ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน – บทที่ 276 นางเพียงแค่อยากจะฟันเพิ่มอีกที

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

บทที่ 276 นางเพียงแค่อยากจะฟันเพิ่มอีกที

สนามรบโบราณเฉียนซีเต็มไปด้วยพลังปีศาจและสัตว์อสูรที่คลุ้มคลั่ง เมื่อได้รับข่าว ผู้บำเพ็ญ ต่างพากันมาจากทุกสารทิศเพื่อสนับสนุน

ในฐานะหนึ่งในหัวหน้าทีมสนับสนุนหลงหว่านโหรวได้นำคนมาถึงสนามรบโบราณเฉียนซี นางพบเห็นศิษย์น้องของตนเองกำลังได้รับการชำระล้างจากทัณฑ์สวรรค์ ด้วยสภาพที่น่าสงสาร เสียงร้องโหยหวน ผู้ได้ยินต่างหลั่งน้ำตา ผู้ได้เห็นไม่อาจมองตรง ๆ

หากไม่มีใครบอกพวกเขาว่าผู้ที่กำลังฝ่าทัณฑ์สวรรค์นั้นเป็นเหล่าศิษย์แนวหน้าของสำนักหลานเทียน พวกเขาคงไม่อยากเชื่อ เพราะมองไม่ออกเลยแม้แต่นิด นี่ต้องได้รับทัณฑ์สวรรค์มากขนาดไหนกัน!

หลงหว่านโหรวเห็นใจก็จริง แต่เรื่องแบบนี้พวกเขาต้องพึ่งตัวเอง

นางมองศิษย์น้องที่ปลอดภัยไร้อันตรายอีกครั้ง ก่อนจะนำศิษย์ที่เหลือเข้าสู่สมรภูมิรบเพื่อกำจัดสัตว์อสูรอย่างวางใจ

ในม่านพลังนั้น มังกรปีศาจเก้าตัวถูกตีจนเหลือเพียงสามตัวที่ยังคงดิ้นรนต่อสู้ แต่สัตว์อสูรและปีศาจที่วิ่งออกมาจากวิหารบูชาปีศาจก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมองไปไกลสุดลูกหูลูกตายังเห็นแต่สัตว์อสูร

หลิงเยว่ไม่ได้สนใจสมรภูมิรบ แต่กลับค่อย ๆ เข้าใกล้หลุมฟ้าผ่ายักษ์

จะเป็นไปได้ไหมว่าร่างแยกจอมปีศาจจะถูกฟ้าผ่าจนกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว?

“เจ้าจะทำอะไร?”

เล่อเหอห้ามไม่ให้หลิงเยว่ทำพฤติกรรมที่เหมือนจะไปตายเปล่า ๆ เลยลากตัวนางกลับมา

“ข้าแค่อยากจะดูว่าเขาตายหรือยังเจ้าค่ะ ถ้ายังไม่ตาย ข้าจะได้ฟันเพิ่มเองสักที”

หลิงเยว่ยืดคอ พยายามมองหาร่างแยกจอมปีศาจผ่านสายฟ้าสีสันต่าง ๆ ที่ส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่ก็มองไม่เห็น

“เจ้าดูถูกจอมปีศาจเกินไปแล้ว ถึงแม้จะเป็นแค่ร่างแยกก็ตาม”

เล่อเหอส่งเสียงหัวเราะเย็นชา แค่ถลอกนิดหน่อยและบาดเจ็บเล็กน้อย เพียงถูกสายฟ้ากักขังไว้เท่านั้น ถ้าให้เวลาอีกสักหน่อย เดี๋ยวเขาก็ออกมาทำตัวน่ารำคาญได้แล้ว

เล่อเหอจ้องมองหลุมฟ้าผ่า คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันอย่างกะทันหัน บาดแผลของร่างแยกจอมปีศาจกำลังสมานตัวอย่างรวดเร็ว!

“เกิดอะไรขึ้น?!”

[ปล่อยพลังเบญจธาตุ เรียกเมล็ดพันธุ์ที่เหลือกลับมาเร็วเข้า!]

แม้แต่น้ำเสียงของระบบยังมีความร้อนรนเล็กน้อย ช่างหาได้ยากยิ่งนัก!

แม้จะหาได้ยากจริง ๆ แต่ร่างกายของหลิงเยว่ก็ซื่อสัตย์มาก นางปล่อยพลังเบญจธาตุลงไปในหลุมฟ้าผ่าลึก

“ในเมื่อข้าสามารถใช้พลังวิญญาณเรียกมันกลับมาได้ แล้วทำไมเจ้าไม่บอกตั้งแต่แรก?”

ถ้าเรียกเมล็ดพันธุ์ที่เหลือของนางกลับมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกับร่างแยกจอมปีศาจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายหลังจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่?

[เจ้ามีโอกาสเรียกมันได้ต่อเมื่อร่างแยกจอมปีศาจกำลังใช้มันเท่านั้น]

ก่อนหน้านี้ต่อสู้กันมานานแล้ว ร่างแยกจอมปีศาจก็ไม่ได้ใช้พลังของเมล็ดพันธุ์ที่เหลือ ตอนนี้กลัวว่าจะต้องใช้เพราะหนทางตัน

ร่างแยกจอมปีศาจที่นอนอยู่ในก้นหลุมฟ้าผ่า มีแสงสีเขียวล้อมรอบ พลังชีวิตอันยิ่งใหญ่ขวางกั้นสายฟ้าไว้ แสงสีเขียวเหล่านั้นซ่อมแซมบาดแผลของร่างแยกอย่างขยันขันแข็ง รูโหว่ใหญ่บนไหล่ที่ถูกเล่อเหอแทงทะลุ เลือดหยุดไหล บาดแผลกำลังสมานตัวอย่างรวดเร็ว…

ร่างแยกจอมปีศาจยกมือของตนเองขึ้นพลางหัวเราะ

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เมล็ดพันธุ์ที่เกิดจากต้นไม้แห่งชีวิตศักดิ์สิทธิ์ แม้จะเป็นเพียงเมล็ดพันธุ์ที่ไม่สมบูรณ์ แต่พลังชีวิตอันยิ่งใหญ่และความสามารถในการรักษาภายในนั้นไม่มีใครเทียบได้!

ไม่แปลกใจเลยที่เทพปีศาจเน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอย่าใช้มันอย่างชะล่าใจ คงอยากเก็บไว้ใช้เองน่ะสิ?

หึ!

ขออภัยด้วย ถึงแม้เขาจะเป็นแค่ร่างแยก แต่เขาก็อยากมีชีวิตอยู่!

ขณะที่ร่างแยกจอมปีศาจกำลังภูมิใจ หัวใจกลับเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน พลังชีวิตภายในร่างกายกำลังถูกดึงออก แสงสีเขียวรอบกายกำลังจางหายไป บาดแผลหยุดการเยียวยา เขากุมหัวใจแน่นและดึงพลังปีศาจทั้งหมดออกมาเพื่อหยุดเมล็ดพันธุ์ที่กำลังจะจากไป

ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าหนีไปเด็ดขาด!

เศษชิ้นส่วนที่รับรู้ถึงการเรียกหาจากร่างหลักตัดสินใจจะจากไป แม้ว่ามันจะอ่อนแอเพราะไม่สมบูรณ์ แต่หากมันตั้งใจจะจากไป มันยังสามารถจากไปได้อยู่ดี!

เศษชิ้นส่วนสีทองเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งทะลุผ่านฝ่ามือของร่างแยกจอมปีศาจ พุ่งออกจากหลุมลึกด้วยความเร็วดุจสายฟ้า และพุ่งชนเข้าที่หว่างคิ้วของหลิงเยว่

“ไม่นะ คืนมาให้ข้า!”

“นั่นเป็นของข้า!”

เมื่อเห็นเศษชิ้นส่วนทิ้งมันไป ร่างแยกจอมปีศาจจึงคลุ้มคลั่ง มันไม่สนใจรูเล็ก ๆ บนฝ่ามือที่เลือดไหลไม่หยุด ในพริบตาร่างนั้นก็มาอยู่ตรงหน้าหลิงเยว่ พลันยื่นนิ้วทั้งห้าออกไป กระบี่เล่มหนึ่งพุ่งขวางกั้นระหว่างทั้งสองเอาไว้

เล่อเหอรู้สึกประหลาดใจกับร่างแยกจอมปีศาจที่ดูแก่ชราลงอย่างมาก ส่วนหลิงเยว่ยิ่งตกใจจนตาเบิกกว้าง นี่ยังเป็นชายที่หน้าตาดูร้ายกาจแต่ก็เปี่ยมไปด้วยพลังคนนั้นอยู่หรือไม่?

ทำไมกลายเป็นคนขี้เหร่ยิ่งกว่าคนแก่ต้นไม้เฒ่านั่นอีก เหมือนพลังชีวิตถูกดูดแห้งไปอย่างนั้น น่าขนลุกจริง!

“เขา…” หลิงเยว่อ้าปากกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่วินาทีถัดมานางกลับเป็นลมไป โชคดีที่ด้านหลังเป็นลูกศิษย์สำนักหลานเทียน พวกเขาจึงรีบประคองนางไว้

“ศิษย์น้องหลิงคงไม่ได้ถูกทำให้ตกใจจนเป็นลมหรอกนะ”

“ศิษย์น้องช่างมีจิตใจที่อ่อนแอเหลือเกิน แค่นี้ก็ตกใจจนเป็นลมได้ ทั้ง ๆ ที่เป็นผู้บำเพ็ญขอบเขตปฐมวิญญาณแท้ ๆ!”

“ใครบอกว่าอ่อนแอกัน! ถ้าเป็นข้าเจอคนคล้ายผีโผล่มาทันทีแบบนั้น ก็คงเป็นลมเหมือนกัน!”

ร่างแยกจอมปีศาจได้ยินเสียงโต้เถียงไม่กี่ประโยคนี้ มันก็ตะโกนด้วยความคลุ้มคลั่ง อยากจะบุกไปฆ่าพวกเขาให้ตาย แต่กลับถูกเล่อเหอขัดขวางอีกครั้ง

มันถูกอะไรบางอย่างดูดพลังชีวิตและวิชาไปหรือ?

เล่อเหอนึกถึงแสงสีทองที่ผ่านไปเมื่อครู่ขึ้นมาได้ เขาตกใจรีบหันไปตามหาหลิงเยว่ทันที

“มัดเขาไว้!”

ตอนนี้ร่างแยกจอมปีศาจที่ไม่มีวิชาและไม่เหลือวันมากมายให้มีชีวิตอยู่ก็เป็นเพียงคนธรรมดา ไม่สิ ยิ่งด้อยกว่าคนธรรมดาเสียอีก ตอนนี้แม้แต่เด็กสามขวบก็สามารถฆ่าเขาได้!

ดังนั้น เล่อเหอจึงเดินทางไปอย่างสบายใจ และเด็กสามขวบที่เขาพูดถึงก็ปรากฏตัวขึ้น

เขาขโมยมีดของผู้บำเพ็ญที่เดินผ่านมาด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เดินฝ่าฝูงชนแล้วใช้มีดแทงเข้าไปที่หัวใจของร่างแยกจอมปีศาจทันที

“ข้าจะฆ่าเจ้า!”

“คืนน้องสาวข้ามา! ฮือ ๆ!”

ลูกสัตว์ตาสีอำพันแทงมีดครั้งแล้วครั้งเล่า “ไอ้หมาเฮงซวย ปีศาจน่ารังเกียจ ฮ่า ๆ ๆ! ไอ้ปีศาจขี้เหร่ ไม่คิดว่าจะต้องมาตายด้วยน้ำมือของข้าใช่ไหมล่ะ!”

เลือดไหลออกมาจากมุมปากของร่างแยกจอมปีศาจอย่างควบคุมไม่ได้ ร่างกายสั่นเทา เกินต้านทาน ได้แต่มองภาพมีดที่แทงเข้าไปในร่างกายและถูกชักออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเบิกตากว้าง ความเกลียดชังฉายชัดในดวงตา

ลูกสัตว์ที่โผล่ออกมาอย่างกะทันหันทำให้คนที่กดตัวของร่างแยกจอมปีศาจไว้ชะงักงัน โดยเฉพาะวิธีการที่โหดเหี้ยมทารุณ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความแค้น ทำให้มือที่กำลังจะยื่นออกไปห้ามชะงักค้างอยู่กับที่

จนกระทั่งร่างแยกจอมปีศาจสิ้นใจ พวกเขาจึงได้สติ พร้อมใจกันยื่นมือไปอุ้มลูกสัตว์ออกมา

“ปล่อยข้า! ข้าจะฉีกมันเป็นพันชิ้น แล้วเอากระดูกไปให้หมากิน!”

สัตว์วิญญาณตัวน้อยดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง มันไม่ใช่ไม่มีพลังที่จะหลุดออกมา ถ้าเป็นคนอื่น ป่านนี้ตายไปแล้ว แต่พวกเขามีกลิ่นของแม่เลี้ยง ซึ่งฆ่าไม่ได้ ดังนั้นเจ้าตัวเล็กจึงเลือกที่จะดิ้นรนแทน

“ให้เขามาหาข้าเถอะ”

โม่จวินเจ๋อที่เพิ่งฝ่าทัณฑ์สวรรค์ ยื่นมือไปหาสัตว์วิญญาณตัวน้อย

“โม่จวินเจ๋อ เจ้ารู้จักเขาหรือ?”

“อืม” โม่จวินเจ๋ออุ้มสัตว์วิญญาณตัวน้อยที่กำลังมองเขาอย่างเหม่อลอยออกมา

ลูกสัตว์ที่เพิ่งจะหมดสติร้องโวยวายเมื่อครู่ กลับสงบลงทันทีเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของโม่จวินเจ๋อ

น้ำตาเอ่อคลอเต็มดวงตาของเจ้าตัวน้อย แล้วหยดลงมา

“ท่านตา!”

“ไม่ใช่! ท่านไม่ใช่…”

“ท่านตาทิ้งหู่พั่วไปด้วยหรือ?”

ท่านตา?!

เหล่าศิษย์ที่ได้ยินสองคำนี้ต่างตกใจจนตัวสั่น โม่จวินเจ๋ออายุเพียงยี่สิบกว่าปี แต่กลับได้เป็นตาแล้วหรือนี่!

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

Status: Ongoing
‘หลิงเยว่’ ผู้ฝึกตนสำนักฝ่ายนอกแสนอ่อนหัด ทั้งยังถูกกลั่นแกล้งจากศิษย์ร่วมสำนัก ทว่ายังโชคดีได้ระบบนี้มาช่วยชีวิต มอบหมายภารกิจให้นางสามารถแข็งแกร่งขึ้นโดยใช้ทักษะการทำอาหารให้เกิดประโยชน์ แม้เส้นทางการเป็นยอดเซียนจะหริบหรี่ ทว่าโชคชะตาของยอดแม่ครัวได้เปิดทางให้ ‘หลิงเยว่’ ได้พบหนทางที่จะช่วยให้ตนรอดจากวิกฤติในครั้งนี้ไปได้‘ลิขิตฟ้าหรือจะสู้ตะหลิว เอ้ย! มานะตน หากนางไม่ยอมแพ้ ย่อมต้องมีหนทางสดใสรออยู่ข้างหน้าแน่’

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท