็น​เพียง​สถานที่​เล็ก​ๆ ที่​เขา​ทำลาย​ได้​ด้วย​การ​เป่าเพียง​ครั้ง​เดียว​เท่านั้น​

ความจริง​แล้ว​ สำหรับ​ผู้ปกครอง​อนธการ​ ขุม​กำลัง​แบบนี้​ส่วนใหญ่​ต่าง​สร้าง​ขึ้น​เพื่อให้​คนรุ่นหลัง​หรือ​ครอบครัว​ของ​ตัวเอง​ได้​ตั้งหลัก​และ​ใช้ชีวิต​อย่าง​สงบสุข​

มีเพียง​ส่วนน้อย​เท่านั้น​ที่​มีความคิด​ปรับปรุง​ เหตุผล​เพราะ​นึก​ถึงชีวิต​ที่​ตนเอง​เคย​คุ้นชิน​ใน​อดีต​ ก็​เลย​รักษา​จังหวะ​แบบ​เดิม​เอาไว้​

ผู้ปกครอง​ที่​มีสายตา​กว้างไกล​เหมือน​มารดา​แห่ง​ความเจ็บปวด​มีอยู่​ไม่มาก​

ลู่​เซิ่งเดิน​ออกจาก​ตรอก​ตามลำพัง​ ไม่สนใจ​คน​ที่อยู่​ด้านหลัง​ แม้นคร​ตราชั่ง​จะใหญ่​เท่า​ดาวเคราะห์​ดวง​หนึ่ง​ แต่​สถานที่​เล็ก​แบบนี้​เขา​สามารถ​ใช้จิตวิญญาณ​พิเคราะห์​ได้​ทั้งหมด​ใน​พริบตา​

บน​ถนน​นอก​ตรอก​เต็มไปด้วย​ลูกค้า​ต่าง​เผ่า​ที่มา​ซื้อ​เกราะ​และ​อาวุธ​

สอง​ฟาก​ข้าง​ของ​ถนน​คือ​ร้าน​ตี​เหล็ก​ขาย​อาวุธ​ ยุทโธปกรณ์​ และ​เกราะ​ป้องกัน​ แม้ร้าน​ตี​เหล็ก​ที่​รักษา​ความ​ดึกดำบรรพ์​ไว้​พวก​นี้​จะดู​เก่าแก่​ แต่​ความจริง​ต่าง​ใช้วิทยาการ​ระดับสูง​มากมาย​ใน​การหลอม​สร้าง​อาวุธ​ ประสิทธิภาพ​กับ​น้ำหนัก​จึงเหนือ​ธรรมดา​

ต่อให้​เป็น​ร้านค้า​เล็ก​ๆ ธรรมดา​ ก็​รับ​ราย​การสั่งซื้อ​อาวุธ​และ​ชุด​เกราะ​หลาย​พัน​หลาย​หมื่น​ของ​กองทัพ​ได้​

“ช่างขัดแย้ง​กัน​เสีย​จริง​…” ลู่​เซิ่งส่ายหน้า​เล็กน้อย​ ก่อน​จะหมุนตัว​เดิน​ไปยัง​จุดมุ่งหมาย​ที่​ใช้จิตวิญญาณ​พิเคราะห์​ถึง

ที่​เขา​ลง​จอด​ที่นี่​ เป็น​เพราะ​ที่นี่​อยู่​ใกล้​จุดหมาย​มาก​ที่สุด​

ตัด​ทะลุ​ถนน​เส้น​หนึ่ง​ ไม่นาน​เขา​ก็​ไปถึงหน้า​เหลา​สุรา​ที่​มีไม่กี่​ชั้น​แห่ง​หนึ่ง​

เหลา​สุรา​สี่ผันแปร​

ป้าย​ใหญ่​ตรง​ประตู​กะพริบ​แสงหลาก​สี มีคน​เข้าออก​อยู่​ไม่น้อย​

ลู่​เซิ่งสาวเท้า​เข้าไป​ด้านใน​ ทางเข้า​มีลิฟท์​อยู่​

ใน​ลิฟท์​มีคน​อยู่​สอง​คน​ เขา​ก้าว​เท้า​สอง​สามก้าว​ เข้าไป​เป็น​คน​สุดท้าย​ ก่อน​จะกด​ชั้น​สามใต้ดิน​

ติ๊ง…​

ไม่นาน​ลิฟท์​ก็​หยุด​ลง​ที่​ชั้น​สาม

ขณะ​ลู่​เซิ่งกำลังจะ​ออก​ไป อยู่​ๆ หญิงสาว​สวม​หมวก​กลม​ใบ​เล็ก​คน​หนึ่ง​ก็​พุ่ง​แซงเขา​ออก​ไปก่อน​

นาง​สวม​เสื้อแขนยาว​สีขาว​กับ​กระโปรง​สั้น​สีขาว​น้ำนม​ เผย​ให้​เห็น​ขาอ่อน​ขาว​เปล่งปลั่ง​ ผม​สีน้ำตาล​ส่าย​ไปมากลิ่น​น้ำหอม​ชั้นสูง​กระจาย​ฟุ้งออกมา​

แม้จะไม่ได้​เห็น​ใบหน้า​ แต่​แค่​มองดู​ทรวดทรง​องค์​เอว​ ก็​แยกแยะ​ได้​ว่า​นาง​จะต้อง​เป็น​หญิง​งามชั้นหนึ่ง​แน่​

แต่​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ พอ​ลู่​เซิ่งพิจารณา​หญิงสาว​นาง​นี้​เสร็จ​ กลับ​รู้สึก​คุ้น​พิกล​

เขา​สลัด​ความคิด​ทิ้ง​ แล้ว​เดิน​ออกจาก​ลิฟท์​

ชั้น​สามเป็น​โถงอาหาร​ที่​มีโต๊ะ​สี่เหลี่ยมผืนผ้า​วาง​ไว้​เต็มไปหมด​ โต๊ะ​ยา​วสี​ขาว​วาง​ห่าง​กัน​ช่วง​หนึ่ง​ เหมือนกับ​โรงอาหาร​ใน​โรงเรียน​เล็กน้อย​

ลูกค้า​ที่อยู่​บน​โต๊ะ​กำลัง​พูดคุย​หัวเราะ​คิกคัก​ พลาง​กิน​อาหาร​และ​ดื่ม​สุรา​ไปด้วย​

ลู่​เซิ่งเดิน​เข้าไป​ กวาดตา​ดู​ก็​เห็น​ชาย​ชรา​ถูจิน​กำลัง​ยกแก้ว​ดื่ม​คารวะ​คนอื่น​อยู่​ด้านหลัง​เยื้อง​ไปทางขวา​

ชาย​ชรา​ผู้​นี้​ดู​แก่​ลง​กว่า​เดิม​มาก​ ผม​กลายเป็น​ขาว​หงอก​หมด​แล้ว​ แต่​สีหน้าแดง​ปลั่ง​ รอยยิ้ม​ฉีก​กว้าง​ เหมือน​จะมีชีวิต​สะดวกสบาย​

คน​ที่นั่ง​บน​โต๊ะ​นั้น​มีบรรยากาศ​คึกคัก​ พูดคุย​กัน​อย่าง​คล้าย​สนุกสนาน​

ลู่​เซิ่งมอง​หญิงสาว​ที่​ออกจาก​ลิฟท์​คน​เมื่อ​ครู่​เดิน​เข้าไป​อย่าง​ประหลาดใจ​ ไม่นาน​ก็​หยุด​อยู่​ข้าง​ถูจิน​ ด้วย​ท่าทาง​ใกล้ชิด​กัน​

ตัว​เขา​ไม่ได้​รีบร้อน​ เดิน​ไปนั่งลง​ตรง​ตำแหน่ง​หนึ่ง​ไม่ไกล​มาก​นัก​ สั่งอาหาร​สำหรับ​คน​คนเดียว​มาก​ินอย่าง​ใจเย็น​ รอ​ให้​ทาง​นั้น​ทำ​อะไร​กัน​เสร็จ​ก่อน​

ผ่าน​ไปครึ่ง​ชั่วโมง​ ในที่สุด​ทาง​ถูจิน​ก็​ทำ​ธุระ​เสร็จ​ คน​รอบ​ๆ พา​กัน​แยกย้าย​

ถูจิน​คล้าย​กับ​ดื่ม​ไปมาก​ ให้​หญิงสาว​นาง​นั้น​ประคอง​ไปนั่ง​พักผ่อน​บน​เก้าอี้​ ส่วน​คน​เหล่านั้น​ชำระบัญชี​และ​บอกลา​

ลูกค้า​คนอื่นๆ​ ใน​โถงอาหาร​ต่าง​กินกัน​อิ่ม​แล้ว​ จึงเหลือ​คน​ประปราย​

พอ​เห็น​ว่า​ไม่มีคน​ ลู่​เซิ่งค่อย​ลุก​ไปหา​พวก​ถูจิน​

ถูจิน​ชรา​กำลัง​ดื่ม​จน​เมามาย​ได้ที่​ ลุกขึ้น​อย่าง​โงนเงน​ เสื้อคลุม​สีขาวนวล​เปื้อน​คราบ​น้ำมัน​กับ​สุรา​

หญิงสาว​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​กำลัง​เช็ด​สิ่งสกปรก​บน​ตัว​เขา​อย่าง​ตั้งใจ​

“อาจารย์​ถูจิน​ ไม่เจอกัน​นาน​” เสียง​ของ​ลู่​เซิ่งลอย​เข้าหู​ทั้งสอง​ ทั้งสอง​พลัน​ตกใจ​เงยหน้า​มอง​ขึ้น​มา

“เจ้าคือ​ใคร​…” ตอนแรก​ถูจิน​จำไม่ได้​ แต่​จากนั้น​ สอง​ตา​เขา​ก็​เบิก​โต​อย่าง​รวดเร็ว​ สร่าง​เมาขึ้น​ไม่น้อย​

“ลู่​เซิ่ง! เจ้ากลับมา​แล้ว​หรือ​!? ที่นี่​ไม่ใช่ที่​ที่​เจ้าควร​มา รีบ​หนี​เร็ว​! ใน​เมือง​ก่อนหน้านี้​มีใบประกาศ​เจ้ากระจาย​อยู่​ทั่ว​เลย​นะ​!”

“ไม่เป็นไร​ขอรับ​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​ตอบ​ด้วย​รอยยิ้ม​ จากนั้น​สายตา​ก็​จับจ้อง​อยู่​ที่​ร่าง​หญิงสาว​ผม​น้ำ​สีตาล​ใกล้​ๆ

“เจ้าคือ​…เซินเซิน​หรือ​”

หญิงสาว​หน้าตา​พริ้มพราย​ ร่าง​สูงโปร่ง​ ดู​ไม่ต่าง​จาก​ดรุณี​วัยแรกรุ่น​ใน​ช่วง​งดงาม​ที่สุด​เท่าไร​ เทียบ​กับ​หญิงสาว​อ้วน​ฉุก่อนหน้านี้​แล้ว​ เป็น​คนละ​คน​โดยสิ้นเชิง​

“พี่ใหญ่​เซิ่ง!” เซินเซิน​จำลู่​เซิ่งได้​ทันที​ พลัน​ก้าว​เข้ามา​โอบกอด​เขา​ด้วย​สีหน้า​ตื่นเต้น​ดีใจ​

นาง​เหมือน​จงใจใช้อก​อวบ​อิ่ม​เบียด​แผง​อก​ของ​ลู่​เซิ่ง

“เป็น​อย่างไร​ เยี่ยม​ไปเลย​ไหม​ ตอนนี้​ข้า​เป็น​สาวงาม​แล้ว​นะ​ หวั่นไหว​หรือไม่​”

ลู่​เซิ่งยื่นมือ​ไปลูบ​หัว​นาง​

“ใหญ่​ขนาด​นี้​ จ่าย​ไปเท่าไร​”

สีหน้า​เซินเซิน​แข็ง​ค้าง​

“ท่าน​นี่​มัน​น่าเบื่อ​จริงๆ​! ครั้ง​โน้น​ท่าน​พ่อ​จะให้​ข้า​แต่ง​กับ​ท่าน​อยู่เลย​ ดู​ท่าน​ตอนนี้​สิ ต้อง​ไม่มีใคร​ชอบ​แน่​”

ถูจิน​หัวเราะ​ไม่ออก​ร้องไห้​ไม่ได้​ รีบ​ฉุด​ดึง​บุตรี​ไป ก่อน​เหลียว​มอง​รอบ​ๆ และ​ส่งกระแสเสียง​ให้​ลู่​เซิ่งเบา​ๆ

“ตอนนี้​เจ้ากลับมา​ทำ​อะไร​ เจ้านคร​ตราชั่ง​ถูก​เจ้าล่วง​เกินไป​หนัก​มาก​ ตอนนั้น​ส่งคน​มาถามข้า​ ภายหลัง​ยัง​ประกาศ​จับ​เจ้าอยู่​กว่า​ครึ่ง​ค่อน​ปีจึงถอน​ประกาศ​!”

“ข้า​มารับ​พวก​ท่าน​ไปด้วยกัน​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​อย่าง​ราบเรียบ​ “ข้า​จะไปแล้ว​ ไปจาก​ระบบ​ดาว​แห่ง​นี้​”

“ไปหรือ​ ไปไหน​เล่า​” ถูจิน​อึ้ง​ไป ใน​ความรู้​ความเข้าใจ​ของ​เขา​ ระบบ​ดาว​แห่ง​นี้​คือ​โลก​ทั้ง​ใบ​ ไม่เคย​ได้ยิน​ถึงสถานที่​ที่อยู่​ไกล​กว่า​นี้​มาก่อน​ จึงไม่เข้าใจ​ แค่​เดินทาง​จาก​ปลาย​สุด​ไปอีก​ปลาย​สุด​ของ​ระบบ​ดาว​ อาจ​ต้อง​ใช้ทรัพย์สมบัติ​จำนวน​มหาศาล​ที่​เขา​เก็บหอมรอมริบ​มาชั่วชีวิต​ ยิ่ง​อย่า​ว่าแต่​ไปสถานที่​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป

ลู่​เซิ่งไม่ตอบ​ เพียง​ถอน​ใจเบา​ๆ

“เดิมที​ข้า​คิด​รับ​พวก​ท่าน​ไปด้วยกัน​ แต่​ดู​จาก​ตอนนี้​ พวก​ท่าน​มีชีวิต​ดีกว่า​ในจินตนาการ​ของ​ข้า​เยอะ​ทีเดียว​”

“อย่างนั้น​หรือ​” ถูจิน​กล่าว​อย่าง​สงสัย​ แต่​ส่วนลึก​ของ​ดวงตา​ฉายแวว​จนปัญญา​

“ช่างเถอะ​ ไม่พูด​เรื่อง​นี้​แล้ว​ ครั้งนี้​กลับมา​เจ้าอยู่​หลาย​ๆ วัน​หน่อย​สิ แม้จะอยู่​ใน​นครหลวง​ไม่ได้​ แต่​ที่อื่น​ยัง​พอได้​ พวกเรา​ไป… ”

“พอแล้ว​ขอรับ​อาจารย์​” ลู่​เซิ่งตัดบท​เขา​ “ข้า​เข้า​ใจความ​ลำบากใจ​ของ​พวก​ท่าน​ ดังนั้น​…” เขา​ยก​จอก​เปล่า​บน​โต๊ะ​ขึ้น​ แล้ว​ริน​สุรา​ให้​คน​ทั้งสอง​

“สัก​จอก​หรือไม่​ นี่​อาจ​เป็น​ครั้งสุดท้าย​ที่​พวกเรา​ได้​ดื่ม​สุรา​ด้วยกัน​แล้ว​”

ถูจิน​สีหน้า​แข็งทื่อ​ ปาก​ที่​บ่​นพ​ร่ำไป​เรื่อย​ก่อนหน้านี้​หยุด​ลง​ รอยยิ้ม​ค่อยๆ​ สลาย​จาก​ใบหน้า​ มอง​ลู่​เซิ่งอย่าง​อึ้ง​งัน​และ​ด้านชา​เล็กน้อย​

สุดท้าย​เขา​ก็​ถอนใจ​ยาว​ แล้ว​ยก​สุรา​ขึ้น​เงียบๆ​

ครั้งนี้​เซินเซิน​ค่อย​พบ​ว่า​ ลูกค้า​ใน​โถงอาหาร​รอบตัว​จากไป​หลาย​คน​แล้ว​ ใน​อากาศ​คล้าย​มีความรู้สึก​กดดัน​เข้มข้น​กระจาย​ตัว​อยู่​

บน​ถนน​ด้านนอก​ถึงขั้น​ไม่ได้ยิน​สรรพ​เสียง​ใดๆ​ ทั้งสิ้น​

นาง​หันไป​มอง​ที่​โต๊ะ​บาร์​ของ​เหลา​สุรา​ หลัง​บาร์​ไม่เห็น​ใคร​สัก​คน​

“เกิด​…เกิด​อะไร​ขึ้น​!?” เซินเซิน​เริ่ม​หวาดกลัว​ขึ้น​มาบ้าง​ ลางสังหรณ์​ไม่ดีแล้ว​

ลู่​เซิ่งยก​จอก​สุรา​ขึ้น​ชน​กับ​ถูจิน​เบา​ๆ

ติ๊ง​

จากนั้น​ทั้งสอง​ก็​เงยหน้า​ดื่ม​จน​หมด​

เพียงแต่​ถูจิน​ดื่ม​ช้ายิ่ง​

ลู่​เซิ่งดื่ม​เสร็จ​ก็​วาง​จอก​สุรา​ลง​บน​โต๊ะ​เบา​ๆ

“อย่างนั้น​ ลาก่อน​ อาจารย์​” เขา​หมุนตัว​เดิน​ไปยัง​ลิฟท์​

ถูจิน​อ้า​ปาก​ คิด​จะเรียก​เขา​ แต่​สุดท้าย​ก็​ไม่ได้​ทำ​

“ท่าน​พ่อ​!?” เซินเซิน​ค้นพบ​ความผิดปกติ​แล้ว​

“ไปเถอะ​ ที่นี่​ไม่ใช่เรื่อง​ของ​พวกเรา​แล้ว​” ถูจิน​ฉุด​ดึง​นาง​เร่งฝีเท้า​วิ่ง​ไปยัง​ลิฟท์​

ลู่​เซิ่งเดิน​ออกจาก​ลิฟท์​ ถนน​รอบข้าง​ไร้​ผู้คน​ เรือ​เหาะ​สีดำ​ทรง​สามเหลี่ยม​หลาย​ลำ​ ลอย​อยู่​กลางอากาศ​ ยิง​ม่าน​แสงสีเหลือง​อ่อน​ออกมา​เชื่อม​กัน​เพื่อ​ปิดผนึก​ที่นี่​

“เป็น​อย่าง​ที่​คิด​” ลู่​เซิ่งมอง​เหตุการณ์​ด้วย​สีหน้า​ไร้อารมณ์​

อาจารย์​ถูจิน​ทรยศ​เขา​แล้ว​

แต่​เขา​ไม่โทษ​อีก​ฝ่าย​ พวกเขา​มีพันธนาการ​ระหว่าง​กัน​น้อย​เกินไป​ ถูจิน​ได้​ละทิ้ง​ความสัมพันธ์​กับ​เขา​ เพื่อ​รักษา​พันธนาการ​และ​ความสัมพันธ์​กับ​คนอื่น​ ถือว่า​สมเหตุสมผล​ทั้ง​ยัง​เข้าใจ​ได้​

อย่างไร​เขา​ก็​เป็น​คนอื่น​สำหรับ​ชีวิต​ของ​ถูจิน​

เขา​มารบกวน​ความสงบ​ของ​พวก​ถูจิน​

ดังนั้น​เรื่อง​ที่​ถูจิน​ให้ความร่วมมือ​กับ​นคร​ตราชั่ง​ใน​การ​ล้อม​จับ​เขา​ จึงไม่ใช่เรื่อง​เหนือ​ความคาดหมาย​

ลู่​เซิ่งเงยหน้า​มอง​ม่าน​แสงสีเหลือง​อ่อน​กลาง​ท้องฟ้า​ ม่าน​แสงพวก​นี้​หนา​ขึ้น​อย่าง​ต่อเนื่อง​ อากาศยาน​หนา​หนัก​จำนวนมาก​กำลัง​ขนย้าย​หิน​หลาก​สีราวกับ​อัญมณี​เล็ก​ๆ ส่วนหนึ่ง​มาเป็นลำดับ​

พวกเขา​เท​หิน​พวก​นี้​ใส่โล่​ป้องกัน​ อัญมณี​หลาก​สีหลอม​รวม​หาย​เข้าไป​ใน​โล่​อย่าง​รวดเร็ว​

ความ​แข็งแกร่ง​ของ​โล่​เพิ่มขึ้น​หนึ่ง​เท่าตัว​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท