ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 567 ครบหนึ่งขวบ(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 567 ครบหนึ่งขวบ(2)

ขณะที่ทุกคนกำลังคุยกัน ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือก็เดินเข้ามาข้างในแล้ว เมื่อเห็นฉินเจี้ยนเซ่อและเซี่ยเหวินปิงกลับมา ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือก็ไม่อยากจะเชื่อสายตา ในที่สุดก็รีบบอกให้พวกเขานั่งลงก่อน

ส่วนพ่อเฒ่าฉิน แม่เฒ่าฉินและนายท่านเหยาต่างก็มาที่นี่ทั้งหมด เมื่อผู้อาวุโสจากทั้งสองครอบครัวเห็นพวกเขากลับมา ก็มีความสุขมาก และทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม

หลังจากที่ฉินเคอวั่งทักทายปู่ย่าของเขา และนายท่านเหยากับคุณนายเหยาเสร็จแล้ว เขาก็ไปนั่งโต๊ะข้าง ๆ กับพวกฉินมู่หลาน

วันนี้เป็นวันที่ครอบครัวได้รับประทานอาหารกันพร้อมหน้าจริง ๆ นอกจากมู่หลานและครอบครัวแล้ว ยังมีครอบครัวของเซี่ยเจ๋อเหว่ย เซี่ยฉางชิง เจี่ยงสือเหิงและเซี่ยปิงชิงมาร่วมด้วย งานเลี้ยงจึงคึกคักมาก หลังจากที่ทุกคนร่วมรับประทานอาหารกันอย่างมีชีวิตชีวาแล้ว ก็ให้ถวนถวนกับหยวนหยวนทำพิธีหยิบของเสี่ยงทาย

หลังจากที่ฉินมู่หลานนำของทุกอย่างที่เตรียมไว้ตั้งแต่แรกออกมาแล้ว ก็บอกให้ทั้งถวนถวนกับหยวนหยวนมาหยิบ

ชิงชิงกับเฉินเฉินดูด้วยความอิจฉาเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็มองเซี่ยเจ๋อหลี่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น แล้วถามว่า: “พ่อครับ พวกผมเคยหยิบแบบนี้มาก่อนหรือเปล่าครับ?”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินดังนั้น ก็ยิ้มแล้วตอบว่า “แน่นอน พวกลูกเคยหยิบแล้ว”

“แต่ว่า… พวกหนูจำไม่ได้แล้วนี่คะ”

ชิงชิงเต็มทำหน้าเศร้า เด็กหญิงตัวน้อยจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าตัวเองเคยทำพิธีหยิบของเสี่ยงทายมาก่อน ส่วนเฉินเฉินไม่ได้คิดมากเรื่องนี้ เขาดึงชิงชิงออกมา แล้วพูดว่า “ชิงชิงดูสิ น้องชายทั้งสองกำลังจะเริ่มจับแล้ว”

ในเวลานี้ถวนถวนกับหยวนหยวน เป็นเหมือนนกเพนกวินตัวน้อยสองตัวเดินเตาะแตะไปด้านหน้า มองกองสิ่งของที่อยู่ตรงหน้า แล้วเริ่มหยิบมันขึ้นมาด้วยดวงตาสดใสเป็นประกาย

แต่เด็กทั้งสองคิดว่ามันเป็นเพียงของเล่นธรรมดา พวกเขาจึงกลิ้งตัวเล่นไปมา

เมื่อเห็นท่าทางซุกซนของเด็กทั้งสอง ฉินมู่หลานก็อดยิ้มไม่ได้ แล้วบอกว่า: “ถวนถวน หยวนหยวน รีบไปหยิบอันที่พวกลูกชอบมาเร็ว ๆ สิจ๊ะ”

ตอนนี้คุณนายเหยาเดินเข้ามาแล้ว นางมองเด็กน้อยทั้งสองด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล พวกเหลนค่อย ๆ ใช้เวลาเลือกไปเถอะ”

เมื่อเห็นสีหน้าเอ็นดูของคุณนายเหยา ฉินมู่หลานก็อดส่ายหน้าไม่ได้ เธอเคยบอกนายท่านเหยากับคุณนายเหยาหลายครั้งแล้ว แต่ผู้อาวุโสทั้งสองยังคงเอ็นดูถวนถวนกับหยวนหยวนมาก ทำให้ชอบตามใจเด็กทั้งสองตลอด

ในเวลานี้ เหยาจิ้งจือก็เข้ามาด้วย เมื่อเห็นเด็กสองคนกำลังสนุกสนาน หล่อนก็อดไม่ได้ที่จะมองฉินมู่หลาน แล้วพูดว่า: “มู่หลาน วันนี้เป็นงานวันเกิดปีแรกของถวนถวนกับหยวนหยวน ตามใจพวกเขาหน่อยเถอะนะ”

โชคดีที่หลังจากที่เด็กทั้งสองนั่งเล่นไปได้สักพัก ก็พบว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ จึงหยิบของขึ้นมาคนละชิ้น ถวนถวนหยิบไม้บรรทัด ส่วนหยวนหยวนหยิบหนังสือ

“โอ้โห… ถวนถวนกับหยวนหยวนของพวกเรามีแววว่าจะเรียนเก่งในอนาคตล่ะ”

คุณนายเหยาดีใจมากเมื่อเห็นเด็กทั้งสองเลือกไม้บรรทัดกับหนังสือ หญิงชรายังคงเชื่อเรื่องนี้มาก

คนอื่น ๆ ก็ยิ้มและชมเชยเช่นกัน

เซี่ยปิงชิงมองภาพที่อบอุ่นและมีชีวิตชีวาตรงหน้า ก่อนจะหันไปมองเจี่ยงสือเหิงที่อยู่ข้างเธอ แล้วพูดว่า: “ถ้าลูกสองคนของเราอายุครบหนึ่งขวบ เรามาจัดงานกันง่าย ๆ แค่ให้ครอบครัวมารวมตัวกัน แล้วก็เชิญพวกมู่หลานมาร่วมงานด้วยดีไหมคะ”

เจี่ยงสือเหิงได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วตอบว่า “ได้สิครับ จัดตามใจคุณได้เลย”

“ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่าเราตกลงกันแล้วนะคะ”

เซี่ยปิงชิงเริ่มวางแผนแล้ว ก่อนกลับไป ถามฉินมู่หลานว่าไปซื้อของที่นำมาทำพิธีหยิบของเสี่ยงทายมาจากที่ไหน

ฉินมู่หลานย่อมรู้ว่าเด็กสองคนในครอบครัวของพ่อบุญธรรมของเธอกำลังจะมีอายุครบหนึ่งขวบ “ ของพวกนี้หาซื้อได้ไม่ยาก ถ้าเธอสะดวกก็เอาของที่ใช้ทำพิธีให้ถวนถวนกับหยวนหยวนจับกลับไปได้ จะได้ไม่จำเป็นต้องไปซื้อใหม่”

“ได้เลย”

เซี่ยปิงชิงไม่ปฏิเสธ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “ถ้าอย่างนั้นเธอรีบไปเก็บของเถอะ แล้วเดี๋ยวฉันจะไปเอา”

ฉินมู่หลานได้ฟังก็หัวเราะ

“ได้ รอฉันแปบหนึ่งก่อน ฉันจะไปเก็บเดี๋ยวนี้”

หลังจากที่เซี่ยปิงชิงได้รับของแล้ว หล่อนก็จูงมือเจี่ยงสือเหิงเดินออกไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

เป็นเรื่องยากที่เซี่ยฉางชิงจะเข้ามาที่นี่ หลังจากมอบของขวัญวันเกิดปีแรกให้ถวนถวนกับหยวนหยวนแล้ว เขาก็มอบของขวัญให้กับชิงชิงและเฉินเฉินด้วย เขาไม่ลืมนึกถึงหลานทั้งสี่คนเลย

เมื่อเห็นความรอบคอบของเซี่ยฉางชิง ซูหว่านอี๋ก็เหลือบมองเขา ขณะที่ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่จูงชิงชิงกับเฉินเฉินมาขอบคุณเขา

ชิงชิงกับเฉินเฉินวางตัวเรียบร้อยเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อย ขอบคุณเขาอย่างจริงใจ

เซี่ยฉางชิงแตะแก้มเล็ก ๆ ของพวกเขาด้วยความรัก ในที่สุดก็มองฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ แล้วพูดว่า “พวกลูกดูแลลูกกันดี ๆ นะ พ่อต้องกลับไปก่อนแล้ว”

หลังจากที่เซี่ยฉางชิงจากไปแล้ว ซูหว่านอี๋ก็เดินไปปิดประตู ตอนนี้ครอบครัวของเซี่ยเจ๋อเหว่ยก็มาพักอยู่ที่นี่ด้วย บ้านจึงมีชีวิตชีวามาก

ในที่สุดพวกเหยาจิ้งจือก็พบโอกาสที่จะถามเซี่ยเหวินปิงแล้ว

“เหวินปิง คุณจัดการธุระที่เซินเจิ้นเสร็จแล้วเหรอคะ?”

“ยังไม่เสร็จครับ พวกผมมาที่นี่ เพื่อร่วมงานวันเกิดปีแรกของถวนถวนกับหยวนหยวนโดยเฉพาะ จะกลับกันตอนบ่ายวันพรุ่งนี้แล้ว”

เมื่อเห็นพวกเขารีบร้อนเช่นนี้ เหยาจิ้งจือก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย

เช่นเดียวกับซูหว่านอี๋ที่อยู่ข้าง ๆ หล่อนอดไม่ได้ที่จะมองฉินเคอวั่งที่ผิวเข้มกว่าเดิมมาก แล้วถามว่า: “เคอวั่ง ลูกก็ยังจะไปด้วยใช่ไหม?”

ฉินเคอวั่งพยักหน้าแล้วตอบว่า: “ใช่ครับ ผมจะไปด้วยแน่นอน แล้วค่อยกลับมาตอนใกล้เปิดเทอมครับ” การไปเซินเจิ้นคราวนี้ทำให้เขาได้เห็นหลายสิ่งหลายมากมายจริง ๆ และอาจารย์ก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาจึงรู้สึกว่าสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ในครั้งนี้มีประโยชน์ต่อเขามาก

แม้ว่าซูหว่านอี๋จะรู้สึกสงสารลูกชาย แต่หล่อนก็รู้ว่าทั้งหมดนี้ก็เพื่อประโยชน์ของเขาเอง จึงไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่รอจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น และเริ่มเตรียมของต่าง ๆ ให้สามีกับลูกชาย

เช่นเดียวกับทางด้านของเหยาจิ้งจือ ที่เตรียมของมากมายไว้ให้กับเซี่ยเหวินปิง

วันนี้เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ต้องกลับไปเช่นกัน เขากลับเร็วกว่าพวกฉินเคอวั่งด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นว่าเซี่ยเจ๋อหลี่กำลังจะกลับไปทำงานอีกครั้ง ฉินมู่หลานก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ถ้าฉันว่าง ฉันจะไปหาคุณอีกนะคะ”

“ครับ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ย่อมหวังว่ามู่หลานจะมาเยี่ยม แต่เขาก็รู้ด้วยว่าช่วงนี้มู่หลานยุ่งมาก สักพักเขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ผมได้ยินมาว่าคังอันเหอจะไปทำงานร่วมกับคุณเหรอครับ?”

“คุณก็รู้แล้วจริง ๆ ด้วย เป็นเพราะหล่อนตัดสินใจขอมาทำงานกับฉัน ไม่ใช่ว่าฉันขอให้หล่อนมาค่ะ”

เมื่อเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขาเพียงแค่พูดไม่กี่คำว่า “ในเมื่อพวกคุณจะต้องทำงานร่วมกันในอนาคต ก็แสดงว่าต้องเข้ากันได้ดี แต่ถ้าคุณไม่อยากให้คังอันเหอทำงานด้วย คุณก็ปฏิเสธให้ชัดเจนไปได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจเกินไป”

แม้ตอนนี้เขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับถูเฉิงเสียง แต่มู่หลานก็ไม่จำเป็นต้องรับคนเข้าทำงานด้วยเหตุผลนี้

ฉินมู่หลานได้ฟังดังนั้นก็ยิ้ม แล้วพูดว่า “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันเข้าใจ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ฟังแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่หยิบของแล้วเดินออกไป

ในช่วงบ่าย สองพ่อลูกฉินเจี้ยนเซ่อกับฉินเคอวั่ง และเซี่ยเหวินปิงก็จากไปเช่นกัน บ้านจึงกลับมาเงียบเหงาทันที

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท