บทที่ 888 ศึกจริง (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

“กระโดด​ข้าม​มิติ​หรือ​?!” ลู่​เซิ่งหนังตา​กระตุก​ ทราบ​ว่า​นี่​เป็นการ​ฟัน​ข้าม​มิติ​ เกิดขึ้น​เพราะ​มิติ​ฉีกขาด​จาก​การ​ที่​พลัง​แข็งแกร่ง​เกินไป​

เขา​รีบ​หุบ​อัคคี​อนธการ​ทั่ว​ร่าง​ จากนั้น​ก็​ระเบิด​ออก​ไป

ตูม​!

อัคคี​อนธ​การระเบิด​ออก​ไปโดย​มีเขา​เป็น​ศูนย์กลาง​ มิติ​โดยรอบ​พลัน​ปั่นป่วน​

รอย​ดาบ​เก้า​สาย​ที่​เพิ่งจะ​หาย​ไปถูก​รบกวน​ ไปปรากฏ​ขึ้น​ห่าง​จากลู่​เซิ่งไปมากกว่า​พัน​หมี่​

สำหรับ​ผู้​เข้มแข็ง​อนธการ​ ระยะห่าง​พัน​หมี่​เท่ากับ​เพียง​ดีดนิ้ว​เดียว​

ลู่​เซิ่งหลบ​ไม่ทัน​ ถูก​ประกาย​ดาบ​สาย​แรก​ฟัน​ใส่ทรวงอก​

พรึ่บ​!

คม​ดาบ​สีทองขาว​เหมือน​ทะลุ​ร่าง​ล่องหน​ หาย​เข้าไป​ใน​ตัว​ลู่​เซิ่ง แต่กลับ​ไม่ทิ้ง​บาดแผล​ใดๆ​ ไว้​

แต่​ยาม​นี้​ลู่​เซิ่งกลับ​หยุดนิ่ง​ไปทั้ง​ร่างกาย​และ​จิตวิญญาณ​ ไม่อาจ​ขยับเขยื้อน​ได้​

ถัด​จากนั้น​ตามมา​ด้วย​สาย​ที่สอง​ สาย​ที่สาม​ สาย​ที่สี่​…

จนกระทั่ง​ถึงสาย​ที่​เก้า​

ประกาย​ดาบ​เก้า​สาย​ฟัน​เข้าไป​ใน​ร่าง​ลู่​เซิ่ง

เขา​ขยับเขยื้อน​ไม่ได้​

หลาย​วินาที​ต่อมา​

ตูม​!

ร่าง​ลู่​เซิ่งระเบิด​ กลายเป็น​เปลวเพลิง​สีทอง​นับไม่ถ้วน​พุ่ง​ออก​ไป

ทุกสิ่งทุกอย่าง​ของ​เขา​ ร่างกาย​และ​จิตวิญญาณ​ ทุกๆ​ อย่าง​ ถูก​ทำลาย​หมดสิ้น​

ผ่าน​ไปเกือบ​สอง​สามนาที​

เปลวเพลิง​สีทอง​นับไม่ถ้วน​กลาง​อวกาศ​รวมตัว​เป็น​กลุ่ม​อย่าง​รวดเร็ว​ ทะเลเพลิง​หดตัว​ลง​ รวมกัน​เป็น​ร่าง​ของ​จงอวิ๋น​

นี่​คือ​บัณฑิต​ดู​ทรง​ภูมิวัยกลางคน​ เขา​สวม​เสื้อคลุม​สีขาว​ บน​ใบหน้า​มีลวดลาย​สีทอง​ เพียงแต่​สีหน้า​เขา​ใน​ตอนนี้​ดู​ไม่ดี​ยิ่ง​

แค่​กๆๆ…​

เขา​เอา​มือ​ปิดปาก​ เลือด​สีทอง​สาย​หนึ่ง​ไหล​ออก​มาจาก​ร่อง​นิ้ว​อย่าง​เงียบเชียบ​

“เหอะ​ๆ…เป็น​แค่​คนรุ่นหลัง​…ถึงกับ​กล้า​ดูถูก​ข้า​…ราคา​ของ​การ​ดูถูก​ข้า​คือ​ความตาย​!” เขา​มอง​ร่าง​ลู่​เซิ่งที่​กระจัดกระจาย​หาย​ไป อด​หัวเราะ​เสียง​แผ่วเบา​ไม่ได้​

เพราะ​ไม่ทัน​ได้​ตั้งตัว​ ต่อให้​เป็น​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​ เมื่อ​โดน​ท่า​ไม้ตาย​ที่​ส่งผล​ต่อ​จิตวิญญาณ​นี้​ไป ก็​มีแต่​ต้อง​ตาย​เท่านั้น​

“ผู้ปกครอง​จันทรา​แดง​ เห็น​หรือยัง​ นี่​คือ​จุดจบ​ของ​อัจฉริยะ​ เด็กน้อย​ที่​ไร้​ศักยภาพ​ ถึงกับ​กล้า​เอา​พลัง​ฝึกปรือ​แค่​ไม่กี่​ร้อย​ปีมาเทียบเคียง​กับ​ข้า​หรือ​ น่าขัน​โดยแท้​!”

ผู้ปกครอง​จันทรา​แดง​มอง​เขา​ด้วย​สีหน้า​ไร้อารมณ์​ ไม่พูด​อะไร​สัก​คำ​ ดวงตา​ฉายแวว​เวทนา​

“เจ้า…เจ้ากำลัง​มอง​อะไร​ เหตุใด​ เหตุใด​จึงมอง​ข้า​เช่นนี้​!?” จงอวิ๋น​ถอยหลัง​ไปสอง​ก้าว​ เหลียว​มอง​รอบ​ๆ ศพ​ของ​ลู่​เซิ่งถูก​เผา​เป็นจุณ​ ไม่เหลือ​แม้แต่​เศษธุลี​แล้ว​

ใน​เมื่อ​ไม่มีคู่ต่อสู้​เหลือ​ แล้ว​นาง​มอง​อะไร​ สายตา​แบบ​นั้น​หมายความว่า​อะไร​

เขา​รู้สึก​คัน​ยุบยิบ​ที่​ใบหน้า​ จึงอด​เอื้อมมือ​ไปลูบ​ไม่ได้​

แต่​สิ่งที่​ลูบ​เจอ​ กลับเป็น​ของ​เรียบ​ลื่น​ขยับ​ยุกยิก​

เขา​ตกใจ​ รีบ​ออกแรง​กระชาก​มัน​ออกมา​ดู​

สิ่งที่​ดึง​ออกมา​ ดูเหมือน​หนวด​สีม่วง​กลุ่ม​หนึ่ง​ ต่อให้​จะอยู่​ใน​มือ​เขา​ ไอ้​สิ่งนี้​ก็​ขยับ​ขยุกขยิก​เหมือน​สิ่งมีชีวิต​ ปาก​ที่​มีฟัน​เหมือน​เลื่อย​งอก​ติด​บน​หนวด​ กำลัง​ขย้ำ​มือ​ของ​เขา​อย่าง​สุด​ชีวิต​

จงอวิ๋น​สีหน้า​บิดเบี้ยว​ เขา​เอื้อมมือ​ไปลูบ​ดวงตา​กับ​รู​จมูก​ของ​ตัวเอง​ สอง​ตำแหน่ง​นี้​มีหนวด​สีม่วง​จำนวนมาก​มุด​ออกมา​ไม่หยุดหย่อน​

“ข้า​…ข้า​…!”

“ตอนนี้​เจ้าคิด​ว่า​ตัวเอง​ยัง​ชนะ​อยู่​อีก​หรือไม่​” ผู้ปกครอง​จันทรา​แดง​ถอยหลัง​ไปหลาย​ก้าว​อย่าง​รังเกียจ​ เสก​พัด​กลม​เล่ม​หนึ่ง​ขึ้น​ใน​มือ​แล้ว​นำมา​ปิด​จมูก​

“ข้า​…ฆ่ามัน​ไปแล้ว​…ทั้งๆ ที่​…” ขณะที่​จงอวิ๋น​พูด​ บน​ตัว​ก็​มีหนวด​จำนวนมาก​งอก​ออกมา​เรื่อยๆ​

หนวด​สีม่วง​ที่​เรียบ​ลื่น​และ​เหนียวเหนอะ​นับไม่ถ้วน​ตก​ลงมา​ ขยับ​ดุกดิก​ด้าน​หลังเขา​แล้ว​รวมตัว​เป็น​ร่าง​คน​ที่​มีเลือดเนื้อ​พร่ามัว​

หน้าที่​พร่ามัว​ไม่ชัดเจน​ของ​ร่าง​มนุษย์​ค่อยๆ​ ปรากฏ​เค้าโครง​ของ​ลู่​เซิ่ง

“จงรวม​…เป็นหนึ่ง​…กับ​ข้า​เถอะ​…” เสียง​พึมพำ​ขมุกขมัว​ดัง​มาจาก​ด้านหลัง​จงอวิ๋น​

ร่าง​ของ​เขา​แข็งทื่อ​และ​เริ่ม​เปล่งแสง​เพลิง​สีทองขาว​จำนวนมาก​อย่าง​บ้าคลั่ง​เพราะ​อารมณ์​พลุ่งพล่าน​

แต่ว่า​แสงเพลิง​พวก​นี้​โดน​หนวด​กัด​กิน​อย่าง​ง่ายดาย​ ก่อน​จะพา​กัน​มอด​ดับ​ใน​พริบตา​

“ข้า​….” จงอวิ๋น​อ้า​ปาก​คิด​พูด​อะไร​ แต่​ก็​สาย​ไปเสียแล้ว​

หนวด​สีม่วง​กลุ่ม​ใหญ่​ทะลัก​ออก​มาจาก​ปาก​เขา​ หนวด​นับไม่ถ้วน​เริ่ม​มุด​ออก​มาจาก​ตา​ หู​ จมูก​ของ​เขา​ ก่อน​จะเข้า​ปกคลุม​ผิว​ทุก​ส่วน​เอาไว้​

พริบตาเดียว​เขา​ก็​กลายเป็น​มนุษย์​หนวด​สีม่วง​โดยสิ้นเชิง​

ผู้ปกครอง​จันทรา​แดง​รับ​ชมอยู่​ไกลๆ​ แค่​เห็น​เหตุการณ์​นี้​ก็​รู้สึก​ขยะแขยง​แล้ว​ แม้เจ้าสำนัก​แปลง​วายุ​จะเป็น​ผู้​เข้มแข็ง​อนธการ​ของ​สำนัก​ชายขอบ​ ไม่ได้​มีไพ่ตาย​ที่​แข็งแกร่ง​อย่าง​แท้จริง​

แต่​อย่างไร​ก็​เป็น​อนธการ​ศักดิ์​อาวุโส​

กลับ​นึกไม่ถึง​ว่า​จะตาย​ใน​ถิ่น​ของ​ตัวเอง​

“โดน​มุด​ช่องโหว่​เพราะ​ผลาญ​พลัง​มาก​ไปหรือ​ พลัง​แบบนี้​ ช่าง…” เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​ขมวดคิ้ว​ เอ่ย​อย่าง​กริ่งเกรง​อยู่​บ้าง​

“หนำซ้ำ​ขนาด​ถูก​ฟัน​จิตวิญญาณ​ไปแล้วก็​ยัง​ไม่ตาย​…มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​ทั่วไป​อย่างไร​ก็​ต้อง​รับ​บาดเจ็บ​…”

นาง​เพ่งมอง​มนุษย์​หนวด​ม่วง​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป เห็น​สีผิว​อีก​ฝ่าย​ค่อยๆ​ กลับมา​เป็นปกติ​ หนวด​ทั้งหมด​มุด​หาย​เข้า​ใต้​ผิวหนัง​

ไม่นาน​นัก​ บุรุษ​ร่าง​กำยำ​คุ้นเคย​คน​หนึ่ง​ก็​โผล่​ขึ้น​ตรงหน้า​นาง​ เป็น​ลู่​เซิ่งที่มา​กับ​นาง​นั่นเอง​

“อันตราย​จริงๆ​…เกือบตาย​เสียแล้ว​” ลู่​เซิ่งเลีย​ริมฝีปาก​และ​ยิ้ม​แปลกประหลาด​

เขา​เห็น​ความ​กริ่งเกรง​ของ​เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​ แต่​นี่​ไม่เป็น​อุปสรรค​ไม่ให้​ลู่​เซิ่งยืนยัน​ตำแหน่ง​ของ​พลัง​ต่อสู้​ใน​ตอนนี้​ของ​ตัวเอง​

ดูเหมือน​เรา​จะสู้จงอวิ๋น​ไม่ไหว​จริงๆ​ แต่​แม้เรา​จะสู้มัน​ไม่ได้​ เมื่อ​สู้กับ​เรา​ คน​ที่​ตาย​ก็​ยัง​เป็นมัน​

อนธการ​มาก​ประสบการณ์​เหล่านี้​มีพลัง​ต่อสู้​แข็งแกร่ง​ถึงขีดสุด​ แต่​พวกเขา​ไม่มีวิธี​รับมือ​พลัง​ของ​เทพ​นอกรีต​

พลัง​ของ​พวกเขา​เป็น​สิ่งสมมติ​สำหรับ​พลัง​เทพ​นอกรีต​ เหมือนกับ​ที่​เขา​ไปถึงโลก​เทพ​นอกรีต​ครั้งแรก​ ที่​ปราณ​ปฐพี​ถึงขั้น​สัมผัส​พลัง​เทพ​ไม่ได้​

เขา​ใช้กระเรียน​ยักษ์​พัน​เท​วะ​กับ​เทพ​ปีศาจแห่ง​สายลม​ ปลูกถ่าย​หนวด​ของ​ตัวเอง​เข้าไป​ใน​อากาศ​รอบตัว​จงอวิ๋น​ตั้งแต่แรก​แล้ว​

ใน​ตอนที่​อีก​ฝ่าย​อ่อนแอ​ลง​เพราะ​ใช้กระบวนท่า​ไม้ตาย​ออก​ไป หนวด​ระดับ​อณู​เหล่านี้​จะฉวยโอกาส​มุด​เข้าไป​แพร่พันธุ์​ใน​ร่างกาย​ทันที​

ส่วน​ความปลอดภัย​ของ​เขา​

ใน​ฐานะ​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​ ทั้ง​ยัง​มีพลัง​เทพ​นอกรีต​กับ​กาย​อมตะ​พัน​เท​วะ​อยู่​กับ​ตัว​ ต่อให้​จิตวิญญาณ​ถูก​ทำลาย​ เขา​ก็​ฟื้นคืนชีพ​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

แต่​ด้วย​ระดับ​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ ก็​ไม่ใช่ว่า​ไม่มีวัน​ตาย​โดยสิ้นเชิง​ ขอ​แค่​มีคน​ฆ่าเขา​เจ็ด​แสน​สอง​หมื่น​ครั้ง​ได้​ใน​เวลา​หนึ่ง​ชั่วโมง​ จะสามารถ​ทำลาย​โครงสร้าง​ระบบ​คืนชีพ​อมตะ​ของ​กาย​อมตะ​พัน​เท​วะ​และ​พลัง​เทพ​นอกรีต​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​

ดังนั้น​ลู่​เซิ่งจึงคิด​ว่า​ตัวเอง​ควร​ระมัดระวัง​ขึ้น​เล็กน้อย​ เหมือน​อย่าง​วันนี้​ สุดท้าย​ตน​ถูก​ท่า​ไม้ตาย​ของ​จงอวิ๋น​เข้าไป​โดย​ไม่ทัน​ระวัง​ จนตาย​ไปหนึ่ง​ครั้ง​ เป็น​สิ่งที่​ไม่สมควร​เลย​

ถ้าจงอวิ๋น​คว้า​โอกาส​ฆ่าเขา​หลาย​ร้อย​รอบ​ได้​ใน​ทีเดียว​ อย่างนั้น​เขา​คงจะ​เกิด​อันตราย​จริงๆ​ แล้ว​

อย่างไร​เขา​ก็​คืนชีพ​ได้​ทั้งหมด​เจ็ด​แสน​สอง​หมื่น​ครั้ง​เท่านั้น​

ลู่​เซิ่งไม่เคย​ดูถูก​พลัง​ของ​สัตว์ประหลาด​เฒ่าพวก​นี้​

เขา​ที่​คิด​แบบนี้​ ให้ความสำคัญ​กับ​ผู้​เข้มแข็ง​อธน​การ​มาก​ประสบการณ์​ของ​สามสำนัก​จริงๆ​

“ดูเหมือน​ยัง​เหลือ​อีก​สอง​ศึก​ ตึง​มือ​กัน​ทั้งนั้น​…”

“ตอนนี้​เจ้าคิด​จะทำ​อะไร​” ผู้ปกครอง​จันทรา​แดง​เข้ามา​ใกล้​เล็กน้อย​ ก่อน​ส่งกระแสเสียง​ถาม

“ถึงข้า​จะตาย​ไปครั้งหนึ่ง​ แต่​กลืน​กิน​ร่าง​ของ​จงอวิ๋น​ไป จึงพอ​จะนับ​ได้​ว่า​ได้รับ​การ​ชดเชย​บางส่วน​” ลู่​เซิ่งมอง​ดาวเคราะห์​ทรุดโทรม​สอง​ดวง​ที่​เหลืออยู่​

ดาวเคราะห์​ดวง​อื่น​ถูก​ทำลาย​ไปใน​การต่อสู้​ของ​เขา​และ​จงอวิ๋น​แล้ว​

สอง​ดวง​ที่​เหลือ​นี้​ค่อนข้าง​สมบูรณ์​ เพียงแต่​บน​ผิว​ดาว​ดวง​หนึ่ง​มีรูป​ขนาด​มหึมา​ ที่​ดูเหมือน​มันฝรั่ง​ถูก​ขย้ำ​ไปคำ​หนึ่ง​

“บน​นั้น​ยังมี​สิ่งมีชีวิต​มีสติปัญญา​อีก​ อย่าง​น้อย​มากกว่า​หมื่น​ล้าน​ เอา​อย่างไร​ ขาย​ให้​ลัทธิ​จันทรา​แดง​ของ​ข้า​ดี​ไหม​” เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​เสนอ​ด้วย​รอยยิ้ม​

“พูดถึง​ข้อแลกเปลี่ยน​ ข้อเสนอ​ที่​ท่าน​จะให้​ข้า​หลับนอน​ด้วย​ก่อนหน้านี้​ ตอนนี้​ยัง​…” ลู่​เซิ่งเสนอ​

“…ก่อนหน้านี้​ข้า​พูดเล่น​น่ะ​ ความจริง​ความคิด​ของ​ข้า​คือ​การ​สะกดทัพ​ให้​เจ้า อย่างไร​การ​มีอนธการ​อยู่​ด้วย​สัก​คน​ก็​เพิ่ม​ปัจจัย​ความปลอดภัย​ของ​เจ้าได้​ไม่ใช่หรือ​ แบบนี้​พวกเขา​จะไม่ถึงกับ​มารุม​โจมตี​ทั้งสอง​คน​” มุมปาก​ผู้ปกครอง​จันทรา​แดง​กระตุก​ รีบ​ตัดบท​เขา​ทันที​

ลู่​เซิ่งพ่น​ลมหายใจ​และ​จ้องมอง​นาง​

“เอาเถอะ​…” หลัง​การต่อสู้​เมื่อ​ครู่​ เขา​ก็​รู้สึก​ว่า​พลัง​ของ​ตน​ต่ำกว่า​อนธการ​มาก​ประสบการณ์​พวก​นี้​ไปบ้าง​ เดิมที​คิด​จะหา​ความสำราญ​กับ​เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​สักหน่อย​ เพื่อ​ดู​ว่า​วารี​อะไร​นั่น​จะเพิ่ม​พลัง​ฝึกปรือ​ของ​ตน​ได้​จริงๆ​ หรือไม่​

แต่​ดูเหมือน​ตอนนี้​จะไม่มีทาง​เป็นจริง​แล้ว​

“ดาวเคราะห์​สอง​ดวง​ ข้า​จ่าย​ด้วย​เหมือง​ผลึก​ปฐมพลัง​ธรรมดา​สอง​แห่ง​ เป็น​อย่างไร​” เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​รีบ​เสนอ​

“ได้​สิ” ลู่​เซิ่งไม่รู้​ว่า​ราคา​เป็น​อย่างไร​ แต่​ถ้าถูก​หลอก​ค่อย​ชิงกลับมา​ก็แล้วกัน​ ถ้าสู้ไหว​ค่อย​กำจัด​อีก​ฝ่าย​ทิ้ง​ ถึงเวลา​นั้น​หาก​ขาย​อี​กรอบ​ต้อง​มีคน​ยินดี​ให้ราคา​ดี​ๆ แน่​

หลังจาก​ทดลอง​ประสิทธิผล​ของ​พลัง​เทพ​นอกรีต​แล้ว​ มัน​ก็​เทียบ​ได้​กับ​ดาว​ข่ม​หรือ​อาวุธ​ทำลายล้าง​สำนัก​อนธการ​ที่​ไม่เคย​สัมผัส​พลัง​เทพ​นอกรีต​มาก่อน​

ก่อนที่​พวกเขา​จะเจอ​วิธี​จัดการ​พลัง​เทพ​นอกรีต​ เขา​ก็​ไม่เกรงกลัว​อนธการ​คนใด​

“ไปเถอะ​ ควร​ไปที่​ต่อไป​ได้​แล้ว​” ลู่​เซิ่งหมุนตัว​เดิน​ไปยัง​เรือ​เหาะ​ที่ซ่อน​อยู่​ไกล​ออก​ไป

เรือ​เหาะ​ได้รับ​การ​คุ้มครอง​ด้วย​พลัง​ของ​ผู้ปกครอง​จันทรา​แดง​ ยังคง​เรียบร้อย​ไร้​รอยขีดข่วน​

เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​ถอย​ใจ บิน​ตาม​เขา​ไปยัง​เรือ​เหาะ​เช่นกัน​

ตอนแรก​ใจนาง​ยังมี​ความคิด​ชั่งน้ำหนัก​ แต่​ตอนนี้​สลัดทิ้ง​ไปแล้ว​

สิ่งที่​นาง​ตกลง​กับ​จันทรา​ม่วง​ใน​ตอนแรก​ก็​คือ​ ดู​ว่า​ครั้งนี้​ใคร​จะชนะ​ใคร​จะแพ้​ หา​กลู่​เซิ่งล้มเหลว​ พวก​นาง​ก็​จะลงมือ​ช่วย​สามสำนัก​สะกด​ลู่​เซิ่ง

ถ้าลู่​เซิ่งชนะ​ ก็​จะช่วย​เขา​สะกดทัพ​ตาม​คำมั่นสัญญา​

แต่​นึกไม่ถึง​ว่า​สุดท้าย​จะมีผลลัพธ์​แบบนี้​ เดิมที​นึก​ว่า​ต่อให้​จงอวิ๋น​สู้ไม่ไหว​ อย่าง​น้อย​ก็​ล่าถอย​ได้​โดย​ไม่มีปัญหา​

น่าเสียดาย​…

การฝึกฝน​หลาย​หมื่น​ปีหมดสิ้น​ใน​วัน​เดียว​

เพียงแต่​…

เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​มอง​เงาหลัง​ของ​ลู่​เซิ่ง พอ​หวน​นึกถึง​ภาพ​อัน​น่า​ขยะ​แยง​ที่​ชั่วร้าย​แปลกประหลาด​เมื่อ​ครู่​ นาง​ก็​นึก​ขยาด​เล็กน้อย​

ไม่ใช่ว่า​นาง​ไม่เคย​เห็น​วิชา​ลักษณะ​คล้าย​กัน​นี้​มาก่อน​ เพียงแต่​วิชา​นั้น​ไม่อาจ​ส่งผล​ต่อ​อนธการ​ได้​

ทว่า​สภาพการณ์​ใน​ตอนนี้​คือ​ อนธการ​มาก​ประสบการณ์​ที่​ยิ่งใหญ่​อย่าง​จงอวิ๋น​ ทั้งๆ ที่​ชนะ​แล้ว​ กลับ​โดน​ลอบ​เล่นงาน​จน​มอดม้วย​เพราะ​ไม่ทัน​ระวัง​

“ศึก​นี้​ข้า​ชนะ​อย่าง​ผ่าเผย​ ศึก​ต่อไป​ย่อม​ต้อง​ทำให้​พวก​มัน​แพ้​อย่าง​ยินยอมพร้อมใจ​” ลู่​เซิ่งยืน​เอา​มือ​ไพล่หลัง​ เหม่อมอง​ไปอย่าง​บุคลิก​ปรมาจารย์​

“ดังนั้น​นะ​สหาย​เจิ้งเจวี๋ย​ รบกวน​ช่วย​ข้า​ท้า​สู้หยวน​ชิงลี่​เจ้าสำนัก​นที​คราม​ที​ สามวัน​ให้หลัง​ ข้า​จะไปยัง​ดาว​หลัก​ของ​สำนัก​นที​คราม​และ​สะสางบุญคุณ​ความแค้น​ด้วยตัวเอง​! ถ้านาง​ไม่อยาก​มอบตัว​คนร้าย​มา เช่นนั้น​ก็​ให้​ความเป็นความตาย​ตัดสิน​แทน​ก็แล้วกัน​”

เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​หนัง​หน้า​กระตุก​ ข่ม​กลั้น​ความคิด​อยาก​เสียดสี​ ก่อน​จะพยักหน้า​

“ได้​ ข้า​จะช่วย​ส่งข้อความ​ไปให้​”

ทั้งสอง​มองดู​ระบบสุริยะ​ที่​พังทลาย​และ​ตก​สู่ความ​มืดมิด​ ก่อน​จะหมุนตัว​เข้า​เรือ​เหาะ​ กระโดด​ข้าม​มิติ​ออก​ไป หายวับ​ใน​ชั่ว​กก​พริบตา​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท