บทที่ 1010 แนะนำตัวก็ดี ให้รางวัลเป็นน้ำมโนรถคนละถ้วย!
ตู้ม!
ต้นหลิวโจมตีออกมา กฎอันทรงพลังระเบิดออกมาจากหมัดอย่างไม่มีผู้ใดเทียบได้ มันสำแดงมวยไทเก๊กออกมา ทั้งแข็งและอ่อนของมวยไทเก๊กแผ่ปกคลุมทั่วจักรวาลดวงดารา น่าสะพรึงกลัวสะท้านฟ้า
กระทั่งลานเล็กในเมืองชิงซานยังประเมินต้นหลิวเอาไว้สูง
“มีศักยภาพในการฝึกฝนยิ่ง คนติดตามคุณชายส่วนใหญ่ล้วนพึ่งพาสมบัติคุณชายในการพัฒนา ทว่ามันแตกต่างออกไป พึ่งพาตนเองเสียส่วนใหญ่ คุณชายเพียงแค่ช่วยให้มันเติบโตเร็วยิ่งขึ้น”
ลานเล็กรำพึง “นี่เป็นต้นกล้าที่ดีต้นหนึ่ง วันข้างหน้าจะต้องกลายเป็นมือซ้ายมือขวาให้คุณชายได้ อีกไม่นานหลังจากสงครามที่แท้จริงปะทุขึ้น มันจะต้องทำให้ศัตรูเหล่านั้น ‘ประหลาดใจ’ ได้แน่!”
จากนั้นมันก็ไม่สนใจอีก มีต้นหลิวออกโรง สถาการณ์ย่อมมั่นคง ส่วนมันก็เริ่มฝึกฝนอีกครั้ง สงครามครั้งใหญ่ในวันข้างหน้า มันเองก็จะเข้าร่วมด้วย
“มาจากศิษย์พี่หญิงของคนผู้นั้นอีกแล้วหรือ?”
เอ้อปะทะกับต้นหลิวอย่างต่อเนื่อง ยิ่งสู้มากเท่าใดยิ่งตื่นตะลึง
วิชามวยนี้แปลกอย่างมาก สามารถยืมกำลังต้านกำลัง พลังที่มันโจมตีออกไปประหนึ่งตีลงอากาศ ไม่ได้ผลใด ส่วนหมัดที่ต้นหลิวชกออกมาล้วนน่ากลัวยิ่ง แต่ละหมัดสามารถสร้างความเสียหายให้มันได้อย่างร้ายแรง!
มันรู้สึกว่าวิชามวยนี้น่าจะเหมือนกับวิชากระบี่ก่อนหน้า ล้วนมาจากศิษย์พี่หญิงผู้นั้น
อย่างไรเสียวิชามวยนี้ก็คล้ายคลึงกับวิชากระบี่ก่อนหน้า มีความเชื่อมโยงบางอย่าง
ตู้ม!
เอ้อระเบิดสำแดงทุกมหาวิชาออกมา อิทธิฤทธิ์ไร้ผู้เทียบเคียง ทุกหนแห่งในส่วนลึกจักรวาลดวงดาราเกิดการสั่นสะเทือน บรรลุขึ้นไปยังขั้นสิบขอบเขตล้ำขีด แข็งแกร่งเกินกว่าจินตนาการได้ มันใช้ทุกสิ่งออกมาไม่มีเก็บออมเอาไว้อีก!
น่าเสียดายที่สุดท้ายมันยังไม่อาจทำสิ่งใดได้ ถูกต้นหลิวทุบตีจนกระอักเลือดออกมา มวยไทเก๊กสยบทุกมหาวิชา ต้นหลิวแสดงให้เห็นถึงความไร้เทียมทาน!
“เป็นอย่างนี้ได้เช่นไร?!”
เอ้อไม่อยากเชื่อ เหตุใดมันถึงอนาถเช่นนี้ เกินความคาดหมายของมันไปไกล
“เลือดจำนวนมากเพียงนี้ เจ้าไม่ดื่มหรือ?”
ต้นหลิวเอ่ยปาก “หากเจ้าไม่ดื่ม เช่นนั้นก็ทำลายให้สิ้นเถิด!”
มันลงมือทำลายเลือดเหล่านั้นทันที เอ้อเป็นสำนึกโรค เลือดย่อมต้องเป็นปัญหาใหญ่ ไม่อาจปล่อยทิ้งเอาไว้ได้
“ลงมือได้แล้ว! อย่าเอาแต่มองดู!”
เอ้อกู่ร้องออกมา ต้องการให้สำนึกโรคอื่นลงมือ มันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของต้นหลิว ถูกทุบตีจนสภาพดูไม่ได้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเกรงว่ามันจะต้องถูกต้นหลิวกำราบจนจบสิ้น
น่าเสียดาย มันไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด ไม่มีสำนึกโรคใดปรากฏออกมา
มีสำนึกโรคจำนวนมากให้ความสนใจที่แห่งนี้ ในหมู่สำนึกโรคเหล่านั้นมีผู้ที่เหนือกว่าเอ้อด้วย
ทว่าสำนึกโรคเหล่านั้นไม่ได้ลงมือแต่อย่างใด
โดยเฉพาะเหล่าสำนึกโรคที่พลังไม่ต่าง หรือด้อยกว่าเอ้อย่อมไม่มีทางปรากฏออกมา
หากออกมาจริง ๆ นั่นไม่ต่างกับการรนหาที่ตาย!
สุดท้ายหลังจากต้นหลิวลงมืออีกหลายครั้ง เอ้อก็ถูกทำให้สูญสลายหายไปโดยสิ้นเชิง
เจ้าก้อนหินแยกเขี้ยวเอ่ยออกมาด้วยความคับข้องใจ
มันตัวใหญ่กว่าต้นหลิว เคยได้รับคำชี้แนะจากผู้เบิกทาง ทว่ากลับไม่เคยไล่ตามต้นหลิวทันเลย
“เพราะข้าเป็นพี่ชายเจ้า”
ต้นหลิวพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้ามีภูมิหลังดีกว่าข้าก็จริง แต่อย่าได้ลืม ต่อหน้าคุณชายแล้ว ภูมิหลังไม่มีสิ่งใดน่าเอ่ยถึง ไม่อาจทำให้เจ้าได้เปรียบ”
เทียบเรื่องภูมิหลังแล้ว มันไม่ดีเท่าเจ้าก้อนหินจริง ๆ
ทว่าก็เป็นเช่นที่กล่าวไป หลังจากพบกับคุณชาย ไม่ว่าภูมิหลังจะเป็นเช่นใดล้วนไม่มีค่า คุณชายสามารถทำให้พวกมันเติบโตได้เท่าที่ต้องการ เริ่มต้นบนจุดที่สูงลิบลิ่วไม่ต่างกัน
“ไปเถิด”
มันกับเจ้าก้อนหินเอ่ยลาพวกเมิ่งจี ก่อนจะจากที่นี่กลับไปหาคุณชาย
ทว่าต้นหลิวและเจ้าก้อนหินไม่ได้สะกิดใจแม้แต่น้อย ไม่รับรู้ถึงลมหายใจอันลึกลับน่าสะพรึงกลัวที่ติดตามไปด้วยเลย
สำนึกโรคที่น่ากลัวกว่าเอ้อลงมือแล้ว!
ก่อนหน้านี้มันไม่ได้ลงมืออันใดกับต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน เนื่องจากไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น เป้าหมายของมันชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังต้นหลิวกับเจ้าก้อนหินอย่างหลี่จิ่วเต้า!
เห็นได้ชัดว่าต้นหลิวและเจ้าก้อนหินมาจากสถานที่ที่หลี่จิ่วเต้าอยู่ สิ่งที่มันจำเป็นต้องทำเพียงแค่ติดตามต้นหลิวกับเจ้าก้อนหินไปเท่านั้น
มันน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง กระทั่งต้นหลิวและเจ้าก้อนหินที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ยังถูกอำพรางจนไม่อาจจับได้
อีกด้านหนึ่ง สถานที่ที่ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินกำลังกลับไปหาคุณชาย
ขณะเดียวกันคุณชายยังไม่กลับมา
คุณชายออกไปเดินเล่นกับลั่วสุ่ย
สำนึกโรคที่น่ากลัวยิ่งกว่าเอ้อ นามว่าเอ้อเมิ่ง*[1]เห็นหลี่จิ่วเต้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ก็ไม่ได้รีบร้อนลงมือแต่อย่างใด
“พวกไร้สมอง เพียงแค่คิดก่อนลงมือ แค่นี้ก็ทำไม่เป็นหรือ?”
มันที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดคิดอย่างเหยียดหยาม ดูแคลนการกระทำของเอ้อเป็นอย่างมาก
ความโกลาหลครั้งใหญ่กำลังมา ทุกสรรพสิ่งจะตกอยู่ในความวุ่นวาย ไม่เพียงแค่สำนึกโรคทั้งหมดจะปรากฏตัวออกมา สิ่งที่คนผู้นั้นจัดเตรียมทิ้งไว้จะเผยออกมาทั้งหมดเช่นกัน
แม้ว่าตัวตนที่ทรงพลังน่าสะพรึงกลัวมากเช่นมันเอง ก็ยังไม่อาจมองเห็นสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างแจ่มแจ้ง ไร้หนทางล่วงรู้อย่างแม่นยำ
“ใช้กำลังทำลายทุกสิ่งโดยตรง ไฉนเลยจะง่ายดายปานนั้น หากง่ายเช่นนั้นจริง ทุกสิ่งคงถูกทำลายล้างสิ้นไปแล้ว!”
มันยิ้มหยัน แม้มันจะทรงพลังเพียงใดก็ยังคงมีความหวาดกลัว เช่นเดียวกับสำนึกโรคอื่น ๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่เลือกจะจำศีลหลับลึกลงไป
“ใช้สมองให้มากเข้า ดูอย่างข้า กำจัดเหล่าศิษย์จำนวนมากได้อย่างง่ายดาย มีกระทั่งศิษย์ในห้าอันดับแรกด้วย”
ก่อนที่มันจะจำศีล เคยสังหารศิษย์ไปจำนวนมากและมีศิษย์ในห้าอันดับแรกอีกด้วย
วิธีการของมันแตกต่างจากเอ้ออย่างสิ้นเชิง
เอ้อเป็นพวกออกมาสู้ซึ่งหน้า ใช้พลังสังหารโดยตรง แก้ปัญหาด้วยกำลัง แต่มันไม่เหมือนเอ้อ ไม่ว่าศัตรูจะอ่อนแอเพียงใด มันก็ไม่เคยกระทำการเช่นนั้นมาก่อน
มันไม่เคยใช้กำลังในการแก้ปัญหา ทว่าใช้กลยุทธ์แผนการแทน
อย่างเช่น…พิษ!
มันต้องสิ้นเปลืองความคิดความพยายามอย่างมาก เพื่อหล่อหลอมควบแน่นออกมาเป็นพิษชนิดหนึ่งที่มันเรียกว่า ‘น้ำมโนรถ’
เมื่อดื่มน้ำมโนรถเข้าไป ญาณสัมผัสทุกด้านจะถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว ตกลงสู่ห้วง ‘ฝันหวาน’
สิ่งที่เรียกว่าฝันหวานนั้นหาได้สวยงามแม้แต่น้อย หลังจากดื่มน้ำมโนรถไปแล้ว สิ่งที่หวาดกลัวสุดในหัวใจจะถูกจุดขึ้นมา ปรากฏขึ้นในความฝัน สุดท้ายแล้วก็จะจมลงสู่ความทรมาน ค่อย ๆ ตายลงอย่างช้า ๆ
น้ำมโนรถของมันไม่เคยล้มเหลว ไม่มีข้อยกเว้นใด ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตที่ดื่มไปจะแข็งแกร่งเพียงใด รวมกระทั่งศิษย์ห้าอันดับแรกที่ทะลุผ่านขั้นสิบขอบเขตล้ำขีด ก้าวไปสู้ขั้นที่สิบเอ็ดยังไม่อาจต้านทานหลังจากถูกหลอกให้ดื่มลงไป!
ครั้งนี้มันเองก็วางแผนจะใช้น้ำมโนรถกับหลี่จิ่วเต้าเช่นกัน
มันยังคงสงบนิ่ง ตั้งใจรับฟังบทสนทนาของเจ้าต้นหลิวและเจ้าก้อนหินเพื่อให้ได้ข้อมูลที่มากเพียงพอ
สุดท้ายมันก็ได้รู้ถึงความเคลื่อนไหวของหลี่จิ่วเต้า
หลี่จิ่วเต้ากับลั่วสุ่ยกำลังเดินชมทิวทัศน์ที่ภูเขาใกล้เคียง
ทันใดนั้นมันบังเกิดแผนการขึ้นในใจ
“ต้องลงมือแล้ว!”
มันเริ่มเคลื่อนไหว แปลงสภาพร่างเป็นหญิงงาม เก็บซ่อนลมหายใจทั้งหมดเท่าที่มันทำได้ สุดท้ายก็ทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ แกล้งปลอมเป็นเด็กสาวน่าสงสารที่ถูกไล่ล่าสังหาร
เด็กสาวที่ถูกไล่ล่าสังหารนั้นสามารถกระตุ้นความเห็นอกเห็นใจได้ง่ายสุด สาเหตุหลักเป็นเพราะมันรู้จากบทสนทนาของพวกต้นหลิว ก่อนหน้านี้ไม่นานหลี่จิ่วได้ช่วยเหลือเด็กสาวผู้หนึ่งเอาไว้ จากนั้นก็ปล่อยให้นางอยู่ข้างกาย
ใช่แล้ว เด็กสาวคนนั้นคือเฟิ่งหลวน
มันคิดจะทำเช่นเดียวกัน เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากหลี่จิ่วเต้า หลังจากนั้นก็ใช้โอกาสนี้วางยาพิษให้หลี่จิ่วเต้าดื่มน้ำมโนรถ
เสร็จแล้วมันถึงแยกลมหายใจออกมา ควบแน่นกลายเป็นสัตว์ประหลาดน่าเกลียดน่ากลัว
เพื่อให้ไม่เป็นเพียงลมปาก มีสัตว์ประหลาดเช่นนี้ไล่ตามสังหารมันจะทำให้หลี่จิ่วเต้าเชื่อใจมันมากยิ่งขึ้น
มันระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ตรวจสอบครั้งแล้วครั้งเล่า หลังจากยืนยันว่าจะไม่เกิดเรื่องนอกเหนือความคาดหมายแล้ว สุดท้ายก็เริ่มลงมือ
“ช…ช่วยด้วย!”
มันวิ่งไปยังภูเขาที่หลี่จิ่วเต้าอยู่ ร้องขอความช่วยเหลือไปพลางวิ่งหนีไป
ขณะเดียวกันมุมปากก็มีเลือดไหลออกมา ทิ้งรอยเท้าเปื้อนเลือดเอาไว้ตลอดทาง
แสดงอย่างเต็มที่ บาดแผลเต็มไปหมดทั่วร่าง เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ผมเผ้ายุ่งเหยิง ลมหายใจอ่อนแอ ประหนึ่งล้มลงไปบนพื้นได้ทุกเมื่อ เหมือนคนถูกไล่ฆ่า ไม่มีส่วนแตกต่าง
ครั้นวิ่งไปถึงภูเขา หลี่จิ่วเต้าที่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือก็รีบวิ่งตรงเข้าไปหาพร้อมลั่วสุ่ย
‘แผนประสบความสำเร็จ ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!’
มันหัวเราะอยู่ในใจ แผนการที่วางไว้เป็นไปด้วยดี
เสียงตุบดังขึ้นมันจงใจล้มลงบนพื้น เอ่ยออกมาอย่างติด ๆ ขัด ๆ “ชะ…ช่วยข้าด้วย ข้าถูกสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งตามล่า…”
ระหว่างที่พูดก็กระอักเลือดออกจากปาก แสร้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บสาหัส
“ไม่มีปัญหาอย่างใด!”
หลี่จิ่วเต้าไม่ติดใจสงสัย รีบช่วยพยุงเด็กสาวให้ลุกขึ้น
มิหนำซ้ำ ชายหนุ่มยังหยิบผลไม้ออกมาลูกหนึ่งส่งให้เด็กสาว “ไม่ต้องกังวล พวกข้าจะช่วยเอง เจ้ากินผลไม้นี้ก่อนเถิด มันจะช่วยให้เจ้าหายจากอาการบาดเจ็บ”
นี่ไม่ใช่ผลไม้ธรรมดา แต่เป็นผลไม้ที่เขาปลูกขึ้นมาจากดินโกลาหล
ดินโกลาหลเป็นสมบัติล้ำค้าอย่างถึงที่สุดที่เขาได้รับมาจากบรรพจารย์ฝู ผลไม้ทั้งหมดที่เติบโตขึ้นมาจากดินโกลาหลล้วนเป็นผลไม้วิญญาณ ประสิทธิภาพขึ้นสูงสุด มีผลประโยชน์มหาศาลต่อผู้ฝึกตน
ติดกับแล้ว!
มันไม่ได้ถูกเปิดเผย หลี่จิ่วเต้ามองตัวตนที่แท้จริงของมันไม่ออก!
เด็กสาวหรือคือเอ้อเมิ่งคิดขึ้นมาในใจ
มันมองออกว่าผลไม้ที่หลี่จิ่วเต้ามอบให้นั้นพิเศษเหนือชั้นน่าตื่นตะลึงเพียงใด หากอีกฝ่ายรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของมัน ย่อมไม่มีทางมอบผลไม้นี้ให้มันอย่างแน่นอน
สิ่งนี้ทำให้มันโล่งใจขึ้นมา
อย่างไรเสียเมื่อพิจารณาจากสิ่งต่าง ๆ แล้ว หลี่จิ่วเต้าจะต้องไม่ธรรมดาและแข็งแกร่งมากอย่างไม่ต้องสงสัย!
ก่อนหน้านี้ไม่มั่นใจ
แต่ตอนนี้มีความมั่นใจแล้ว
หลี่จิ่วเต้าไม่ได้แข็งแกร่งมากเพียงนั้น ดังนั้นเขายังคงสามารถควบคุมได้
หากหลี่จิ่วเต้าแข็งแกร่งเพียงพอ คงต้องค้นพบตัวตนของมัน ไม่อาจถูกมันควบคุมได้
“ขอบพระคุณ…”
เอ้อเมิ่งรับผลไม้มากัดเข้าปาก ก่อนเอ่ยขอบคุณหลี่จิ่วเต้า
หลังจากกินผลไม้แล้ว มันก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าตัวตนของมันยังไม่ถูกเปิดเผย ผลไม้นี้พิเศษเหนือล้ำยิ่งกว่าที่มันจินตนาการเอาไว้!
หลังจากกินไปหนึ่งคำ ก็สัมผัสถึงผลประโยชน์ที่ได้รับ พลังภายในร่างพุ่งขึ้นสูงทันที!
นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปหน่อยแล้ว มันแข็งแกร่งมากเพียงใด ไฉนจึงยังได้รับผลประโยชน์มากมหาศาลเพียงนี้ พลังในร่างกายถึงกับพุ่งสูงขึ้นทันที!
หลังจากที่มันกินผลไม้ ความแข็งแกร่งของมันก็พุ่งขึ้นสูงเล็กน้อยทันที แม้จะไม่ได้ก้าวกระโดด เพิ่มขึ้นอย่างจำกัด แต่ก็นับว่ามอบผลประโยชน์มหาศาลให้กับมัน
หากมันถูกค้นพบ หลี่จิ่วเต้าจะมอบผลไม้พิเศษเช่นนี้ให้กับมันได้อย่างไร?
ไม่มีทาง!
หากหลี่จิ่วเต้าค้นพบ เกรงว่าจะมอบผลไม้พิษให้มันเสียมากกว่า!
โฮก!
ขณะนั้นเองเสียงคำรามชวนสะท้านขวัญก็ดังออกมาประหนึ่งผีกำลังโหยหวนสุดชีวิต สัตว์ประหลาดที่เอ้อเมิ่งจัดเตรียมไว้พุ่งตรงเข้ามา
“ช่วงนี้พบสิ่งมีชีวิตน่าเกลียดเช่นนี้ไม่น้อย…”
หลี่จิ่วเต้าเลิกคิ้วขึ้น
“คุณชายให้ข้าลงมือเถิด”
ลั่วสุ่ยเคลื่อนไหว กางฝ่ามือออกไป สายฟ้าสว่างวาบ เกิดเป็นลำแสงพุ่งตรงเข้าไปเจาะหัวสัตว์ประหลาดตนนั้นในพริบตา
“ขอบพระคุณ ขอบพระคุณ! นี่คือสัตว์ประหลาดที่ไล่ตามข้ามา!”
เอ้อเมิ่งในร่างเด็กสาวขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า แสดงท่าทางจริงใจยิ่งออกมา
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยว่า “ยิ่งไปกว่านั้นคนธรรมดามีจิตสำนึก ไฉนจะเพิกเฉยต่อความตายไม่ช่วยเหลือ”
“ถึงจะกล่าวเช่นนั้น แต่คนส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนใจร้ายไร้คุณธรรม เห็นแก่ตัวยิ่ง เกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมา จึงไม่ยอมลงมือช่วยเหลือ”
เอ้อเมิ่งในร่างเด็กสาวพยักหน้า
หลังจากนั้นก็มองไปทางหลี่จิ่วเต้าด้วยแววตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง “มีคนเช่นท่านเพียงไม่กี่คนที่ลงมือช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ลังเล!”
อีกด้านหนึ่ง ลั่วสุ่ยกำลังมองเด็กสาวเอ้อเมิ่งด้วยความรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องภายในใจ
นางบอกไม่ถูกว่าที่ใดไม่ถูกต้อง จึงใช้ญาณสัมผัสตรวจสอบดูเด็กสาวอีกหลายครั้ง ทว่ากลับไม่มีอันใดแปลกประหลาด ปกติอย่างมาก
แต่ถึงกระนั้น นางยังคงรู้สึกว่ามีบางสิ่งไม่ถูกต้อง
หลี่จิ่วเต้าไม่ได้คิดสิ่งใดมากมาย เอ่ยกับเด็กสาวว่า “หากไม่รังเกียจ เจ้าจะตามพวกเขากลับไปยังรถม้าแล้วพักผ่อนก่อนก็ได้”
“ได้หรือ?”
เอ้อเมิ่งในร่างเด็กสาวตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
นี่ไม่ใช่การแสร้งตื่นเต้น แต่มันตื่นเต้นจริง ๆ
เหตุเป็นเพราะแผนการของมันราบรื่นมาก ได้รับความไว้วางใจไม่น้อยจากหลี่จิ่วเต้า ต่อจากนี้ก็เพียงหาโอกาสให้หลี่จิ่วเต้าได้ดื่มน้ำมโนรถ
“ย่อมได้แน่นอน!”
ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม “ไปเถิด ข้าจะพาเจ้าไป”
ทั้งสองเดินนำหน้า พาเด็กสาวไปยังรถม้า
ระหว่างนี้ภายในใจลั่วสุ่ยยังคงรู้สึกว่ามีบางสิ่งไม่ถูกต้อง อดไม่ได้ที่จะกล่าวเตือนคุณชาย
ทว่าหลังจากนั้นนางก็ยั้งปากไม่พูดสิ่งใดออกมา
คุณชายแข็งแกร่งมาก จะมีสิ่งใดสามารถปิดบังคุณชายได้กัน?
ขนาดนางยังสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เช่นนั้นคุณชายจะไม่รับรู้ถึงเรื่องนี้ได้อย่างไร?
เป็นเช่นนั้นไปได้อย่างไร!
หากเด็กสาวผู้นี้มีปัญหาจริง ๆ คุณชายจะต้องรู้เรื่องนี้โดยที่นางไม่จำเป็นต้องเตือนเลย
พวกเขากลับไปถึงรถม้าอย่างรวดเร็ว
หลี่จิ่วเต้าแนะนำเด็กสาวให้กับพวกต้นหลิว เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
“ใช่แล้ว ยังไม่รู้ชื่อของเจ้าเลย”
หลี่จิ่วเต้าถามเด็กสาว
“ข้าชื่อซิงเมิ่ง”
เอ้อเมิ่งในร่างเด็กสาวตอบกลับ
“เช่นนั้นให้ข้าแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ข้าชื่อหลี่จิ่วเต้า”
หลี่จิ่วเต้ากล่าวกับเด็กสาวด้วยรอยยิ้ม
ลั่วสุ่ย เซี่ยเหยียน และพวกต้นหลิวเองก็แนะนำตัวกับเด็กสาว
ไม่มีผู้ใดตระหนักได้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเด็กสาว กระทั่งต้นหลิวเองก็ด้วย
เด็กสาวหัวเราะเสียงดังอยู่ในใจ ‘ดี แนะนำตัวออกมาได้ก็ดี ข้าจะให้รางวัลพวกเจ้าเป็นน้ำมโนรถหนึ่งคนหนึ่งถ้วย ทำให้พวกเจ้าทั้งหมดมีฝันอันดี!’
มันมาที่นี่ไม่เพียงแต่จะสังหารหลี่จิ่วเต้าคนเดียวเท่านั้น ทุกคนที่นี่มันก็จะไม่ปล่อยออกไปแม้สักคน
‘ตัวตนของข้าไม่ถูกเปิดเผย หมายความว่าน้ำมโนรถเองก็ไม่ถูกค้นพบเช่นกัน…’
มันมั่นใจมากว่าแผนการนี้จะสำเร็จ
อย่างไรเสียหลี่จิ่วเต้าก็มองตัวตนที่แท้จริงของมันไม่ออก ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่จะค้นพบน้ำมโนรถ
น้ำมโนรถหลอมพัฒนาจากความทุ่มเทมหาศาลของมัน ทรงประสิทธิภาพอย่างยิ่ง!
[1] เอ้อเมิ่ง (噩梦) แปลว่า ฝันร้าย