รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 1004 นรกสิบแปดขุมเปิดกว้าง พลังแกร่งกล้าที่สุดออกโรง!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 1004 นรกสิบแปดขุมเปิดกว้าง พลังแกร่งกล้าที่สุดออกโรง!

ทหารปรโลกก้าวข้ามอาณาจักรทั้งปวง เกลียวคลื่นในธารแห่งปริภูมิเวลาซัดสาดเผยให้เห็นไปทั่วทุกอาณาจักร ท้ายที่สุดมีศึกใหญ่สะท้านโลกันตร์ปะทุในส่วนลึกห้วงอวกาศ จะไม่ให้เอิกเกริกได้อย่างไร เอิกเกริกยิ่งนัก!

สำนึกแห่งโรคกำลังจับตาดูอยู่จริง ๆ ซ้ำยังมีอยู่ไม่น้อย

พวกมันแต่ละตนต่างดวงตาลุกวาว แทบทนไม่ไหวอยากบุกเข้าไปสังหารทั้งพวกสุนัขดำ ปริภูมิเวลา และปรโลกให้หมด

ทว่าสุดท้ายพวกเขาก็อดกลั้นไว้ได้

เอิกเกริกเช่นนี้ย่อมเป็นที่สนใจไม่น้อย พวกมันไม่กล้าผลีผลามด้วยกลัวจะเกิดเรื่อง ถึงอย่างไรผู้เบิกทางท่านนั้นก็ทิ้งการเตรียมการที่ใช้จัดการพวกมันไว้

ในตำหนักปริภูมิเวลาอันโอ่อ่า

สามมหากาฬแห่งปรโลกต่างมีสีหน้าอึมครึม หน้าตาไม่สู้ดี

พวกมันคิดไม่ถึงเลยว่า กำลังรบระดับล้ำขีดสิบกว่าตนออกโรงยังกำราบพวกสุนัขดำไม่ลง ไม่อาจบีบหลี่จิ่วเต้าให้ออกมาได้

เดิมพวกมันคิดว่ากำลังรบระดับล้ำขีดกว่าสิบตนออกโรงต้องไล่ต้อนหลี่จิ่วเต้าออกมาได้แน่!

“เปิดนรกสิบแปดขุม ส่งมังกรอัคนีนรกและวิหคเพลิงนรกออกโรง!”

มหากาฬปรโลกแสยะยิ้ม ไม่มียั้งมือ ตั้งใจทุ่มเทกำลังทั้งหมดที่มี!

มังกรอัคนีนรกและวิหคเพลิงนรกคือวิญญาณหยินล้ำขีดขั้นห้าสองตน เป็นสุดยอดวิญญาณหยินที่มหากาฬทั้งสามใช้วิญญาณหยินอันนับไม่ถ้วนและวิชาลับต่าง ๆ สร้างขึ้น

มันไม่เชื่อว่าหลังมังกรอัคนีนรกและวิหคเพลิงนรกออกโรงยังไม่อาจบีบหลี่จิ่วเต้าออกมาอีก!

ส่วนลึกในห้วงอวกาศ

สุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงดุดันเหลือล้น สังหารกำลังรบระดับล้ำขีดที่เหลือจนหมด

ทว่าพวกเขาไม่ทันได้พักหายใจก็สัมผัสได้ว่ามีภัยคุกคามอันใหญ่หลวงปรากฏ!

ตู้ม!

ส่วนลึกของห้วงอวกาศเดือดพล่าน เสียงระเบิดสยดสยองดังไม่หยุด หลุมดำปรากฏหลุมแล้วหลุมเล่า

นรกสิบแปดขุมโผล่ออกมาที่นี่

ภายในมีวิญญาณหยินนับไม่ถ้วนกำลังกรีดร้องครวญคราง ชวนขนลุกอย่างยิ่งยวด ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตที่ได้เห็นศึกนี้ชาไปทั้งหนังศีรษะกันถ้วนหน้า อกสั่นขวัญแขวนถึงขีดสุด!

กระทั่งสิ่งมีชีวิตอีกมากทนดูต่อไม่ได้

นรกสิบแปดขุมน่าประหวั่นพรั่นพรึงเกินไป พวกเขามองเพียงแวบเดียวยังกลายเป็นปมใหญ่ในใจ หทัยเต๋าแตกสลายอย่างรวดเร็ว!

ขืนมองต่อแม้เพียงเสี้ยวลมหายใจ หทัยเต๋าของพวกเขาก็จะรับไม่ไหวอีกต่อไป พังครืนไม่มีชิ้นดี!

ถึงคราวนั้น การฝึกฝนของพวกเขาจักต้องย่อยยับ!

สุดท้าย เหลือสิ่งมีชีวิตเหนือขอบเขตอิสระอีกเพียงน้อยนิดที่ชมต่ออย่างหวาดผวา

ทว่าพวกเขาไม่กล้าทอดมองนรกสิบแปดขุมโดยตรง เพียงแต่มองเลียบ ๆ เคียง ๆ จากด้านข้างเท่านั้น

นรกสิบแปดขุมเป็นพลังอันกล้าแกร่งที่สุดของปรโลก วิญญาณหยินในนี้ล้วนหาใช่วิญญาณหยินทั่วไป หากแต่เป็นสุดยอดวิญญาณหยินที่มหากาฬทั้งสามแห่งปรโลกสร้างขึ้นด้วยพลังจากวิญญาณหยินนับไม่ถ้วน!

ในนั้นไม่เพียงแต่มีมังกรอัคนีนรกและวิหคเพลิงนรกสองตัวเท่านั้นที่เป็นวิญญาณหยินระดับล้ำขีด แต่ยังมีวิญญาณหยินระดับล้ำขีดอีกจำนวนไม่น้อย

แน่นอนว่าวิญญาณหยินระดับล้ำขีดเหล่านี้ยังไม่ถึงล้ำขีดขั้นห้า อยู่ใต้กว่านั้น

“ฆ่า!”

มหากาฬใหญ่ปรโลกสายตาเย็นเยียบ เปิดนรกสิบแปดขุมออกกว้าง ปล่อยวิญญาณหยินทั้งหมดในนรกสิบแปดขุมออกมา

ชั่วพริบตานั้น ห้วงลึกอวกาศกลายเป็นนรกบนดิน วิญญาณหยินน่าสะพรึงพุ่งออกมานับไม่ถ้วน ภาพการณ์นั้นน่าหวาดหวั่นถึงขีดสุด!

มังกรอัคนีนรกและวิหคเพลิงนรกมีเรือนร่างมหึมายิ่งกว่าดารา เพลิงหยินโชติช่วงลุกโชนอยู่บนตัวพวกมัน ทั่วทั้งห้วงลึกอวกาศใกล้ละลายเต็มที!

พวกมันสองตัวบุกอยู่ข้างหน้าสุด วิญญาณหยินระดับล้ำขีดที่เหลือตามหลังติด ๆ มีตั้งแต่ขั้นหนึ่งถึงขั้นสี่ ซ้ำยังมีจำนวนไม่น้อย

พวกสุนัขดำเปลี่ยนสีหน้า

ปรโลกอันลึกลับที่สุดสยดสยองอย่างแท้จริง ไม่อาจสบประมาทได้เลย พลังที่มีนั้นน่ากลัวยิ่งนัก!

“นี่ยังใช่เหตุการณ์เล็ก ๆ อยู่อีกหรือ”

สุนัขดำพึมพำกับตนเอง นึกถึงคำกล่าวของลานเล็ก

ลานเล็กเคยเอ่ยว่านี่เป็นเพียงเหตุการณ์เล็ก ๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่

บัดนี้สุนัขดำอยากบอกลานเล็กเหลือเกินว่า พี่ท่าน นี่ไม่ใช่เหตุการณ์เล็ก ๆ แล้ว เหตุการณ์นี้ยิ่งใหญ่เหลือแสน!

อีกด้าน นักพรตอู๋เหลียงรีบเรียก ‘อัตประวัติโจรปล้นสุสาน’ ออกมา หมายจะให้นักพรตอัษฎสมบูรณ์รับศึก

“เจอคู่ต่อสู้ที่จัดการไม่ไหวอีกแล้วหรือ เอาเถิด เอาเถิด นักพรตเฒ่าผู้นี้จะฝืนใจคลี่คลายสถานการณ์ให้เจ้าอีกคราแล้วกัน!”

เสียงลำพองใจของนักพรตอัษฎสมบูรณ์ดังออกจาก ‘อัตประวัติโจรปล้นสุสาน’

พลันหนังสือโบราณพลิกหน้ากระดาษเอง พลังพิเศษไหลหลั่ง เงาร่างของนักพรตอัษฎสมบูรณ์ปรากฏออกมา

“บ้าเอ๊ย! ขบวนยิ่งใหญ่ปานนี้เชียว! เจ้าเด็กนี่พาข้ามาซวยชัด ๆ! ไม่ดีแล้วต้องหนี นักพรตเฒ่าผู้นี้ไม่เล่นด้วยแล้ว ไว้ค่อยพบกันใหม่วันหน้า!”

หลังนักพรตอัษฎสมบูรณ์เห็นวิญญาณหยินอันนับไม่ถ้วนที่พุ่งออกจากนรกสิบแปดขุมก็ตกตะลึงพรึงเพริด รีบมุดกลับไปในหนังสือโบราณเพื่อซ่อนตัว

“เจ้านี่ ปอดแหกจริง ๆ! เหตุใดเจ้าถึงไม่กล้าต่อสู้ให้รู้ดำรู้แดงไปเลยเล่า”

นักพรตอู๋เหลียงโมโหจนด่ากราด ใช้มือพลิกหนังสือโบราณหมายจะให้นักพรตอัษฎสมบูรณ์ออกมาช่วยพวกเขาต่อสู้

แต่ไม่ว่าเขาออกแรงพลิกหนังสือโบราณเพียงใดก็เปิดไม่ออก

“ปอดแหกอะไร แล้วยังเอ่ยย้ำว่า ‘จริง ๆ’ อีก! ขอทีเถิด นักพรตเฒ่าผู้นี้เป็นเพียงโจรปล้นสุสานเท่านั้น ทำการค้าด้วยการปล้นหลุมศพ ไม่ใช่จำพวกบ้าสงคราม! การต่อสู้ยิ่งใหญ่นี้ไม่เหมาะกับข้าจริง ๆ!”

นักพรตอัษฎสมบูรณ์ตะโกน

“ข้าเอง!”

สุนัขดำแย่งหนังสือโบราณมา เอ่ยเสียงเหี้ยมเกรียม “เจ้านักพรตเฒ่า ขืนยังไม่ออกมาข้าจะเผาหนังสือให้สิ้นซาก!”

“ตามใจเจ้า! หากเจ้าเผาหนังสือโบราณนี้ได้ข้าถือว่าเจ้ามีฝีมือ!”

นักพรตอัษฎสมบูรณ์เอ่ยด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

“เจ้าบีบให้ข้าทำเองนะ!”

สุนัขดำแยกเขี้ยว ตะโกนใส่หนังสือโบราณ “เจ้านักพรตทรงผมจมูกวัว รีบออกมาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสปัสสาวะของท่านสุนัข!”

“อย่า พี่สุนัข ข้าผิดไปแล้ว ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้!”

นักพรตอัษฎสมบูรณ์ตระหนก ขืนปล่อยให้สุนัขดำปัสสาวะจริง ๆ เขาได้เหม็นจนตายแน่!

“อ๊ากกก ข้าทำบาปทำกรรมอะไรไว้นักหนา! ถึงได้เสียท่าให้กับสุนัขดำ!”

เขาถลึงตาใส่สุนัขดำอย่างแค้นเคือง “คนเรา ไม่สิ สุนัขเราไม่ควรใจดำเกินไป!”

“เอาเถิด หยุดพล่ามไร้สาระเสียที! รีบเข้าไปรับศึกเสีย เจ้าตัวใหญ่ที่สุดสองตัวนั้นเป็นของเจ้า!”

สุนัขดำกล่าว

นักพรตอัษฎสมบูรณ์มองค้อนสุนัขดำอย่างโกรธขึ้ง ลงท้ายได้แต่รับศึกอย่างจนปัญญา ต่อสู้ดุเดือดกับมังกรอัคนีนรกและวิหคเพลิงนรก

“พี่สุนัข ที่เหลือพวกเราจัดการไหวหรือ น่ากลัวว่าไม่ได้กระมัง!”

นักพรตอู๋เหลียงเอ่ยกับสุนัขดำ “อย่าให้เขาจัดการแค่สองตัวสิ ให้เขารับหน้าวิญญาณหยินล้ำขีดขั้นสี่ด้วย!”

“ไอ้…หมอนี่!”

หลังนักพรตอัษฎสมบูรณ์ได้ยินวาจาของนักพรตอู๋เหลียงก็เกือบล้มหัวคะมำ

นักพรตอู๋เหลียงผู้นี้ชั่วร้ายได้พอ ๆ กับเขาเลย!

ให้เขาจัดการตัวใหญ่สองตัวยังไม่พอ นี่จะให้เขารับหน้าวิญญาณหยินล้ำขีดขั้นสี่ด้วย!

“ขออภัยที่ข้าต้องเรียนตามตรง ข้าทำไม่ได้จริง ๆ!”

เขารีบตะโกนบอก ไม่ต้องการรับหน้าวิญญาณหยินล้ำขีดขั้นสี่ด้วย

“ขออภัยที่ข้าต้องเรียนตามตรง เจ้าทำได้จริง ๆ!”

สุนัขดำตะโกนใส่ “ผู้มีความสามารถย่อมต้องเหนื่อยกว่าผู้อื่น ข้าเชื่อว่าเจ้าคือผู้มีความสามารถ พอเถิด อย่าถ่อมตนอีกเลย แสดงความไร้เทียมทานของเจ้าให้ประจักษ์ในศึกใหญ่นี้เลย!”

“เจ้าเชื่อกับผีน่ะสิ! ข้ายังไม่เชื่อตัวข้าเองเลย!”

นักพรตอัษฎสมบูรณ์ก่นด่า “นอกจากนี้ ความไร้เทียมทานของข้าหาได้เคยให้ประจักษ์ในศึกใหญ่ แต่ไหนแต่ไรแสดงให้เห็นผ่านการปล้นสุสานเสมอ!”

ทว่าด่าส่วนด่า แต่เขายังเข้ารับหน้าวิญญาณหยินล้ำขีดขั้นสี่ทั้งหมด

“ข้าช่างรันทดจริง ๆ ยามออกโรงไม่เคยมีเรื่องอื่น ต้องรับใช้พวกเจ้าทุกครั้งไป!”

นักพรตอัษฎสมบูรณ์สู้ไปตะโกนไป

เขารู้สึกว่าเขาช่างอนาถเหลือเกิน ยามออกโรงไม่เคยได้ทำอย่างอื่น ได้แต่เป็นแรงงานเท่านั้น!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท