สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1524 เสียเรื่องเพราะคนไม่กี่คน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1524 เสียเรื่องเพราะคนไม่กี่คน

เฉียนหย่งจงก้มศีรษะขอบคุณเว่ยจงด้วยความซาบซึ้ง จากนั้นเขาได้ยินไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้น

“ครั้งนี้ข้าไม่ได้พามาเพียงหมอและนำมาเพียงยาสมุนไพร ข้ายังนำเสบียงมาเผื่อให้ด้วย…”

“ฝ่าบาททรงพิจารณาได้รอบคอบยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ”

เฉียนหย่งจงพยักหน้า เขารู้สึกว่าไป๋ชิงเหยียนพิจารณาทุกอย่างได้รอบคอบยิ่งนัก เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“วันนี้เจ้าจงให้คนจับตาดูว่ามีชาวบ้านออกจากเมืองไปมากเท่าใด จากนั้นให้คนลอบสืบดูว่าผู้ใดเป็นคนยุให้ชาวบ้านก่อเรื่องขึ้นในวันนี้”

ไป๋ชิงเหยียนยกถ้วยชาขึ้น นางใช้ฝากดใบชาที่ลอยขึ้นมาเหนือน้ำลงไปด้านล่างเป็นระยะ

“เมื่อพบตัวคนเหล่านั้นจงจับพวกเขาขังคุกในข้อหาอื่นก่อน เมื่อโรคระบาดสิ้นสุดลงค่อยจัดการ…”

“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”

เฉียนหย่งจงสงสัยว่าชาวบ้านเหล่านั้นถูกสายลับของต้าเยี่ยนยุให้ก่อเรื่องเช่นเดียวกัน มิเช่นนั้นชาวบ้านไม่มีทางก่อเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้แน่ ทว่า เขาเข้าใจเช่นกันว่าทุกคนกำลังหวาดกลัว หากจับคนเหล่านั้นขังคุกในข้อหาสายลับชาวบ้านคงยิ่งหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม ความตื่นเต้นดีใจที่จักรพรรดินีแห่งต้าโจวเสด็จมาเยือนที่นี่ด้วยองค์เองคงน้อยลงแน่น้อย เขาจะทำเสียเรื่องเพียงเพราะคนไม่กี่คนไม่ได้เด็ดขาด

ไม่นานโรงครัวก็นำอาหารเช้าร้อนๆ มาให้จักรพรรดินีต้าโจวเสวยอย่างไม่กล้าให้จักรพรรดินีรอนาน

ทุกๆ คนนั่งลงบนโต๊ะอาหาร ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้วางมาดเฉียนหย่งจงจึงผ่อนคลายความรู้สึกเกร็งลงมาก ระหว่างรับประทานอาหารเมื่อไป๋ชิงเจวี๋ยเอ่ยถามสิ่งใดเฉียนหย่งจงก็จะวางตะเกียบในมือลงและเอ่ยตอบอย่างนอบน้อม

เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จไป๋ชิงเหยียนสั่งให้เฉียนหย่งจงไปเตรียมรถม้า จากนั้นเดินทางไปยังโรงพักรักษาตัวกับนาง เฉียนหย่งจงได้ยินจึงอึ้งไปทันที

“อากาศเริ่มเย็นแล้ว เตรียมถ่าน ผ้านวมและเสื้อบุนวมไปให้หมอที่โรงพักรักษาตัวด้วย ขนไปให้เต็มคันรถ ไม่ต้องประหยัด”

เฉียนหย่งจงได้ยินจึงคุกเข่าลงบนพื้นทันที

“กระหม่อมไม่เห็นด้วยกับการตัดสินพระทัยของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทเสี่ยงอันตรายเสด็จมายังสถานที่ที่เต็มไปด้วยโรคระบาดเช่นนี้ก็สร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวบ้านได้มากแล้ว ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเสด็จไปที่โรงพักรักษาตัวอีกพ่ะย่ะค่ะ! ที่นั่นเต็มไปด้วยชาวบ้านที่ติดโรคระบาด หากทรงไม่ระวังอาจติดเชื้อได้ ถึงเวลานั้นต่อให้กระหม่อมมีสิบชีวิตก็ยากจะชดใช้ กระหม่อมจะกลายเป็นคนบาปของต้าโจวทันที! หากฝ่าบาทอยากส่งถ่าน ผ้านวมและเสื้อบุนวมไปให้หมอที่นั่น กระหม่อมจะนำไปส่งให้เองพ่ะย่ะค่ะ”

เฉียนหย่งจงคือคนหยาบที่เคยเรียนหนังสือแค่ระยะเวลาสั้นๆ ทว่า เขารู้ดีว่าแม้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะเป็นเพียงสตรีแต่นางมีทั้งเสน่ห์ ความอดทน ความสามารถ และสิ่งสำคัญที่สุดคือนางคือจักรพรรดินีที่รักและห่วงใยชาวบ้านจากใจจริง

มิเช่นนั้นจักรพรรดินีอย่างนางไม่มีทางเดินทางมาที่เมืองของต้าเยี่ยนซึ่งอยู่ในการปกครองของต้าโจวเช่นนี้แน่นอน

จักรพรรดินีมาที่นี่ด้วยตัวเอง แม้จะพากองทัพมาด้วย ทว่า ก็ยังอยู่ในแคว้นของต้าเยี่ยนอยู่ดี ต่อให้ไม่มีโรคระบาด การทำเช่นนี้ก็เสี่ยงอันตรายมาก ที่สำคัญตอนนี้ยังเกิดโรคระบาดรุนแรงเช่นนี้ขึ้นอีก เขาไม่อยากให้จักรพรรดินีที่ดีเช่นนี้เป็นอันใดไป

ไป๋ชิงเหยียนใช้ผ้าขนหนูที่เว่ยจงยื่นให้เช็ดปาก จากนั้นกล่าวขึ้น

“เรารู้ดีว่าความปลอดภัยของเราสำคัญมากเพียงใด ระหว่างทางท่านหมอหงวิเคราะห์โรคระบาดในครั้งนี้จนเข้าใจถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว โรคระบาดตัวนี้ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด เราต้องการเดินทางไปปลอบขวัญชาวบ้านที่ติดโรคระบาดเหล่านั้นก็จริง ทว่า เราต้องการเดินทางไปให้กำลังใจบรรดาหมอที่เสี่ยงอันตรายเดินทางมาที่นี่พร้อมเราด้วย พวกเขาล้วนไปที่นั่นได้…เราจะหลบอยู่แต่ในจวนได้อย่างใดกัน เราจะมองดูชาวบ้านเสียชีวิตลงเฉยๆ โดยไม่ทำสิ่งใดไม่ได้”

หมอหงพบว่าโรคระบาดในครั้งนี้คล้ายคลึงกับโรคระบาดที่เคยเกิดขึ้นในต้าจิ้น แม้เมื่อติดโรคระบาดแล้วอาการจะดูรุนแรง ทว่า ขอเพียงไม่รับประทานอาหารและใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วย รักษาระยะห่างให้พอดีก็ไม่มีทางติดโรคระบาดแล้ว

หมอหงอายุมากถึงขนาดนั้นแล้วยังต้องเดินทางไปเป็นขวัญกำลังใจของบรรดาหมอที่ติดตามพวกนางมาด้วยความเลือดร้อน แต่เกิดหวาดกลัวขึ้นระหว่างทาง ให้พวกเขาไม่หวาดกลัวอีกต่อไป เหตุใดนางจึงจะไปไม่ได้กัน

หากนางไปบรรดาหมอจะได้มีกำลังใจรักษาชาวบ้านอย่างเต็มที่ เช่นนี้พวกนางจึงจะสามารถควบคุมโรคระบาดได้ มิเช่นนั้นหากหมอเหล่านั้นรักษาชาวบ้านด้วยความหวาดกลัว ท่านหมอหงคนเดียวคงรับมือกับผู้ป่วยโรคระบาดทั้งหมดไม่ได้แน่

ที่สำคัญนางไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่นั่น นางเสี่ยงอันตรายน้อยกว่าบรรดาหมอที่ต้องอยู่รักษาผู้ป่วยที่นั่นมาก

เฉียนหย่งจงเป็นคนหยาบ เขาไม่ได้มองการณ์ไกลเหมือนไป๋ชิงเหยียน เมื่อจักรพรรดินีต้าโจวเสียเวลาอธิบายให้เขาฟังเช่นนี้เฉียนหย่งจงจึงได้แต่กัดฟันก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียน

“กระหม่อมจะไปเตรียมม้าและตามเสด็จฝ่าบาทไปที่นั่นพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อเฉียนหย่งจงจากไปไป๋ชิงเหยียนเจวี๋ยจึงใช้ผ้าเช็ดปาก จากนั้นกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน

“พี่หญิงใหญ่ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด ข้าจะนำยาสมุนไพรและหมอที่เหลือเดินทางไปยังช่วยเหลือชาวบ้านในเมืองของต้าเยี่ยนที่อยู่ในเขตการปกครองของต้าโจวทางตะวันออกเฉียงใต้นะขอรับ พวกเขาจะได้รู้ว่าพี่หญิงใหญ่เดินทางมาร่วมทุกข์กับพวกเขาที่นี่แล้วขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า

“ระวังตัวให้ดี ที่นี่มีชาวบ้านก่อความวุ่นวาย ที่นั่นก็อาจมีเช่นเดียวกัน จงจัดการอย่างรอบคอบที่สุด”

“ขอรับ”

ไป๋ชิงเจวี๋ยโค้งกายทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนแล้วกล่าวต่อ

“พี่หญิงใหญ่ดูแลตัวเองให้ดีนะขอรับ ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ สี่เล่อและคังเล่อรอพี่หญิงใหญ่กลับบ้านอยู่ที่เมืองหลวงนะขอรับ”

“เจ้าก็ระวังตัวให้ดี เมื่อโรคระบาดสิ้นสุดลงพวกเราจะกลับบ้านด้วยกัน!”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับไป๋ชิงเจวี๋ยยิ้มๆ

ไป๋ชิงเจวี๋ยทำความเคารพอีกครั้งแล้วเดินออกไปจากห้อง

ไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย จากนั้นเดินออกไปจากจวนพร้อมกับเว่ยจง นางก้าวขึ้นหลังม้าและมุ่งหน้าไปยังสถานที่พักรักษาตัวทันที

สถานที่พักรักษาตัวของคนป่วยที่ติดโรคระบาดอยู่ที่นอกเมือง เมื่อชาวบ้านเห็นจักรพรรดินีต้าโจวที่เพิ่งเสด็จมาถึงเมืองได้ไม่นานขี่ม้าออกไปจากเมืองอีกครั้งท่ามกลางการอารักขาของเฉียนหย่งจงและองครักษ์ อีกทั้งยังมีรถม้าที่บรรทุกสิ่งของเต็มคันรถจึงเริ่มหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้ง ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่าจักรพรรดินีต้าโจวจะทิ้งพวกเขาไปแล้วหรือไม่

“กล่าวเหลวไหลอันใด! ในเมื่อฝ่าบาทเสด็จมาถึงที่นี่แล้วก็ไม่มีทางหนีไปแน่นอน ฝ่าบาทของพวกเราเสด็จไปเยี่ยมชาวบ้านที่ติดเชื้อที่โรงพักรักษาตัวนอกเมืองต่างหาก พวกเจ้าจะไปรู้อันใด!”

ทหารคุ้มกันเมืองเห็นชาวบ้านยืนซึ่งออกกันหน้าประตูเมืองแต่ไม่กล้าออกไปจากเมืองเสียทีกระซิบกระซาบกันเสียงเบาจึงกล่าวขึ้นอย่างทนไม่ไหว

“ข้าเป็นเตรียมม้าให้ฝ่าเองด้วยซ้ำ!”

“จริงหรือ…มีจักรพรรดิที่ดีเช่นนี้อยู่จริงๆ หรือ เมืองของพวกเราเกิดโรคระบาด นางไปหนีไปไกลๆ ทว่า ยังมาที่นี่อีก ตอนนี้นางยังไปที่โรงพักรักษาตัวอีก…”

“นั่นน่ะสิ! เมียของเจ้าหวังที่ขายปาท่องโก๋ติดโรคระบาดจึงถูกหามไปรักษาตัวที่นอกเมือง ขนาดเจ้าหวังและลูกชายของนางยังไม่กล้าไปเยี่ยมนางเพราะกลัวติดเชื้อไปด้วย จักรพรรดินีกล้าเสด็จไปยังที่ที่อันตรายเช่นนั้นหรือ”

“นั่นคือจักรพรรดินีของต้าโจว พระองค์ทรงมีบารมีสูงส่ง พระองค์ต้องทำให้คนป่วยที่นั่นอาการดีขึ้นได้แน่นอน พระองค์มาช่วยพวกเราขับไล่สิ่งชั่วร้ายไปจากเมืองนี้!”

ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวขึ้นเสียงสะอื้นด้วยความซาบซึ้ง

“รอดูไปเถิดว่าจักรพรรดินีจะแค่ออกไปขี่ม้าเล่นหรือไปที่โรงพักรักษาตัวจริงๆ”

“ยิ่งกล่าวยิ่งไม่เข้าหู!”

ทหารคุ้มกันเมืองคนหนึ่งก้าวไปด้านหน้าพลางกำดาบที่เอวแน่น

“หากจะไปจากเมืองก็รีบออกไปเสีย หากไม่ไปก็รีบกลับเข้าไปในเมือง ลืมคำกล่าวของใต้เท้าเสิ่นไปหมดแล้วอย่างนั้นหรือ รีบกลับเข้าไปเร็ว!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท