บทที่ 570 ศึกใหญ่! หลงซีหกเมือง!
จี้จือฮวนกินยาติดต่อกันหลายวันอาการแพ้ท้องจึงได้บรรเทาลง ในที่สุดก็สามารถกินอะไรได้บ้างแล้ว
จึงได้พาลูกทั้งสองคนมาเดินเล่นที่ริมแม่น้ำใกล้ ๆ
มีจีฝูเย่เดินตามหลังคอยถามนู่นถามนี่อยู่ตลอด แต่จี้จือฮวนกลับคิดถึงเผยยวน
พวกเขาออกเดินทางไปได้หลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าแนวหน้าเป็นเช่นไรบ้าง
“เมื่อคืนพวกเจ้าได้ยินเสียงปืนใหญ่หรือไม่?”
จีฝูเย่ส่ายหน้า “ประมาณยามอิ๋น*ได้ยินเสียงแต่ไม่ดังมาก คาดว่าคงเป็นกลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม**กระมัง”
* ยามอิ๋น (寅时) หมายถึง เวลา 03.00 น. – 05.00 น.
** ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม (声东击西) หมายถึง หนึ่งในกลยุทธ์ทางทหารที่ทำเป็นเหมือนโจมตีอีกทาง แต่ความจริงแล้วกลับโจมตีอีกทาง
จี้จือฮวนยังคงกังวลอยู่ จีฝูเย่จึงดีดนิ้วหนึ่งที เซียวเย่เจ๋อที่เดินตามหลังมาก็หยิบเก้าอี้พับออกมาแล้ววางลงบนพื้น “เอาละ คนท้องอย่าไปกังวลเรื่องอะไรพวกนี้เลย ไม่สู้คิดว่าอีกเดี๋ยวจะกินอะไรจะดีกว่า ข้าจะไปจัดการให้”
เซียวเย่เจ๋ออวดว่าสถานะของตัวเองในค่ายทหารนั้นพิเศษกว่าใคร
อย่างน้อยกับจี้จือฮวนก็ถือว่ามีสายสัมพันธ์ที่ไม่ต่างจากญาติพี่น้อง
เพียงแต่ลำดับความอาวุโสนั้นไม่ชัดเจนเท่าใดนัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อฮวาเซียงเซียงส่งจดหมายมา บอกให้เขาซื้อของที่คนท้องต้องใช้ และของเล่นของพวกเด็ก ๆ ให้มากหน่อย
เซียวเย่เจ๋อก็ไม่กล้าที่จะไม่ทำตาม ประกอบกับหมอดูและหมอเทวดาล้วนไม่อยู่ที่ค่ายทหาร เซียวเย่เจ๋อเองก็ไม่สามารถไปออกรบได้ จึงทำได้เพียงวนเวียนอยู่รอบกายจี้จือฮวนทั้งวัน
กังวลเป็นระยะ ๆ ว่านางจะหิวหรือไม่ เหนื่อยหรือไม่ กระหายน้ำหรือไม่
หมาป่าหิมะก็ถูกพวกเผยยวนพาไปด้วย อาอินรู้สึกเบื่อจึงเริ่มฝึกปืนไฟ ส่วนจีฝูเย่ก็รู้สึกสนใจสิ่งนี้อยู่แล้ว จึงหันไปเกาะแกะอาอินแทน
กลับเป็นอาชิงที่สงบนิ่งกว่าใคร ไม่ว่าเขาจะไปที่ใดล้วนมีงูสองตัว นกอินทรีหนึ่งตัว และแมลงพิษตัวเล็ก ๆ ที่เพิ่งเก็บมาตามไปด้วย
จี้จือฮวนมองดูดวงอาทิตย์ที่ไกลออกไป กำลังคิดว่าจะทนฟังเสียงพูดพล่ามของเซียวเย่เจ๋อแล้วหลับสักพัก ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเหมือนมีบางอย่างกำลังใกล้เข้ามา
ทันทีที่หันหน้าไปก็มีชายชุดขาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าของนางแล้ว
หนังสือในมือของเซียวเย่เจ๋อร่วงลงกับพื้นทันที!
วิชาตัวเบาของคนผู้นี้เหตุใดถึงได้แปลกประหลาดเช่นนี้กัน มาอยู่ตรงหน้าแล้วทว่าพวกเขากลับไม่รู้ตัวเลย ต้องล้ำเลิศเพียงใดกัน!?
แม้ว่าช่วงนี้จี้จือฮวนจะเหนื่อยกับการฝึกฝนกำลังภายใน แต่ก็คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะไม่ระวังตัวเพียงนี้ หากเมื่อครู่เขามาเพื่อสังหารนางละก็ เกรงว่านางคงตายไปแล้ว!
แต่ไม่นานจี้จือฮวนก็จำคนผู้นี้ได้ นี่คือคนที่ก่อนหน้านี้เคยเอาแผนที่มามอบให้กับเผยยวน คนของสำนักหลัวซาไม่ใช่หรือ?
แล้วก็จริง ยิ่งจี้จือฮวนจ้องมองเขานานเท่าใด ใบหูของเขาก็ยิ่งแดงเรื่อมากขึ้นเท่านั้น เขาโยนสิ่งที่อยู่ในมือออกไป เพียงพริบตาก็เหลือแค่เงาเงาหนึ่ง มีแสงสีขาววาบผ่านหน้า และหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที
“นี่…นี่มันอะไรกัน ข้าจะไปตามคนมาเดี๋ยวนี้!” เซียวเย่เจ๋อลุกขึ้นยืน
“ไม่ต้องหรอก เขาไม่ใช่คนไม่ดีอะไร เขาแค่กลัวคนแปลกหน้าก็เท่านั้น” เป็นโรคกลัวสังคม
จี้จือฮวนสงสัยว่าคนผู้นี้แม้แต่ชื่อก็คงไม่มีด้วยซ้ำ น่าจะกลัวคนมากจริง ๆ
ไม่แน่วิชาตัวเบานี้ก็คงได้มาเพราะความตกใจกระมัง
แต่ตอนนี้จี้จือฮวนกลับอยากรู้ว่าครั้งนี้เจียงจือหวยจะส่งข่าวอะไรมาอีก
“อย่าขยับ ข้าเอง!” เซียวเย่เจ๋อคิดว่าหากเขาถูกพิษ เช่นนั้นยังมีจี้จือฮวนที่ช่วยเขาได้ แต่หากจี้จือฮวนถูกพิษเสียเอง เช่นนั้นเขาคงต้องจบชีวิตเพื่อขอโทษคนทั้งใต้หล้าแล้ว
เมื่อเขาเปิดออก “อะแฮ่ม น้องหญิงเห็นจดหมายเหมือนได้พบหน้า ยังจำที่พบกันครั้งก่อน…”
เซียวเย่เจ๋อขมวดคิ้ว “นี่มันเรื่องเหลวไหลอะไรกัน?”
จี้จือฮวนไม่คิดว่าเจียงจือหวยจะส่งจดหมายไร้สาระเช่นนี้มา
เพราะในห่อเล็ก ๆ นั่นหนาเป็นปึก
เพื่อให้จี้จือฮวนได้รู้ว่าจดหมายเหล่านี้เป็นของใครและส่งให้ใครบ้าง
เซียวเย่เจ๋อดูไปก็เทียบไป
ใช้เวลาเทียบถึงหนึ่งชั่วยามเต็ม ๆ อีกทั้งยังต้องเอาพู่กันมาวาดแผนภาพความสัมพันธ์ของแต่ละคน จึงสามารถเรียบเรียงออกมาได้
น้องเมียของหลิ่วเผิงแห่งอู่โจวมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับอารองของซุนเฉียนเจ้าเมืองของหลินโจว แต่น้องเมียคนนั้นยังเป็นอนุของซุนเฉียนอีกด้วย!
“ฮะ ยังมีอันนี้อีก เจ้าหน้าที่ขนส่งเสบียงของเจี้ยนโจวแอบยักยอกเงินหลวงมาโดยตลอด และยังมอบสมุดบัญชีทั้งหมดให้กับเวิงเจิ้งซีเจ้าเมืองของฉงโจวด้วย
บัดซบ นี่มันความสัมพันธ์อะไรกัน ยังมีอันนี้ด้วย นี่ขาดแค่จดบันทึกว่าห้องครัวบ้านใดฆ่าไก่ไปเท่าใดก็เท่านั้น”
จี้จือฮวนคิดไม่ถึงว่าเจียงจือหวยจะส่งสิ่งนี้มาให้
ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นอาวุธที่ใช้พิชิตเมืองทั้งหกได้ในคราเดียว
เทียบเท่าทหารนับล้านเลยทีเดียว
ดังนั้นจี้จือฮวนต้องใช้ประโยชน์จากจดหมายเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด!
“นกพิราบสื่อสารที่พวกเจ้าเลี้ยงเอาไว้เล่า นำมาด้วยกี่ตัว?”
เซียวเย่เจ๋อกลอกตาไปมา “ข้าจะไปเอามาเดี๋ยวนี้”
“จีฝูเย่!”
จีฝูเย่กำลังเล่นตัวต่ออยู่ เมื่อได้ยินนางเรียกก็รีบเดินมาหาทันที “ท่านอาจารย์ มีอะไรหรือขอรับ?”
“หลงซีหกเมืองเจ้าเคยไปมาหมดแล้ว เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ว่าคนเหล่านี้อยู่ที่ใดบ้าง สามารถเอาของไปส่งให้ถึงมือพวกเขาได้หรือไม่?”
จีฝูเย่พยักหน้าหงึก ๆ “ในเมืองเหล่านั้นล้วนมีร้านค้าของข้าตั้งอยู่ และมีลูกน้องของข้าอยู่ที่นั่นด้วย ข้าย่อมต้องรู้อยู่แล้วขอรับ”
จี้จือฮวนยกยิ้มขึ้นมา “แบบร่างอาวุธของข้าแลกกับภารกิจส่งจดหมาย เจ้าจะทำหรือไม่?”
นี่มันกำไรชัด ๆ จีฝูเย่ย่อมตอบตกลงอยู่แล้ว ในที่สุดท่านอาจารย์ก็ยอมให้เขาได้เรียนรู้แล้ว
…
เนี่ยเทียนโฉวกำลังติดต่อขอเจรจากับเจ้าเมืองคนอื่น ๆ ใจก็เริ่มสงบลงเล็กน้อย
ทว่าชีวิตที่สงบสุขผ่านไปได้ไม่ถึงสองวัน ก็ได้ยินว่ามีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นมาอีกแล้ว ครั้งนี้กลับไม่ใช่เรื่องของหลิ่วเผิงกับติงหม่าน แต่เป็นซุนเฉียนกับเวิงเจิ้งซีที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาโดยตลอด!
ที่แท้ซุนเฉียนไปจับชู้แล้วพบว่าอนุของตัวเองกับอารองมีอะไรกัน เดิมก็โมโหมากอยู่แล้ว แต่เขายังได้ข่าวมาอีกว่า เวิงเจิ้งซีอยากได้ลูกสะใภ้ของเขา
ดี แต่ละคนล้วนจ้องแต่จะคาบเนื้อในหม้อของเขาซุนเฉียนทั้งนั้น!
นี่ยังจะเรียกว่าพันธมิตรอะไรกันได้อีก!
เขาจึงอาศัยตอนกลางคืนบุกไปทันที
เมื่อก่อนเหตุใดถึงไม่มีใครกล้าบุกหลงซีทั้งแปดเมือง ก็เพราะวัน ๆ เอาแต่สู้กันเองไม่ใช่หรือ?
สู้กันภายในมาโดยตลอด แต่เมื่อมีศัตรูจากภายนอกบุกมากลับร่วมมือและเป็นหนึ่งเดียวกัน
แต่ตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญเช่นกัน
มีคนได้ข่าวจึงอยากจะไปเกลี้ยกล่อม แต่เมื่อเห็นจดหมายที่ซุนเฉียนแอบเขียนให้คนอื่น จึงทำให้พวกเขารู้ว่าที่ม้าศึกถูกขโมยและถูกซุ่มโจมตีเมื่อหลายปีก่อน ล้วนเป็นฝีมือของซุนเฉียน
และเนี่ยเทียนโฉวก็ถูกลากไปร่วมวงด้วย เจ้าจิ้งจอกหน้าเหม็นผู้นี้ทุกครั้งล้วนแอบอยู่ในมุมและคอยสอดแนมอย่างลับ ๆ คอยปกปิดเจตนาชั่วร้ายเอาไว้!
ทุกคนล้วนไม่ใช่คนดีอะไร!
ดังนั้นจึงมีคนเอาเครื่องยิงหินโยนใส่กำแพงเมืองของฝั่งตรงข้าม บางวันเมื่อขบวนขนเสบียงของทั้งสองฝ่ายมาเจอกันก็เกิดการปะทะกัน ตอนนี้ทุกคนต่างก็ไม่เชื่อใจใครแล้ว และสนใจแต่ตัวเองเท่านั้น!
คราวนี้ทั้งหกเมืองจึงสับสนวุ่นวายไปหมด โดยมีเจี้ยนโจวอยู่ตรงกลาง!
ทางด้านกองทัพทหารเกราะเหล็กก็ได้รับข่าวแล้วเช่นกัน แนวหน้ารวมตัวกัน ทางด้านมู่หรงเจี๋ยได้รับข่าวเร็วกว่าพวกเขา เพราะเผ่าถูกู่หุนได้ส่งข่าวมาก่อนแล้ว โดยให้พวกเขาตีโอบอยู่ด้านหลัง เผ่าถูกู่หุนจะอยู่ตรงกลาง และมีกองทัพทหารเกราะเหล็กเป็นแนวหน้า
เมื่อสงครามปะทุขึ้น! พวกเขาจะไม่ปล่อยให้เจ้าสารเลวเหล่านั้นหนีออกจากหลงซีไปได้เด็ดขาด
ภาพการล้อมและปราบปรามกองทัพตะวันตกของกองกำลังต้าจิ้นในหลงซีแปดเมืองจะไม่ปรากฏขึ้นอีก!
และยุคสมัยของพวกเขาก็กำลังจะสิ้นสุดลง ภายหน้าจะมีสามแคว้นร่วมกันปกครองใต้หล้าเท่านั้น หลงซีทั้งหกเมืองที่อยู่ตรงกลางจึงเป็นอุปสรรคทางการค้า เปรียบเสมือนอึหนูกองหนึ่ง พวกลักเล็กขโมยน้อยเหล่านี้ ไหนเลยจะคู่ควรมีชีวิตอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกันกับพวกเขา!
สงครามยึดคืนดินแดนที่ราษฎรต้าจิ้นรอคอยมายาวนานในที่สุดก็สิ้นสุดลง และคราวนี้พวกเขาไม่เพียงล้างแค้นที่ถูกบังคับให้ต้องพลัดพรากจากบ้านเมืองของตัวเองได้เท่านั้น แต่ยังได้ล้างแค้นแทนทหารแสนนายที่ถูกฝังอยู่ในหลงซีทั้งแปดเมืองได้ด้วย!