บทที่ 890 ศึกที่สอง (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ฉัวะๆๆๆ!​

เงากระบี่​กึ่ง​โปร่งแสง​นับไม่ถ้วน​พุ่ง​ออกมา​อย่าง​ฉับพลัน​ เริงระบำ​รอบตัว​ลู่​เซิ่งอย่าง​ต่อเนื่อง​

ไม่นาน​เงากระบี่​ก็​รวมตัว​เป็น​สัตว์ประหลาด​โลหะ​ขนาด​ยักษ์​ตัว​หนึ่ง​ พร้อม​ขย้ำ​เข้าใส่​ลู่​เซิ่ง

สัตว์ประหลาด​ยาว​หลาย​พัน​หมี่​ ทั่ว​ร่าง​เหมือน​ประกอบ​ขึ้น​จาก​กระบี่​ยาว​นับไม่ถ้วน​ ใบหน้า​เหี้ยมเกรียม​แหลมคม​ เหมือน​กิเลน​ใน​ตำนาน​

“คน​ที่​อยาก​จะฆ่าข้า​มีมากมาย​นัก​ อาศัย​ความสามารถ​แค่นี้​ของ​เจ้าน่ะ​หรือ​” แทนที่จะ​โกรธเคือง​ ลู่​เซิ่งกลับ​ยิ้ม​ออกมา​ ยกมือ​เสก​ดาบ​ดำ​เล่ม​หนึ่ง​แล้ว​ฟัน​ใส่กิเลน​เงากระบี่​

เขา​นึกไม่ถึง​ว่า​เจ้าสำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​จะเป็น​มือ​กระบี่​ที่​ฝึก​บำเพ็ญ​เพียร​ กระบี่​เน้น​ความ​แหลมคม​เป็นหลัก​ ฟันฝ่า​หนทาง​ไร้​อุปสรรค​ หาก​แต่​หัก​ง่าย​เกินไป​

กระบี่​บรรลุ​ความ​แหลมคม​แล้ว​ แต่​ตัว​ลู่​เซิ่งได้เปรียบ​ด้าน​พลัง​ หาก​ฆ่ากัน​ซึ่งหน้า​แล้ว​ เขา​ไม่กลัว​ผู้ใด​ทั้งสิ้น​!

เขา​ไม่สนใจ​สิ่งใด​อีก​ เข้า​สู้กับ​ห​ลี่​ซิว​ลา​ซึ่งหน้า​ทันที​

ทั้งสอง​อยู่​ห่าง​กัน​ไม่เกิน​พัน​หมี่​ อีก​ฝ่าย​ฟันดาบ​ อีก​ฝ่าย​ฟัน​กระบี่​ เข้า​ปะทะ​กัน​โดย​ไม่มีใคร​กลัว​ใคร​

เค​ร้ง!​

ดาบ​ของ​ลู่​เซิ่งฟัน​ใส่ร่าง​ห​ลี่​ซิว​ลา​ ถึงกับ​เกิด​สะเก็ด​ไฟร้อนแรง​กลุ่ม​ใหญ่​ เหลือ​รอย​ถาก​ๆ ไว้​เท่านั้น​

กระบี่​ของ​ห​ลี่​ซิว​ลา​ฟัน​ใส่ผิว​ลู่​เซิ่ง แม้จะเกิด​แผล​อย่าง​ไม่หยุดยั้ง​ แต่​พริบตาเดียว​แผล​เหล่านี้​ก็​สมาน​ตัว​ ไม่เหลือ​บาดแผล​อยู่​อีก​

ทั้งสอง​เห็น​ดังนั้น​ก็​ตกใจ​

หนัง​หนา​เสีย​จริง​!

พลัง​ฟื้นฟู​แข็งแกร่ง​มาก​!

ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​สลัด​ความ​คิดในใจ​ทิ้ง​ ลู่​เซิ่งถือโอกาส​ทุ่มเท​ทุกอย่าง​ ใน​เมื่อ​ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​สู้ระยะ​ประชิด​กัน​ เช่นนั้น​ก็​มาตัดสิน​ชัยชนะ​ กำหนด​ความเป็นความตาย​อย่าง​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ก็แล้วกัน​!

หลังจาก​เขา​แอบ​กระจาย​หนวด​ไปรอบ​ๆ แล้ว​ ก็​เข้าไป​ปะทะ​กับ​ห​ลี่​ซิว​ลา​อย่าง​บ้าคลั่ง​โดย​ไม่สนใจ​สิ่งใด​อีก​

ครั้งนี้​ง่ายดาย​กว่า​สำนัก​แปลง​วิญญาณ​โข​

ดาว​หลัก​ของ​สำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​อดทน​อยู่​ไม่ไกล​จาก​ทั้งสอง​ได้​ไม่เกิน​สามวินาที​ ก็​ถูก​ปราณ​ดาบ​กับ​เงาดาบ​ที่​น่า​สะพรึง​ฉีก​กระชาก​เป็น​ชิ้นส่วน​นับไม่ถ้วน​

พวก​ของขลัง​เรือ​เหาะ​เพิ่ง​เผ่นหนี​ออกมา​ เดิม​ห​ลี่​ซิว​ลา​คิด​จะลงมือ​ช่วย​ผลัก​ออก​ไปไกลๆ​ แต่​ลู่​เซิ่งเห็น​เข้า​ จึงเข้าไป​ฟัน​ใส่จน​ตายเรียบ​ และ​ฉวยโอกาส​ฟัน​ใส่ร่าง​หลัก​ของ​ห​ลี่​ซิว​ลา​อีก​สอง​ดาบ​

ครั้งนี้​ห​ลี่​ซิว​ลา​โกรธเกรี้ยว​จริงๆ​ แล้ว​ แสดงให้เห็น​ชัด​ว่า​ ใน​หมู่​ผู้​บำเพ็ญ​ที่​กำลัง​หลบหนี​เหล่านี้​อาจ​มีใคร​สัก​คน​ที่​มีความสัมพันธ์​กับ​เขา​ล้ำลึก​สุดขีด​

ถึงขั้น​อาจจะ​เป็น​เลือดเนื้อเชื้อไข​

แต่​ไม่นาน​นัก​ ก็​มีเศษแสงสีเหลือง​ที่​เร็ว​อย่าง​น่าประหลาด​พุ่ง​ออก​มาจาก​ใน​ดาวเคราะห์​ หลบหนี​ด้วย​ความเร็ว​สูง

“คิด​หนี​อีก​หรือ​!” ลู่​เซิ่งหัวเราะ​ลั่น​ ไล่ตาม​ไปฟัน​ใส่นับ​ร้อย​ดาบ​โดย​ไม่สนใจ​กระบี่​ที่​ห​ลี่​ซิว​ลา​แทง​ใส่แผ่น​หลัง​ แล้ว​เขา​ก็​ไม่ลืม​ฟาด​หนวด​ก้อน​หนึ่ง​เข้าใส่​ด้วย​

เปรี้ยง​ๆๆ!

แสงสีเหลือง​หลาย​ก้อน​ระเบิด​กระจาย​ สิ่งที่​ตามมา​คือ​เสียง​แผด​คำราม​และ​ความ​โกรธา​อัน​บ้าคลั่ง​ของ​ห​ลี่​ซิว​ลา​

“ข้า​เหมือน​จะเห็น​หลานชาย​หลานสาว​ของ​ห​ลี่​ซิว​ลา​ถูก​ฟัน​ตาย​…” จันทรา​ม่วง​เอ่ย​เสียง​แผ่ว​ด้วย​สีหน้า​พิลึก​

เจิ้งเจวี๋ยซ​วิน​หมด​คำพูด​เช่นกัน​

ครั้งก่อน​ยัง​กล่าว​ได้​ว่า​คู่ควร​แก่​การ​ชื่นชม​ ครั้งนี้​กลับ​ผิดปกติ​แล้ว​

“อ๊ากกกก!​ ข้า​จะฆ่าเจ้า! ราชา​กระบี่​เก้า​กงจักร​ ฆ่า!”

เป็น​อย่าง​ที่​คาด​ ห​ลี่​ซิว​ลา​คลั่ง​แล้ว​

เขา​ถือ​กระบี่​ ทั่ว​ร่าง​ปรากฏ​จาน​มายา​พิศวง​ขนาด​ยักษ์​ประกอบ​ขึ้น​จาก​คม​กระบี่​นับไม่ถ้วน​ แสงกระบี่​สีทอง​หลาย​สาย​พุ่ง​ออก​มาจาก​ด้านหลัง​ ทุกๆ​ สาย​มีพลัง​ทำลายล้าง​แปด​ส่วน​ของ​พลัง​ที่​แท้จริง​ของ​เขา​!

ประกาย​กระบี่​หลาย​พัน​หลาย​หมื่น​สาย​กลายเป็น​น้ำตก​ กลบ​ฝังลู่​เซิ่งใน​พริบตา​

“โง่เง่า!” เสียงหัวเราะ​ของ​ลู่​เซิ่งสั่น​กระเพื่อม​มาจาก​ใน​ประกาย​กระบี่​ “เจ้านึก​ว่า​ฟัน​มั่วซั่ว​ด้วย​ความโมโห​แล้ว​จะชนะ​ได้​หรือ​! แม้แต่​ควบคุม​อารมณ์​ก็​ยัง​ทำ​ไม่ได้​ เจ้ายัง​มีหน้า​มาคุ้มครอง​สำนัก​และ​เรียก​ตัวเอง​ว่า​เจ้าสำนัก​อีก​ ตาย​ไปแค่​ไม่กี่​คน​ก็​รับ​ไม่ได้​แล้ว​หรือ​ น่าขัน​!”

แม้ประกาย​กระบี่​จาก​การระเบิด​โทสะ​จะแข็งแกร่ง​ แต่​ก็​มีช่องโหว่​เยอะ​ตาม​ไปด้วย​เช่นกัน​ ใน​สายตา​ของ​ปรมาจารย์​มรรคา​ยุทธ์​อย่าง​ลู่​เซิ่ง นั่น​ไม่มีความ​อันตราย​แม้แต่น้อย​ กลับ​รับมือ​ได้​ง่ายดาย​ยิ่งกว่า​เดิม​

ร่าง​หลัก​เขา​วาด​ดาบ​หลายครั้ง​ ประกาย​ดาบ​แบ่ง​เป็นเงา​สีดำ​มากกว่า​พัน​สาย​ เข้า​ปะทะ​กับ​น้ำตก​ประกาย​กระบี่​นับไม่ถ้วน​ แล้ว​กระแทก​เบี่ยง​ประกาย​กระบี่​ไปอย่าง​ง่ายดาย​ ตัว​เขา​พุ่ง​สวน​เข้าหา​ห​ลี่​ซิว​ลา​ด้วย​ความเร็ว​สูง

“ดู​ข้า​ทะลวง​ธาร​กระบี่​ของ​เจ้าเสีย​!”

ลู่​เซิ่งใช้พลัง​ทั้งหมด​ จาน​มายา​พิศวง​ปรากฏ​ขึ้น​เบื้องหลัง​ สัญลักษณ์​เก้า​สาย​เปล่งแสง​ออกมา​

เขา​จับ​ดาบ​ดำ​ด้วย​สอง​มือ​ แล้ว​ฟัน​ออก​ไป

ฉัวะ!​

ควัน​มหาศาล​ระเบิด​ออกมา​กลายเป็น​เปลวเพลิง​สีดำ​อม​ม่วง​ หลอม​รวม​เข้ากับ​ประกาย​ดาบ​ แล้ว​ฟัน​ใส่ทรวงอก​ของ​ห​ลี่​ซิว​ลา​อย่าง​หนักหน่วง​

เขา​ตัวเล็ก​กว่า​ลู่​เซิ่งมาก​อยู่แล้ว​ ตอนนี้​ถูก​ประกาย​ดาบ​ฟัน​ใส่ เหมือนกับ​ถูก​ท่วม​กลบ​ ไม่ต่าง​จากลู่​เซิ่งเมื่อ​ก่อนหน้านี้​

ฉัวะๆๆ!​ สะเก็ด​ไฟนับไม่ถ้วน​ระเบิด​จากร่าง​เขา​ ประกาย​ดาบ​หนักอึ้ง​กด​ทับ​ทรวงอก​ของ​เขา​

ห​ลี่​ซิว​ลา​คว้า​สอง​มือ​จะจับ​ประกาย​ดาบ​ แต่​เพิ่ง​เข้าใกล้​ ฝ่ามือ​ก็​ลุกไหม้​ด้วย​เปลวเพลิง​สีดำ​อม​ม่วง​ ความเจ็บปวด​ราว​เผาไหม้​จิตวิญญาณ​บัง​เกิดขึ้นในใจ​

“อ่อนแอ​! อ่อนแอ​เหลือเกิน​! เทียบ​กับ​เจ้าสำนัก​แปลง​วายุ​เจ้ามัน​สวะ​จริงๆ​!” ลู่​เซิ่งหัวเราะ​ร่า​พร้อมกับ​ฟัน​เพิ่ม​ไปอีกครั้ง​

ประกาย​ดาบ​สอง​สาย​กระแทก​ห​ลี่​ซิว​ลา​พุ่ง​ออก​ไปชน​ใส่ดาวเคราะห์​อีก​ดวง​

เกิด​เสียงดัง​ครืน​ครัน​ ดาวเคราะห์​พลัน​ระเบิด​ แตก​ออก​เป็น​เสี่ยง​ๆ เหมือน​แตงโม​ถูก​ทุบ​

ห​ลี่​ซิว​ลา​ร่าง​อาบ​เลือด​ ทรวงอก​เหลือ​รอย​ดาบ​ลึก​สาย​หนึ่ง​ ร่าง​กระบี่​ที่​สำเร็จ​ความ​อมตะ​ของ​เขา​ได้รับ​ความเสียหาย​

นี่​อยู่​เหนือ​ความคาดหมาย​ของ​เขา​โดยสิ้นเชิง​ ร่าง​กระบี่​อมตะ​ป้องกัน​อิทธิฤทธิ์​วิชา​นอกรีต​ได้​ทุกอย่าง​ อีก​ทั้ง​ร่าง​หลัก​ยัง​แข็งแกร่ง​สุด​เปรียบ​ปาน​ แข็งแกร่ง​กว่า​อาวุธ​เทพ​ขั้นสูง​สุดยอด​หลาย​ร้อย​เท่า​

ถ้าหาก​ลู่​เซิ่งเป็น​อนธการ​ประเภท​อิทธิฤทธิ์​อาคม​ เขา​สามารถ​ข่ม​อีก​ฝ่าย​และ​ตัดสิน​ผล​แพ้ชนะ​โดย​ไร้​ความเสียหาย​ได้​

ทว่า​สิ่งที่​เขา​นึกไม่ถึง​ก็​คือ​ ลู่​เซิ่งเลือก​จาน​มายา​พิศวง​ทั้งหมด​เป็น​พลัง​ พึง​ทราบ​ว่า​เขา​มีอักขระ​พลัง​สอง​อัน​เท่านั้น​ นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​จะเจอ​ตัว​ประหลาด​ที่​มุ่งเส้น​ทางกาย​เนื้อ​โดยสิ้นเชิง​แบบนี้​

หรือ​มัน​จะไม่กลัว​ถูกอ​ธน​การ​ที่​ถนัด​อิทธิฤทธิ์​กำจัด​ง่ายดาย​ เพราะ​ไร้​การ​พลิกแพลง​!?

เพียงแต่​เขา​พลัน​นึกได้​ว่า​ลู่​เซิ่งมีคุณสมบัติ​เป็น​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​ ก็​รู้สึก​ขยะแขยง​เกิน​จะทาน​ทน​เหมือน​กิน​แมลงวัน​

มีกาย​เนื้อ​และ​พลัง​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ ทั้ง​ยังมี​คุณสมบัติ​อมตะ​ของ​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​ คน​ผู้​นี้​คือ​สัตว์​โบราณ​ที่​มีแต่​ความป่าเถื่อน​ชัด​ๆ!

“เห็น​พลัง​ของ​ข้า​หรือยัง​…” ลู่​เซิ่งลอย​อยู่​กลาง​ความว่างเปล่า​ ถือ​ดาบ​ชี้ลง​ล่าง​ เขา​โค้ง​ใหญ่โต​เหมือน​มาร​ร้าย​ด้านหลัง​ส่าย​ไปมาตาม​ศีรษะ​ของ​เขา​เบา​ๆ

“จงรับ​ความจริง​เสียเถอะ​ เจ้าใน​ตอนนี้​อ่อนแอ​เหลือเกิน​” ลู่​เซิ่งมอง​ห​ลี่​ซิว​ลา​ที่​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​และ​กลิ่นอาย​ตกฮวบ​ลง​ไม่ต่ำกว่า​ครึ่ง​

กลาง​อวกาศ​ที่อยู่​รอบ​ๆ ยังคง​มีประกาย​กระบี่​สีทอง​ก่อนหน้านี้​หลง​เหลืออยู่​ แต่​ประกาย​กระบี่​เหล่านี้​เริงระบำ​วนเวียน​รอบตัว​เขา​เท่านั้น​ เมื่อ​ไม่มีพลัง​คอย​สนับสนุน​มาก​พอ​ แม้แต่​สนาม​พลัง​ป้องกัน​ของ​เขา​ก็​ไม่อาจ​ทำลาย​ได้​

ความจริง​เมื่อครู่นี้​ลู่​เซิ่งนึก​ว่า​ตัวเอง​ต้อง​ตาย​แล้ว​ แต่​สุดท้าย​พบ​ว่า​พลัง​น้ำตก​ประกาย​กระบี่​ไม่อาจ​สู้พลัง​ของ​ร่าง​หลัก​ได้​ แค่นี้​ยัง​พอ​ว่า​ แต่​ด้านใน​ยัง​ไม่มีการ​เพิ่ม​อาคม​อิทธิฤทธิ์​ใดๆ​ เข้าไป​อีก​

ตอนนั้น​เขา​พลัน​ยินดี​ เขา​คือ​ดาว​ข่ม​เจ้าห​ลี่​ซิว​ลา​ผู้​นี้​!

ดังนั้น​เขา​จึงเข้าไป​ฟัน​มั่ว​ๆ ยก​หนึ่ง​อย่าง​เมามัน​ สะกด​เจ้าสำนัก​ห​ลี่​ผู้​นี้​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

ก่อนหน้านี้​อีก​ฝ่าย​จัด​งานเลี้ยง​หง​เห​มิน​ คุยโว​โอ้อวด​ ตอนนี้​ถูก​ฟัน​ลอยเคว้ง​กลาง​อวกาศ​เหมือน​สุนัข​ ขยับเขยื้อน​ไม่ได้​ ไม่หลงเหลือ​บุคลิก​เมื่อ​ครู่​อีกต่อไป​

หลัง​ลู่​เซิ่งเยาะเย้ย​ไปรอบ​หนึ่ง​ พอ​เห็น​ห​ลี่​ซิว​ลา​ไม่มีการ​ตอบสนอง​ ก็​รู้สึก​หมดสนุก​

“ช่างเถอะ​ ใน​เมื่อ​เจ้าแพ้​ เช่นนั้น​ก็​ทำตาม​กฎ​ สำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​ของ​เจ้า…”

“ช้าก่อน​!”

มีเสียง​หนึ่ง​ตัดบท​ลู่​เซิ่ง

กลาง​นภา​ดาว​ไกล​ออก​ไปก้อน​เมฆสีขาว​สาย​หนึ่ง​กะพริบ​ขึ้น​บิน​มาหยุด​อยู่​ห่าง​จาก​สมรภูมิ​หมื่น​หมี่​ แล้ว​รวมตัว​เป็น​ชาย​ชรา​ผมหงอก​สวม​เสื้อคลุม​ลาย​เมฆสีขาว​

สอง​ตา​ของ​ชาย​ชรา​สาด​ประกาย​สีทอง​ตลอดเวลา​ ราวกับ​ดวงอาทิตย์​เล็ก​ๆ เจิดจ้า​แยงตา​

“ห​ลี่​ซิว​ลา​คนเดียว​เป็นตัวแทน​สำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​ไม่ได้​” ชาย​ชรา​ถือ​กระบี่​ยา​วสี​ขาว​ที่​เหมือนกับ​ไม้เท้า​ มองดู​ห​ลี่​ซิว​ลา​ที่นอน​พะงาบๆ​ ด้วย​แววตา​ผิดหวัง​

ห​ลี่​ซิว​ลา​คิด​จะลุกขึ้น​ แต่​เพิ่ง​ขยับตัว​ ร่างกาย​ก็​พลัน​เปล่งแสง​เพลิง​เล็ก​ๆ นับไม่ถ้วน​ แสงเพลิง​สีม่วง​กะพริบ​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ แสดงให้เห็น​ว่า​บาดเจ็บ​ลึก​ถึงภายใน​แล้ว​

“เจ้าเป็น​ใคร​อีก​” ลู่​เซิ่งหันไป​มอง​ชาย​ชรา​

“ข้า​” ชาย​ชรา​ก้มหน้า​ “ชาย​ชรา​ธรรมดา​ที่​เร้น​กาย​คน​หนึ่ง​ ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​สำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​มาชั่วชีวิต​ นึกไม่ถึง​ว่า​สุดท้าย​ยัง​ต้อง​ออกมา​อุทิศตัว​อีกครั้ง​…ดูเหมือน​ตา​เฒ่าอย่าง​ข้า​ต้อง​เหน็ดเหนื่อย​จน​ร่าง​พัง​เสีย​ก่อน​ คน​บางคน​ถึงจะพอใจ​”

“อ้อ​ หมายความว่า​เจ้าแกร่ง​มาก​น่ะ​สิ” ลู่​เซิ่งเอ่ย​อย่าง​ประหลาดใจ​ “แข็งแกร่ง​กว่า​ห​ลี่​ซิว​ลา​อีก​หรือ​”

“พอใช้ได้​…ใน​ฐานะ​อาจารย์​ ต้อง​ขอบคุณ​ที่​ท่าน​ชี้แนะ​ศิษย์​ไม่เอา​อ่าว​ของ​ข้า​…” ชาย​ชรา​ค่อยๆ​ ชี้กระบี่​เฉียง​ไปทาง​ลู่​เซิ่ง

“ต่อจากนี้​ ขอ​ข้า​ลองดู​หน่อย​ ว่า​ผู้ปกครอง​มาร​สวรรค์​ยุค​นี้​อยู่​ใน​ระดับ​ไห​น.​..”

“วาจา​ใหญ่โต​ไร้ยางอาย​!” ลู่​เซิ่งแค่น​หัวเราะ​ ก่อน​จะฟัน​แนว​ขวาง​ใส่ชาย​ชรา​

ดาบ​ของ​เขา​เร็ว​อย่าง​น่าประหลาด​ ฟัน​รอย​ดาบ​ออก​ไปใน​เสี้ยว​วินาที​ ประกาย​ดาบ​หายวับ​กระโดด​ข้าม​มิติ​ไปปรากฏ​ขึ้น​ที่​ความว่างเปล่า​ด้านหลัง​ชาย​ชรา​

“พลัง​ไม่เลว​ มิน่า​ถึงได้​เอาชนะ​ศิษย์​ข้า​ได้​ แต่​…มีแค่​พลัง​เท่านั้น​ที่​ไม่เลว​”

ชาย​ชรา​เบี่ยง​ตัว​หลบ​ เหมือนกับ​คาดการณ์ล่วงหน้า​แล้ว​ว่า​ประกาย​ดาบ​จะปรากฏ​ขึ้น​ด้านหลัง​ จึงย้าย​ตำแหน่ง​ก่อน​ครึ่ง​วินาที​

ฟ้าว!​

ประกาย​ดาบ​โผล่​แวบ​ ก่อน​ฟัน​ใส่ความว่างเปล่า​

“ใช้ได้​นี่​!” ลู่​เซิ่งเริ่ม​สนใจ​ ฟันดาบ​ใส่ชาย​ชรา​อีกครั้ง​

“ท้อ​ขาว​” ใน​ตอนที่​เขา​ฟันดาบ​นั่นเอง​ ชาย​ชรา​ก็​เสือก​กระบี่​ขาว​ใน​มือ​ออกมา​

เกิด​เสียง​สวบ​ดัง​มาเบา​ๆ

ลู่​เซิ่งหยุดนิ่ง​ ทรวงอก​ฉีก​เป็น​รู​เลือด​ขนาดใหญ่​โดยอัตโนมัติ​

รู​เลือด​ที่​ยาว​มากกว่า​พัน​หมี่​แทบจะ​ฟัน​ทรวงอก​ของ​เขา​ออก​เป็น​สอง​ส่วน​

“ดู​ให้​ดี​ กระบี่​ ใช้อย่างนี้​” ชาย​ชรา​ยก​มือขึ้น​แล้ว​แทง​กระบี่​ครั้ง​ที่สอง​ “ไพร​ดำ​”

คม​กระบี่​ไร้​รูปร่าง​ข้าม​ระยะห่าง​ฟัน​ใส่แขนขวา​ของ​ลู่​เซิ่งใน​พริบตา​

เกิด​เสียงดัง​สวบ​ แขนขวา​ของ​ลู่​เซิ่งขาด​ออกจาก​ร่าง​

“ทราย​เหลือง​ทั่ว​นภา​” ชาย​ชรา​แทง​กระบี่​ที่สาม​ คม​กระบี่​ปรากฏ​แสงสีขาว​เลือนราง​เหมือน​ผู้บำเพ็ญเพียร​ระดับ​ต่ำสุด​โคจร​กำลังภายใน​ใส่ตัว​กระบี่​เป็นครั้งแรก​

ลู่​เซิ่งตัว​แข็งทื่อ​ ในที่สุด​กลาง​หว่าง​คิ้ว​ก็​ปรากฏ​รอย​เลือด​สีแดงเข้ม​หลาย​จุด​

“ข้า​…ข้า​…” เขา​คิด​จะพูด​อะไร​สัก​อย่าง​ ทว่า​เวลานี้​ไม่มีแรง​เหลือ​พอที่จะ​ส่งเสียง​ออกมา​แล้ว​

ตูม​!

ร่าง​ลู่​เซิ่งระเบิด​อย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​ กลายเป็น​เศษควัน​ดำ​และ​กอง​เลือด​นับไม่ถ้วน​

“มาร​สวรรค์​เป็น​อมตะ​ ยัง​ต้อง​มีขั้นตอน​สุดท้าย​ ผนึก​” ชาย​ชรา​ยกมือ​อี​กรอบ​ด้วย​สีหน้า​ราบเรียบ​

“เจ้ามาจัดการ​เสีย​ ซิว​ลา​ เจ้าที่​ควบคุม​ผนึก​อริยะ​ของ​สำนัก​ น่าจะ​ยัง​ไม่ลืม​วิธี​ผนึก​มาร​สวรรค์​กระมัง​” ชาย​ชรา​มอง​ห​ลี่​ซิว​ลา​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไปด้วย​สีหน้า​ราบเรียบ​

“แน่นอน​ขอรับ​” ห​ลี่​ซิว​ลา​คลาน​ลุกขึ้น​อย่าง​ทุลักทุเล​ สะกด​อัคคี​อนธ​การสี​ดำ​อม​ม่วง​ใน​ตัว​ไว้​ชั่วคราว​

“แต่​…ลู่​เซิ่งนั่น​…ไม่น่าจะ​ตาย​ง่ายดาย​เช่นนี้​ พลัง​ของ​มัน​ไม่มีทาง​…”

“ไม่ต้อง​ห่วง​ การ​สะกด​ด้วย​ปราณ​กระบี่​ของ​ข้า​ สามารถ​ฆ่ามัน​ได้​สามสิบ​ครั้ง​ต่อ​วินาที​ ต่อให้​จะเป็น​อนธการ​มาร​สวรรค์​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ที่​ข้า​เคย​เจอ​ ก็​ต้อง​ใช้เวลา​อย่าง​น้อย​สอง​วินาที​ต่อ​หนึ่ง​การ​คืนชีพ​ มาร​สวรรค์​ที่​เพิ่ง​เลื่อน​ระดับ​ไม่น่ากลัว​หรอก​”

ชาย​ชรา​หรี่ตา​เล็กน้อย​ น้ำเสียง​แฝงความภาคภูมิใจ​

“สามสิบ​ครั้ง​!” ห​ลี่​ซิว​ลา​ม่านตา​หดตัว​ เขา​จำได้​ว่า​ตอน​อาจารย์​เพิ่ง​ถอยหลัง​เร้น​กาย​ ทำได้​เพียง​โคจร​ปราณ​กระบี่​สิบห้า​ครั้ง​ต่อ​วินาที​เท่านี้​ ตอนนี้​ถึงกับ​…ถึงกับ​!

ขอบเขต​นี้​…ได้​หลุด​จาก​บรรดา​บรรพ​จารย์​ที่​รับ​สืบทอด​สำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​ทั้งหมด​ไปแล้ว​ เป็น​ระดับ​ที่​สร้าง​พรรค​กระบี่​ได้​อีก​พรรค​หนึ่ง​เลย​ทีเดียว​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท